บทที่ 396 จับชู้

อันที่จริงนางติงรู้สึกเศร้าและผิดหวังเช่นกัน

นางกับเจิ้งจู่เหวินรักกันมานานหลายสิบปี แต่ชายผู้นี้เป็นคนใจร้ายมาก ช่วงระยะเวลาไม่กี่วันที่ผ่านมา นางติงจึงปรับตัวทำความเข้าใจกับสถานการณ์ของตนเอง นางเป็นสตรีที่ตายไปแล้ว ไม่สามารถกลับไปยังตระกูลไป๋ได้อีก คนเดียวที่นางจะพึ่งพาได้คือเจิ้งจู่เหวิน นางจึงไม่มีทางเลือกอื่นอีก นอกจากจะเอาใจเขา จับเขาไว้ให้แน่น สิ่งที่นางได้รับคงไม่ได้แย่ไปกว่าการเป็นฮูหยินไป๋

เจิ้งจู่เหวินกอดนางติงแน่น

“เสี่ยวเหลียน ข้าจะลืมเจ้าได้อย่างไร แต่นี่เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ข้าต้องต้องเตรียมการให้ดีเพื่อไม่ให้มีข้อผิดพลาด ไม่ว่าอย่างไรข้าจะช่วยเจ้าเอง” เจิ้งจู้เหวินพูดปลอบใจ

ทั้งคู่ไม่ได้พูดถึงเรื่องที่นางติงเขียนจดหมายขู่เจิ้งจู่เหวินอีก นางติงรู้ว่าเรื่องไหนควรพูดเรื่องไหนไม่ควรพูด ไม่เช่นนั้นแล้ว เจิ้งจู่เหวินจะไม่ปล่อยให้สิ่งที่คุกคามเขาหนีเล็ดรอดไปได้ ในตอนที่เขากำลังมึนเมาลุ่มหลง นางจึงไม่เร่งรีบพูดคุย ทั้งคู่แสดงความรักที่มีให้กันอย่างสุดซึ้ง

“แล้วทำไมมาหาข้าช้านักล่ะ”

“ภรรยาจ้องข้าอยู่ทุกวันน่ะสิ”

“เจิ้งหลาง.. เมื่อไหร่กันเราจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไป” ดวงตาของเจิ้งจู่เหวินสั่นไหว คำพูดสองสามคำนี้กำลังล่อลวงเขา ทั้งสองพะเน้าพะนอกัน

ทันใดนั้นเองประตูหน้าบ้านก็ถูกเปิดออก

มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น อึดใจต่อมาประตูถูกกระแทกอย่างแรง เสียงกระแทกประตูทำให้เจิ้งจู่เหวินตกใจเกือบตกเตียง เขารีบลุกขึ้นสวมเสื้อผ้าแต่ระหว่างที่สวมประตูก็เปิดออกกว้าง เมื่อเขาเห็นคนที่อยู่ด้านนอกเจิ้งจู่เหวินก็ตกใจมาก

นางเถายกโขยงพาสาวใช้เข้ามา ทำไมนางถึงได้มาที่นี่ได้?

จบสิ้นแล้ว!

นางเถามองภาพตรงหน้าด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว ใบหน้าของนางบิดเบี้ยวด้วยแรงหึงหวง นางชี้หน้าสามี

“เจิ้งจู่เหวิน เจ้า!!”

“ฮูหยิน ฟังข้าอธิบายก่อน” เจิ้งจู่เหวินพูดอย่างเร่งรีบ

“มีอะไรต้องอธิบายอีก!” นางเถาพูด

นี่ขนาดโดนจับได้คาหนังคาเขา!

วันนี้นางกลับไปที่วังขององค์หญิงใหญ่ แต่จู่ๆ ก็ได้รับข่าวว่าสามีของนางแอบไปยังสถานที่แห่งหนึ่งด้วยท่าทีลับๆ ล่อๆ ดูเหมือนว่ากำลังมีนัดกับใครบางคนเอาไว้ เจิ้งจู่เหวินปฏิบัติต่อนางเป็นอย่างดีไม่เคยแต่งอนุฯ เข้าเรือนเลย เขาเชื่อฟังนางเสมอ ทุกคนที่เป็นเพื่อนแม้แต่พี่สาวน้องสาวต่างพากันชมว่านางได้แต่งงานกับสามีที่ดี ดังนั้นเมื่อได้ยินข่าวเบื้องต้นนางจึงไม่เชื่อ

แต่อย่างไรก็ต้องไปให้เห็นกับตาว่าจริงหรือไม่ เจิ้งจู่เหวินกล้าหักหลังนางจริงหรือ!

เขากล้าดีอย่างไร!

นางเถาไม่อยากจะเชื่อเลย แต่ความเป็นที่อยู่ตรงหน้าบังคับให้นางเชื่อ นางเถาวิงเวียนศีรษะด้วยความโกรธ นางเดินไปหาเจิ้งจู่เหวินตบเขาอย่างแรง

“เจิ้งจู่เหวิน หากไม่ใช่เพราะข้า เจ้าจะได้นั่งในตำแหน่งนี้ไหม?!”

“ฮูหยิน ฟังข้าก่อนไม่ใช่แบบที่เจ้าเห็นนะ…เป็นนาง! นางล่อลวงข้า!” เจิ้งจู่เหวินชี้ไปที่นางติงรีบพูดแก้ตัวให้ภรรยาฟัง

นางติงขดตัวกลมอยู่บนเตียงใบหน้าของนางไร้สีเลือด

ถึงนางจะแอบนินทาว่านางเถาเป็นหมูตอนและดูถูกนางตลอดเวลา แต่นางไม่สามารถเปลี่ยนความจริงได้ว่านางเถาเป็นบุตรสาวบุญธรรมขององค์หญิงใหญ่ นางฆ่าคนได้ราวกับมดปลวก!

นางติงกลัวนางเถามาก นางแทบอยากจะมุดรูเพื่อซ่อนตัว นางเถาเดินไปกระชากผมนางติงให้ลุกจากเตียง ใช้เท้าเตะนางอย่างแรง จนนางติงกรีดร้องเสียงดัง

“อย่าตีข้า! ข้าไม่ได้ล่อล่วงเขา เขาบังคับข้า!”

“นังสารเลว แกล่อลวงข้า!”

เมื่อได้ยินนางติงพูด เจิ้งจู่เหวินก็ถลาเข้ามาตบนางทันที จากนั้นเขาก็คุกเข่าต่อหน้านางเถา

“ฮูหยิน ฟังข้าก่อน ข้าแค่สับสนไปชั่วขณะเท่านั้นให้โอกาสข้าอีกครั้งเถอะ”

“หญิงชั่วผู้นี้แอบหลงรักข้ามานานแล้ว”

“ฮูหยินตราบใดที่เจ้าให้โอกาสข้า ข้าจะทำทุกอย่าง”

เจิ้งจู่เหวินเอาแต่อ้อนวอน ดวงตาของนางเถานั้นมืดมน

“ทำได้ทุกอย่างที่ข้าต้องการหรือ?”

เจิ้งจู่เหวินรีบจับฟางที่นางยื่นมาทันที

“อะไรก็ได้! ฮูหยิน ตราบใดที่เจ้าเอ่ยปาก!”

“ไปเอามีดมามา” นางเถาพูดขึ้น ไม่นานนักบ่าวรับใช้ก็นำมีดสั้นมา นางเถาโยนมันไปตรงหน้าเจิ้งจู่เหวิน

“กรีดหน้านางซะ” นางเถาพูด

เจิ้งจู่เหวินหยิบมีดขึ้นมาเดินไปหานางติงอย่างไม่ลังเล ใบหน้าของนางติงเต็มไปด้วยความหวาดกลัว “อย่า…”

นางอยากจะวิ่งหนีแต่ก็ถูกบ่าวรับใช้สองคนจับเอาไว้ นางติงจ้องมองไปที่มีดในมือของเขาด้วยความหวาดกลัว

“เจิ้งหลางอย่า…” นางติงอ้อนวอนเขา แต่เจิ้งจู่เหวินใช้มีดในมือกรีดไปที่ใบหน้าของนางทันที

“อ๊ะ!!” นางติงร้องออกมาอย่างเจ็บปวด

เจิ้งจู่เหวินลงมีดกรีดใบหน้านางติง ในไม่ช้าใบหน้าของนางติงก็เปลี่ยนไป ด้วยความเสียใจนางจึงพ่นทุกอย่างที่ผ่านมาอย่างหมดเปลือก

“เจิ้งจู่เหวินกับข้ามาจากบ้านเกิดเดียวกัน พวกเรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมานานแล้ว เขาบอกกับข้าว่าจะแต่งงานกับข้าหากสอบเข้าได้ ข้ามาเมื่อหลวงพร้อมกับเขา!

“แต่เขาแต่งงานกับเจ้าเพราะเจ้าช่วยอาชีพการงานของเขา!”

“หุบปากนะ!” เจิ้งจู่เหวินรีบพูดก่อนจะพยายามปิดปากของนาง

“ให้นางพูดไป” นางเถากล่าว อึดใจต่อมาเจิ้งจู่เหวินก็ถูกลากออกไป

“พวกเราคบหากันมาหลายปีแล้ว ไม่เคยเลิกลากันเลย!”

“รู้ไหมว่าเขาพูดถึงเจ้าว่าอย่างไร เขาบอกว่าเจ้าดุเป็นเสือ! เป็นนังอ้วนหมูตอน!”

นางติงพูดออกไปจนหมด

ใบหน้าของนางเถาถมึงทึง แม้นางติงจะมีรอยกรีดบนใบหน้าแล้วนางเถาก็ไม่ปล่อยไป นางเถาทุบตีจนนางติงแทบจะตายไปครึ่งตัว เจิ้งจู่เหวินมองสภาพของนางติงอย่างหวาดกลัว เขาตัวสั่นก้มหัวให้นางเถาไม่หยุด แต่นางเถาไม่ปล่อยเขาไป นางขอหย่าทันที และให้บ่าวรับใช้ทุบตีเขาอย่างรุนแรงก่อนจะจับแก้ผ้าล่อนจ้อนทั้งคู่โยนลงบนถนน

เหตุการณ์นี้แพร่กระจายไปในเมืองหลวงอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักเรื่องของเจิ้งจู่เหวินก็กลายเป็นเรื่องตลกของขุนนางระดับสูงจากกรมอาญา

“คนที่เป็นชู้กับเจิ้งจู่เหวินเหมือนติงเสี่ยวเหลียนหรือไม่?”

“ข้าไปดูมาแล้ว คนๆ นั้นคือติงเสี่ยวเหลียนแน่นอน”

“ติงเสี่ยวเหลียนไม่ได้ตายไปแล้วหรือ? เหตุใดนางยังมีชีวิตอยู่”

“เดิมทีเจิ้งจู่เหวินเป็นเจ้ากรมอาญา เป็นไปได้ไหมว่าติงเสี่ยวเหลียนยังไม่ตายและได้รับการช่วยเหลือจากเจิ้งจู่เหวิน”

ในไม่ช้าพวกเขาก็ถูกคนจากกรมอาญานำตัวไป

….

จวนสกุลไป๋

นายท่านไป๋ขังตัวเองอยุ่ในห้องมาหลายวันหลายคืน ไม่กี่วันก่อน ข่าวการเสียชีวิตของติงเสี่ยวเหลียนทำให้เขารู้สึกเศร้ามากจนไม่ยอมกินไม่ยอมนอน

ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าติงเสี่ยวเหลียนถูกจับไปพร้อมกับเจิ้งจู่เหวิน เสียงเอี๊ยดอ๊าดดังขึ้นพร้อมกับประตูที่ถูกเปิดออก คนผู้หนึ่งเดินเข้าไปด้านใน เขาคือไป๋มู่หยาง เมื่อนายท่านไป๋เหลือบมองไป๋มู่หยางใบหน้าของเขาก็บึ้งตึงขึ้นทันที

“เจ้ามาทำอะไรที่นี่!”

“เศร้าหรือ? ท่านหลงใหลติงเสี่ยวเหลียนจริงๆ”

ไป๋มู่หยางหัวเราะ นายท่านไป๋ไม่พูดอะไรดวงตาของเขานั้นแดงก่ำเศร้าโศกมาก

“ข้าเห็นว่าท่านกำลังเสียสติเลยว่าจะพาไปหาติงเสี่ยวเหลียนสักหน่อย” ไป๋มู่หยางพูดชวน ดวงตาของนายท่านไป๋เป็นประกายของความหวัง

“เจ้าจะให้ข้าได้พบนางหรือ?”