บทที่391 ฉันยังไม่แพ้
ถ้าเฮลิคอปเตอร์ยังไม่ลงจอด เธอก็ไม่มีทางวางใจได้ เพียงแต่วิวทิวทัศน์ในตอนนี้ มันทำให้เธอแทบจะลืมความวุ่นวายทุกอย่างไปเลย
ตอนที่เครื่องบินของAnthonyบินขึ้นนั้น ทางซู่จี้งยี้ก็สอดส่องไปเห็นพอดี ว่าทางอีกด้านหนึ่ง มีเฮลิคอปเตอร์หลายลำบินมาพร้อมๆ กัน
ขณะที่เฮลิคอปเตอร์ของAnthonyกำลังจะบินผ่านภูเขาลูกหนึ่ง จู่ๆ คนที่อยู่ในห้องคนขับทางด้านหน้าก็มารายงานว่า:” หัวหน้า ทางด้านหน้ามีเฮลิคอปเตอร์หลายลำบินมาทางพวกเรา”
“อะไรนะ?” Anthonyขมวดคิ้วเป็นปม “มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย?”
เมื่อส้งหวั่นหวั่นได้ยินข่าวนี้ ก็ใจกระตุกขึ้นมาอย่างรุนแรง ก่อนที่จะเสียสติไป
Anthonyลุกขึ้นมา แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะปลอบส้งหวั่นหวั่น: “คุณนั่งอยู่ตรงนี้ก่อนเถอะ ไม่ต้องกลัวนะ มีฉันอยู่ด้วยทั้งคน”
เมื่อพูดจบก็รีบเดินไปทางห้องคนขับ
ส้งหวั่นหวั่นกำชายเสื้อของตัวเองเอาไว้แน่น เธอรู้ว่านี่ต้องเป็นฝีมือของลี่จุนถิงอย่างแน่นอน เธอรู้อยู่แล้ว ว่าลี่จุนถิงจะต้องไม่ปลอยพวกเขาไปง่ายๆ อย่างแน่นอน แต่นี่มันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นเอง
ส้งหวั่นหวั่นรู้สึกสิ้นหวังอยู่ในใจ ที่ตัวเองหลบหนีไปไม่ได้
ตอนที่Anthonyเข้ามาในห้องคนขับ เฮลิคอปเตอร์ที่ลี่จุนถิงส่งมาก็ได้ล้อมเฮลิคอปเตอร์ของพวกเขาเอาไว้หมดแล้ว
Anthonyโกรธจนสบถออกมา: “นี่มันบ้าอะไรกัน?พวกมันเป็นใครกันแน่เนี่ย?กล้ามาขวางทางแบบนี้ ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่แล้วหรือไง?”
ตอนแรกAnthonyคิดว่าตัวเองจะได้กลับประเทศอย่างสงบๆ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนมาขวางทางกลางทางแบบนี้
ผู้ช่วยที่อยู่ด้านข้างนั้นตอบขึ้น:” หัวหน้า นี่อาจจะเป็นฝีมือของพวกลี่จุนถิงก็ได้นะ”
Anthonyพึมพำเสียงเย็นชา: “เขานี่อึดจริงๆ เลย ครอบครัวมีเงินไม่น้อยเลย ถึงได้เอาเฮลิคอปเตอร์เยอะขนาดนี้มาเทียบกับฉันใช่ไหมล่ะ?”
ตอนที่Anthonyคิดจะขับต่อไป จู่ๆ ก็คิดว่าเฮลิคอปเตอร์สั่นเล็กน้อย
“เกิดอะไรขึ้น?” ตอนนี้Anthonyอารมณ์รุนแรงเป็นอย่างมาก
มีลูกน้องคนหนึ่งมารายงาน:” หัวหน้า พวกเขาใช้ปืนขนาดเล็ก”
“อะไรนะ?” Anthonyหรี่ตาลง นี่จะเอาให้ถึงชีวิตกันเลยใช่ไหม?
วันนี้จะจับตัวเองให้ได้เลยใช่ไหม?
“โต้กลับไป” Anthonyโบกมือ เพื่อสั่งการ เพราะเขาต้องการใช้วิธีเดียวกันในการโต้กลับ คนอย่างเขาจะทำไม่ได้งั้นเหรอ?
ลูกน้องรับคำสั่งก่อนจะออกไป สีหน้าของผู้ช่วยในตอนนั้นดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่:” หัวหน้าเกรงว่าพวกเราจะไม่ได้เปรียบในอากาศเลย เพราะพวกเขามีเฮลิคอปเตอร์ทั้งหมดห้าลำ ล้อมพวกเราเอาไว้หมดแล้ว ถ้าใช้ปืนขนาดเล็กโจมตีพวกเราทั้งหมด เกรงว่าพวกเรา……”
Anthonyใจเย็นลงเล็กน้อย จากนั้นสีหน้าก็ดูไม่ดีเสียเลย: “ตอนนี้ฟังฉันนะ ไปหาที่ว่างด้านล่าง แล้วพวกเราจะหาทางเอาเครื่องลง”
ผู้ช่วยเตือนAnthonyให้ระวัง เพราะการสู้หนึ่งต่อห้ากลางอากาศนั้นมันไม่น่าจะสู้ได้เท่า ถ้าเกิดการปะทะขึ้นบนพื้นดินนั้น อาจจะมีโอกาสชนะได้
คนขับนั้นเริ่มลำบากใจ:” หัวหน้า ภูเขาลูกนี้ไม่มีที่ว่างให้ลงเลย ถ้าเกิดมีที่ว่าง ก็พวกเราจะถูกเปิดโปง”
“งั้นก็กระโดดร่มเลย”
“ได้เลย”
ตอนนี้มีเพียงวิธีเดียวเท่านั้น
Anthonyเดินกลับไปที่ที่เดิม เมื่อส้งหวั่นหวั่นเห็นว่าAnthonyกลับมาแล้ว เลยรีบลุกขึ้นมา พลางถามด้วยความตึงเครียด: “เป็นอย่างไรบ้าง?”
“พวกเราจะกระโดดร่มกัน” น้ำเสียงของAnthonyไม่มีความอ่อนโยนหลงเหลืออยู่เลย
“อะไรนะ?” ส้งหวั่นหวั่นไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเอง นี่ถูกต้อนจนจนมุมแล้วหรือเนี่ย?
“ตอนนี้พวกเราไม่มีข้อได้เปรียบกลางอากาศเลย ดังนั้นเลยต้องไปที่พื้นดิน ถึงจะมีโอกาสชนะมากกว่า” Anthonyรีบอธิบาย แต่ตัวเองนั้นก็ใส่ชุดกระโดดร่มจนเสร็จแล้ว “ช่วยคุณหญิงใส่ด้วย”
ส้งหวั่นหวั่นยังคงเหม่ออยู่ที่เดิม พลางให้ลูกน้องใส่ชุดกระโดดร่มให้ตัวเอง
“หวั่นหวั่น คุณฟังที่ฉันพูดนะ ตอนนี้พวกเรามีเพียงวิธีเดียวเท่านั้น ลงไปพวกเราก็ยังมีหวังอยู่” Anthonyจับมือของส้งหวั่นหวั่น เพราะรู้ว่าเธออาจจะรับไม่ได้ แต่บางเรื่องก็ไม่ตรงกับความต้องการเช่นเดียวกัน
“อือ ฉันรู้แล้วล่ะ” ส้งหวั่นหวั่นเองก็ปรับตัวได้ง่าย ตอนนี้ตัวเองไม่เหลืออะไรอยู่แล้ว นอกจากฟังการสั่งการของAnthony เธอก็ทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว การกระโดดลงไปพร้อมกับAnthonyเลยเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ไม่แน่ว่าอาจจะยังมีความหวังอยู่บ้าง
เมื่อเห็นส้งหวั่นหวั่นเป็นแบบนี้ Anthonyก็ถอนหายใจออกมา ถ้าเกิดช่วงที่สำคัญที่สุดผู้หญิงกลับจริงจังขึ้นมานั้นมันเป็นเรื่องที่แก้ไขยากที่สุด เมื่อบอกส้งหวั่นหวั่นว่าจะกระโดดร่ม หลายๆ คนก็เริ่มกระโดดลงไปแล้ว
ลี่จุนถิงที่กำลังนั่งมองสถานการณ์ทั้งหมดบนเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งในตอนนั้นเอง ก็แสยะยิ้มออกมา: “Anthony คุณคิดว่าคุณโดดร่มไป แล้วจะหนีจากกำมือของฉันไปได้เหรอ?”
ลี่จุนถิงรีบเปลี่ยนแผนทันที: “คนของเฮลิคอปเตอร์กระโดดร่มตามฉันมา ส่วนอีกสองลำลงจอดก่อน แล้วค่อยมาช่วยเหลือ แล้วลำสุดท้ายให้จับตาดูพวกเขาบนอากาศต่อไปว่าไปถึงไหนแล้ว”
คนทุกคนในเฮลิคอปเตอร์แต่ละลำได้รับคำสั่งก่อนจะเริ่มทำตาม ลี่จุนถิงเตรียมโดดร่มโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง
คนของAnthonyนั่นลงสู้พื้นดินอย่างปลอดภัย Anthonyพาลูกน้องมาในที่ที่ค่อนข้างลับ
“ตอนนี้ติดต่อคนอื่นๆ ให้รีบมาเสริมกำลัง”
ในสถานการณ์แบบนี้ ถ้าอยากจะออกจากที่นี่ ก็ต้องเรียกให้คนจากด้านนอกมาช่วยเท่านั้น
ทางลี่จุนถิงเริ่มรู้ที่ที่เขาน่าจะไป ตั้งแต่ก่อนที่พวกเขาจะร่อนลงเสียอีก หลังจากมั่นใจแล้ว ก็เรียกให้คนมาล้อมเอาไว้
ซู่จี้งยี้หยิบโทรโข่งอันใหญ่ออกมา ก่อนจะตะโกนเข้าไปในส่วนที่Anthonyอยู่: “Anthony พวกคุณถูกล้อมเอาไว้หมดแล้ว รีบออกมาเถอะ”
เสียงที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้Anthonyสั่นไปทั้งตัว จากนั้นก็เริ่มโมโหอีกครั้ง: “พวกเขาหมายความว่าอย่างไร?มาท้าทายฉันงั้นเหรอ?”
ผู้ช่วยรีบปรับอารมณ์ของAnthony:” หัวหน้า พวกเขาใช้วิธีหลอกล่อ พวกเราอย่าทำอะไรง่ายๆ นะ”
Anthonyสูดหายใจเข้าลึกๆ : “ใช่ อย่าไปตกหลุมพราง”
ทั้งสองทีมนิ่งไปสักพัก แต่ลี่จุนถิงไม่ทนรอพวกเขาอีกต่อไปแล้ว เลยพาคนเข้าไปในจุดนั้น
ส่วนอีกฝั่ง ลูกน้องของAnthonyก็กำลังตรวจตรา ดูว่าทั้งสี่ทิศมีคนของลี่จุนถิงมาหรือเปล่า
เมื่อตรวจตราไปได้ราวๆ ยี่สิบนาที พวกลี่จุนถิงก็หาที่อยู่ของAnthonyเจอสักที ตอนนี้ต้องคิดแล้วว่าจะจับพวกเขาอย่างไรดี
ลี่จุนถิงกับลูกน้องคุยกันอยู่สักพัก ก่อนจะตัดสินใจกำจัดพวกเขาอย่างเงียบๆ เพื่อลองดูฝีมือของพวกเขาด้วย
ตอนแรกอยากจะเปิดแค่คนคนเดียวก่อน เลยหลีกออกไปไกลหน่อย แต่ว่าคิดไม่ถึงเลยว่าจะถูกพบอย่างไม่ระวังตัว
คนของAnthonyรีบกลับมารายงาน ลี่จุนถิงเองก็คิดว่าต้องปะทะแล้ว เพราะถึงอย่างไรศัตรูก็อยู่ด้านหน้าแล้ว มันเป็นเพียงแค่ปัญหาด้านเวลาเท่านั้นเอง
“Anthony คุณอย่าขัดขืนเลย ออกมาเถอะ” ลี่จุนถิงตะโกนเข้าไปในที่ที่Anthonyหลบซ่อนอยู่เสียงดัง
ตอนแรกไม่มีใครตอบออกมา แต่ผ่านไปสักพัก ก็เห็นคนของAnthonyทยอยออกมากัน
“หึ ฉันจะบอกให้นะลี่จุนถิง ฉันยังไม่แพ้ ทำไมต้องขัดขืนด้วย?” Anthonyกอดอกเอาไว้ พลางพูดด้วยสีหน้าทระนงเป็นอย่างมาก