บทที่ 405 ลุงขอทานหายตัวไป

ตู้เย่ถูกพาตัวเข้าไปในสำนักวรยุทธ์ ‘อู๋ฉีกว่าน’ ที่นี่เป็นเรือนอาศัยของคนที่มาสมัครทดสอบ แม้ว่าตู้เย่จะเป็นขอทานแต่จ้าวชูก็ดูแลเขาเป็นพิเศษ ทำให้บ่าวรับใช้ไม่กล้าที่จะละเลยเขา ดังนั้นตู้เย่จึงได้ห้องพิเศษ

ชายหนุ่มเข้าไปในห้องไม่นานนักก็มีบ่าวรับใช้เข้ามาพร้อมกับอ่างน้ำร้อนพร้อมกับเชื้อเชิญให้เขาอาบน้ำ ตู้เย่ถอดเสื้อผ้าสกปรกของเขาออกแล้วเดินลงไปในอ่าง บาดแผลหลายแห่งของเขาถูกน้ำอุ่นร้อนลวก แต่ตู้เย่ไม่ได้ใส่ใจ เขาล้างตัวจนสะอาด สวมเสื้อผ้าใหม่ จากนั้นจึงไปนั่งอยู่หน้ากระจก ค่อยๆ โกนหนวดเคราบนใบหน้าของตนทีละน้อยๆ จนใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาค่อยๆ ปรากฏขึ้นมา

ตู้เย่เป็นคนที่มีหน้าตาโดดเด่น เขามีดวงตาดอกท้องดงามคู่หนึ่ง จมูกโด่งเป็นสัน ใบหน้าของเขาอ่อนหวานแต่ด้วยสันกรามและความคมชัดทำให้เขาไม่ได้ดูราวกับอิสตรี เมื่อเขาปล่อยผมลงทำให้ใบหน้าดูราวกับอายุยี่สิบต้นๆ แต่แท้จริงแล้วหากคิดแบบหยาบๆ ตู้เย่อายุยี่สิบห้าปีแล้ว ความจริงเขาไม่รู้ว่าตนเองเกิดปีไหน ตั้งแต่จำความได้เขาก็อยู่ที่ซวนอิ่งแล้ว

ชายหนุ่มมองใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยของตัวเองในกระจกแล้วถึงได้เหลือบไปเห็นขวดยาที่เด็กหญิงให้มา เขาเปิดจุกออกดมมันคือยารักษาบาดแผลนั่นเอง หลังจากครุ่นคิดอยู่ไม่นานเขาก็นำมาทาที่บาดแผล สักพักความเจ็บก็ค่อยทุเลา เป็นยาที่มีประสิทธิภาพดีมาก เด็กน้อยช่างคิดและใส่ใจ

ไม่นานก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ตู้เย่ลุกไปเปิดประตู

คนที่มาคือบ่าวรับใช้ที่นำทางตู้เย่มาที่ห้องนี้ เมื่อเห็นรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปของชายหนุ่ม เขาก็ผงะ ใครเล่าจะคิดว่าขอทานสกปรกผู้นั้นกับชายรูปงามตรงหน้าเขาคนนี้จะเป็นคนๆ เดียวกัน

บ่าวรับใช้ยังคงมองชายหนุ่มรูปงามตรงหน้าอย่างมึนงง ตู่เย่ขมวดคิ้ว ตวัดสายตามองอย่างหงุดหงิด จนบ่าวรับใช้ได้สติขึ้นมา

“ตู้…ท่านตู้ ข้าทำอาหารเย็นมาให้ขอรับ”

ตู้เย่เม้มปากไม่พูดอะไร เขาเอื้อมมือไปรับถาดอาหารจากบ่าวรับใช้ก่อนจะปิดประตูลงทันที เมื่อเขาวางอาหารลงบนโต๊ะ ตู้เย่ก็คิดถึงเด็กหญิงอีกครั้ง สีหน้าของเขาก็อ่อนโยนลงอย่างไม่รู้ตัว ในตอนนี้เด็กคนนั้นคงจะทำอาหารมาให้เขาแล้ว นางจะเสียใจหรือไม่หากไม่เจอเขา?

ตู้เย่ไม่อยากให้เด็กหญิงคนนั้นเสียใจ เพราะตอนที่นางหน้าตาบูดบึ้งดูแล้วช่างน่าเกลียด แต่ถ้าหากนางไม่ได้เศร้าแล้วลืมเขาไปแล้ว…? ความหดหู่เข้ามาเยือนตู้เย่จนเขาไม่มีความรู้สึกอยากอาหารเลย

…..

ซานเป่าจับชายเสื้อของท่านปู่และเดินไปยังสถานที่คุ้นเคยของนาง

“ท่านปู่ ท่านลุงผู้นั้นชอบกินเนื้อมาก ข้าเลยให้ท่านย่าจ้าวเตรียมเนื้อมาเยอะๆ”

ซานเป่ายิ้มอย่างภูมิใจ

“กินเนื้อเยอะๆ ท่านลุงจะได้อ้วนขึ้น!”

ท่านลุงคนนั้นผอมเกินไป เขาผอมมากจนซานเป่าอยากให้เขาอ้วนขึ้นอีกสักหน่อย เมื่อเห็นหลานสาวตัวน้อยยังคงห่วงใยขอทานผู้นั้น นายท่านอู่รู้สึกเจ็บปวดในหัวใจ

“ซานเป่า เจ้าไม่สังเกตหรือว่าปู่ก็น้ำหนักลดลง”

นายท่านอู่พูดอย่างมีนัย เด็กหญิงมองใบหน้าของนายท่านอู่ทันที

เขาพยายามดูดกระพุ้งแก้มของตนทั้งสองข้างให้หน้าซูบเซียวลง แต่ท่านอู่โหวเป็นคนที่มีใบหน้ากลม ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ยังดูกลมสมบูรณ์อยู่เช่นนั้น ซานเป่ามองดูครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหน้า

“ไม่เลย”

“…”

“ท่านปู่ต้องกินให้น้อยลง!”

“!!!!”

ร้ายกาจมาก! โฮ… หลานไม่รักเขาแล้วหรือ?

ทั้งสองคนเดินไปยังสถานที่เดิมแต่กลับไม่พบขอทานผู้นั้นแล้ว

“ท่านลุงล่ะ?”

ซานเป่าขมวดคิ้วเริ่มค้นหาท่านลุงของนาง ในละแวกใกล้เคียงและสถานที่ที่พอจะหลบซ่อนตัวได้ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่พบเขาเลย

“ท่านลุงไปแล้ว” ซานเป่าขมวดคิ้ว

“ท่านปู่ หรือว่าท่านลุงโดนทำร้าย?” ซานเป่ากังวลมาก

อู่โหวเยว่มีความสุขเล็กๆ ขึ้นมาเมื่อพบว่าขอทานหายไปแล้ว เขามีความคิดฝังใจว่าขอทานผู้นี้น่าจะมาหลอกกินหลอกดื่มจากหลานของเขามากกว่า

เขาหวังว่าซานเป่าจะได้เห็นธาตุแท้ของขอทานผู้นี้ แต่เมื่อเห็นความกังวลของหลานสาว ท่านอู่โหวก็เริ่มรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาเช่นกัน

นายท่านอู่หวังว่าหลานสาวของเขาจะได้พบกับคนที่ดีกับนาง เขาไม่อยากให้ซานเป่าเสียใจ

“ปู่จะพาไปหารอบๆ อีกที” อู่โหวเยว่กล่าว

นายท่านอู่และซานเป่าเดินค้นหาไปรอบๆ แต่ก็ยังไม่พบขอทานเลย เขาจึงได้ถามคนละแวกนั้น

“โอ้ ขอทานคนนั้นหรือ? ข้าเห็นเขาเดินไปทางนั้นแต่ไม่รู้เหมือนกันว่าไปไหน”

ชายคนนั้นกล่าว ดูเหมือนว่าหลังจากที่พวกเขากลับไปแล้ว ก็ไม่ได้มีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น เพียงแต่เขาอาจจะอยากจากไปเองก็เป็นได้

ซานเป่าถอนหายใจอย่างโล่งอก ดีแล้วที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เด็กน้อยก้มหน้าลงอย่างเศร้าใจ นางอยากให้เขาอยู่ตรงที่เดิม อย่างน้อยก็ควรบอกลากันบ้างสิ!

ท่านลุงนิสัยไม่ดี!

“ซานเป่า กลับกันเถอะ” นายท่านอู่ลูบหัวเล็กๆ ของนาง

พวกเขาเดินจับมือกันกลับไปยังจวนอู่โหว นายท่านอู่ไม่รู้จะปลอบใจหลานสาวอย่างไร เขานึกก่นด่าขอทานตัวเหม็นในใจไปถึงร้อยแปดสิบครั้ง!

เมื่อพวกเขาทั้งสองมาถึงประตูบ้าน ก็พบเข้ากับถังหลี่โดยบังเอิญ หญิงสาวเพิ่งกลับมาจากข้างนอก ตอนนี้ถังหลี่ต้องการจะเปิดเหลาอาหารหนิงเฟิงในเมืองหลวง ช่วงนี้นางจึงยุ่งมาก ถังหลี่ออกจากบ้านแต่เช้าและกลับมาในยามค่ำทุกวัน เมื่อเห็นซานเป่านางก็รับรู้ว่าบุตรสาวกำลังอารมณ์ไม่ดี

“ซานเป่า”

เมื่อได้ยินเสียงของมารดา นางรีบวิ่งไปกอดมารดา ฝังใบหน้าไว้กับอ้อมแขนของนาง

“ท่านแม่..”

ใบหน้าอ่อนเยาว์ของซานเป่ามีทั้งความเศร้าหมองและขุ่นใจ ทำให้ถังหลี่อดเจ็บปวดไปกับบุตรสาวไม่ได้

“ลูกรัก เกิดอะไรขึ้นหรือ?”

“ท่านแม่ ลุงคนนั้นจากไปแล้ว”

“ลุงขอทานหรือ?” ถังหลี่ถาม

ถังหลี่รู้ว่าช่วงนี้ซานเป่าออกไปข้างนอกเพื่อนำอาหารไปให้ขอทานคนหนึ่ง นางไม่ได้ห้ามปรามบุตรสาวเพราะเห็นว่ามีท่านอู่โหวเยว่ไปด้วย หญิงสาวจึงไม่กังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับบุตรสาว

ดังนั้นนางจึงปล่อยซานเป่าไป

“ซานเป่า การได้พบและได้รู้จักใครสักคนนั้นเป็นพรหมลิขิต เป็นโชคชะตาที่นับว่าหาได้ยากนัก เมื่อถึงเวลาการพลัดพรากจากกันจึงเป็นของธรรมดา” ถังหลี่เตือนสติซานเป่า

“เมื่อมีพบก็ต้องมีจาก”

“ข้ารู้ท่านแม่…เพียงแต่ข้ายังเศร้า” ซานเป่าพูด ดูเหมือนว่านางจะชอบท่านลุงขอทานจริงๆ

ถังหลี่ทนไม่ได้ที่จะพูดจาทำร้ายจิตใจของบุตรสาว

“พรุ่งนี้แม่จะไปหาชายคนนั้นกับลูกดีไหม? บางทีเขาอาจจะไปที่อื่นชั่วคราวแล้วอาจจะกลับมาใหม่”

ซานเป่าอารมณ์ดีขึ้น

“ดีเจ้าค่ะ!”

สองแม่ลูกจึงได้เดินเข้าไปในจวนอู่โหว