ตอนที่ 389 งานอภิเษกสมรส

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

เจียง​ซื่อ​หมอบ​อยู่​บน​แผ่น​หลัง​ของ​เจียง​จั้น​ ​บน​ศีรษะ​คลุม​ด้วย​ผ้าคลุม​สีแดง​สด​ ​สิ่ง​เดียว​ที่นาง​จะ​มองเห็น​ได้​ในขณะนี้​คือ​ไหล่​กว้าง​ของ​ผู้​เป็น​พี่ชาย

แผง​ไหล่​นั้น​ทั้ง​กว้าง​และ​แข็งแกร่ง​ ​หา​ใช่​ไหล่​ที่​บอบบาง​ดังเช่น​สมัย​เยาว์วัย​ ​มอง​แล้ว​ให้​ความ​อุ่นใจ​เกิน​คณนา

เจียง​ซื่อ​ซบ​ลง​บน​ไหล่​ของ​พี่ชาย​ ​น้ำ​หยด​ใส​ไหล​ลงมา​อย่างไร​้​สุ้มเสียง

เมื่อคราว​ที่นาง​แต่งงาน​เข้าไป​อยู่​ใน​จวน​อันกั​๋​วกง​ ​พี่​รอง​ก็​เป็น​คน​แบก​นาง​ขึ้น​หลัง​เช่นนี้​ ​ทว่า​ใน​ตอนนั้น​นาง​มิได้​รู้สึก​อาลัยอาวรณ์​มาก​เท่า​ใน​ตอนนี้​ ​กลับเป็น​ความรู้สึก​ไม่แยแส​ด้วยซ้ำ​ไป

พี่ชาย​ของ​คนอื่น​ต่าง​ก็​เฉิดฉาย​แตกต่าง​กัน​ออก​ไป​ ​บ้าง​ก็​เก่งกาจ​ ​บ้าง​ก็​เป็น​หนุ่ม​รูปงาม​ ​หรือ​บ้าง​ก็​ประสบความสำเร็จ​ตั้งแต่​อายุ​ยังน้อย​ ​ทว่า​พี่ชาย​ของ​นาง​กลับเป็น​พวก​หนุ่ม​สำรวย​ไม่​ตั้งใจ​ร่ำเรียน​เสีย​อย่างนั้น

นาง​หวนคิด​ไป​ไกล​ถึง​ชีวิต​ที่​แต่งงาน​เข้าไป​อยู่​ใน​จวน​อันกั​๋​วกง​ ​ใน​ตอนนั้น​มีทั​้​งค​วาม​เพ้อฝัน​ ​และ​ความ​ไม่มั่นคง​ ​ซ้ำ​ยัง​ไร้ค​วาม​อาลัยอาวรณ์​แม้​ต้อง​ห่าง​จาก​คนใกล้ชิด​ที่​เติบโต​ด้วยกัน​มาก​ว่า​สิบห้า​ปี

พอ​มาคิด​ดู​อีกที​ ​ตอนนั้น​นาง​คง​ทำเกินไป​จริงๆ

เจียง​ซื่อ​ตกอยู่ในภวังค์​ ​เหตุผล​บางประการ​ทำให้​นาง​เริ่ม​จมดิ่ง​ลง​ใน​ความเศร้า​ ​หยาดน้ำ​ตา​หยด​ลง​บน​คอ​ของ​เจียง​จั้น

ฝีเท้า​ของ​เจียง​จั้น​ชะงักงัน

น้อง​สี่​ร้องไห้​งั้น​หรือ

เมื่อ​ชายหนุ่ม​หยุด​เดิน​เช่นนั้น​ ​ฝูงชน​ที่​ห้อมล้อม​อยู่​ก็​อด​ชะเง้อ​มอง​ด้วย​ความสงสัย​ไม่ได้

อะไร​กัน​ ​หรือว่า​คุณหนู​เจียง​สี่​ตัว​หนัก​เกินไป​ ​คุณชาย​รอง​แบก​ไม่ไหว​งั้น​รึ

ไม่ใช่​หรอก​หน่า​ ​คุณหนู​สี่​ออกจะ​เพรียวลม​ปาน​นั้น​

อวี​้​จิ​่น​เริ่ม​ไม่พอใจ

เขา​รอ​อา​ซื่อ​ขึ้น​เกี้ยว​เจ้าสาว​อยู่​นะ​ ​จะ​ได้​รีบ​กลับ​จวน​เสียที​ ​เจียง​จั้น​มัว​พิรี้พิไร​อยู่​ได้

หรือ​เขา​กำลัง​คิด​ว่า​ ​ถ้า​ตน​ไม่ยอม​เดิน​เสีย​อย่าง​ ​อา​ซื่อ​ก็​จะ​ได้​อยู่​ที่นี่​ต่องั​้​นรึ​ ​ก็​เคย​เห็น​พวก​หวง​น้องสาว​มาบ​้าง​ ​ทว่า​ไม่เคย​เห็น​ใคร​ทำตัว​ไร้ยางอาย​เช่นนี้​มาก​่อน​!

อวี​้​จิ​่น​เม้มปาก​แน่น​ ​เพราะ​รู้ดี​ว่า​ครอบครัว​ฝ่าย​เจ้าสาว​กำลัง​จับตาดู​อยู่​ ​เขา​จึง​ไม่​สามารถ​พุ่ง​เข้าไป​อัด​เจียง​จั้น​ได้

นั่น​ยิ่ง​ทำให้​ชายหนุ่ม​โมโห​ยิ่งขึ้นไป​อีก

ครั้น​เจียง​ซื่อ​สัมผัส​ได้​ว่า​เจียง​จั้น​หยุด​เดิน​ ​นาง​จึง​เริ่ม​ได้สติ​ ​นาง​ร้องเรียก​พี่​รอง​แผ่วเบา

เจียง​จั้น​ลังเล​ไม่น้อย​ ​“​น้อง​สี่​…​”

เจียง​ซื่อ​กระซิบ​ถาม​ ​“​พี่​แบก​ต่อ​ไม่ไหว​แล้ว​หรือ​”

ห​้ะ​ ​แบก​ต่อ​ไม่ไหว​?

ใน​ทันใดนั้น​ ​เจียง​จั้น​ก็​บิน​ฉิว​ไป​ที่​เกี้ยว​เจ้าสาว​ทันที

ครั้น​เห็น​สายตา​ดุดัน​ของ​อวี​้​จิ​่น​แล้ว​ ​สาว​รับใช้​ที่​ตาม​รับใช้​เจ้าสาว​ก็​รีบ​พยุง​นาง​ขึ้นไป​บน​เกี้ยว

เจียง​จั้น​เฝ้ามอง​น้องสาว​ใน​อาภรณ์​สีแดง​สด​หาย​เข้าไป​หลัง​ม่าน​ ​เสียง​ปี่​สั่ว​น่า​ที่​ดัง​กึกก้อง​ห่าง​ไป​ทุกที​ ​ใน​วินาที​นั้น​ ​เขา​รู้สึก​ทุกข์ใจ​อย่าง​ไม่​อาจ​อรรถาธิบาย​ด้วย​ถ้อยคำ

นี่​คง​เรียกว่า​แต่งงาน​จริงๆ​ ​แล้ว​กระมัง

อีกหน่อย​เขา​เอง​ก็​ต้อง​แต่งงาน​ ​มีลูก​ ​การ​ส่ง​คนที​่​รัก​ขึ้น​เกี้ยว​ไป​ช่าง​ทุกข์ทรมาน​หัวใจ​เหลือเกิน

ทว่า​อวี​้​จิ​่​นก​ลับ​รู้สึก​ตรงกันข้าม

บุรุษ​หนุ่ม​ขี่​อาชา​ตัว​สูงใหญ่​เดิน​นำหน้า​เกี้ยว​นั้น​ ​พร้อม​รอยยิ้ม​ที่​ไม่​เลือนหาย​ไป​จาก​ใบหน้า​เลย​สัก​วินาที​เดียว

ฝูงชน​เบียดเสียด​เต็ม​สอง​ฝั่ง​ถนน​พลาง​ส่งเสียง​เซ็งแซ่​

“​ดู​เร็ว​ ​ผู้​นั้น​คือ​เยี​่​ยน​อ๋อง​!​”

“​เยี​่​ยน​อ๋อง​รูปโฉม​งดงาม​เอาเรื่อง​ ​ดู​ยัง​หนุ่ม​ยัง​แน่น​ ​ผู้​ที่​ได้มา​เป็น​พระ​ชายา​ช่าง​โชคดี​เหลือเกิน​…​”

“​ข้า​ได้ยิน​มา​ว่า​พระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​เป็น​ถึง​ยอดหญิง​งาม​ ​เยี​่​ยน​อ๋อง​ต่างหาก​ที่​โชคดี​…​”

“​เช่นนั้น​ ​เยี​่​ยน​อ๋อง​และ​พระ​ชายา​ก็​นับว่า​คู่​ที่​ฟ้า​ดิน​บรรจง​สรรค์สร้าง​งั้น​สิ​”

อวี​้​จิ​่น​เงี่ยหู​ฟัง​ถ้อยคำ​เหล่านั้น​แล้ว​ ​ความสุข​ใน​ใจ​ก็​เพิ่มพูน​จน​ล้น​ปรี่​ ​เขา​เอียง​คอ​เล็กน้อย​หันไป​ส่งสายตา​ให้​ผู้ติดตาม​ที่​ทำ​หน้า​โปรย​เหรียญ​มงคล

คน​โปรย​เหรียญ​มงคล​เลิก​คิ้ว​ก่อน​จะ​ล้วง​เหรียญ​มงคล​พวง​ใหญ่​ที่​ผูก​ติด​อยู่​บน​เงื่อน​แดง​ออกมา​ ​แล้ว​โยน​ไป​ทาง​ชาวบ้าน​กลุ่ม​นั้น

ฝูงชน​ต่าง​เปล่งเสียง​โห่ร้อง​ยินดี​

เสียง​ฆ้อง​และ​กลอง​ดัง​กระหึ่ม​กึกก้อง​ ​ขบวนแห่​สัมภาระ​เจ้าสาว​ยาวเหยียด​ ​ฝูงชน​คลาคล่ำ​คืบ​เคลื่อน​ตาม​ไป​ติดๆ​ ​มี​เพียง​กลีบดอกไม้​และ​เศษ​ประทัด​ที่​ถูก​ทิ้ง​ไว้​เบื้องหลัง

ครั้น​ความคึกคัก​ผ่าน​ไป​แล้ว​ ​ด้านหลัง​ก็​หลงเหลือ​เพียง​เงียบสงัด

สอง​พี่น้อง​ตระกูล​เซี​่ย​ยืน​อยู่​หน้าบาน​ประตู​จวน​หย่ง​ชังปั​๋​วที​่​เปิด​อ้า​ ​พลาง​มอง​ขบวนแห่​เดินผ่าน​ไป

“​กลับ​เข้าข้าง​ใน​เถิด​”​ ​เซี​่​ยอิน​โหลว​บอก​เซี​่ย​ชิง​เหยา​ด้วย​สีหน้า​ราบเรียบ

แล้ว​สอง​พี่น้อง​ก็​เดิน​เคียง​ไหล่​กลับ​เข้าไป​ด้านใน

เซี​่ย​ชิง​เหยา​ถอนหายใจ​เล็กน้อย​ ​“​ข้า​คิด​ว่า​จะ​ได้​ส่ง​อา​ซื่อ​เข้า​พิธี​อภิเษก​เสียอีก​…​”

แม้​เจียง​ซื่อ​จะ​เป็น​สหาย​ที่​เล่น​ด้วยกัน​มาตั​้ง​แต่​สมัย​วัยเยาว์​ ​แต่​เนื่องจาก​นาง​ยังอยู่​ใน​ช่วง​ปี​แห่ง​การ​ไหว้​ทุกข์​ ​จึง​ไม่​อาจ​เข้าร่วม​งานมงคล​ได้

ใน​มุม​ของ​สอง​พี่น้อง​ที่​ต้อง​ไว้ทุกข์​ให้​บิดา​มารดา​ ​ไม่ต้อง​เอ่ยถึง​งานมงคล​ ​เพราะ​แม้แต่​การ​ร่วมงาน​เลี้ยง​ทั่วไป​ยัง​ไม่​สามารถ​ทำได้

เซี​่​ยอิน​โหลว​เป็น​คนพูด​น้อย​ ​เขา​จึง​เพียงแต่​เดิน​ไป​และ​รับฟัง​ผู้​เป็น​น้องสาว​ถอดถอน​หายใจ​เงียบๆ​

เซี​่ย​ชิง​เหยา​สังเกต​อาการ​ของ​พี่ชาย​แล้ว​กลับ​รับรู้​ได้​ถึง​ความ​เย็นชา​ที่​แผ่ซ่าน​ออกมา​ผ่าน​ใบหน้า​ที่​ปราศจาก​รอยยิ้ม​ ​นาง​จึง​อด​ถาม​ออก​ไป​ไม่ได้​ว่า​ ​“​พี่ใหญ่​ ​อา​ซื่อ​ออกเรือน​ไป​แล้ว​ ​พี่​…​ ​พี่​เลย​เจ็บปวด​ใช่​หรือไม่​”

เซี​่​ยอิน​โหลว​ชะงัก​ฝีเท้า​พลาง​หัน​มอง​น้องสาว

“​พี่ใหญ่​…​”​ ​เซี​่ย​ชิง​เหยา​นึก​เสียใจ​ที่​ถาม​ไป​เช่นนั้น​ ​นาง​รู้​ทั้ง​รู้​ว่า​คำถาม​นั้น​ไร้ประโยชน์​ ​เพราะ​ต่อให้​รู้​คำตอบ​แล้ว​จะ​ได้​อะไร​ขึ้น​มา

ครั้น​ย้อน​คิดถึง​เมื่อ​ตอนที่​พี่ชาย​และ​อา​ซื่อ​เป็นเพื่อน​เล่น​กัน​ด้วย​ความบริสุทธิ์ใจ​แล้วก็​อด​เสียดาย​ไม่ได้

เหตุใด​จู่ๆ​ ​อา​ซื่อ​ถึง​ได้​กลายเป็น​พระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​ไป​ได้​ ​ชีวิต​ใน​หมู่​ราชวงศ์​เหมือน​สามัญชน​ทั่วไป​ที่ไหน​กัน​ ​เกรง​ว่า​อนาคต​ของ​อา​ซื่อ​จะ​ต้อง​เผชิญ​กับ​เรื่อง​ยาก​อีก​ไม่น้อย

เซี​่​ยอิน​โหลว​มอง​ไป​ที่​เซี​่ย​ชิง​เหยา​ด้วย​ใบหน้า​จริงจัง​ ​“​เปล่า​เสียหน่อย​ ​เจ้า​คิดมาก​เกินไป​แล้ว​”

“​พี่ใหญ่​…​”​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​เซี​่​ยอิน​โหลว​เดินหนี​ไป​ไกล​แล้ว​ ​นาง​จึง​รีบ​ยก​ชายกระโปรง​วิ่ง​ตาม​ไป​ทันที

ขบวน​เจ้าสาว​แห่แหน​ไปร​อบ​ๆ​ ​เมืองหลวง​ก่อนที่จะ​มา​หยุด​อยู่​ที่​หน้า​ประตู​จวน​เยี​่​ยน​อ๋อง

หลังจาก​ความทุลักทุเล​ผ่านพ้น​ไป​แล้ว​ ​ในที่สุด​เจียง​ซื่อ​ก็ได้​หย่อน​ตัว​นั่ง​พัก​บน​เตียง​ใน​ห้อง​ใหม่​เสียที​ ​นาง​รู้สึก​ว่า​ร่าง​ทั้ง​เหนื่อยล้า​ประหนึ่งว่า​จะ​แตก​ออก​เป็น​เสี่ยง​ๆ

ท้องฟ้า​ด้านนอก​เป็น​อย่างไร​ไม่ทราบ​ ​แต่​แม้​มี​ผ้าคลุม​หน้า​อยู่​ก็​ยัง​รับรู้​ได้​ว่า​ใน​ห้อง​นั้น​สว่างไสว

ไม่นาน​นัก​ ​ผ้าคลุม​นั้น​ก็​ถูก​เปิด​ขึ้น​ ​พร้อมกับ​อวี​้​จิ​่น​ยืน​ส่ง​ยิ้มอยู่​เบื้องหน้า

ทั้งคู่​สบตา​กัน​ก่อน​จะ​ลืม​ไป​เสีย​สนิท​ว่า​มี​คนอื่นๆ​ ​อยู่​ใน​ที่​นั้น​ด้วย

“​ท่าน​อ๋อง​ ​พระ​ชายา​ ​ได้เวลา​เสวย​น้ำจัณฑ์​แล้ว​เพ​คะ​”

ครั้น​มี​คน​ยื่น​จอก​สุรา​ให้​ ​ทั้งสอง​ถึง​ได้​ละสายตา​จากกัน​และ​กัน

อวี​้​จิ​่​นรับ​จอก​สุรา​นั้น​มาก​ระ​ดก​รวด​ใน​คราว​เดียว​ ​จากนั้น​ก็​วาง​ถ้วย​เปล่า​ลง​ ​แล้ว​สั่ง​ให้​ทุกคน​ที่อยู่​ใน​ห้อง​นั้น​ออก​ไป​ทันที

“​ท่าน​อ๋อง​ ​ท่าน​ต้อง​เสด็จ​ไป​คารวะ​น้ำจัณฑ์​ด้านนอก​เสียก่อน​นะ​เพ​คะ​”​ ​ผู้ดูแล​กิจการ​ฝ่ายใน​ของ​ฝ่าย​เจ้าบ่าว​เอ่ย​เตือน

หญิง​ผู้​นั้น​เป็น​สตรี​วัยกลางคน​แซ่​จี้​ ​ผู้​มี​ใบหน้า​เรียว​ยาว​ ​คนอื่นๆ​ ​จึง​เรียก​นาง​ว่า​ ​จี้ห​มัว​มัว

เพราะ​เมื่อเช้า​นาง​ถูก​จั่ง​สื่อ​กำชับ​ไว้​ว่า​ให้​จับตาดู​ท่าน​อ๋อง​ให้​ดี​ ​อย่า​ปล่อย​ให้ท่า​นอ​๋​อง​ก่อเรื่อง​เป็นอันขาด

โชคดี​ที่​ท่าน​อ๋อง​ให้ความร่วมมือ​อย่างดี​ ​ดู​ไป​แล้ว​จั่ง​สื่อ​คง​กังวล​มาก​เกิน​เหตุ

อวี​้​จิ​่​นขมวด​คิ้ว​พลาง​มอง​ไป​ที่​จี้ห​มัว​มัว​ ​“​เจ้า​คือ​….​”

สตรี​ผู้​นี้​มาจาก​ไหน​กัน​ ​เหตุใด​จวน​อ๋อง​ถึง​ได้​มี​คน​หน้า​ไม่​คุ้น​โผล่​มา​ไม่หยุดหย่อน

จี้ห​มัว​มัว​โกรธ​จน​ผงะ​ถอยหลัง​ไป​ ​“​บ่าว​คือห​มัว​มัว​ผู้ดูแล​กิจการ​ฝ่ายใน​เพ​คะ​”

อวี​้​จิ​่​นพ​ยัก​หน้า​ ​“​เข้าใจ​แล้ว​ ​เจ้า​พา​พวก​นาง​ออก​ไป​ได้​แล้ว​”

“​เพียงแต่ว่า​ด้านหน้า​…​”

อวี​้​จิ​่น​ยังคง​ไม่ลืม​ตา​พลาง​เอ่ย​ ​“​ไป​คารวะ​น้ำจัณฑ์​ช้า​หน่อย​จะ​เป็นไร​”

จี้ห​มัว​มัว​ตะลึง​อ้าปากค้าง​ก่อน​จะ​รีบ​ยิ้ม​กลบเกลื่อน​แล้ว​พา​คนที​่​เหลือ​ออก​ไป​ ​ใน​ใจ​นาง​พลาง​คิด​ ​ที่​จั่ง​สื่อ​พูด​คง​เป็นเรื่อง​จริง​สินะ​!

ภายใน​ห้อง​นั้น​จึง​เหลือ​แค่​เจียง​ซื่อ​และ​อวี​้​จิ​่น

เทียน​แดง​สลักลาย​มังกร​คู่​หงส์​ขนาด​เท่า​แขน​ส่องแสง​สว่างไสว​

อวี​้​จิ​่​นม​อง​ไป​ที่​คนที​่​นั่ง​อยู่​บน​เตียง​พร้อม​ความสุข​ล้น​ปรี่​ที่​ล้น​ทะลัก​ออกมา​จาก​ก้นบึ้ง​หัวใจ

ในที่สุด​ ​อา​ซื่อ​ก็ได้​เป็น​ภรรยา​ของ​เขา​เสียที​ ​นับตั้งแต่​นี้​เป็นต้นไป​ ​นาง​ก็​เป็น​คน​ของ​เขา

ทั้ง​ความอ้างว้าง​ใน​ตอนที่​ต้อง​ใช้ชีวิต​โดดเดี่ยว​ใน​วัยเยาว์​ ​และ​ความโหดร้าย​ที่​ต้อง​เผชิญ​ยาม​อยู่​ที่​หนาน​เจียง​ ​เรื่อง​เลวร้าย​ทั้งหมด​ทั้งมวล​ที่​ผ่าน​เข้ามา​แปรเปลี่ยน​เป็นความ​คุ้มค่า​ของ​ชีวิต​ใน​ทันใด

การ​ที่​เขา​ได้​มีชีวิต​อยู่​บน​โลก​ใบ​นี้​ก็​เพื่อ​จะ​ได้​อยู่​เคียงคู่​กับ​อา​ซื่อ

เพราะ​อวี​้​จิ​่น​เอาแต่​ยื่น​นิ่ง​ไม่พูดไม่จา​ทำให้​เจียง​ซื่อ​เป็น​ฝ่าย​ทนไม่ไหว

นาง​ถอด​มงกุฎ​หงส์​บน​ศีรษะ​ตัวเอง​ออก​พลาง​ถาม​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​จู่ๆ​ ​ก็​กลายเป็น​คนโง่​ขึ้น​มา​เสียดื​้อ​ๆ​?​”

อวี​้​จิ​่​นค​ว้า​มือ​หญิงสาว​มา​จับ​ไว้​ ​ส่ง​ยิ้ม​พลาง​ว่า​ ​“​ว่า​กัน​ว่า​ ​คนโง่​ก็​มีความสุข​ใน​แบบ​คนโง่​ ​ตราบใดที่​เจ้า​ไม่รังเกียจ​ ​โง่นิด​โง่​หน่อย​จะ​เป็นไร​ไป​”

เจียง​ซื่อ​กลอกตา​ใส่​บุรุษ​ตรงหน้า​ ​“​รีบ​ไป​คารวะ​น้ำจัณฑ์​เถิด​ ​ด้านหน้า​มี​แขกเหรื่อ​รอ​อยู่​อีก​มาก​”

“​งั้น​ข้า​จะ​ไป​คารวะ​น้ำจัณฑ์​”​ ​อวี​้​จิ​่​นว​่า​แล้วก็​ทำที​เดิน​ออก​ไป​ ​ทว่า​เดิน​ไป​ไม่​กี่​ก้าว​ก็​หันหลัง​กลับมา

“​ทำไม​รึ​”

อวี​้​จิ​่น​ประคอง​ใบหน้า​ของ​เจียง​ซื่อ​และ​จุมพิต​เข้าไป​เต็มแรง

เปลวไฟ​จาก​เล่ม​เทียน​มงคล​ไหว​วาบ​ ​ทำให้​ภายใน​ห้อง​นั้น​คล้าย​กับ​ถูก​มนตร์​สะกด

“​รอ​ข้า​เดี๋ยว​นะ​”​ ​ครั้น​เช็ด​มุม​ปาก​แล้ว​ ​อวี​้​จิ​่​นก​็​สาวเท้า​ก้าว​ใหญ่​ออก​ไป​ทันที​