ตอนที่ 401 เกาะขานางหญิง

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

ทันทีที่​เอ้อร​์​หนิว​ได้รับ​อิสระ​ ​มัน​หันไป​พ่นลม​ออก​ทาง​ปาก​ใส่​อวี​้​จิ​่น

สุนัข​ตัว​ใหญ่​อ้า​ปากกว้าง​เผย​ฟัน​ขาว​ ​มัน​หรี่​ตา​เฝ้าดู​ปฏิกิริยา​ของ​เจ้านาย​คล้าย​เป็นปฏิปักษ์

อวี​้​จิ​่น​โกรธ​จน​แทบ​คลั่ง​ ​พร้อม​ยก​เท้า​เตรียม​เตะ​เต็มที่

เอ้อร​์​หนิ​ววิ​่ง​เข้าไป​หลบ​หลัง​เจียง​ซื่อ​ไวว่อง​ ​และ​เลีย​หลัง​มือ​ของ​นาย​หญิง​อย่าง​ออดอ้อน

เจียง​ซื่อ​ขมวดคิ้ว​เป็น​เชิง​ห้ามปราม​ใส่​อวี​้​จิ​่น​ ​“​เจ้า​จะ​ถือสา​เอ้อร​์​หนิ​วทำ​ไม​กัน​”

อวี​้​จิ​่น​ ​“​….​”​ ​ชิง​ลงมือ​ก่อน​ได้​เป็นต่อ​ ​หาก​มัว​รีรอ​คงได้​เป็นรอง​ ​หาก​รีบ​ขาย​เอ้อร​์​หนิว​ไป​เสีย​ตั้งแต่​ตอนนั้น​ ​ป่านนี้​เขา​คง​ไม่ต้อง​มาต​กอยู​่​ใน​สถานการณ์​เช่นนี้​!

เอ้อร​์​หนิว​ ​“​โฮ่ง​!​”

ใน​จวน​เยี​่​ยน​อ๋อง​ ​เรือน​หลัก​มีชื่อ​ว่า​ ​อวี​้​เหอย​่​วน​ ​ซึ่ง​อยู่​กลาง​ของ​จวน​อ๋อง​พอดี

สอง​สามีภรรยา​เดินผ่าน​ประตูเข้า​ไป​ ​ส่วน​เอ้อร​์​หนิ​วก​็​ตาม​เข้าไป​ติดๆ

อวี​้​จิ​่น​ชะงัก​ฝีเท้า​ก่อน​หันหลัง​กลับมา​ ​“​กลับ​ที่​ของ​เจ้า​ไป​เลย​”

ก่อน​จะ​แต่งงาน​ ​เขา​จะ​พัก​อยู่​ที่​ห้อง​ตำรา​ที่​เรือน​ด้านหน้า​ ​เพื่อ​รอ​อา​ซื่อ​ย้าย​เข้าไป​อยู่​เรือน​ใหม่​พร้อมกัน

ฉะนั้น​ที่​ประจำ​ของ​เอ้อร​์​หนิ​วจึง​ถูก​จัด​ไว้​ที่​บริเวณ​ด้านหน้า​ ​แต่​ถึงกระนั้น​ ​มัน​ก็​สามารถ​วิ่งเล่น​ได้​ตามใจชอบ​โดยที่​ไม่มีใคร​คอย​กะเกณฑ์

เอ้อร​์​หนิว​หันไป​มอง​อวี​้​จิ​่​นก​่อน​จะ​งับ​กระโปรง​ของ​เจียง​ซื่อ​ไม่ยอม​ปล่อย​

อวี​้​จิ​่น​เอื้อมมือ​เตรียม​จะ​คว้า​คอ​เอ้อร​์​หนิว​ ​ทว่า​ถูก​เจียง​ซื่อ​ห้าม​ไว้​เสียก่อน

“​ทำที​่​นอน​ให้​เอ้อร​์​หนิว​ไว้​ที่​อวี​้​เหอย​่​วน​ด้วย​เถอะ​เพ​คะ​”

ราวกับว่า​เอ้อร​์​หนิว​ฟัง​เข้าใจ​ ​มัน​ส่งเสียง​โฮ่ง​ๆ​ ​เห็นพ้อง​ ​แล้ว​ล้ม​ตัว​กลิ้ง​ลง​บน​พื้น​อย่าง​สบาย​อารมณ์​ ​มัน​กลิ้ง​จน​ตัว​ไป​หยุด​อยู่​ใต้​เงา​ร่ม​ที่​มุม​หนึ่ง​ ​และ​นอน​ลิ้น​ห้อย​ปักหลัก​อยู่​ที่นั่น

อวี​้​จิ​่​นล​อบ​สถ​บกับ​ตัว​ว่า​จะ​ต้อง​กลับมา​คิดบัญชี​กับ​เอ้อร​์​หนิว​ให้​ได้​ ​แล้ว​ชายหนุ่ม​ก็​เดินตาม​เจียง​ซื่อ​เข้าไป​ด้านใน

หลังจากที่​เปลี่ยน​อาภรณ์​ ​และ​ล้าง​ไม้​ล้างมือ​เป็น​ที่​เรียบร้อย​ ​ใน​ระหว่าง​มื้อ​อาหาร​ ​อวี​้​จิ​่​นก​ล่าว​ตัดพ้อ​ขึ้น​ว่า​ ​“​อา​ซื่อ​ ​เหตุใด​ข้า​ถึง​ได้​รู้สึก​ว่า​เจ้า​ปฏิบัติ​ต่อ​เอ้อร​์​หนิ​วดี​กว่า​ปฏิบัติ​ต่อ​ข้า​เสียอีก​”

เจียง​ซื่อ​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​คลี่​ยิ้ม​หวาน​ ​“​เจ้า​ไม่ได้​รู้สึก​ไป​เอง​เสียหน่อย​”

อวี​้​จิ​่น​ตบ​โต๊ะ​พร้อม​ผุด​ลุก​โดยพลัน​ ​เขา​ดึง​เจียง​ซื่อ​เข้ามา​ประชิดตัว​ ​“​เป็นเรื่อง​จริง​งั้น​รึ​”

เจียง​ซื่อ​จ้องมอง​ใบหน้า​จริงจัง​เกิน​เรื่อง​พลาง​หัวเราะ​ ​“​ทำไม​รึ​ ​คำตอบ​ไม่​ถูกใจ​เลย​จะ​ลง​ไม้​ลงมือ​กับ​หม่อมฉัน​เลย​หรือ​เพ​คะ​…​”

อวี​้​จิ​่​นลด​เสียง​ ​แววตา​อันตราย​จับจ้อง​ไป​ที่​ใบหน้า​ของ​หญิงสาว​ ​“​ความจริง​ข้า​ก็​ว่า​จะ​ทำ​เช่นนั้น​แหละ​…​”

เจียง​ซื่อ​ยิ้ม​พลาง​กะพริบตา​ปริบๆ​ ​“​ข้า​เอง​ก็​ด้วย​”

อวี​้​จิ​่น​ตะลึง​ไป​ชั่วขณะ

นี่​เขา​ฟัง​ผิด​ไป​หรือ​ ​ตามเรื่อง​แล้ว​ ​เจียง​ซื่อ​ต้อง​ยืนกราน​ปฏิเสธ​ต่างหาก

เจียง​ซื่อ​กลั้น​หัวเราะ​ไม่อยู่​อีกต่อไป

นาง​ผ่าน​ชีวิต​มา​แล้ว​ถึง​สองครั​้ง​สองครา​ ​หาก​จะ​เทียบ​ความ​หนา​ของ​ใบหน้า​ ​อย่างไร​เสีย​ของ​นาง​ก็​มากกว่า​คนซื่อ​บื้อ​ตรงหน้า​อยู่​หน่อย​หนึ่ง

“​กินข้าว​กัน​เถิด​ ​ข้า​หิว​แล้ว​”​ ​เจียง​ซื่อ​หยุด​แกล้ง

อวี​้​จิ​่น​ผิดหวัง​ ​แต่​ก็​เลิก​คิดถึง​เรื่อง​นั้น​ไป

ก็​แค่​รอ​ให้​ฟ้า​มืด​ ​เขา​รอ​ได้​อยู่​แล้ว​ ​อย่างไร​เสีย​ก็​ต้อง​มี​คราว​ที่​อา​ซื่อ​เป็น​ฝ่าย​ขอร้อง​บ้าง​แหละ

หลังจาก​ทานอาหาร​เรียบร้อย​ ​สาว​รับใช้​ก็​ยก​อ่างล้างหน้า​ ​ผ้า​เช็ด​ ​และ​ของใช้​จำเป็น​เข้ามา​ปรนนิบัติ​ทั้งสอง

เจียง​ซื่อ​เดิน​เข้าไป​ใน​ห้อง​ชั้นใน​พลาง​ล้ม​ตัว​ลงนอน​ที่​เตียง​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​อวี​้​จิ​่น​เดินตาม​เข้ามา​จึง​ส่ง​ยิ้ม​พลาง​ถาม​ ​“​ท่าน​อ๋อง​ไม่มี​เรื่อง​อื่น​ที่​ต้อง​ทำ​บ้าง​เลย​หรือ​”

อวี​้​จิ​่น​สะบัด​รองเท้า​ออก​ ​ล้ม​ตัว​ลงนอน​ข้าง​เจียง​ซื่อ​แล้ว​ดึง​นาง​มา​ไว้​ใน​อ้อมแขน​ ​“​ไม่มี​เรื่อง​ใด​สำคัญ​ไป​กว่า​การ​นอน​กลางวัน​กับ​เจ้า​อีกแล้ว​ ​อีก​อย่าง​ ​ข้า​เป็น​ท่าน​อ๋อง​ผู้​เกียจคร้าน​จะ​มีเรื่อง​ใด​ให้​ทำ​กัน​เล่า​…​”

‘​สำเริงสำราญ​รอ​วัน​ตาย​’​ ​อย่างน้อย​ๆ​ ​คนอื่น​ก็​จะ​ได้คิด​ว่า​เขา​เป็น​พวก​ใช้ชีวิต​สำเริงสำราญ​ไป​วัน​ๆ​ ​เพื่อ​ที่​พวกเขา​จะ​ได้​ใช้ชีวิต​อย่าง​สุขสงบ

เจียง​ซื่อ​ดัน​ตัว​ชายหนุ่ม​ ​“​ไม่​ไป​อ่าน​ตำรา​ที่​ห้อง​ตำรา​หรือ​ ​เจ้า​มิได้​บอก​กับ​เสด็จ​พ่อ​ว่า​จะ​ตั้งใจ​ศึกษา​ร่ำเรียน​ให้​มากขึ้น​หรือ​”

อวี​้​จิ​่น​หัวเราะ​หึๆ​ ​“​ยิ่ง​เรียน​ก็​ยิ่ง​ปวดหัว​ ​ข้าว​่า​อย่างที่​เป็น​ตอนนี้​ก็ดี​อยู่​แล้ว​”

“​เช่นนั้น​ก็​นอน​เถิด​เจ้าค่ะ​”​ ​เจียง​ซื่อ​เอื้อมมือ​ไป​ปลด​ตะขอ​ที่​เกี่ยว​ม่าน

ม่าน​บาง​สีแดง​ผืน​ใหญ่​ค่อยๆ​ ​ทิ้งตัว​ลงมา​ราวกับ​แยก​โลก​ใบ​เล็ก​ออกมา​อีก​ใบ

เจียง​ซื่อ​ข่มตา​หลับ​ไม่​ลง​ ​ใน​สมอง​ยังคง​ครุ่นคิด​ถึง​แต่​ภาพวาด​ผืน​นั้น

ฝ่าย​อวี​้​จิ​่น​เอง​ก็​นอนไม่หลับ​เช่นกัน​ ​เพราะ​มัว​แต่​คิดถึง​กำไล​ดอก​หลิง​เซียว​ที่​ฮองเฮา​มอบให้​เจียง​ซื่อ

ตอนที่​กลับมา​ที่​เมืองหลวง​ใหม่​ๆ​ ​ดวงตา​ของ​เขา​ยังคง​มืดมิด​คล้าย​คนตาบอด

รสชาติ​ชีวิต​ช่วง​นั้น​ขม​ฝาด​เอาเรื่อง

ใน​ตอนนั้น​เขา​ยัง​เป็น​เด็กน้อย​ ​เขา​ที่​แต่งตัว​เป็น​สตรี​เกือบ​ถูกจับ​เข้าไป​ขายตัว​อยู่​ใน​หอ​โคม​เขียว​ ​เหตุการณ์​ครั้งนั้น​ทำให้​เขา​ปฏิญาณ​กับ​ตนเอง​ว่า​ ​เขา​จะ​ไม่​ปล่อย​ให้​ใคร​หน้า​ไหน​มาควบ​คุม​ชีวิต​ของ​เขา​อีกแล้ว

ความขมขื่น​ใน​วัยเยาว์​ส่งผล​ให้​เขา​ตั้งใจ​หาความ​รู้​ ​และ​ฝึกฝน​ศิลปะ​การต่อสู้​อย่างเอาเป็นเอาตาย​ ​เขา​เข้าไป​ร่วม​ฝึก​อยู่​ใน​สนามรบ​ที่​โหดร้าย​ที่สุด​ใน​หนาน​เจียง​เพื่อให้​ตนเอง​แข็งแกร่ง​ยิ่งขึ้น

หาก​จะ​พูด​อีกนัยหนึ่ง​คือ​ ​เจียง​ซื่อ​เป็น​ผู้​มอบ​ชีวิต​ใหม่​ให้​แก่​เขา

วันนี้​เขา​ได้​กลับมา​อยู่​ที่นี่​ ​และ​ได้​ลิ้มรส​ชาติ​ของ​การ​มี​อา​ซื่อ​อยู่​เคียงข้าง​ ​แม้ว่า​เขา​จะ​ไม่​ปรารถนา​สิ่ง​อื่นใด​นอกเหนือจากนี้​แล้ว​ ​แต่​เขา​ก็​ไม่​อาจ​หลงลืม​คำปฏิญาณ​ที่​ให้​ไว้​กับ​ตัวเอง

แม้​อวี​้​จิ​่น​เลือก​ได้​ว่า​จะ​ไม่​แก่งแย่งชิงดี​กับ​ผู้ใด​ ​แต่​นั่น​ก็​ต้อง​ไม่ใช่​การ​ไหล​ไป​ตาม​กระแส​คลื่น

หลังจากที่​กลับมา​อยู่​เมืองหลวง​ได้​ปีก​ว่า​ ​ทักษะ​และ​วิธีการ​ที่​สั่งสม​มาค​รั้ง​อยู่​ที่​หนาน​เจียง​แปรเปลี่ยน​เป็น​เบี้ย​หมาก​และ​วิสัยทัศน์​ใน​การ​ใช้ชีวิต

การก​ลับ​มาที​่​เมืองหลวง​ใน​คราวนี้​ ​เขา​จึง​ไม่ใช่​คนตาบอด​ ​หรือ​คน​หูหนวก​อีกต่อไป

นั่น​หมายความว่า​ ​เขา​เอง​ก็​เคย​ได้ยิน​เรื่องราว​เกี่ยวกับ​กำไล​ดอก​หลิง​เซียว​มาบ​้าง

อา​ซื่อ​รักษา​ดวงตา​ของ​องค์​หญิงฝู​ชิง​เท่ากับ​ได้​สร้าง​คุณความดี​ครั้ง​ใหญ่​ ​ฮองเฮา​จะ​ปูนบำเหน็จ​ใหญ่​ให้​ย่อม​เป็นเรื่อง​ธรรมดา​ ​เพียงแต่ว่า​การตอบแทน​ด้วย​กำไล​ดอก​หลิง​เซียว​ไม่​ยิ่งใหญ่​ไป​หน่อย​หรือ

อวี​้​จิ​่น​สัมผัส​ได้​ว่า​เสียง​ลมหายใจ​ของ​คน​ข้างๆ​ ​ยัง​ไม่อยู่​ใน​ขั้น​สงบนิ่ง​ ​เขา​จึง​ออกปาก​ถาม​ว่า​ ​“​อา​ซื่อ​ ​เจ้า​ถูกใจ​กำไล​ดอก​หลิง​เซียว​ที่​ฮองเฮา​มอบให้​หรือไม่​”

เจียง​ซื่อ​พลิกตัว​หันมา​ประจันหน้า​กับ​อวี​้​จิ​่น​

ทั้งสอง​คน​นอน​อยู่​บน​เตียง​ ​แอบอิง​กาย​แนบชิด​จน​นาง​สามารถ​นับ​ตอ​หนวด​ที่​เพิ่ง​ขึ้น​ที่​คาง​ของ​อวี​้​จิ​่น​ได้​อย่างชัดเจน​ ​ส่วน​เขา​ก็​มองเห็น​ขน​เส้น​เล็ก​ๆ​ ​ข้าง​แก้ม​ของ​นาง​ได้​อย่างชัดเจน​ดุจ​กัน

เจียง​ซื่อ​ชูมือ​ขึ้น​ใน​อากาศ​ ​แขน​เสื้อ​สีขาว​ราว​หิมะ​ไหล​ลง​ตาม​แรงโน้มถ่วง​ ​เผย​ให้​เห็น​กำไล​ดอก​หลิง​เซียว​สีเขียว​อ่อน​บน​ข้อมือ

“​กำไล​นี้​ช่าง​งดงาม​ยิ่งนัก​”​ ​เจียง​ซื่อ​กล่าว​จาก​ใจจริง

อวี​้​จิ​่น​เม้มปาก​เล็กน้อย​ก่อน​จะ​เตือน​ ​“​ไม่มี​ผู้ใด​ล่วงรู้​พระ​ประสงค์​ของ​ฮองเฮา​ได้​ ​ฉะนั้น​หาก​เจ้า​ไม่มี​ความจำเป็น​ใด​ก็​อย่า​ไป​ที่​วัง​หลวง​บ่อย​นัก​เลย​”

เพราะ​หาก​มอง​เพียง​ผิวเผิน​ก็​คง​สรุป​ว่า​ ​ฮองเฮา​รู้สึก​ซาบซึ้ง​ใน​การ​ช่วยเหลือ​ครั้งนี้​ถึง​ได้​มอบ​ของมีค่า​อย่าง​กำไล​ดอก​หลิง​เซียว​แก่​พระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​ ​แต่​หาก​มอง​ให้​ลึก​แล้ว​ที่จริง​อาจจะ​เป็น​เพราะ​ต้องการ​ลาก​สอง​สามีภรรยา​คู่​นี้​เข้าสู่​วังวน​น้ำ​ขุ่น​ก็​เป็นได้

แม้​อวี​้​จิ​่​นรู​้​ว่าการ​มอง​คนอื่น​ในแง่​ร้าย​มิใช่​นิสัย​ที่​ดีนัก​ ​แต่​เขา​ก็​ไม่ได้​คิด​จะ​เปลี่ยน

เจียง​ซื่อ​ผงกศีรษะ​รับ​ ​“​เรื่อง​นั้น​ข้า​เอง​ก็​พอ​รู้​ ​อาจิ​่น​ ​เจ้า​วางใจ​ได้​ ​ในเมื่อ​ข้า​ตกลงใจ​จะ​แต่งงาน​กับ​เจ้า​แล้ว​ ​ข้า​ก็​เตรียมใจ​ไว้​ว่า​จะ​ไม่​ปล่อย​ให้​ตัวเอง​ต้อง​ตก​อยู่​ใน​ความทุกข์ยาก​เช่นนั้น​อีกแล้ว​”

อวี​้​จิ​่น​สะดุด​กับ​คำ​ว่า​ ​“​อีกแล้ว​”

“​อีกแล้ว​?​”

จาก​ความหมาย​นั้น​ ​อา​ซื่อ​กำลังจะ​บอกว่า​ตนเอง​เคย​ตก​อยู่​ใน​สถานการณ์​ทุกข์ยาก​มาก​่​อนงั​้น​หรือ

เจียง​ซื่อ​รู้​ว่า​ตน​เผลอ​หลุดปาก​ออก​ไป​จึง​รีบ​ส่ง​ยิ้ม​กลบเกลื่อน​ ​“​ก็​เมื่อ​ครั้ง​ที่​ข้า​ได้​ไปร​่ว​มงาม​เลี้ยง​ที่​จวน​หย่ง​ชังปั​๋ว​แล้ว​ดัน​ไป​ได้ยิน​ข่าว​เล่า​ข่าวลือ​โดยบังเอิญ​ ​ตอนนั้น​ข้า​ยัง​เด็ก​นัก​ ​อารมณ์​หุนหันพลันแล่น​ ​ล้ม​ป่วย​อยู่นาน​กว่า​จะ​คิดตก​”

หาก​พูด​กันตาม​จริง​แล้ว​ ​เมื่อ​ตอนปลาย​ฤดูใบไม้ผลิ​ที่นาง​ได้​กลับมา​มีชีวิต​อีกครั้ง​ ​เจียง​ซื่อ​ผู้​แสน​จะ​ทะเยอทะยาน​และ​เย่อหยิ่ง​ก็ได้​ตาย​จากไป​แล้ว

นาง​จบชีวิต​ลง​เพราะ​เสียง​วิพากษ์วิจารณ์​ของ​ชาย​ผู้​หนึ่ง​ ​นาง​จบชีวิต​ลงท่า​มก​ลาง​สายตา​เย้ยหยัน​ของ​เด็กสาว​พวก​นั้น

เมื่อมา​คิดย้อน​ดู​ตอนนี้​ ​ช่าง​ไม่​คุ้ม​เอา​เสีย​เลย

แต่​แล้ว​จู่ๆ​ ​สายตา​ของ​อวี​้​จิ​่​นก​็​พลัน​เย็นเยียบ​ ​“​อา​ซื่อ​ ​เจ้า​อยาก​ระบาย​ความทุกข์​นั้น​หน่อย​ไหม​”

เจียง​ซื่อ​ส่าย​หัว​ ​“​คน​ไร้ค่า​เช่นนั้น​ ​แม้แต่​เวลา​ก็​ไม่​ควร​เสีย​ไป​โดย​เปล่าประโยชน์​ ​นอน​กัน​เถอะ​”

“​อื้อ​”

ด้านใน​ม่าน​สงบเงียบ​ลง​ใน​เวลา​อัน​รวดเร็ว

เจียง​ซื่อ​ลืมตา​ตื่นขึ้น​มาก​่อน​จะ​พบ​ว่า​ข้าง​กาย​ของ​นาง​ว่างเปล่า

“​ท่าน​อ๋อง​เล่า​”​ ​เจียง​ซื่อ​สวม​เสื้อคลุม​พลาง​หันไป​ถาม​อา​เฉี่ยว

“​ท่าน​อ๋อง​ตื่น​ก่อน​ ​ตอนนี้​ฝึก​ดาบ​อยู่​เพ​คะ​”

เจียง​ซื่อ​มิได้​แปลกใจ

อวี​้​จิ​่​นรั​กษา​วินัย​มา​แต่ไหนแต่ไร​ ​เขา​ไม่เคย​ผ่อนปรน​กับ​ตัวเอง​เลย​สักครั้ง

เดิมที​นาง​ตั้งใจ​ว่า​จะ​งีบ​แค่​ครู่เดียว​ ​แต่​กลายเป็น​ว่า​เผลอ​หลับ​ไป​เสียนาน​ ​คง​เป็นผล​พวง​จาก​เมื่อคืน

เจียง​ซื่อ​นวด​ขมับ​ที่​ปูด​บวม​ของ​ตัวเอง​ก่อน​จะ​ล้างหน้าล้างตา​แล้ว​เดิน​ออก​ไป​ด้านนอก

อวี​้​ชี​ฝึก​ดาบ​อยู่​ที่​สนาม​ประลอง​ ​ส่วน​นาง​ก็​จะ​ไป​เดิน​ชม​ใน​ห้อง​ตำรา​เสียหน่อย

ตลอดทาง​ที่​เดิน​ไป​มีบ​่า​วรับ​ใช้​คอย​โค้ง​คำนับ​อยู่​ไม่​ขาด​พร้อม​กล่าว​ร้องทัก​ ​“​พระ​ชายา​”

เจียง​ซื่อ​พยักหน้า​เล็กน้อย​ ​แล้ว​เดิน​นำ​อาหมาน​ผ่าน​ประตู​วงเดือน​ไป​ยัง​ห้อง​ตำรา​ที่​เรือน​ด้านหน้า

ที่​หน้า​ห้อง​ตำรา​มี​เด็กรับใช้​ยืน​เฝ้า​อยู่​ ​ครั้น​เห็น​เจียง​ซื่อ​ก็​ผงะ​ไป​ชั่วครู่​ก่อน​จะ​รีบ​ถวาย​ความเคารพ