“เป็นเรื่องเกี่ยวกับคุณ ฉันมาหาคุณ ก็เพื่ออยากจะถามคุณให้ชัดเจน”
เฉินฮวนฮวนสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วพูดขึ้น “เพื่อเป็นการรู้ให้แน่ชัดว่านี่เป็นเรื่องจริงหรือว่าเรื่องเข้าใจผิด ฉันรอไม่ได้แต่วินาทีเดียว ดังนั้นก็เลยมาหาคุณที่บริษัทโดยตรง”
เรื่องเข้าใจผิดกับเฟิงหานชวนก่อนหน้านี้ เป็นเธอที่ไม่ได้ถามเฟิงหานชวนให้ชัดเจน ดังนั้นครั้งนี้เธอได้เคยได้รับบทเรียนแล้ว จึงมาเจอเฟิงหานชวนในเวลาแรก
“คุณพูดมา” เฟิงหานชวนไม่รู้ว่าตกลงเกิดอะไรขึ้น จึงให้เฉินฮวนฮวนเป็นฝ่ายพูดขึ้น
เฉินฮวนฮวนหันหน้ามา มองดวงตาดำคมคู่นั้นของชายหนุ่ม ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชา ไม่เหมือนผู้ชายขี้เล่นเลยสักนิด
“คุณกับหลิวหลี่ถง เป็นคู่นอนกันลับ ๆ ใช่ไหม?” เธอถามโดยตรง ไม่อยากจะอ้อมค้อมสักนิด
เฟิงหานชวน “…”
ชายหนุ่มไม่ได้ตอบ มีแม้กระทั่งความสับสนระหว่างคิ้ว ทำให้เฉินฮวนฮวนใจร้อนยิ่งกว่าเดิม
เธอถามขึ้นอีก “ทำไมคุณถึงไม่ตอบ?”
“เพราะตั้งครรภ์ถึงทำให้คนคิดอะไรมั่วซั่วใช่ไหม? ผมกับหลิวหลี่ถง แทบจะไม่มีพบเจอกันเลย” ตอนนี้เฟิงหานชวนพูดได้ว่างงไปหมด
เขายอมแพ้กับจินตนาการของเฉินฮวนฮวน ที่สามารถคิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้
เฉินฮวนฮวนเห็นเขาไม่พูดความจริง จึงพูดเสริมขึ้นอีก “คุณพูดว่าไม่ได้พบหน้ากันเลย งั้นทำไมตอนกลางคืนถึงได้เข้าไปในห้องของหลิวหลี่ถง?”
ได้ยินแบบนี้ เฟิงหานชวนก็หัวเราะออกมา เขาตบหัวของเฉินฮวนฮวนเบา ๆ แล้วพูดขึ้น “เด็กโง่ ตอนนั้นคุณบอกว่าประจำเดือนมา ผมเลยไปยืมผ้าอนามัยให้คุณไม่ใช่เหรอ?”
เฉินฮวนฮวน “???”
“เวลาสั้นขนาดนั้น ผมกับหลิวหลี่ถงจะทำอะไรได้ หืม?” เฟิงหานชวนเข้าใกล้เฉินฮวนฮวน แล้วขยับไปนั่งชิดกับเธอ มือข้างซ้ายโอบบ่าของเธอไว้ อยากจะโอบเธอไว้ในอ้อมกอด
แต่วินาทีต่อมา เฉินฮวนฮวนเด้งกลับ เธอส่ายหน้า แล้วพูดขึ้น “ไม่ใช่คืนนั้น”
“ไม่ใช่คืนนั้น?” กว่าเฟิงหานชวนจะคลายขมวดคิ้วได้ไม่ใช่เรื่องง่าย เขาขมวดคิ้วอีกครั้ง น้ำเสียงเย็นชาขึ้นเล็กน้อย “บอกผมหน่อย ว่าครั้งนี้ใครเป็นคนปล่อยข่าวลือครั้งนี้? นอกจากคืนนั้น ผมก็ไม่ได้เข้าไปในเขตคนใช้อีกเลย”
มือสองข้างของเฉินฮวนฮวนกำชายเสื้อของตัวเองไว้แน่น เธอไม่สามารถเอ่ยถึงเสี่ยวลี่ออกมาได้ ในเมื่อเสี่ยวลี่ต้องการงานงานนี้
“คุณไม่ต้องสนใจว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวลือ เพราะมีคนเห็น แถมในตอนที่คุณออกมา บนพื้นห้องของหลิวหลี่ถง ยังมีของเล่น…เหลือไว้อยู่!”
เฉินฮวนฮวนกัดฟันแน่น อดไม่ได้ที่จะตาแดงขึ้นมา น้ำเสียงสะอึกสะอื้น “คุณพูดความจริงกับฉัน ตอนนี้พวกคุณยังรักษาความสัมพันธ์แบบนี้กันอยู่ใช่ไหม?”
“ผู้ชายไม่ใช่ของดีอะไรจริง ๆ คุณให้เธอเป็นขี้ข้าที่ร่วมห้องด้วย แต่ไม่ให้สถานะชื่อเสียงกับเธอ”
เฟิงหานชวนไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี
เขาอดไม่ได้ที่จะล้อเล่น “นี่ไม่ใช่ยุคสมัยโบราณ ที่จะมีขี้ข้าร่วมห้องนอน?”
เฉินฮวนฮวนตอกกลับ “ทำไมถึงไม่มี?”
“เรื่องของเล่นนั้น มันคือเรื่องเข้าใจผิด ในตอนที่ผมไปยืมผ้าอนามัยให้คุณ ผมพูดว่าของใช้ของผู้หญิง เธอเข้าใจผิดคิดว่าผมไปยืมของเล่นให้คุณใช้ ดังนั้นจึง…”
เฟิงหานชวนยังอธิบายไม่จบ เฉินฮวนฮวนก็ฟังเข้าใจแล้ว เธออึ้งไปก่อนครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดตะโกนออกมา “คุณว่าอะไรนะ? ให้ฉันใช้?”
“นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด” เฟิงหานชวนลางสังหรณ์ไม่ค่อยดี จึงรีบเปลี่ยนเรื่องคุย “คุณไปถามคนที่มาฟ้องคุณได้ ว่างานเลี้ยงของที่บ้านในคืนนั้นเห็นผมที่ห้องหลิวหลี่ถงใช่ไหม?”
เฉินฮวนฮวนจู่ ๆ ก็กระโดดลุกขึ้น ตะโกนเสียงดัง “เฟิงหานชวนยืมผ้าอนามัยก็คือผ้าอนามัย คุณพูดว่าของใช้ของผู้หญิง? ฉันไม่ต้องมีศักดิ์ศรีเหรอ!!!”
จู่ ๆ เธอก็สะดุด แล้วเสียการทรงตัวเอนตัวไปทางด้านหลัง
เฟิงหานชวนรีบลุกขึ้นยืน ยื่นแขนเรียวยาวออกไป โอบรัดเอวบางของหญิงสาวไว้ แล้วดึงเธอเข้ามาในอ้อมอกของตัวเอง
เขาขมวดคิ้ว สีหน้าน่ากลัวเป็นอย่างมาก มองหญิงสาวในอ้อมอกที่ตกใจจนหายใจหอบ เขาอดไม่ได้ที่จะพูดสั่งสอน “คุณอย่าลืมว่าตอนนี้ในท้องของคุณยังมีเด็กอยู่ อย่ากระโดดโลดเต้น”
ถึงแม้น้ำเสียงของชายหนุ่มจะดุมาก ๆ แต่หลังจากที่เฉินฮวนฮวนรู้สึกตัว คิดได้ถึงแค่จุดสำคัญว่าเขาเป็นห่วงเธอ เป็นห่วงลูกในท้องของเธอ นั่นมันออกมาจากใจ
ถึงแม้จะไม่ให้เสี่ยวลี่ยืนยัน เธอก็เชื่อการอธิบายของเฟิงหานชวน
คิดได้ถึงตรงนี้ เฉินฮวนฮวนยิ้มมุมปาก สองมือโอบเอวกำยำของชายหนุ่ม
เฟิงหานชวนรู้สึกได้ถึงร่างกายของหญิงสาวที่สั่นไม่หยุด เขาตกตะลึงในทันที นึกว่าเฉินฮวนฮวนกำลังร้องไห้อยู่ จึงรีบพูดขอโทษ “ผมขอโทษ ผมไม่ควรดุคุณขนาดนี้ ผมเป็นห่วงคุณ อย่าร้องนะ”
แต่ว่า ร่างกายของเฉินฮวนฮวนกลับสั่นแรงยิ่งกว่าเดิม
เฉินฮวนฮวนฝืนกลั้นหัวเราะไว้ ถึงแม้จะกลั้นเสียงไว้ได้แล้ว แต่ผลที่ตามมาคือความสั่นของร่างกายเธอที่ควบคุมไม่ได้
เฟิงหานชวนร้อนใจ นึกว่าเฉินฮวนฮวนร้องหนักยิ่งกว่าเธอ เขาจับบ่าทั้งสองข้างของเฉินฮวนฮวนไว้ อยากจะดึงเธอยืนขึ้น แต่เฉินฮวนฮวนกลับกอดเขาไว้แน่น ทำยังไงก็ไม่ยอมปล่อย
“ฮวนฮวน ผมขอโทษ ขอโทษจริง ๆ ครั้งหน้าผมจะไม่มีทางดุคุณขนาดนี้อีก คุณอย่าร้องเลยนะ?” น้ำเสียงของชายหนุ่มอ่อนโยนเป็นที่สุด มีความขอร้องอ้อนวอนแฝงอยู่
ทันใดนั้นเฉินฮวนฮวนก็ยิ้มไม่ออกแล้ว เธออึ้งไปเลย คำขอร้องที่จริงจังขนาดนั้นของเฟิงหานชวน ทำให้เธอไม่อยากที่จะแกล้งเขาอีกต่อไป
“ฮวนฮวน?”
เห็นร่างกายของหญิงสาวไม่สั่นแล้ว เฟิงหานชวนค่อย ๆ เรียกเธออย่างระมัดระวัง
“ค่ะ” เฉินฮวนฮวนตอบรับ
“หยุดร้องแล้วเหรอ?”
“อันที่จริงฉันไม่ได้ร้องไห้” เธอพูดความจริง
“เมื่อครู่คุณร้องไห้หนักขนาดนั้น คุณวางใจได้ ต่อไปผมไม่มีทางดุคุณขนาดนี้แน่นอน” น้ำเสียงของเฟิงหานชวนเต็มไปด้วยความสำนึกผิด
เฉินฮวนฮวนเงยหน้าขึ้น รอบดวงตาแดงนิดหน่อย แต่กลับยกมุมปากยิ้มขึ้น แล้วพูดขึ้น “ฉันไม่ได้ร้องจริง ๆ ค่ะ”
“พูดมั่ว ดาแดงหมดแล้ว” เฟิงหานชวนคิดว่าเฉินฮวนฮวนไม่อยากยอมรับว่าตัวเองร้องไห้น้ำหูน้ำตาเล็ด ดังนั้นถึงได้พูดแบบนี้
“ดาแดงเป็นเพราะ…” เฉินฮวนฮวนเม้มปาก จากนั้นก็ยิ้ม แล้วพูดเสียงเบา “เกือบจะหัวเราะจนร้องไห้แล้ว!”
หลังจากที่ได้ยิน เฟิงหานชวนขมวดคิ้วด้วยความสับสน แต่กลับถูกหญิงสาวคว้าแขนเอาไว้ แล้วเขย่าแขนไปมา
เขาได้ยินเฉินฮวนฮวนพูดอ้อน “คุณอย่าโมโหนะคะ”
“ดังนั้น เมื่อกี้คุณหัวเราะอยู่ตลอด?” เฟิงหานชวนกำลังแยกแยะความคิด
เฉินฮวนฮวนพยักหน้าเล็กน้อย หน้าตาเชื่อฟังเป็นอย่างมาก
สีหน้าของเฟิงหานชวนเคร่งขรึมในทันที เขาดันลิ้นไปที่ไรฟัน ออร่าดุดันไปทั้งตัว
“ฮวนฮวน คุณยิ่งอยู่ยิ่งใจกล้าแล้วนะ? อันดับแรกคือไม่แยกแยะความคิดความถูกเข้าใจความสัมพันธ์ของผมกับหลิวหลี่ถงผิด จากนั้นก็แอบหัวเราะเยาะผม?” เขาถามไปด้วย เข้าใกล้เธอไปด้วย
เฉินฮวนฮวนใจฝ่อแล้ว เฟิงหานชวนที่เป็นแบบนี้ทำให้หัวใจของเธอสั่นไหว เธอก้าวถอยหลังไม่หยุด ส่วนเฟิงหานชวนก็เข้าใกล้เธอไม่หยุด
จนกระทั่งแผ่นหลังของเธอแนบกับกระจกหน้าต่าง เธอรู้ว่าตัวเองหมดหนทางถอยแล้ว
“เฟิงหานชวน คุณ…คุณอยากจะทำอะไรคะ?” เฉินฮวนฮวนเอามือสองข้างปิดร่างกายของตัวเองไว้