บทที่ 418 ถังหลี่เป็นน้องสาวของกู้หวนเนี่ยน

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

บทที่ 418 ถังหลี่เป็นน้องสาวของกู้หวนเนี่ยน

เป็นถังหลี่จริงๆ!

หัวใจของเซี่ยฟางเฟยเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา กู้หวนเนี่ยนเป็นคนที่นางชอบ แต่เขาเดินอยู่กับถังหลี่คนที่นางเกลียด! นอกจากนี้เขายังส่งสายตาอ่อนโยนให้นางอีกด้วย

นังหญิงบ้านนอก! เหตุใดถึงได้มาอยู่กับกู้หวนเนี่ยนได้! ความโกรธของเซี่ยฟางเฟยพุ่งขึ้นมาอย่างระงับไม่ได้ นางไม่ได้สนใจอะไรรีบพุ่งไปหาพวกเขาทั้งสองคนทันที

“คุณชายกู้! ผู้หญิงคนนี้นางแต่งงานแล้ว ข้ารู้จักนางตั้งแต่ที่เมืองเหยาสุ่ย มณฑลชิงเหอ! นางทั้งเสเพลเหลวไหลล่อลวงบุรุษเป็นว่าเล่น! คุณชายกู้ท่านอย่าได้ไปข้องแวะยุ่งเกี่ยวกับนางเลย! อย่าได้หลงกลนะเจ้าคะ!” เซี่ยฟางเฟยพูดด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว วาจาก้าวร้าว

นางคิดว่าหลังจากที่ตัวเองพูดแล้วกู้หวนเนี่ยนจะรับรู้ถึงโฉมหน้าที่แท้จริงของถังหลี่และเกลียดนาง เขาจะไม่มองนางในแง่ดีอีก!

แต่หลังจากที่นางพูดจบทุกอย่างกลับไม่เป็นตามคาดหมาย แววตาของกู้หวนเนี่ยนเต็มไปด้วยความเยือกเย็นมีเจตนาฆ่าแฝงอยู่ดูน่าขนลุก

เซี่ยฟางเฟยหวาดกลัวจนแข้งขาสั่น ใบหน้าซีดเผือดลงทันที นางไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าสายตาของคนผู้หนึ่งจะน่ากลัวได้ถึงเพียงนี้ ราวกับว่ากู้หวนเนี่ยนจะชักดาบออกมาแทงนางให้ตายได้ในเดี๋ยวนั้น

กู้หวนเนี่ยนหายใจเข้าลึกๆ ระงับอาการอยากจะชักดาบออกมาจริงๆ

“เจ้ารู้ไหมว่านางเป็นใคร? นางเป็นน้องสาวของข้า เป็นบุตรสาวของตระกูลกู้! ข้าจะยอมให้ผู้อื่นมากล่าวหาน้องสาวข้าเช่นนี้ได้หรือ?!”

กู้หวนเนี่ยนพูดอย่างเฉียบขาด น้ำเสียงของเขาเย็นชามาก

สายตาของเขาสบกับเซี่ยฟางเฟย ราวกับต้องการจะฉีกนางออกเป็นชิ้นๆ เซี่ยฟางเฟยกลัวมากจนแข้งขาอ่อน ใบหน้าตื่นกลัวตกใจ

อะไรนะ?

ถังหลี่…เป็นน้องสาวของกู้หวนเนี่ยนจริงหรือ…เป็นไปได้อย่างไร!

นางรู้เรื่องบุตรสาวของสกุลกู้ ที่มีคนปลอมแปลงเข้ามาจนตอนหลังได้เจอกับบุตรสาวที่แท้จริง

ตอนที่เกิดเหตุการณ์นางไม่อยู่ ไม่เช่นนั้นคงได้เข้าร่วมชมดูเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นเช่นนั้นด้วยอีกคน นางจึงได้ยินเพียงคำบอกเล่าเท่านั้น เซี่ยฟางเฟยไม่เคยรู้มาก่อนว่าบุตรสาวที่แท้จริงคือใคร? นางไม่คิดเลยว่าจะเป็นถังหลี่!

ใครจะคิดเล่าว่าสาวบ้านนอกจะเป็นบุตรสาวท่านแม่ทัพกู้!

ถังหลี่เป็นน้องสาวของกู้หวนเนี่ยน ใบหน้าของเซี่ยฟางเฟยซีดเผือด ทำไม…ทำไมนางจึงเป็นบุตรสาวแม่ทัพ ส่วนตัวข้าเป็นเพียงบุตรสาวของขุนนางขั้นสาม! ข้าเป็นรองใครก็ได้ แต่ไม่ใช่กับถังหลี่คนที่ข้าดูถูกเหยียดหยามเช่นนี้

หัวใจของเซี่ยฟางเฟยเศร้าสลดหดหู่

“เจ้าใส่ร้ายข้าแล้วยังคิดว่าข้าจะไม่เอาความเจ้าอีกหรือ?” ถังหลี่ทำหน้ากึ่งยิ้มกึ่งไม่ยิ้ม

กู้หวนเนี่ยนชักดาบออกมาจากเอว พาดไปที่ลำคอของนางทันที แววตาเต็มไปด้วยโทสะ ขาของเซี่ยฟางเฟยอ่อน นางทรุดตัวลงไปกองกับพื้น ความหวาดกลัวตื่นตระหนกก่อเกิดขึ้นในใจของนาง

“ข้าขออภัยคุณหนูกู้…ข้าขออภัยที่ทำให้ท่านขุ่นเคือง ข้าไม่รู้มาก่อนว่าท่านเป็นคุณหนูสกุลกู้อภัยให้ข้าด้วยเถอะ” เซี่ยฟางเฟยรีบกล่าวอย่างรวดเร็ว

“ข้ายังโกรธอยู่ดี”

“ทำไมเจ้าไม่ลองตบปากตัวเอง ดูสิว่ามันจะช่วยบรรเทาความโกรธของข้าลงได้ไหม?”

ดาบที่วางพาดที่ลำคอของนางมีกลิ่นอายของการฆ่าฟันออกมาจากกู้หวนเนี่ยน ทำให้เซี่ยฟางเฟยกลัวมากจนยอมตบหน้าตัวเอง

“เบาเกินไป”

เพี้ยะ!

“แรงกว่านี้!”

เพี้ยะ!

“ทำต่อไป หากข้าไม่บอกให้เจ้าหยุดก็ห้ามหยุด!” ถังหลี่พูดขึ้น เซี่ยฟางเฟยตบหน้าตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนอยากจะร้องไห้ออกมา

นางรู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก! ไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งนางจะต้องคุกเข่าต่อหน้าคนที่นางดูถูกและเหยียดหยามเช่นนี้!

ถังหลี่มองเซี่ยฟางเฟยอย่างเย็นชา ความใจดีของนางมีให้สำหรับผู้ที่สมควรได้รับเท่านั้น แต่กับหมาป่าตาขาวแบบเซี่ยฟางเฟยแล้ว ถังหลี่ไม่มีความเห็นอกเห็นใจให้แม้แต่น้อย เมื่อใบหน้าของเซี่ยฟางเฟยบวมขึ้นนางก็หมดความสนใจที่จะทนดูอีกต่อไป ถังหลี่หันกลับไปพูดกับพี่ชายว่า

“ท่านพี่ ไปกันเถอะ”

นี่คือจุดเริ่มต้นของการลงโทษเซี่ยฟางเฟยเท่านั้น หากนางทำเช่นนี้อีกล่ะก็ เซี่ยฟางเฟยจะไม่ได้รับโอกาสครั้งที่สองอีกต่อไป!

กู้หวนเนี่ยนชักดาบของเขาคืนกลับ พยายามระงับอารมณ์แล้วเดินเคียงข้างน้องสาวของเขา สายตาของเขายังคงนุ่มนวลอ่อนโยนยามที่เฝ้ามองนางขึ้นรถม้าไป

“ข้าไปก่อนนะพี่ใหญ่” ถังหลี่โบกมือลาเขา

“ลาก่อน เดินทางปลอดภัย” มุมปากของกู้หวนเนี่ยนโค้งขึ้น

ถังหลี่ตอบรับ ปิดม่านลงก่อนที่รถม้าจะเคลื่อนตัวออกไป กู้หวนเนี่ยนมองตามรถม้าไปด้วยแววตาอบอุ่น

ในตอนนั้นเองเจ้าหน้าที่ของศาลต้าหลี่ก็วิ่งเข้ามาหาเขา

“ใต้เท้าขอรับ เกิดเรื่องแล้ว มีคดีฆาตกรรมเกิดขึ้น!” เขารีบรายงานทำให้กู้หวนเนี่ยนตื่นจากภวังค์

“ฆาตกรรมหรือ? เหตุเกิดที่ไหนนำทางข้าไปเร็ว” กู้หวนเนี่ยนและเจ้าหน้าที่รีบออกไปจากที่นั่นทันที เซี่ยฟางเฟยค่อยๆลุกขึ้นจากพื้น

“คุณหนู…” สาวใช้ทั้งสองคนรีบเข้ามาพยุงนาง เซี่ยฟางเฟยนิ่งงัน นางผลักสาวใช้ออกไป

“ขยะ ! ล้วนเป็นขยะ ทุเรสสิ้นดี!”

เซี่ยฟางเฟยตบสาวใช้ทั้งสองคนหลายครั้ง พวกนางตกใจมากรีบคุกเข่าลงเนื้อตัวสั่นเทา สาวใช้เหล่านี้ได้เห็นนางในตอนที่น่าอับอายขายหน้า นางอยากจะควักลูกตาของสาวใช้ออกไปเสียจริง!

…..

ที่บ้านหลังเล็กๆ ทรุดโทรมในแถบชานเมือง

ฝางเหมี่ยวผลักประตูบ้านเดินเข้าไปที่ห้องของนาง แต่ถูกใครบางคนหยุดเอาไว้

“เหมี่ยวเอ๋อร์…” ฝางเหมี่ยวหันหน้าไปมองเหมือนหนูที่ถูกแมวตะครุบเอาไว้ได้

“ท่านแม่”

มารดาของฝางเหมี่ยวมีสีหน้าที่จริงจัง ผมสีดำของนางแซมด้วยสีขาวจนทำให้นางดูสูงวัยไปมาก

“ไปไหนมา”

“ท่านแม่ ท่านไม่รู้ว่าข้าไปไหนหรือ?” ฝางเหมี่ยวถามด้วยรอยยิ้ม

“ท่านป้าจู้บอกว่าเจ้าไม่ได้ไป พ่อหนุ่มแซ่หวังรอเจ้าอยู่นานมาก” ฝางเหมี่ยวถูกมารดาจับได้ นางรู้สึกละอายแก่ใจ

“ท่านแม่ ข้ายังไม่อยากแต่งงาน”

“เจ้าอายุสิบเจ็ดปีแล้ว เจ้าควรแต่งงานก่อนจะอายุครบสิบแปดในวันตรุษจีน” นางฝางพูดกับบุตรสาวอย่างเคร่งขรึม

“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ได้ชอบพ่อหนุ่มแซ่หวัง เขาไม่ได้เก่งมาก เป็นแค่คนขายเนื้อ แต่…”

ลูกสาวของนางเป็นอู่จั้วเมื่อคนอื่นได้ยินย่อมหลีกหนีห่างจากนาง นางแทบจะประจบสอพลอป้าจู้ที่เป็นแม่สื่อให้หาเจ้าบ่าวให้นางสักคน ใครก็ได้ที่ยอมรับนางได้

บุตรสาวของนางเปรียบเหมือนผักค้างคืนแห้งเหี่ยวในตลาดสด ได้แต่เฝ้ารอคนมาซื้อเอาไป ยิ่งนางฝางคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่ นางยิ่งทุกข์ใจมากเท่านั้น

“…ข้ารู้ว่าข้าไม่ควรคาดหวังกับเจ้า!”

คนที่ทำงานเป็นอู่จั้วย่อมนำพาโชคร้ายมาสู่ผู้ที่เกี่ยวข้อง ฝางเหมี่ยวควรเลิกทำงานเช่นนี้ได้แล้ว หาไม่จะมีแต่คนตราหน้าจนชีวิตนางต้องพังพินาศไป!

ฝางเหมี่ยวรู้สึกไม่สบายใจเมื่อได้ยินเช่นนี้ นางรู้ว่าตนเองต้องแต่งงานเพื่อความสบายใจของมารดา แต่ทว่าไม่ใช่จะแต่งกับใครก็ได้ นางอยากแต่งกับคนที่ชอบพอกันเท่านั้น

“ท่านแม่ ข้าให้ทายวันนี้ข้าเจอใครที่ถนน คุณหนูเซี่ย!” นางรีบเปลี่ยนเรื่องทันที เมื่อมารดาได้ยินชื่อเซี่ยฟางเฟย ท่าทีของนางเปลี่ยนไปทันที นางถามอย่างเป็นห่วงว่า

“คุณหนูเซี่ยหรือ เป็นอย่างไรบ้าง?”

“ดูดีทีเดียว” ฝางเหมี่ยวกลาว

แน่นอนว่านางไม่สามารถบอกความจริงได้

“ดีแล้ว คุณหนูเป็นคนคนดี”

“ท่านแม่ หากนางเป็นคนดีเหตุใดจึงไล่ท่านออกจากจวนสกุลเซี่ย” ฝางเหมี่ยวอดถามไม่ได้ สำหรับนางแล้วเซี่ยฟางเฟยเป็นคนนิสัยไม่ดี

“เจ้ารู้ไหมว่าเหตุใดคุณหนูจึงตกน้ำ”

“ทำไมหรือ?” นางถามอย่างสงสัย

“เพราะคุณหนูช่วยเด็กกำพร้าคนหนึ่งไว้ แต่เด็กคนนั้นช่างเนรคุณมาก หลังจากที่คุณหนูช่วยเขาไว้ เขาก็ไม่มาพบนางอีกเลย” แม่ของฝางเหมี่ยวเล่าให้ถึงเรื่องราวครั้งก่อน

เซี่ยฟางเฟยหรือจะสละชีวิตตัวเองเพื่อช่วยคนอื่น นางรู้สึกอยู่เสมอว่าเซี่ยฟางเฟยที่มารดาของนางพูดถึงกับเซี่ยฟางเฟยที่นางรู้จักนั้นเป็นคนละคนกัน

“แม่นางฝาง! มีคดีฆาตกรรมโปรดมากับข้า”