บทที่ 418 ชอบมาก
หลังจากที่โม่เสี่ยวฮุ่ยพูดจบแล้วก็หยิบแก้วน้ำชาที่อยู่บนโต๊ะชาขึ้นมาดื่ม
หลังจากได้ยินเรื่องนี้แล้ว เจียงหยุนเอ๋อก็โล่งอก ไปเยี่ยมเยียนผู้อาวุโสเป็นเรื่องที่ค่อนข้างง่ายอยู่
เจียงหยุนเอ๋อรีบตอบตกลงทันที “ในเมื่อเป็นคุณยายของจุนถิง แน่นอนว่าหนูต้องไปเยี่ยมอยู่แล้วค่ะ”
เจียงหยุนเอ๋อก็เคยได้ยินลี่จุนถิงพูดขึ้นบ้าง คุณยายของลี่จุนถิงชื่นชอบหลานชายที่เพอร์เฟกต์คนนี้มากๆ และมักจะภูมิใจในตัวของหลานชายคนนี้ตลอด
ฉะนั้น เจียงหยุนเอ๋อตอบตกลงโดยไม่คิดอะไรเลย
ในใจรู้สึกดีใจมาก นี่เป็นการบ่งบอกว่าโม่เสี่ยวฮุ่ยยอมรับตัวเองแล้วในอีกทางหนึ่งไม่ใช่หรอ ยอมรับว่าตัวเองเป็นภรรยาของจุนถิงแล้ว?
โม่เสี่ยวฮุ่ยกลับคิดว่า ให้เจียงหยุนเอ๋อไม่ต้องเจอลี่จุนถิงช่วงเวลาหนึ่งก่อน จากนั้นก็ให้ลี่จุนถิงและเจียงหยุนเอ๋อค่อยๆ พัฒนาความสัมพันธ์ จากนั้นก็ค่อยคิดหาวิธีให้เจียงหยุนเอ๋อจากไป แต่งเรื่องขึ้นมาอธิบายหน่อยก็ได้แล้ว
ส่วนลูกในท้องของเจียงหยุนเอ๋อนั้น ในเมื่อเป็นเลือดเนื้อของตระกูลลี่ก็ต้องเก็บเอาไว้ หลังจากที่คลอดลูกแล้วก็ให้เงินก้อนหนึ่งกับเจียงหยุนเอ๋อ ให้เธอรีบไปก็ได้แล้ว
ในใจของเธอนั้นคิดแบบนี้ มองเริ่มมองเจียงหยุนเอ๋อขึ้นเยอะมาก
ในไม่ช้า สาวใช้ก็เดินมาบอกว่าสามารถทานอาหารได้แล้ว
ท่านปู่ลี่จับมือของถวนจื่อ ไปที่ห้องอาหาร คุณปู่ทวดและหลานกำลังคุยกันอยู่ ยากที่จะแยกกันได้
หลังจากทานอาหารเรียบร้อยแล้ว ปากของถวนจื่อหวานมาก แล้วฉลาดมากด้วย ทำเอาทุกคนหัวเราะชอบใจกันหมด
ในตอนที่จากไป ท่านปู่ลี่มีความไม่อยากให้ไป คนเมื่ออายุมากแล้วมากจะไม่อยากจากลา
“ถวนจื่อ ต้องมาเยี่ยมคุณปู่ทวดบ่อยๆ นะ” บ้านหลังนี้คงจะต้องมีถวนจื่อแล้วจึงจะมีรสชาติเพิ่มมากขึ้น
“ท่านปู่ทวดวางใจได้เลยครับ ต่อจากนี้ถวนจื่อจะมาอยู่กับท่านปู่ทวดบ่อยๆ แน่นอนครับ ท่านปู่ทวดมีเวลาว่างก็สามารถมาเล่นกับผมที่บ้านได้นะครับ” ถวนจื่อได้คุ้นชินกับคำพูดพวกนั้นของผู้ใหญ่แล้ว
ท่านปู่ลี่ตอบกลับด้วยความดีใจ “ได้ได้ได้”
หลังจากที่บอกลากับท่านปู่ลี่แล้ว ในไม่ช้าคนทั้งบ้านก็มาถึงบ้านตระกูลลี่
“พรุ่งนี้ เธอไปคนเดียวได้ไหม?” ลี่จุนถิงจับมือของเจียงหยุนเอ๋อมีความกังวลเล็กน้อย
ลี่จุนถิงกังวลว่าเจียงหยุนเอ๋อท้องอยู่จะไม่ค่อยสะดวก เมื่อกี้ไม่ได้ปฏิเสธเพราะว่าอยากจะตอบตกลงโม่เสี่ยวฮุ่ย ไม่แน่อาจจะสามารถเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ระหว่างพี่ยายและลูกสะใภ้ได้ อีกอย่าง ในเมื่อตอนนี้เจียงหยุนเอ๋อเป็นคนในตระกูลลี่แล้ว แน่นอนว่าต้องไปรู้จักกับญาติของตระกูลลี่หน่อย
“วางใจเถอะ ฉันยังไม่ได้ละเอียดอ่อนถึงขั้นนั้น” เจียงหยุนเอ๋อตัดสินใจแล้ว สำหรับเธอแล้วนี่คือโอกาสครั้งหนึ่ง จะต้องแสดงออกให้ดี
“เอาเถอะ งั้นเดี๋ยวพอถึงเวลาฉันส่งคนไปกับเธอด้วย จะได้ดูแลเธอ” ลี่จุนถิงมีความไม่ค่อยวางใจ
เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้า
ถ้าหากเป็นเมื่อก่อนเธอคงจะปฏิเสธที่มีคนตามเธอ แต่ว่าเธอที่เคยเป็นคุณแม่ครั้งหนึ่งทำให้เธอเข้าใจแล้ว เรื่องราวมากมายไม่สามารถดื้อดันได้ เพื่อลูกของตัวเอง เรื่องราวมากมายก็ต้องทำด้วยภาระกำลังที่ตัวเองมี
เช้าวันที่สอง เจียงหยุนเอ๋อแต่งตัวเรียบร้อยแล้วก็ไปยังที่คุณยายของลี่จุนถิง
เจียงหยุนเอ๋อกดกริ่งประตู ในใจมีความกังวลเล็กน้อย ไม่รู้ว่าคุณญาติๆ ทางคุณยายของลี่จุนถิงจะเป็นยังไง อยู่ร่วมด้วยกันง่ายไหม สามารถเข้ากับตัวเองได้ไหมยังเป็นปัญหาอีกอย่างหนึ่ง
ในไม่ช้าประตูก็เปิดออก คนที่มาเปิดประตูคือผู้หญิงที่ยังสาว ดูแล้วประมาณยี่สิบต้นๆ
“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อเจียงหยุนเอ๋อ” เจียงหยุนเอ๋อพูดจบก็โค้งทำความเคารพไปหนึ่งที
หญิงสาวยิ้มหวาน ต้อนรับเธอด้วยความเป็นมิตร “คือพี่สะใภ้ใช่ไหมคะ รีบเข้ามาค่ะรีบเข้ามา”
เจียงหยุนเอ๋อถูกเชิญเข้าไปด้วยความเป็นมิตร
พอเข้าไปก็มีคนเข้ามาล้อมรอบ คนหนึ่งที่อายุมากเล็กน้อย ดูแล้วหน้าตาคล้ายกับโม่เสี่ยวฮุ่ยมาก คนนี้น่าจะเป็นคุณตาลี่แล้วแหละ
ส่วนชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆ คุณตาลี่ ดูแล้วอายุพอๆ กับหญิงสาวคนนั้น
เจียงหยุนเอ๋อยิ้มแล้วทักทายไปทางคุณตาลี่ “สวัสดีค่ะคุณตา”
“เด็กดีจริงๆ” คุณตาลี่พูดด้วยความดีใจ ยังออกคำสั่งให้ชายหนุ่มข้างๆ ด้วยว่า “ไปช่วยพี่สะใภ้แกยกของหน่อย”
ชายหนุ่มรีบตอบสนองทันที ช่วยเจียงหยุนเอ๋อถือของที่อยู่บนมือ
เจียงหยุนเอ๋อยื่นของให้กับชายหนุ่ม แล้วพูดว่า “นี่คือของขวัญของคุณตาและคุณชายค่ะ หวังว่าท่านทั้งสองจะชอบ”
“มาก็มาสิ ยังเกรงใจอะไรอีก” คุณตาลี่ยิ้มจนหน้าแดงไปหมด นานไม่แล้วก็ไม่ได้เจอคนใหม่ๆ แน่นอนว่ารู้สึกดีใจมาก
ถึงแม้ว่าจะได้ข่าวจากปากของลูกสาวว่า ลูกสาวของตัวเองจะไม่ค่อยชอบลูกสะใภ้คนนี้มากนัก แต่ว่าคุณตาลี่ดูแล้วก็ไม่มีความคัดค้านอะไรในใจ แค่รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ดูสะอาดเรียบร้อย น่าชื่นชม
“เป็นเรื่องที่ควรค่ะ” ความเป็นมิตรของคุณตาและคุณปู่ทำให้เจียงหยุนเอ๋อไม่ค่อยคุ้นชินสักเท่าไหร่
“พี่สะใภ้รีบมานั่งเถอะค่ะ” หญิงสาวคนนั้นนำผลไหมและนมออกมาจากห้องครัว ต้อนรับเจียงหยุนเอ๋ออย่างเป็นมิตร
เจียงหยุนเอ๋อเดาออกแล้วว่าสองคนนี้น่าจะเป็นลูกพี่ลูกน้องของลี่จุนถิงตั้งแต่ตอนที่ชายหนุ่มคนนั้นและหญิงสาวคนนี้เรียกตัวเองแบบนั้น
ได้ยินลี่จุนถิงพูดว่าความสัมพันธ์ทางนี้ของคุณแม่ ไม่ได้ซับซ้อนเหมือนทางตระกูลลี่ทางนั้น ในไม่ช้าก็สามารถแยกแยะได้
เห็นทุกคนต่างก็นั่งลงแล้ว เจียงหยุนเอ๋อก็หาที่นั่งข้างๆ นั่งลง
คุณตาลี่ถามว่า “ดูเธอสิ ยังแบกครรภ์ท้องใหญ่มาด้วยตัวเอง จริงๆ เลย”
เจียงหยุนเอ๋อตอบกลับ “ได้ข่าวว่าคุณยายป่วยแล้ว คุณแม่ก็มีงานไม่สามารถออกมาได้ ช่วงนี้จุนถิงก็ยุ่งเรื่องบริษัทมากค่ะ ฉะนั้นหนูก็เลยมาด้วยตัวเอง หวังว่าจะไม่เป็นการรบกวนพวกคุณนะคะ”
คุณตาลี่มองเธอด้วยแววตาที่กำลังโทษ “รบกวนอะไร ไม่รบกวน เธอพูดแบบนี้ก็เริ่มห่างเกินกันแล้วนะ เสี่ยวฮุ่ยนี่ก็จริงๆ เลย”
เจียงหยุนเอ๋อยิ้มไม่ได้พูดอะไร เธอยังต้องขอบคุณโม่เสี่ยวฮุ่ยที่ให้โอกาสตัวเองมารู้จักกับญาติๆ ของลี่จุนถิง
“ลูกกี่เดือนแล้วเอ่ย?” คุณตาลี่มองไปทางท้องของเธอ
เจียงหยุนเอ๋อยื่นมือมาจับท้องของตัวเอง สีหน้าเผยออกถึงรอยยิ้มความเป็นแม่ “สี่ห้าเดือนแล้วค่ะ”
“ปกติดื้อบ้างไหมเนี่ย?”
“เงียบมากค่ะ ไม่ค่อยดื้อเลย”
“พี่สะใภ้ให้หนูจับหน่อยได้ไหมคะ?” การกระทำของน้องสาวมีความซื่อเล็กน้อย
เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้า มีคนชอบลูกของตัวเอง แน่นอนว่าชอบอยู่แล้ว “แน่นอนว่าได้อยู่แล้ว”
น้องสาวรู้สึกมหัศจรรย์มาก นำมือของตัวเองพาดอยู่บนท้องของเจียงหยุนเอ๋อ แต่กลับรู้สึกว่าไม่มีการตอบสนองอะไรเลย พูดพึมพำว่า “ไม่มีความรู้สึกอะไรเลยค่ะ พวกเขายังพูดว่าเด็กจะเตะคนเป็นด้วย”
คำพูดประโยคเดียวทำเอาผู้ใหญ่ในห้องหัวเราะกันหมด “เจ้าเด็กซื่อ ไม่ใช่ว่าจะเตะบ่อยๆ ซะหน่อย ถ้าเตะบ่อยๆ งั้นพี่สะใภ้แกก็ปวดตายสิ?”
น้องสาวรู้สึกว่ามีเหตุผล “ก็ใช่”
แล้วก็พูดถึงเรื่องราวอื่นๆ ในบ้าน จู่ๆ เจียงหยุนเอ๋อก็นึกถึงเป้าหมายที่มาสถานที่นี้ “จริงด้วยค่ะคุณตา คุณยายล่ะคะ?”
น้องชายรีบแย่งตอบก่อน “คุณยายนอนอยู่ในห้องครับ ช่วงนี้ป่วยอยู่ ไม่สะดวกลงมา”
“ควรจะเป็นหนูที่ขึ้นไปเยี่ยมคุณยายค่ะ” เจียงหยุนเอ๋อลุกขึ้นแล้วพูด