บทที่ 423 การทรยศ
บทที่ 423 การทรยศ
ขณะที่พวกเขายังงุนงง เฉินเซวียนก็ยื่นมือออกมาและจู่ ๆ ก็กำหมัดแน่น ซึ่งส่งผลทำให้กระบี่ในมือของกู่เยว่อียับยู่ยี่เหมือนกระดาษชำระทันที!
ผู้บ่มเพาะธาตุโลหะ!
ปฏิกิริยาของกู่เยว่อีนั้นรวดเร็วราวกับสายฟ้า เขาคว้าพวกของตัวเองสองคนที่อยู่ข้าง ๆ และโยนพวกเขาใส่เฉินเซวียน ก่อนที่เขาจะกระโดดลงไปในแม่น้ำโดยไม่ลังเล ทุกครั้งที่เท้าของเขาสัมผัสผิวน้ำ ร่างของเขาก็จะพุ่งทะยานห่างออกไปทีละหลายเมตร
ซูอันพยักหน้ากับตัวเองในขณะที่มองการเคลื่อนไหวไปตามผิวน้ำของชายคนนี้ ซึ่งไม่เลวเลย อีกฝ่ายน่าจะเป็นผู้บ่มเพาะระดับที่ 5 อย่างที่คิดไว้
สหายทั้งสองที่ถูกสังเวยไม่เคยคิดว่าจะถูกพวกของตนหักหลัง พวกเขาต่างตกใจและโกรธจัด พวกเขาพยายามกวัดแกว่งอาวุธด้วยความตื่นตระหนกในระหว่างที่พุ่งเข้าหาเฉินเซวียนเพื่อพยายามเอาชีวิตรอด
เฉินเซวียนไม่ใส่ใจที่จะหลบ เขากลับก้าวไปข้างหน้าโดยปล่อยให้คมกระบี่จากคนทั้งสองกระทบร่างกายของเขา
ในตอนแรกทั้งสองรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง แต่พวกมันหน้าเสียทันที ไม่มีเสียงที่คุ้นเคยของโลหะที่แทงเข้าสู่เนื้อ แต่เป็นเสียงของโลหะกระทบกับโลหะ ซ้ำยังเห็นประกายไฟตรงจุดที่กระบี่กระทบกับเนื้อของเฉินเซวียน!
น่าเสียดายว่ามันเป็นสิ่งสุดท้ายที่พวกเขาจะได้เห็น เฉินเซวียนเหยียดมือไปคว้าคอของคนทั้งสองอย่างรวดเร็วและรุนแรง ก่อนที่จะหักพวกมันทิ้งอย่างง่ายดายราวกับหักกิ่งไม้แห้ง
ศพ 2 ศพตกลงไปที่พื้นเรือ…
ซูอันขมวดคิ้ว ในทันทีที่เฉินเซวียนถูกโจมตี ร่างกายของเขาดูเหมือนจะกลายเป็นโลหะ กระบี่ไม่ได้ทิ้งร่องรอยไว้บนผิวหนังของเขาแม้แต่น้อย
อาวุธจำพวกโลหะทำอันตรายร่างกายเขาไม่ได้เลยงั้นเหรอ?
ซูอันรู้สึกปวดหัวขึ้นมา ถ้าเป็นเช่นที่เขาคิดจริง ๆ ว่าการจัดการกับเฉินเซวียนย่อมเป็นปัญหา
เฉินเซวียนพยายามไล่ตามร่างที่หลบหนี เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ตั้งใจจะปล่อยให้กู่เยว่อีไป
แต่ทันใดนั้น ชิวฮัวเล่ยก็ลุกขึ้นยืนปิดกั้นทางของเขา
เฉินเซวียนหยุด คิ้วของเขาขมวดเล็กน้อยขณะที่มองดูนาง
ยิ่งเขาอยู่ใกล้นางมากเท่าไหร่ ก็ค้นพบว่านางสวยจนน่าตกตะลึง คิ้วที่ขมวดของเขาก็คลายออกทันที
ชิวฮัวเล่ยโค้งคำนับเล็กน้อย “ข้าไม่คิดว่าหัวหน้าเฉินจะมาพบข้าเป็นการส่วนตัว การที่ข้าจำท่านไม่ได้ในหอสุขนิรันดร์ ข้าต้องขอให้หัวหน้าเฉินให้อภัยข้าในเรื่องนี้”
เมื่อเห็นคณิกาอันดับหนึ่งทักทายเขาอย่างให้เกียรติด้วยน้ำเสียงที่อ่อนน้อมถ่อมตนและไพเราะ ร่างกายของเฉินเซวียนก็สั่นสะท้านด้วยความยินดี
“ฮ่า ๆ ข้าไม่โทษเจ้าหรอกที่จำข้าไม่ได้ แม่นางชิวแสดงมารยาทแก่ข้ามากเกินไปแล้ว” ขณะที่เขาพูด ก็เอื้อมมือไปทางนาง สรีระอันโค้งเว้าอย่างวิจิตรของนางดึงดูดใจเขาอย่างไม่สิ้นสุด แม้แต่เฉินเซวียนผู้ยิ่งใหญ่ผู้ซึ่งไม่เคยขาดแคลนผู้หญิงก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าลมหายใจของตัวเองถี่กระชั้นขึ้น
“หัวหน้าค่ายเมฆาทมิฬเป็นคนที่ยิ่งใหญ่และใจกว้างจริง ๆ” ชิวฮัวเล่ยก้าวถอยหลังอย่างสง่างาม ทั้งนี้เพื่อหลบเลี่ยงการสัมผัสของเขา “ฮัวเล่ยปรารถนาที่จะเตรียมงานฉลองอีกครั้งในหอสุขนิรันดร์ ข้าหวังว่าหัวหน้าเฉินจะยินดีและยอมให้ข้าเลี้ยงไถ่โทษอย่างเหมาะสม”
เฉินเซวียนหัวเราะ “คำขอโทษนั้นรอได้ ให้ข้าจัดการกับไอ้สารเลวน้อยนี่ก่อน”
“ไอ้สารเลวน้อยที่เจ้ากำลังพูดถึงอยู่คือใคร?” ซูอันถามขึ้นแทรก
“ไอ้สารเลวน้อยที่ข้ากำลังพูดถึงอยู่ก็คือเจ้า!” เฉินเซวียนตอบกลับด้วยสีหน้าเดือดดาลทันที
ซูอันยิ้ม “อ้อ ไอ้สารเลวน้อยกำลังพูดกับข้า”
ร่างกายของเฉินเซวียนสั่นอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ปะทุขึ้นด้วยความโกรธ เขาเอื้อมมือไปที่คอของซูอัน “ไอ้เวรเอ๊ย กวนประสาทจริง ๆ!”
—
ท่านยั่วยุเฉินเซวียนสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 444!
—
ชิวฮัวเล่ยรีบดึงซูอันไปข้างหลังนาง “หัวหน้าเฉิน นายน้อยคนนี้เป็นเพื่อนของข้า ข้าหวังว่าหัวหน้าเฉินจะใจกว้างและไว้ชีวิตเขา”
ซูอันค่อนข้างแปลกใจที่นางพูดให้เขา
ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้พยายามจะหลอกลวงข้าเหรอ? ทำไมตอนนี้นางถึงพยายามจะช่วยข้า? นางรู้ตัวไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่?
เฉินเซวียนพ่นลมอย่างเย็นชา “ถ้าเป็นคนอื่น ข้าอาจจะไว้ชีวิตเพื่อเห็นแก่แม่นางชิว อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นไอ้เวรนี่ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นข้าต้องฆ่ามันให้ได้!”
“ทำไม? เป็นเพราะข้าทำร้ายความรู้สึกของเจ้าในหอสุขนิรันดร์หรือไง?”
ซูอันอยากรู้อยากเห็น จากช่วงเวลาที่อีกฝ่ายรู้ตัวตนของเขา เขาก็ได้รับคะแนนความโกรธจำนวนมากในทันที เขาจึงได้แต่สงสัยมาตลอดว่าทำไม
“ทำไมงั้นเหรอ?” ใบหน้าของเฉินเซวียน บิดเบี้ยวด้วยความโกรธ “เจ้ายังจำเหมยเชาฟงแห่งบ่อนโกยเงินได้ไหม? เขาเป็นน้องชายของข้า! เราพึ่งพาอาศัยกันและกันเพื่อความอยู่รอดเป็นเวลาหลายปี เขาเปรียบได้กับวีรบุรุษ แต่เขากลับถูกฆ่าตายด้วยการกระทำของเด็กที่น่าสมเพชเช่นเจ้า!
—
ท่านยั่วยุเฉินเซวียนสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 999!
—
ความเข้าใจแวบเข้ามาในหัวซูอัน “แสดงว่าเจ้าเป็นคนจากตระกูลซือ!”
ตอนนี้ ในที่สุดเขาก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผู้ชายคนนี้เป็นพี่น้องร่วมสาบานของเหมยเชาฟง ดังนั้นจึงไม่มีทางที่จะไม่รู้เรื่องความขัดแย้งระหว่างตระกูลซือกับตัวเขาเอง เห็นได้ชัดว่าพี่น้องทั้งสองทำงานร่วมกันเพื่อตระกูลซือ คนหนึ่งนอกเมืองและอีกหนึ่งคนอยู่ในเมือง
เฉินเซวียนเลียริมฝีปากของเขา ดวงตาของเขาสั่นไหวด้วยความตื่นเต้น “น่าเสียดายที่เจ้ารู้เรื่องนี้ช้าไป วันนี้ข้าจะทุบกระดูกของเจ้าทีละชิ้น และถลกหนังเจ้าเป็น ๆ เพื่อล้างแค้นให้น้องชายผู้น่าสงสารของข้า!”
ตอนนี้เขาได้เปิดเผยความลับของตัวเองแล้ว ทุกคนที่ได้ยินเรื่องนี้จะต้องตาย รวมถึงชิวฮัวเล่ยด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม นางมีเสน่ห์เกินไปจริง ๆ! เขาจึงเริ่มลังเลที่คิดจะฆ่านาง บางที ถ้าเขาลากนางกลับไปด้วยเพื่อดูแลปรนนิบัติเขาความลับทั้งหมดก็จะยังปลอดภัย
ซูอันอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “แค่พูดตามปกติก็พอแล้ว ทำไมเจ้าถึงมักจะเลียปากเวลามองข้า? ข้าไม่ใช่สาวสวย ข้ารู้สึกแย่จริง ๆ กับพฤติกรรมโรคจิตของเจ้า”
เฉินเซวียนกัดฟันกรอดเมื่อได้ยินประโยคนี้
—
ท่านยั่วยุเฉินเซวียนสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 666!
—
ชิวฮัวเล่ยจ้องมองซูอันอย่างเงียบ ๆ จิตใจของชายคนนี้ค่อนข้างแปลก เขาไปเอาความกล้าที่จะจงใจยั่วยุอีกฝ่ายมาจากไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ที่พวกเขาเป็นอยู่ตอนนี้?
“หุบปากไอ้ลูกหลายพ่อ! อีกไม่นานเจ้าจะต้องเสียใจที่มีปากสุนัขแบบนี้!”
เฉินเซวียนทำท่าจะพุ่งเข้าใส่ซูอัน ชิวฮัวเล่ยหรี่ตาลง นางยกมือชี้นิ้วไปทางโคมไฟที่แขวนอยู่ใกล้ ๆ อย่างใจเย็น
แต่ก่อนที่นางจะได้ทำอะไรต่อ จู่ ๆ นางก็ลดมือลงอย่างกะทันหัน
เสียงหัวเราะที่เย้ายวนดังขึ้นทำลายบรรยากาศยามค่ำคืน จากนั้นร่างที่เปี่ยมเสน่ห์ก็กระโดดลงมายังเรือที่ทุกคนกำลังยืนอยู่ หน้าอกคู่ยักษ์ของนางเด้งไปมา ดึงดูดสายตาของผู้ชายทุกคนบนเรือให้ขยับขึ้นและลงควบคู่กันไป
แม้ว่าใบหน้าของนางจะถูกปิดไว้ แต่ซูอันก็ยังจำเพ่ยเหมียนหมานได้อย่างรวดเร็ว คนมีเสน่ห์เช่นนางอยู่ที่ไหนก็โดดเด่นเกินไป…
หลังจากที่เฉินเซวียนตกใจ รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วบนใบหน้าของเขา “ฮ่า ๆ! โชคของข้านี่สุดยอดเกินไปแล้ว เจอสองสาวงามที่น่าอัศจรรย์ในวันเดียว ต่อไปข้าจะสนุกกับพวกเจ้าทุกวันเลย!”
แม้ว่าใบหน้าของนางจะถูกปิดบัง แต่ดวงตาที่งดงามและคิ้วที่มีเสน่ห์ทำให้เห็นได้ชัดว่านางเป็นคนสวยเช่นกัน…
นอกจากนี้ ด้วยรูปร่างที่งดงามเช่นนี้ ก็ไม่ต้องกังวลกับความงามของใบหน้าด้วยซ้ำ
เมื่อนางได้ยินคำพูดของเฉินเซวียน สีหน้าของเพ่ยเหมียนหมานก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา “เฉินเซวียน ดูเหมือนเจ้าจะกล้าไม่เบาเลยนี่”
เฉินเซวียนตบหน้าอกตัวเอง “เฉินเซวียนคนนี้ไม่เพียงแต่มีความกล้าเท่านั้น มีอีกอย่างของเขาเองที่ยิ่งใหญ่เช่นกัน!”
“รนหาที่ตาย!” แม้ว่าปกติแล้ว เพ่ยเหมียนหมานจะชอบแสดงสีหน้าเย้ายวนกับซูอัน แต่นางก็ยังคงเป็นหญิงสาวที่ไร้ราคี มีใครเคยพูดจาหยาบคายใส่นางตั้งแต่เมื่อไหร่? เปลวไฟสีดำลุกโชนขึ้นทันทีก่อนที่จะกวาดไปทางมหาโจรเฉินเซวียน
เฉินเซวียนแสดงสีหน้าตึงเครียดทันที เห็นได้ชัดว่าเขาสัมผัสได้ถึงพลังอันน่าสะพรึงกลัวของเปลวไฟสีดำ เขาจึงไม่กล้าเผชิญหน้ากับการโจมตีนี้เหมือนที่เขาทำกับกระบี่
เมื่อเห็นการต่อสู้เริ่มขึ้น ชิวฮัวเล่ยก็รีบกล่าวว่า “ขอบคุณแม่นางนักสู้สำหรับการช่วยชีวิตของท่าน ในอนาคตหากมีโอกาส ข้าจะตอบแทนสำหรับการกระทำของท่านครั้งนี้แน่นอน!”
หลังจากพูดจบ นางก็ลากซูอันกระโดดลงไปในแม่น้ำ และว่ายไปยังริมฝั่งที่อยู่ไกลออกไปอย่างรวดเร็ว
“เฮงซวยเอ๊ย!” สิ่งสุดท้ายที่เพ่ยเหมียนหมานคาดหวังก็คือการมองเห็นชิวฮัวเล่นรอดตัวไปง่าย ๆ แบบนี้ ไม่เพียงเท่านั้น ชิวฮัวเล่ยยังพาซูอันไปด้วยอีก! น่าเสียดายที่ตอนนี้นางกำลังติดพันกับเฉินเซวียน และไม่มีทางที่จะถอยหนีไปง่าย ๆ นางจึงทำได้เพียงมองดูทั้งสองคนว่ายน้ำห่างออกไปเรื่อย ๆ