ตอนที่ 420 กลับบ้านฝ่ายหญิงคารวะพ่อแม่

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

​รถม้า​จวน​เยี​่​ยน​อ๋อง​เพิ่ง​จอด​สนิท​ ​พ่อบ้าน​ก็​รีบ​เดิน​เข้ามา​คารวะ​อวี​้​จิ​่​นอย​่าง​ทันทีทันใด

​“​ข้า​น้อย​คารวะ​ท่าน​อ๋อง​ขอรับ​”

​อวี​้​จิ​่​นพ​ลิก​ตัว​ลง​จาก​หลัง​ม้า​และ​ยืน​รอด​้า​นข​้าง

​เมื่อ​ผ้าม่าน​รถม้า​เปิด​ออก​ ​อาฝู​ก็​พยุง​เจียง​ซื่อ​ออกมา

​อวี​้​จิ​่น​ยื่นมือ​ออก​ไป​ ​เจียง​ซื่อ​วางมือ​ลง​ที่​ฝ่ามือ​ของ​เขา​อย่างเป็นธรรม​ชาติ​ ​แล้ว​ทั้งสอง​คน​ก็​ประสานมือ​เดินผ่าน​ประตู​ใหญ่​จวนปั​๋ว​เข้าไป​ข้างใน

​พ่อบ้าน​ตะลึงงัน​ตาค้าง

​เป็น​ถึง​ท่าน​อ๋อง​แต่​เอา​ใส่ใจ​กู​ไหน​่​ไน​สี่​ถึง​เพียงนี้​เชียว​หรือ

​เจียง​จั้น​เดิน​มา​พร้อม​ชก​หมัด​ใส่​หัวไหล่​อวี​้​จิ​่น​ ​“​มากัน​สักที​ ​รีบ​เข้าไป​เถอะ​ ​ไม่แน่​อาจ​ยัง​ตาม​ท่าน​พ่อ​ทัน​”

​เจียง​อัน​เฉิง​ที่​เพิ่ง​เดิน​เข้าไป​ยัง​เรือน​ฉือ​ซิน​เกิด​จาม​ขึ้น​อย่าง​เสียงดัง

​พ่อบ้าน​เห็น​อิริยาบถ​ไม่​กลัว​ฟ้า​กลัว​ดิน​ของ​เจียง​จั้น​ ​ขาอ่อน​ลง​แทบ​ทรุด​ ​หยด​เหงื่อ​พลัน​พุ่ง​ทะลัก​ ​และ​ยิ่ง​เห็น​ว่า​อวี​้​จิ​่น​ไม่มี​อาการ​ใดๆ​ ​ก็​ยิ่ง​ตะลึง​อ้าปากค้าง

​พ่อบ้าน​เก็บอาการ​ตกใจ​เสร็จ​ก็​รีบ​วิ่ง​ไป​นำทาง

​ทางเดิน​ใน​จวน​สะอาดสะอ้าน​ ​มีบ​่า​วรับ​ใช้​ค้อม​คารวะ​ให้​ตลอดทาง​เดิน​ ​พอ​เจียง​ซื่อ​เขา​สอง​คน​เดิน​ไป​ไกล​แล้ว​ ​ก็​พากั​นก​ระ​ซิบ​วิจารณ์​ขึ้น​มา​อย่าง​ตื่นเต้น

​“​เจ้า​เห็น​หรือไม่​ ​ท่าน​อ๋อง​ดี​กับ​กู​ไหน​่​ไน​สี่​ของ​พวกเรา​แค่ไหน​”

​“​มัน​แน่นอน​อยู่​แล้ว​ ​ข้า​ได้ยิน​ว่า​ใน​งานเลี้ยง​ชมดอกไม้​ ​ท่าน​อ๋อง​เป็น​คนเลื​อก​กู​ไหน​่​ไน​สี่​ด้วยตัวเอง​ ​แล้ว​มัน​จะ​ไม่ดี​ได้​อย่างไร​กัน​”

​“​กับ​คุณชาย​รอง​ ​ท่าน​อ๋อง​ก็​ทำดี​ด้วย​เช่นกัน​”

​“​นี่​เรียกว่า​รัก​บ้าน​และ​อีกา​ที่อยู่​บน​หลังคา​บ้าน​นั้น​ด้วย[1] ​ไง​เล่า​”

​สาว​รับใช้​พากัน​หัวเราะ​ชอบใจ​ขึ้น​มา​ ​ไม่​กลัว​แม้กระทั่ง​สายตา​ของ​แม่บ้าน​ที่​จ้องเขม็ง​มายัง​พวก​นาง

​วันดี​ๆ​ ​อย่างเช่น​วันนี้​ ​ทั้ง​จวน​เต็มไปด้วย​ความโอบอ้อมอารี​และ​ความปิติยินดี

​ลูก​ปะ​คำ​ใน​มือเฝิง​เหล่าฮู​หยิน​ยิ่ง​หมุน​ก็​ยิ่ง​เร็ว​ ​สายตา​นาง​จับจ้อง​ตรง​ประตู​อยู่​หลายครั้ง​ ​เมื่อ​ผ้าม่าน​มี​การเคลื่อนไหว​ ​นาง​พลัน​ยืน​หลัง​ตรง​พร้อมกับ​แสดง​ไว้​ด้วย​ท่าทาง​นิ่ง​สงบ

​เจียง​อัน​เฉิง​ก้าว​เท้า​ ฉับๆ​ เดิน​เข้ามา

​“​ยัง​มา​ไม่​ถึง​อีก​หรือ​”​ เฝิง​เหล่าฮู​หยิน​ผิดหวัง​เล็กน้อย​เมื่อ​เห็น​ว่า​คนที​่​เดิน​เข้ามา​คือ​ลูกชาย​ตน​ ​นาง​จึง​เอ่ย​ถาม​ออก​ไป​อย่าง​ไม่สบอารมณ์

​เจียง​อัน​เฉิง​นั่งลง​แล้ว​หยิบ​แก้วน้ำ​ชา​ขึ้น​ดื่ม​ ​“​ไม่ทราบ​เลย​ขอรับ​ ​ข้า​ไม่ได้​อยู่​รอต​รง​ประตู​ใหญ่​ ​แต่​ก็​ใกล้​จะ​ถึง​แล้ว​กระมัง​”

​ริมฝีปาก​นายท่า​นร​อง​กระตุก​ ​เขา​ยก​น้ำชา​ขึ้น​ดื่ม​เพื่อ​ดับ​ความอิจฉา​ที่อยู่​ภายในใจ

​“​ท่าน​อ๋อง​กับ​พระ​ชายา​มาถึง​แล้ว​ขอรับ​!​”

​แล้ว​คู่สร้างคู่สม​สอง​คน​ก็​จับมือ​เดิน​เข้ามา​พร้อมกัน

​อวี​้​จิ​่​นพา​เจียง​ซื่อ​ค้อม​คารวะ​ผู้ใหญ่​ทุกคน

​เมื่อ​เห็น​ว่า​เขา​ไม่​วางมาด​ของ​ท่าน​อ๋อง​แม้แต่น้อย​ ​แววตา​ที่เฝิง​เหล่าฮู​หยิน​มอง​ไป​ยัง​เจียง​ซื่อ​ก็​ยิ่ง​มี​ความอ่อนโยน

​ผู้ชาย​คน​หนึ่ง​ปฏิบัติ​กับ​ครอบครัว​ฝ่าย​หญิง​อย่างไร​ ​มัน​เพียงพอ​ที่จะ​มองออก​ถึง​ความสำคัญ​ของ​ภรรยา

​จารีตประเพณี​ของ​บ้านเมือง​มาก​่อน​ ​แล้วจึง​ว่าด้วย​จารีตประเพณี​ครอบครัว​ ​ถึงแม้ว่า​เยี​่​ยน​อ๋อง​ไม่​ค้อม​คารวะ​ให้​กับ​พวกเขา​ก็​ไม่ใช่​เรื่อง​ที่​ผิด

ดูเหมือนว่า​เจ้า​หนู​สี่​คุม​เยี​่​ยน​อ๋อง​ไว้​ได้​แล้ว​ชั่วคราว

เฝิง​เหล่าฮู​หยิน​ถอนหายใจ​โล่งอก

ใน​จำนวน​หลานสาว​ที่​มีตั​้​งมา​กมา​ยนี​้​ ​ในที่สุด​ก็​มี​คน​หนึ่ง​ที่​ได้เรื่อง​เสียที

​ต่อมา​ก็​ถึง​ครา​ของ​คน​ลำดับ​เดียวกัน​คารวะ​ซึ่งกันและกัน

​ความ​สนิทสนม​ที่​อวี​้​จิ​่​นมี​ต่อ​เจียง​จั้น​ ​ทำให้เฝิง​เหล่าฮู​หยิน​ตะลึง​อย่าง​เงียบๆ​ ​ภายในใจ​ ​นายท่า​นร​อง​เจียง​ยิ่ง​เห็น​ยิ่ง​รู้สึก​อิจฉา

​นายท่า​นร​อง​เจียง​ถลึงตา​เข้าใส่​เจียง​ชัง

​เจียง​ชัง​พยายาม​แทรก​ใน​บทสนทนา​ ​แต่​เพราะ​ความ​เฉยเมย​ของ​ฝ่ายตรงข้าม​ ​สุดท้าย​ทำได้​เพียง​ยก​ชา​ขึ้น​ดื่ม​กลบเกลื่อน​ความ​เขินอาย

​หลังจาก​น้อม​คารวะ​กัน​หมด​แล้ว​ ​ตาม​กฎ​ของ​ธรรมเนียม​ ​กลุ่ม​บุรุษ​จะ​ชวน​ลูกเขย​ใหม่​ไป​ดื่ม​สุรา​ ​ส่วน​เจียง​ซื่อ​ที่​กลับมา​ใน​ฐานะ​กู​ไหน​่​ไน​จะ​พูดคุย​กับเฝิง​เหล่าฮู​หยิน​และ​กลุ่ม​สาว​รับใช้

​เจียง​ซื่อ​รู้สึก​ว่า​ไม่มี​อะไร​จะ​คุย​กับเฝิง​เหล่าฮู​หยิน​ ​จึง​เอ่ย​ขึ้น​ ​“​ท่าน​ย่า​เจ้า​คะ​ ​หลาน​อยาก​กลับ​ไป​ที่​เรือน​ไห่​ถัง​เสียหน่อย​”

เฝิง​เหล่าฮู​หยิน​เกือบ​ทำ​หน้า​ไม่​ถูก​ ​แต่​ก็​ไม่ได้​แสดงอาการ​ใด​ออกมา​ ​นาง​กลั้น​ความโกรธ​เอาไว้​และ​เอ่ย​ขึ้น​ ​“​กลับมา​ใน​วันที่​อากาศ​ร้อน​เช่นนี้​ ​ดื่ม​ชา​สัก​แก้ว​ก่อน​ค่อย​กลับ​ไป​เถอะ​”

​เจียง​ซื่อ​ยิ้มอ่อน​ๆ​ ​“​ขอบพระคุณ​ใน​ความเป็นห่วง​ของ​ท่าน​ย่า​เจ้าค่ะ​ ​แต่​หลาน​ดื่ม​น้ำชา​ไปมาก​แล้ว​ตั้งแต่​อยู่​ที่​วัง​ ​ตอนนี้​ยัง​ไม่​กระหาย​เท่าไหร่​นัก​ ​อยาก​กลับ​ไป​ยัง​ที่ๆ​ ​เคย​อยู่อาศัย​ร่วม​สิบ​ปีน​่ะ​เจ้า​คะ​”

เฝิง​เหล่าฮู​หยิน​จึง​จำต้อง​พยักหน้า

​เจียง​เพ่ย​เอ่ย​ขึ้น​อย่าง​รีบร้อน​ ​“​พี่​สี่​ ​ให้​ข้า​ไปเป็นเพื่อน​พี่​ไหม​”

​ถ้า​เป็น​เมื่อก่อน​ ​นาง​ยัง​มี​ความคิด​ที่จะ​ปะทะ​กับ​เจียง​ซื่อ​ ​แต่​ตอนนี้​นาง​ไม่มีความคิด​นั้น​อีกแล้ว

ในเมื่อ​สู้​ไม่ไหว​ ​ก็​ทำดี​ด้วยดี​กว่า

​เหมือน​ดั่ง​คำ​ว่า​ ​มือ​ที่​ยื่น​ออกมา​ย่อม​ไม่​ตบ​คนที​่​ส่ง​ยิ้ม​ให้​ ​เจียง​เพ่ย​คิด​ว่า​เจียง​ซื่อ​ไม่มีทาง​ไม่​ให้​หน้านาง​หรอก

​แต่​เจียง​ซื่อ​ไม่ใช่​คนที​่​จะ​นึกถึง​หน้า​คนอื่น​แล้ว​ตัวเอง​ต้อง​อึดอัด​ใจ​จึง​เอ่ย​ขึ้น​อย่าง​เรียบ​นิ่ง​ ​“​พี่ใหญ่​ไปเป็นเพื่อน​ข้า​ก็​พอแล้ว​ ​น้อง​หก​อยู่​ดื่ม​ชา​เป็นเพื่อน​ท่าน​ย่า​เถอะ​”

​นาง​ยื่นมือ​ดึง​เจียง​อี​แล้ว​เดิน​ออก​ไป​ ​ทิ้ง​เจียง​เพ่ย​ที่​โมโห​หน้าแดง​เอาไว้

​“​แยกย้าย​กัน​ไป​เถอะ​”​ เฝิง​เหล่าฮุ​หยิน​กล่าว​ขึ้น​อย่าง​อารมณ์เสีย

​ในที่สุด​ ​เจียง​อีก​็​มีโอกาส​ได้​อยู่​กับ​เจียง​ซื่อ​ตามลำพัง​ ​จึง​เอ่ย​ถาม​ ​“​น้อง​สี่​ ​ท่าน​อ๋อง​ดูแล​เจ้า​ดี​หรือไม่​”

​ต่อหน้า​เจียง​อี​ ​เจียง​ซื่อ​หวนคืน​ท่าที​ของ​ความอ่อนโยน​ ​นาง​เม้ม​ริมฝีปาก​ยิ้ม​และ​ตอบ​ ​“​พี่ใหญ่​วางใจ​ได้​ ​ท่าน​อ๋อง​ดี​กับ​ข้ามาก​ๆ​ ​เจ้าค่ะ​”

​เจียง​อี​มอง​เจียง​ซื่อ​อย่าง​ถี่ถ้วน​ ​เมื่อ​เห็น​ว่านาง​หน้าแดง​ระเรื่อ​ ​รอยยิ้ม​นั้น​ก็​ดู​จริงใจ​ ​นาง​ถึง​โล่งอก​ ​“​ถ้าเช่นนั้น​ก็ดี​แล้ว​ ​พอ​ข้า​นึกถึง​ว่า​เจ้า​ได้​แต่ง​เข้าไป​ใน​เรือน​ใหญ่​หลังคา​มรกต​กำแพง​สีแดง​สูงใหญ่​นั่น​ ​ใจ​ข้า​ก็​ไม่​สงบ​เลย​”

​สอง​พี่น้อง​เดินเล่น​กัน​อยู่​ที่​สวน​ของ​เรือน​ไห่​ถัง

​ช่วง​ดอก​ไห่​ถัง​บานสะพรั่ง​ได้​ล่วงเลย​ผ่าน​ไป​แล้ว​ ​กระดาน​ชิงช้า​ที่​มี​กลีบดอก​ที่​ร่วงโรย​ลงมา​จาก​บน​ต้น​ ​โยกเยก​ไปมา​ตาม​สายลม

​เจียง​อี​อด​ไม่ได้​จึง​เอ่ย​เตือน​ ​“​ถึง​น้อง​สี่​ไม่​ชอบ​ท่าน​ย่า​กับ​น้อง​หก​ ​แต่​ก็​ไม่จำเป็น​ต้อง​ปฏิบัติ​กลับ​แข็งทื่อ​เช่นนี้​ ​อย่างไร​เสีย​ ​โอกาส​ที่จะ​ได้​พบ​หน้า​ก็​มี​ไม่​มาก​แล้ว​…​”

​เจียง​ซื่อ​ยิ้ม​เย็นชา​ ​“​พี่ใหญ่​ไม่รู้​เสีย​แล้ว​ ​คน​บางคน​พอได้​เหยียบจมูก​ก็​เหยียบ​ขึ้นหน้า​ทันที​ ​แล้วยัง​มี​คน​บางคน​ที่​มัก​ใช้​สถานะ​ของ​ผู้อื่น​ ​พูด​เอา​ดี​เข้าใส่​ตนเอง​ ​ฉะนั้น​ ​การแสดงออก​อย่างชัดเจน​ใน​ท่าที​ก็​ใช่​ว่า​จะ​เป็นเรื่อง​ที่​ไม่ดี​ ​อย่างน้อย​ก็​ทำให้​คน​เหล่านั้น​หยุด​คิดถึง​สิ่ง​ที่​มัน​ไม่มี​อยู่​จริง​ได้​”

​เจียง​อี​ครุ่นคิด​ตาม​พลาง​รู้สึก​ว่า​ก็​มีเหตุผล​อยู่​บ้าง​ ​จึง​ยิ้ม​และ​กล่าว​ ​“​น้อง​สี่​รู้​ว่า​ควร​ทำ​อย่างไรก็ดี​แล้ว​”

​ชีวิต​นี้​นาง​คง​ไม่​สามารถ​ทำตาม​ใจ​ตัวเอง​ได้​อย่าง​น้องสาว​ ​หวัง​เพียงแต่ว่า​น้องสาว​จะ​เป็น​เช่นนี้​ตลอดไป

​เจียง​ซื่อ​นั่งลง​ที่​กระดาน​ชิงช้า​แล้ว​ให้​มัน​โยก​อย่าง​อิสระ

​แสงตะวัน​จางๆ​ ​ส่อง​ผ่าน​ใบไม้​ที่​ซ้อนทับ​อย่าง​หนาแน่น​ ​ตกลง​มา​อยู่​บน​ตัว​ของ​สอง​สาว​พี่น้อง​คู่​นี้

​เสียงร้อง​จักจั่น​สูง​บ้าง​ต่ำ​บ้าง​สลับ​กัน

​“​น้อง​สี่​ ​พี่​ได้ยิน​ว่า​ฮ่องเต้​ทรงพระ​ราช​ทาน​นางกำนัล​ให้ท่า​นอ​๋​อง​สอง​คน​หรือ​”​ ​เจียง​อี​เอ่ย​ถาม​อย่างระมัดระวัง

​“​พี่ใหญ่​รู้เรื่อง​นี้​ด้วย​หรือ​เจ้า​คะ​”

​เจียง​อี​หัวเราะ​ ​“​ก็​น้อง​รอง​กลับมา​เล่า​ให้​ฟัง​ ​เขา​ทำงาน​อยู่​ที่​พระราชวัง​มิใช่​หรือ​ ​อะไร​ที่​เกี่ยวกับ​เจ้า​ ​มีเรื่อง​ไหน​ที่​เขา​ไม่รู้​อย่างละเอียด​บ้าง​เล่า​ ​แล้ว​ท่าน​อ๋อง​ปฏิบัติ​กับ​นางกำนัล​สอง​คน​นั้น​อย่างไร​หรือ​น้อง​สี่​”

​“​ก็​ไม่ได้​มีท​่า​ที​อะไร​เจ้าค่ะ​ ​ให้​พวกเขา​ไปดู​แล​เรื่อง​เครื่องเทศ​เจ้าค่ะ​”​ ​เจียง​ซื่อ​หลบสายตา​ ​“​พี่ใหญ่​คง​ไม่ได้​จะ​เกลี้ยกล่อม​ให้​ข้า​ส่ง​นางกำนัล​สอง​คน​นั้น​เข้าไป​รับใช้​ท่าน​อ๋อง​หรอก​กระมัง​”

​เจียง​อี​ถลึงตา​ใส่​เจียง​ซื่อ​หนึ่ง​ที​ ​“​ข้า​กำลังจะ​บอก​เจ้า​ ​หากว่า​ท่าน​อ๋อง​ไม่มี​ทีท่า​ใด​ ​เจ้า​ก็​อย่า​ได้​แสดงตน​ว่า​เป็น​คน​ใจกว้าง​”

​ใน​แววตา​ของ​นาง​แฝง​ไว้​ด้วย​การหัวเราะ​เยาะ​ตนเอง​และ​ความเหงา​ ​“​ความรัก​ของ​ผู้ชาย​นั้น​มี​ขีดจำกัด​ ​ยิ่ง​ถูก​แบ่ง​ออก​ไป​เท่าไหร่​ก็​ยิ่ง​เจือจาง​ ​ชั่วขณะ​ที่​เป็น​คน​ใจกว้าง​จะ​เป็น​ผู้​มีคุณ​ธรรม​ ​แต่​สุดท้าย​คนที​่​ทุกข์ทรมาน​ที่สุด​คือ​ตัวเอง​”

​เจียง​ซื่อ​ลุกขึ้น​พา​เจียง​อี​มานั​่ง​ลง​ที่​กระดาน​ชิงช้า​ ​นาง​ส่ง​รอยยิ้ม​อย่าง​สดใส​ให้พร​้​อม​กล่าว​ ​“​ข้า​ชอบ​คำพูด​นี้​ของ​พี่ใหญ่​ที่สุด​เจ้าค่ะ​”

​ตอน​กลับมา​ถึง​จวน​เยี​่​ยน​อ๋อง​ ​ตะวันยอแสง​ปกคลุม​ไป​ทั่ว​ฟ้า​ ​โคมไฟ​สีแดง​แขวน​เต็ม​ทางเดิน​ส่องแสง​สว่างไสว​ ​แสดงถึง​ความปิติยินดี​กับ​คู่บ่าวสาว​ใหม่

​ด้วย​เหตุการณ์​โศกนาฏกรรม​ที่เกิด​ขึ้น​ ณ​ ​ตำหนัก​ฉาง​เซิง​ ​สุดท้าย​ความปิติยินดี​นี้​ก็​ถูก​ปกคลุม​ด้วย​หมอก​ควัน​ที่​หม่นหมอง

​เจียง​ซื่อ​กับ​ท่าน​อ๋อง​นอนลง​ที่​เตียง​ตั้งแต่​หัวค่ำ​ ​กำลัง​พูดคุย​เรื่องราว​เมื่อ​ตอนกลางวัน

​“​เกรง​ว่า​เฉิน​เหม่ย​เห​ริน​ยัง​มี​ผู้อยู่เบื้องหลัง​…​”

​“​เรื่อง​ภายใน​พระราชวัง​ ​ก็​ปล่อย​ให้​เป็นเรื่อง​ของ​ฮ่องเต้​กับ​ฮองเฮา​เถอะ​”​ ​อวี​้​จิ​่น​ยกมือ​ขึ้น​ปลด​ตะ​คอ​แล้ว​มุ้ง​ก็​ตกลง​มา

​วัน​ถัดมา​ ​สำนักพระราชวัง​ได้​ประกาศ​การ​สิ้นพระชนม์​ด้วย​อาการ​ประชวร​ของ​องค์​หญิง​สิบห้า​อย่างเป็นทางการ​ ​และ​มี​การ​ยก​ตำแหน่ง​ขึ้น​เป็น​องค์​หญิง​ฉัง​หนิง

​โดยทั่วไป​ ​องค์​หญิง​จะ​ได้รับ​ตำแหน่ง​ก็ต่อเมื่อ​ได้​แต่งงาน​ออก​ไป​แล้ว​ ​แน่นอน​ว่า​มี​ข้อยกเว้น​ ​อย่างเช่น​องค์​หญิงฝู​ชิง​ ​ด้วย​ความ​เป็น​องค์​หญิง​สายตรง​เพียง​คนเดียว​ของ​ฮองเฮา​องค์​ปัจจุบัน​ ​เป็น​ที่​โปรดปราน​ของ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​เป็นอย่างมาก​ ​นาง​จึง​ได้รับ​พระราชทาน​ตำแหน่ง​ตั้งแต่​เกิด

​ส่วน​องค์​หญิง​สิบห้า​ก็​กลายเป็น​ข้อยกเว้น

​ส่วน​ภายใน​นั้น​ ​เรื่องราว​ที่เกิด​ขึ้น​ใน​ตำหนัก​ฉาง​เซิง​ได้​แพร่ง​กระจาย​ออก​ไป​อย่างรวดเร็ว

—————————————-

[1]รัก​บ้าน​และ​อีกา​ที่อยู่​บน​หลังคา​บ้าน ​เมื่อ​รัก​ใคร​แล้ว​ ​ก็​จะ​รัก​และ​ใส่ใจ​ทุกสิ่งทุกอย่าง​ที่​เกี่ยวข้อง​กับ​ผู้​นั้น​ด้วย