บทที่ 427 ชายที่ยากจะได้มาครอบครอง

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

บทที่ 427 ชายที่ยากจะได้มาครอบครอง

เคธี่เลิกคิ้วขึ้น ในใจก่นด่าซู่จี้งยี้ไปแล้วนับครั้งไม่ถ้วน อยากจะดูเหมือนกันว่าเขาจะแก้ตัวยังไง

“ช่วงนี้คุณชายลี่แทบไม่มีเวลาเลยจริงๆครับ งานยุ่งเอามากๆ แต่คุณชายลี่ได้สั่งเอาไว้ ให้ผมคุยเรื่องนี้กับคุณเคธี่แทนได้เลย หวังว่าคุณ เคธี่จะไม่รังเกียจนะครับ”ซู่จี้งยี้เอ่ยปากพูดออกไป

เคธี่มองไปยังซู่จี้งยี้ด้วยสายตาที่เย็นชา :“ฉันรังเกียจ”

คำพูดเดียวทำให้ซู่จี้งยี้ถึงกับพูดไม่ออก ไม่เห็นต้องพูดตรงๆแบบนี้เลย

“ฉันไม่สนใจ ยังไงสัญญาฉบับนี้ก็ต้องให้คุณชายลี่เป็นคนมาเซ็นกับฉันด้วยตัวเอง ไม่เช่นนั้นจะถือว่าบริษัทของคุณไม่จริงใจพอแล้วฉันก็จะไปหาเจ้าอื่นแทน ” เคธี่พูดจบก็เตรียมตัวจะเดินออกไป

ซู่จี้งยี้ก็รีบเดินตามหลังไป :“คุณเคธี่ครับ ใจเย็นนะครับ เรื่องนี้ผมจะรีบรายงานให้กับคุณชายลี่ได้ทราบ ความจริงใจของบริษัทเราคุณมองไม่เห็นเลยเชียวเหรอครับ ? คุณชายลี่ลงทุนกับโครงการไปมาก”

“ได้ค่ะ งั้นฉันจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง พวกคุณก็ตัดสินใจกันเองก็แล้วกันนะคะ” หลังจากที่พูดจบเคธี่ก็เดินจากไป

ซู่จี้งยี้ยังยืนอยู่ที่เดิม และเช็ดเม็ดเหงื่อที่ไหลบริเวณหน้าผากออก ยังดีที่ไม่ได้ทำให้เรื่องมันยุ่งวุ่นวายไปมากกว่านี้เคธี่เองก็เป็นคนที่น่าเกรงขามและน่ากลัวคนหนึ่งเช่นกัน

เมื่อนึกขึ้นได้ก็รีบไปรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ให้ลี่จุนถิงได้รับรู้

ลี่จุนถิงพอได้ยินว่าเคธี่มาหาเขาแล้วตั้งหลายครั้ง ก็เอ่ยถามไปว่า :“แล้วทำไมนายไม่บอกฉัน?”

“ก็ผมเห็นคุณไม่อยากเจอคุณเคธี่นี่ครับ”ในใจซู่จี้งยี้ก็รู้สึกผิด

“อืม ฉันรู้แล้ว ”ลี่จุนถิงหงุดหงิดอยู่พักหนึ่ง

เขารู้จุดประสงค์ของเคธี่ก็คงจะอยากเจอเขานั่นแหละ

แต่หลังจากเหตุการณ์คราวนั้น ลี่จุนถิงก็รู้ว่าต้องระวังเคธี่ให้มากขึ้น หากเกิดอะไรขึ้นมา แล้วทำให้เจียงหยุนเอ๋อเข้าใจผิดคงไม่ใช่เรื่องดีแน่

“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน คุณดูเวลาแล้วนัดเขาเข้ามาวันมะรืน บอกเขาว่าผมกลับมาแล้ว แล้วให้คุณเคธี่มาคุยกันที่ห้องทำงานของผม”เรื่องนี้คงหลบไม่พ้นเป็นแน่ อะไรที่มันจะเกิดมันก็ต้องเกิด

ดูท่าลี่จุนถิงเองคงต้องกลับไปรายงานเรื่องนี้กับคุณภรรยาซะแล้ว

พอลี่จุนถิงกลับมาถึงบ้านก็พูดเรื่องนี้กับเจียงหยุนเอ๋อ

เจียงหยุนเอ๋อไม่คิดว่าเพียงเพราะไม่อยากให้เธอเข้าใจผิด ลี่จุนถิงถึงขั้นต้องพูดโกหกกับเคธี่ แล้วยังปล่อยงานคาเอาไว้แบบนั้นอีก

อดคิดไม่ได้ว่าลี่จุนถิงเองก็ทำตัวน่ารักอยู่ไม่น้อย ในใจก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมา

“ฉันรู้ว่าคุณไม่ใช่คนแบบนั้น เราอยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้ คุณเป็นคนยังไงฉันจะไม่รู้เลยเชียวเหรอ ? ”เจียงหยุนเอ๋อก็อยากจะพูดให้ลี่จุนถิงสบายใจมากขึ้น

“ผมกลัวคุณจะทำกับผมแบบวันนั้น ใจผมคงอยู่ไม่สุขแน่ ”ลี่จุนถิงพูดแล้วก็จับมือของเจียงหยุนเอ๋อมาวางไว้ตรงอกของตัวเอง

“ฉันรู้แล้วค่ะ งั้นวันมะรืนนี้ฉันเข้าบริษัทไปพร้อมกับคุณก็แล้วกันนะค่ะ ”เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้าอย่างเขินอาย

หญิงสาวมีความคิดในใจขึ้นมา ดูท่าเธอคงจะอยู่นิ่งๆแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว ลี่จุนถิงที่เพียบพร้อมขนาดนี้ คงมีผู้หญิงมากมายที่จ้องจะเข้าหาและอยากจะใกล้ชิดเขาด้วยสารพัดวิธี

แม้เจียงหยุนเอ๋อจะเชื่อใจในตัวของลี่จุนถิง เชื่อว่าเขาจะไม่นอกลู่นอกทางใดๆ แต่ถ้าหากโดยผู้หญิงเหล่านั้นเตรียมการและวางแผนมาแล้วละก็ คงจะไม่ใช่เรื่องตลกแน่

ยังไงก็เป็นผู้หญิงย่อมหวงแหนในสิ่งที่รักเป็นธรรมดา ไม่ต้องการให้ผู้ชายของตัวเองเป็นที่ต้องการของคนอื่น โดยเฉพาะมาคุยโวโอ้อวดต่อหน้าเธอแบบนี้

พอลี่จุนถิงได้ยินก็รู้สึกวางใจขึ้นมาได้บ้าง

วันมะรืน เจียงหยุนเอ๋อตื่นแต่เช้า แล้วตามลี่จุนถิงเข้าไปที่บริษัท

เวลาราวๆเก้าโมงเช้า ซู่จี้งยี้แจ้งว่าเคธี่มาถึงแล้ว

ลี่จุนถิงมองไปยังเจียงหยุนเอ๋อแวบหนึ่ง

เจียงหยุนเอ๋อหัวเราะแล้วพูดว่า :“มองฉันทำไมคะ?คุณควรทำอะไรก็ทำเถอะค่ะ”

ลี่จุนถิงก็กระแอมไอ :“เชิญคุณเคธี่เข้ามาที่ห้องทำงานได้”

ซู่จี้งยี้พยักหน้ารับ

หลังจากเดินพ้นออกมาจากประตูพลันก็นึกถึงกิริยาท่าทางของลี่จุนถิง แล้วได้แต่ถอนหายใจในใจ ดูไม่ออกเลยว่าเจ้านายตัวเองก็เป็นผู้ชายประเภทกลัวเมียเหมือนกัน

เมื่อเคธี่เองรู้ว่าลี่จุนถิงยอมที่จะเจอหน้าเธอแล้ว ก็มีความสุขไม่น้อย เมื่อเปิดประตูเข้ามาได้ก็อยากจะเอ่ยทักทายอย่างเป็นกันเอง แต่ก็เจอเข้ากับเจียงหยุนเอ๋อที่นั่งอ่านหนังสืออยู่บนโซฟา รอยยิ้มของเธอก็แข็งค้างอยู่บนใบหน้าทันที

เก็บอาการโดยพลัน แล้วเคธี่เองจึงได้เอ่ยทักทายกับลี่จุนถิง:“คุณชายลี่”

ลี่จุนถิงพยักหน้า เป็นการตอบรับ

เคธี่ก็แสร้งหันไปมองยังเจียงหยุนเอ๋อ แล้วฝืนยิ้มอีกครั้ง :“อุ๊ย หยุนเอ๋อก็อยู่ด้วยเหรอ”

เจียงหยุนเอ๋อรู้เพียงว่าการเรียกเธอหยุนเอ๋อสองคำนั้นมันทำเธอขนลุกไปทั้งตัว จำไว้ว่าเขากับเธอไม่ได้สนิทกันถึงขั้นนั้น

ยังไงเสียเจียงหยุนเอ๋อเองก็ไม่ได้ตอบกลับเสมือนสนิทสนมกันแต่อย่างใด เพียงแค่พยักหน้าเบา ๆ :“ค่ะ”

ลี่จุนถิงเห็นว่าทักทายกันได้พอประมาณแล้วก็เอ่ยพูดอย่างเย็นชาว่า:“คุณเคธี่ครับ คุณบอกว่าต้องการจะคุยเรื่องงานกับผมไม่ใช่เหรอครับ งั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่านะครับ เพราะอีกประเดี๋ยวผมต้องพาภรรยาผมไปทานข้าวข้างนอกต่อ ”

แม้ว่าเคธี่จะรู้สึกไม่พอใจ แต่ก็พูดและทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงเริ่มคุยเรื่องงานกับลี่จุนถิงทันทีก็เท่านั้น

ตลอดเวลาของการพูดคุยกันในครั้งนี้ น้ำเสียงของลี่จุนถิงที่ชัดเจนและจริงจังเกี่ยวกับเรื่องของธุรกิจ บวกกิริยาท่าทางก็ไม่ได้แสดงการเป็นกันเองเท่าที่ควร

เห็นได้ชัดว่าท่าทีของลี่จุนถิงนั้นห่างเหินและเย็นชากว่าในคืนงานเลี้ยงอยู่มากในใจเคธี่รู้สึกไม่ดี

หรือเป็นเพราะเรื่องในวันนั้น เจียงหยุนเอ๋อจงใจให้ลี่จุนถิงถอยห่างกับตัวเอง ?

หากเป็นเช่นนี้ก่อนหน้าที่เธอทำไปทั้งหมดก็จะสูญเปล่า

เลยเอ่ยปากพูดว่า :“คุณชายลี่ ฉันอยากจะอธิบายบางอย่างกับภรรยาของคุณ ”

เคธี่ก็หันไปหาเจียงหยุนเอ๋อ

เจียงหยุนเอ๋อเงยหน้าขึ้นมาด้วยความสงสัยแล้วมองไปยังเคธี่ อยากรู้ว่าเธอจะมาไม้ไหนกัน

ลี่จุนถิงเองไม่ได้เอ่ยห้ามใดๆ

“เรื่องในคืนนั้นฉันลืมอธิบายไปค่ะ หลังจากกลับไปแล้วฉันก็กังวลกลัวว่าคุณจะเข้าใจผิด” เคธี่พูดพลางเดินเข้าไปหาเจียงหยุนเอ๋อ แล้วนั่งลงข้างๆเธอ

แม้ว่าเจียงหยุนเอ๋อเองจะรู้สึกเอือมอยู่บ้าง แต่เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร

“คืนนั้นลี่จุนถิงเมามาก ตอนที่ฉันพยุงเขาตัวเขาเองก็พิงมายังร่างของฉัน ตอนนั้นไม่ทันได้ระวังคงเผลอไปโดนลิปสติกเข้า หวังว่าจะไม่ทำให้คุณต้องเข้าใจผิดนะคะ ฉันหาโอกาสที่จะอธิบายเรื่องนี้กับคุณ แต่ก็ไม่มีโอกาสสักที” ในขณะที่เคธี่กำลังพูดอยู่นั้น ก็แสร้งทำเป็นรู้สึกผิดไปด้วยเธอกะพริบตาปริบๆแล้วมองมายังเจียงหยุนเอ๋อ

เจียงหยุนเอ๋อหัวเราะแล้วพูดว่า :“ไม่หรอกค่ะ ฉันต้องขอบคุณ คุณด้วยซ้ำที่ส่งจุนถิงมาถึงบ้าน”

เคธี่เปิดอกพูดมาขนาดนี้แล้ว หากเธอบอกว่าเก็บเรื่องดังกล่าวมาใส่ใจ ก็คงจะดูเหมือนว่าใจแคบเกินไปนัก

เมื่อเห็นว่าเจียงหยุนเอ๋อไม่ได้พูดอะไรต่อ ลี่จุนถิงก็พลอยโล่งใจไปด้วย ยังดีที่เคธี่เองก็ได้อธิบายมันเพิ่มเติม

ไม่ว่ายังไงเขาก็ยังต้องรักษาระยะห่างกับเคธี่อยู่ดี

“งั้นก็ดีค่ะ หากไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวก่อนแล้วกันนะคะ”เคธี่ยิ้มแล้วเดินจากไป

มองดูก็รู้ว่าลี่จุนถิงนั้นเริ่มที่จะหงุดหงิดกับเธอแล้ว หากยังรั้นจะอยู่ต่อคงไม่เป็นการดีแน่

หลังเดินออกจากห้องทำงานมาได้ ใบหน้าของเคธี่ก็แสดงออกถึงความไม่พอใจ ซึ่งเธอไม่เคยต้องโดนดูถูกแบบนี้มาก่อน

ลี่จุนถิงเองแทบไม่เคยเห็นเธออยู่ในสายตาเลย

ที่ผ่านมากับผู้ชายที่ตัวเองพึงพอใจ ไม่เคยมีใครที่จะปฏิเสธเธอสักราย แต่กับลี่จุนถิงคนนี้ ทำให้เธอรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะได้ชายหนุ่มมาครอบครอง