“คุณหนูใหญ่ของบ้านเรา โสดยังไม่แต่งงาน จะมีสามีได้ยังไง?” จิ่งมั่วตอบก่อน
จิ่งเหลิ่งก็รีบพูดว่า “นั่นสิ นั่นสิ ผู้ชายหน้าด้านอย่างคุณ คุณหนูใหญ่ของเราไม่สนใจหรอก ไม่ต้องตามตื๊อเลย!”
เฟิงหานชวน “…”
ซูอวี่ที่อยู่ข้างๆ “???”
เขาอึ้งไปหลายวินาที ร้องขึ้นมาทันที “นี่มันเรื่องอะไร? ประธานเฟิงของเราเป็นใครรู้ไหม? ไม่สนใจประธานเฟิง? คุณหนูของพวกนายทำไมไม่ขึ้นสวรรค์ไปเลยล่ะ?(มีดีอะไรหนักหนา)”
จิ่งมั่ว “…”
จิ่งเหลิ่ง “…”
เฟิงหานชวน “…”
ซูอวี่ด่าเสร็จ ถึงได้สติ จู่ๆ ก็ร้องเสียงแหลมออกมาหลายครั้ง รีบจับแขนของเฟิงหานชวน ถามอย่างตื่นเต้น “ประธานเฟิง ในที่สุดคุณก็เดินออกมาได้แล้ว?”
จิ่งมั่ว “???”
จิ่งเหลิ่ง“???”
เฟิงหานชวน“หุบปากเดี๋ยวนี้”
ซูอวี่รีบเอามือปิดปาก แต่ก็อดไม่ได้ที่จะถาม “ประธานเฟิง นี่คือคุณสนใจ…คุณหนูตระกูลไหน?”
ภายในใจเขาซ่อนความสงสัยไว้ คุณหนูตระกูลไหนกันแน่ นึกไม่ถึงว่าจะปฏิเสธประธานเฟิงของเรา?
นี่มันแปลกประหลาดเกินไปแล้วมั้ง!
ประธานเฟิงรวยก็รวย มีอำนาจ รูปลักษณ์ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
ไม่รู้ว่ามีผู้หญิงมากมายเท่าไหร่ยอมสยบใต้ชุดสูทของประธานเฟิง นี่เป็นคุณหนูตระกูลไหนกัน ไม่สนใจประธานเฟิง นี่ควรขึ้นสวรรค์ไปจริงๆเลย!
และที่สำคัญในตอนนี้ก็คือ คิดไม่ถึงว่าประธานเฟิงจะเดินออกมาได้ จากการตายของเฉินฮวนฮวน เดินออกมาแล้ว!
แต่ แต่ ผู้หญิงที่ประธานเฟิงสนใจ เหมือนไม่สนใจเขา งั้นควรทำยังไงดีล่ะ? หากประธานเฟิงได้รับการกระทบอีกครั้ง มันจะไม่จบเห่เหรอ?
ภายในใจของซูอวี่ตอนนี้เรียกได้ว่าร้อนใจจนปั่นป่วน
“คุณหนูใหญ่ตระกูลเป๋า” เฟิงหานชวนมองจิ่งมั่วกับจิ่งเหลิ่งที่อยู่ตรงข้าม พูดเสียงเข้มขึ้น
“คุณหนูใหญ่ตระกูลเป๋า” ซูอวี่ได้ยิน คิ้วก็ขมวดขึ้น ในหัวมีแต่คำถามเป็นพรวน
เขาระดมสมองอยู่สักพัก แต่ก็ค้นหาไม่เจอมีตระกูลใหญ่ที่ไหน นามสกุล “เป๋า”
หรือว่าจะเป็นเศรษฐีหน้าใหม่?
แต่ยิ่งเป็นเศรษฐีหน้าใหม่ ยิ่งเป็นที่จับตามอง แต่ว่าเหมือนจะไม่มีนามสกุลเป๋าเลย
ในเมื่อไม่ใช้คุณหนูใหญ่ของตระกูลใหญ่ ทำไมถึงยังกล้าปฏิเสธประธานเฟิงของเราได้?
“ขอโทษด้วยคุณเฟิง คุณหนูใหญ่บ้านเราไม่สนใจคุณ” จิ่งมั่วตอบกลับหน้านิ่ง
จิ่งเหลิ่งพูดเสริม “ใช้แล้ว คุณหนูใหญ่ของเรา ไม่มีวันสนใจคุณ คุณไม่ใช่สเปคคุณหนูใหญ่ คุณคงเห็นเมื่อกี้ที่คุณหนูใหญ่รังเกียจคุณมากแค่ไหน”
สองพี่น้องจิ่งมั่วกับจิ่งเหลิ่ง จิ่งมั่วพูดน้อยกว่า นิสัยออกไปทางเย็นชานิดๆ
ตรงกันข้าม จิ่งเหลิ่งแม้ว่าจะมีชื่อเหลิ่ง(เย็น) แต่เป็นคนชอบพูดมากกว่า นิสัยมีชีวิตชีวากว่ามาก
“สนใจหรือไม่สนใจผม ไม่ใช่พวกคุณมาตัดสิน” เฟิงหานชวนพูดเสียงเย็น
แม้ว่าเขาไม่แน่ใจสามปีที่ผ่านมานี่ ในตัวของเฉินฮวนฮวน เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ แต่เป๋าฮวน ก็คือเฉินฮวนฮวนแน่นอน
เขาไม่มีวันจำคนผิด!
จิ่งมั่ว “…”
จิ่งเหลิ่ง “เคยเห็นคนหลงตัวเอง แต่ไม่เคยเห็นคนหลงตัวเองขนาดนี้”
เฟิงหานชวนเหล่มองจิ่งเหลิ่งแวบหนึ่ง พูดเสียงเย็น “หลีกไป!”
จิ่งเหลิ่งก็เหลือบมองดูเขาอย่างเหยียดๆแวบหนึ่ง เงยหน้าพูดว่า “คิดอยากจีบคุณหนูใหญ่ของเรา ข้ามศพผมไปก่อน!”
เสียงดัง“ปึก”
ชายหนุ่มเดินเฉียดไหล่ ทำให้จิ่งเหลิ่งล้มไปที่พื้น
ดวงตาทั้งคู่ของจิ่งเหลิ่งกะพริบไปหลายครั้ง ชั่วเวลาหนึ่งยังไม่สามารถเรียกสติกลับมาได้
จิ่งมั่วที่อยู่ด้านข้างมีสีหน้าตื่นตระหนก ไม่คิดเลยว่าการกระทำของเฟิงหานชวนจะรุนแรงแบบนี้
หน้าของเฟิงหานชวนยังนิ่งเหมือนเดิม ปฏิบัติกับคนอื่น แต่ไหนแต่ไรเขาก็ไม่แยแสแบบนี้มาตลอด
วินาทีต่อมา เขายกเท้า ก้าวข้ามตัวของจิ่งเหลิ่งไปเลย เดินไปทางลิฟต์
ซูอวี่เห็น มองจิ่งเหลิ่งที่นอนอยู่บนพื้น จับกรอบแว่นสีดำ แล้วรีบเผ่นตามเฟิงหานชวนไป
รอจนเฟิงหานชวนกับซูอวี่ลงลิฟต์ไป จิ่งมั่วถึงประคองจิ่งเหลิ่งขึ้น
อันที่จริงตัวจิ่งเหลิ่งไม่ได้เจ็บอะไร ถึงอย่างไรเขาก็แข็งแรงอยู่ ที่ลุกขึ้นช้า เป็นเพราะช็อก และขายหน้า
เป็นบอดี้การ์ดระดับต้นๆที่อยู่ข้างกายคุณหนูใหญ่ เขากลับล้มลงพื้นอย่างไม่ทันป้องกันตัว?
จิ่งมั่วกระแอมเบาๆ บนใบหน้าแสดงสีหน้ารังเกียจ “หากคุณหนูใหญ่รู้เข้า หน้าของแกจะวางไว้ไหน?”
จิ่งเหลิ่งขมวดคิ้วอย่างน้อยใจ พูดเสียงเบา “ผมจะรู้ได้ไงว่าผู้ชายคนนั้นจะมาไม้นี้?”
“พอแล้ว อย่าเสียใจเลย ได้เวลาแล้ว พวกเราต้องรีบไปที่หอประชุมเหมือนกัน” จิ่งมั่วมองนาฬิกา พูดเตือน
“อืม” จิ่งเหลิ่งตอบรับมึนๆ
…
ในหอประชุมขนาดใหญ่ แสงไฟสว่างไสว คนมืดฟ้ามัวดิน
คืนนี้ ที่นี่รวบรวมคนดังทั่วโลก นักธุรกิจผู้มั่งคั่ง ดารา ศิลปินต่างๆ
ทุกคนต่างมาเพื่อประมูลสิ่งของในคืนนี้
เป๋าฮวนจับป้ายหมายเลข หาที่นั่งของตัวเอง แล้วนั่งลงเงียบๆ
เพราะว่าการประมูลยังไม่เริ่ม ในห้องเลยค่อนข้างคึกคัก ต่างคนต่างทักทายพูดคุยกันอย่างเป็นมิตร
แต่ว่า เป๋าฮวนกลับไม่มีความคิดใดๆ ในหัวมีแต่หน้าของเฟิงหานชวนโผล่ออกมา คิดว่าตอนนี้ เฟิงหานชวนยังคงถูกจิ่งมั่วกับจิ่งเหลิ่งกันอยู่ที่ทางเดินมั้ง
เหม่อลอยอยู่พักหนึ่ง งานประมูลเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว
เป๋าฮวนรู้สึกแปลกนิดๆ หันซ้ายหันขวา แล้วมองไปรอบทิศ
อันที่จริงที่นั่งเต็มหมดแล้ว มีแต่ด้านซ้ายด้านขวาของตัวเอง ที่นั่งต่างว่างอยู่
เจ้าของป้ายหมายเลขทั้งสองคน ไม่ได้มาเข้าร่วมเหรอ?
แต่ว่าแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เธอก็รู้สึกเงียบสงบลงหน่อย
หลังจากที่พิธีการแนะนำสั่นๆ หลังเวทีก็ยกของสะสมขึ้นมาหนึ่งชิ้น
“นี่เป็นของชิ้นแรกที่จะประมูล รูปปั้นมังกรทองของราชวงศ์ชิง นี่เป็นช่างฝีมือในพระราชวังสร้างขึ้น…”
การประมูลครั้งนี้ เป็นการประมูลสองภาษา หลังจากพิธีกรภาษาจีนพูดจบ พิธีการภาษาอังกฤษก็พูดอีกรอบ
เป๋าฮวนไม่มีความสนใจใดๆกับของชิ้นแรก ดวงตาทั้งสองมองรูปปั้นมังกรทองบนเวทีด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก
ทันใดนั้น เธอรู้สึกว่ามีคนมาทางด้านขวา เหมือนจะนั่งลงตรงข้างเธอ เห็นทีว่า“คนข้างๆ”จะมาสาย
ตามมารยาท เธอเตรียมจะทักทาย
เพียงแต่ ตอนเธอหันไปอยากทักทาย รอยยิ้มที่มุมปากก็ค้างไป
คนที่นั่งข้างขวาเธอ ไม่ใช่ใครอื่น เป็นเฟิงหานชวนที่เพิ่งแยกกันไม่นานมานี้
“นี่เป็นที่นั่งของคุณ?” เธอถามเพื่อความแน่ใจ
เฟิงหานชวนพยักหน้าเรียบๆ พูดเสียงเข้ม “ครั้งนี้ ผมไม่ได้ตามคุณ สวรรค์เป็นคนลิขิต”
พูดจบ เขายังชี้ไปด้านบน
เป๋าฮวน “…”
ตอนนี้เธอสบถอยู่ในใจ บังเอิญขนาดนี้เลย?
ตลอดการประมูล อย่างน้อยสามชั่วโมง เธอต้องอยู่ร่วมกับเฟิงหานชวนนานขนาดนี้?
“เหอะ” เป๋าฮวนทำเสียงเยาะ หันศีรษะไปด้านหน้า
เธอไม่สนใจเฟิงหานชวน มองเวทีการประมูลต่อ
การกระทำแบบนี้ของเป๋าฮวน ทำให้เฟิงหานชวนหงุดหงิดในใจ
เขาอยากจะรู้จริงๆ สามปีที่ผ่านมานี้ เฉินฮวนฮวนเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ แต่ว่าสถานที่ตอนนี้ ไม่เหมาะที่เขาจะถามอะไรเธอมาก
และคิดว่าเธอก็คงไม่ตอบเขา
“ฮวนฮวน” เขาเรียกเธอเสียงเบา
เป๋าฮวนแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน จ้องมองไปข้างหน้า
“รอการประมูลจบ พวกเรากลับพร้อมกัน?” เฟิงหานชวนรู้สึกว่าควรสนิทกับเป๋าฮวนก่อน ไม่ควรให้ความสัมพันธ์แย่เกินไป
เดิมห้องเพรสซิเดนสูทก็เป็นแค่ที่พักชั่วคราวของเขา แต่ตอนนี้เขาตัดสินใจแล้ว ก็คือคืนนี้จะนอนที่นี่
“???”
เป๋าฮวนได้ยิน ขมวดคิ้วแน่น หันไปถาม “กลับพร้อมกัน?”