ตอนที่ 436 คืนแสงเทียน

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

​สุดท้าย​เขา​ก็ได้​ผู้หญิง​คน​นี้

​เขา​ได้​ผู้หญิง​ที่เกิด​ใน​ตระกูล​ชนชั้นสูง

​แล้ว​จะ​มีประโยชน์​อย่างไรเล่า​ ​จาก​สถานการณ์​ของ​เขา​ในเวลานี้​ ​อย่า​ว่าแต่​ได้​บุตรสาว​ของ​องค์​หญิง​ใหญ่​มา​เป็น​ภรรยา​ ​ต่อให้​ได้​แต่งงาน​กับ​กิ่งทองใบหยก​จริงๆ​ ​ก็​ไร้​สิ้น​ความหมาย​ใด

​ผ้าคลุม​มงคล​ไม่​ถูก​เปิด​ออก​สักที

​เพราะ​จู​จื่อ​อวี​้​ไม่ได้​เป็นสมาชิก​ของ​ตระกูล​จู​แล้ว​ ​งานแต่ง​ครั้งนี้​จึง​ไม่มี​ญาติ​ฝ่าย​ชาย​มา​เลย​สัก​คน​ ​แม้แต่​สี่​เหนียง​ยัง​ถูก​ส่งตัว​มาจาก​สำนักพระราชวัง

​สี่​เหนียง​หลบสายตา​แห่ง​ความเบื่อหน่าย​ ​นาง​ส่งสายตา​เร่ง​และ​กล่าว​ ​“​คุณชาย​รีบ​เปิด​ผ้า​ออก​เถอะ​เจ้าค่ะ​ ​ยัง​มีพิ​ธี​แลก​จอก​สุรา​กับ​เจ้าสาว​อีก​”

​“​ออก​ไป​”

​สี่​เหนียง​ชะงัก​ ​สิ่ง​ที่​เห็น​คือ​แววตา​ที่​คาดเดา​อะไร​ไม่ได้​เลย​ของ​จู​จื่อ​อวี​้

​ชุย​หมิง​เย​่ว​์​ที่​สวม​ผ้าคลุม​ ​ออกแรง​ดึง​ชุดแต่งงาน

​“​ออก​ไป​เถอะ​ ​ที่​เหลือ​พวกเรา​จัดการ​เอง​”

​สี่​เหนียง​ลังเล​ครู่เดียว​ก็​ทำตาม​ความต้องการ​ของ​จู​จื่อ​อวี​้

นี่​คือ​คนบ้า​ที่​แย่ง​ตัว​เจ้าสาว​ของ​องค์​ชาย​เชียว​นะ​ ​นาง​เป็น​เพียง​สี่​เหนียง​ ​ไม่จำเป็น​ต้อง​นำ​ชีวิต​ไป​เสี่ยง​…

​เมื่อ​ชั่งน้ำหนัก​อย่าง​ฉับไว​เสร็จ​ ​สี่​เหนียง​ก็​พาสา​วรับ​ใช้​สอง​คน​ออก​ไป​อย่างรวดเร็ว

​ภายใน​ห้อง​เหลือ​ไว้​เพียง​คู่บ่าวสาว​ ​เทียน​มังกร​คู่​หงส์​เผาไหม้​เงียบๆ​ ​พลัน​เกิด​ดอกไม้ไฟ​ขึ้น​มา

​จู​จื่อ​อวี​้​หัน​มอง​เทียน​มงคล

​เกิด​ดอกไม้ไฟ​นับว่า​เป็น​ลางดี​…​เขา​เผลอ​คิด​ ​ตอน​หันไป​ยัง​คนที​่​นั่ง​อยู่​ตรง​หัว​เตียง​ ​เขา​ก้าว​เท้า​เข้าไป​หา​ทีละ​ก้าว

​ชุย​หมิง​เย​่ว​์​นั่ง​ตรง​ขอบ​เตียง​นิ่ง​ ​เพราะ​ถูก​ผ้าคลุม​ไว้​จึง​มองไม่เห็น​สิ่งใด​ ​เมื่อ​ได้ยิน​เสียง​ฝีเท้า​เข้าใกล้​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​สีหน้า​ก็​ยิ่ง​นิ่ง

​เบื้องหน้า​พลัน​สว่าง​ ​ผ้าคลุม​มงคล​ถูก​ช้อน​ขึ้น​และ​โยน​ไป​ด้าน​ข้าง​ ​สิ่ง​ที่​ปรากฏ​ขึ้น​ตรงหน้า​คือ​ชายหนุ่ม​ผู้​ไร้​สีหน้า​ใดๆ

​ผอมบาง​ ​ผิวขาว​ ​มี​ความสง่างาม​แต่​ชวน​ให้​รู้สึก​สงสาร

​ชุย​หมิง​เย​่ว​์​กลับ​ไร้ความรู้สึก​ใด

​สิ่ง​ที่นาง​ชื่นชม​คือ​ชายหนุ่ม​ดั่ง​เหยี่ยว​ที่​ข่วน​หมาป่า​ ​ไม่ใช่​จู​จื่อ​อวี​้​ที่​อ่อนแอ​เหมือน​ไก่อ่อน​เช่นนี้

​อย่า​ว่าแต่​เป็น​สามีภรรยา​กัน​จริงๆ​ ​เพียงแค่​คิด​ว่า​ต้อง​เป็น​สามีภรรยา​กัน​ในนาม​กับ​ผู้ชาย​เช่นนี้​ ​นาง​ก็​อยาก​อ้วก​ทันที​!

​จู​จื่อ​อวี​้​ยืน​มอง​หญิงสาว​ที่​สวยสด​ดุจ​ดอกไม้​ ​ภายในใจ​ไม่มี​ความดีใจ​แม้​เพียง​เสี้ยว​เดียว

​“​เหนียง​จื่อ[1] ​แลก​จอก​สุรา​กัน​สักหน่อย​เถอะ​”​ ​ไม่รู้​ว่า​กำลัง​คิดถึง​สิ่งใด​ ​จู​จื่อ​อวี​้​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ถึง​ยก​จอก​สุรา​ด้าน​ข้างขึ้น​มา​แล้ว​ยื่น​ให้​ชุย​หมิง​เย​่ว​์

​ชุย​หมิง​เย​่ว​์​ไม่​ขยับ

​จู​จื่อ​อวี​้​ยัก​คิ้ว​ ​“​ทำไม​รึ​ ​เจ้า​ไม่​อยาก​ดื่ม​?​”

​ชุย​หมิง​เย​่ว​์​เงยหน้า​มอง​จู​จื่อ​อวี​้​หนึ่ง​ที​ ​พลาง​เตะ​รองเท้า​ปัก​ลาย​ทิ้ง​ ​“​ข้า​รู้​ว่า​ใน​ใจ​ของ​เจ้า​มี​ความแค้น​ ​เจ้า​ไม่จำเป็น​ต้อง​แสร้งทำ​สิ่ง​เหล่านี้​หรอก​ ​รีบ​นอน​เถอะ​”

​จู​จื่อ​อวี​้​คว้า​ข้อมือ​ชุย​หมิง​เย​่ว​์​ ขวับ

​ชุย​หมิง​เย​่ว​์​ย่น​คิ้ว​พร้อม​กล่าว​ตำหนิ​ ​“​นี่​เจ้า​จะ​ทำ​อะไร​”

​จู​จื่อ​อวี​้​ขยับตัว​เข้าหา​นาง​ ​น้ำเสียง​เย็นเยือก​ ​“​ทำ​อะไร​รึ​ ​ออกเรือน​กับ​ไก่​ก็​อยู่​ตาม​ไก่​ ​ออกเรือน​กับ​สุนัข​ก็​อยู่​ตาม​สุนัข[2] ​ชุย​หมิง​เย​่ว​์​ ​เจ้า​คิด​ว่า​เจ้า​ยัง​เป็นคุณ​หนู​ที่สูง​ส่ง​อยู่​อีก​รึ​”

​เขา​พูด​พร้อมกับ​ใช้​มือ​ข้าง​หนึ่ง​บีบ​คาง​แหลม​ของ​ชุย​หมิง​เย​่ว​์​ ​ส่วน​มือ​อีก​ข้าง​ยก​จอก​สุรา​ขึ้น​แล้ว​กรอก​เข้า​ปาก​นาง​อย่าง​โหดเหี้ยม

​“อึก​ๆ​ๆ​ สารเลว​…​”​ ​ชุย​หมิง​เย​่ว​์​ดิ้น​สุด​แรง​ ​เมื่อ​สุรา​ที่​เผ็ดร้อน​ถูก​บังคับ​กรอก​เข้าไป​ใน​ลำคอ​ ​นาง​จึง​ไอ​ขึ้น​อย่างรุนแรง

​ด้าน​กำลัง​ ​ผู้ชาย​ย่อม​ได้เปรียบ​กว่า​เสมอ

​เมื่อ​สุรา​หนึ่ง​จอก​กรอก​หมด​แล้ว​ ​จู​จื่อ​อวี​้​ก็​ยก​อีก​จอก​ขึ้น​ดื่ม​จน​เกลี้ยง​ ​เขา​ออกแรง​เช็ด​ปาก

​ริมฝีปาก​ของ​เขา​แดง​ขึ้น​เล็กน้อย​จาก​การ​เช็ด​ ​แต่​ก็​สู้​รูปหน้า​ที่​สวยสด​ดุจ​บุปผา​ของ​หญิงสาว​ไม่ได้

​การ​ทลาย​กรง​แห่ง​ความอ่อนโยน​ ​ปลดปล่อย​สัตว์ร้าย​ใน​ใจ​ออกมา​ ​ดูเหมือน​เป็น​เพียง​เรื่อง​ชั่ว​วินาที​เท่านั้น

​จู​จื่อ​อวี​้​ช้อน​ตัว​หมิง​เย​่ว​์​ขึ้น​แล้ว​โยน​ลง​บน​เตียง​หอ​โดย​ไม่สน​ใจ​แม้แต่​การ​ปล่อย​มุ้ง​ลงมา​ ​เขา​คร่อม​ตัว​ลง​แล้ว​จูบ​อย่าง​บ้าคลั่ง

​การจุม​พิต​ของ​เขา​ไม่มี​ความ​ทะนุถนอม​แม้​เพียง​เสี้ยว​เดียว​ ​เป็นการ​แก้แค้น​ที่​ถูก​สั่งสม​มานาน​ดุจ​ภูเขาไฟ​ที่​เริ่ม​ปะทุ

​ริมฝีปาก​ของ​ชุย​หมิง​เย​่ว​์​ถูก​กัด​เป็นแผล​อย่างรวดเร็ว​ ​ใน​ลำคอ​เริ่ม​เต็มไปด้วย​กลิ่นคาว​เลือด

​การ​ดิ้น​สุด​แรง​ของ​นาง​หยุด​ลง​อย่าง​ช้าๆ​ ​มุม​ปากของ​นาง​กระดก​ขึ้น​เป็น​รอยยิ้ม​เย็นชา

สารเลว​จู​จื่อ​อวี​้​ ​นึก​ว่า​ได้​แต่งงาน​กัน​ ​นาง​ก็​จะ​กลายเป็น​เนื้อ​ปลาบน​เขียง​ที่​ยอม​ถูก​ใครๆ​ ​สับ​รึ​ไง

กล้า​ใช้​วิธี​สกปรก​ต่ำช้า​เช่นนั้น​ก่อความวุ่นวาย​ใน​งาน​อภิเษก​ของ​นาง​กับ​เซียง​อ๋อง​ ​คิด​รึ​ว่านาง​จะ​ยอมรับ​ชะตา​ชีวิต​เช่นนี้

ฝันไป​เถอะ ​มีทาง​สวรรค์​ให้​เดิน​แต่​ไม่​เดิน​ ​กลับ​เลือก​พุ่ง​เข้ามา​ใน​นรก​ที่​ไม่มี​ประตู​!

​ความ​เย็นชา​ภายใต้​แววตา​ของ​ชุย​หมิง​เย​่ว​์​ได้​แปรเปลี่ยน​เป็นความ​อาฆาต​ ​มือ​ที่​ผิวขาว​ดุจ​หยก​ขาว​ยื่น​เข้าไป​ใน​ผ้าแพร​ลูก​เต็ม​บ้าน​หลาน​เต็ม​เมือง​ทีละ​นิด​ ​จากนั้น​หยิบ​มีด​สั้น​เล่ม​หนึ่ง​ออกมา​จาก​บริเวณ​ที่​สะดวก​ที่สุด

​มีด​สั้น​เล่ม​นี้​ไม่มี​ปลอก​ ​ด้าม​มีด​ส่องแสง​วิบวับ​ภายใต้​แสงเทียน

​ชายหนุ่ม​ที่​คร่อม​ตัว​อยู่​ด้านบน​ ​ดูเหมือน​จะ​สัมผัส​ไม่​ถึง​ความ​อันตราย​ที่​ย่างกราย​เข้ามา​เรื่อยๆ​ ​เขา​ฉีก​ชุดแต่งงาน​สีแดง​สด​ออก​อย่าง​หยาบคาย​ ​พร้อม​สอด​มือ​เข้าไป​อย่าง​เหิม​ใจ

​“​คุณหนู​ชุย​ ​ช่วย​บอก​ข้า​หน่อย​ ​ข้า​จู​จื่อ​อวี​้​หลอกลวง​เจ้า​อย่างไร​”​ ​จู​จื่อ​อวี​้​กัด​ตรง​ไขกระดูก​ที่​เผยอ​อก​มา​ของ​หญิงสาว​ ​น้ำเสียง​ที่​ดุดัน​ปะปน​ไว้​ด้วย​ความโกรธ​และ​ความน้อยใจ​ ​“​ตอนที่​เจอกัน​ครั้งแรก​ ​เจ้า​ไม่รู้​จริงๆ​ ​หรือว่า​ข้ามี​ภรรยา​ ​เจ้า​มัน​หญิง​ชั่วช้า​จอม​หลอก​…​”

​คำพูด​ใน​ตอนท้าย​พลัน​หยุด​ลง

​สีหน้า​ของ​จู​จื่อ​อวี​้​บิดเบี้ยว​อย่าง​น่ากลัว​อัน​เนื่องจาก​ความเจ็บปวด​ที่เกิด​ขึ้น​อย่าง​ฉับพลัน

​หรือ​พูด​ได้​อีก​อย่างว่า​ ​เพราะ​มีด​เล่ม​นั้น​แทง​ได้​แม่นยำ​เกินไป​ ​จน​ทำให้​เขา​ไม่มี​แม้แต่​แรง​ตะโกน

​เสียง​ อึก​ๆ​อัก​ๆ​ เล็ดลอด​ออกมา​จาก​ลำคอ​ของ​จู​จื่อ​อวี​้

​ชุย​หมิง​เย​่ว​์​ไม่​กะพริบตา​จนถึง​ฝ่ายตรงข้าม​โน้มตัว​ใส่​นาง​ไม่​ขยับตัว​อีก​ ​นาง​จึง​จะ​คลาย​มือ​ผลัก​คน​ข้างบน​ไป​ข้างๆ​ ​แล้ว​ลุก​นั่ง

​ผู้ชาย​ที่​เตรียมตัว​ใช้​ความรุนแรง​เมื่อ​สักครู่​ ​เวลานี้​ได้​กลายเป็น​ศพ​ที่​เนื้อตัว​ยัง​ร้อน​อยู่

​ชุย​หมิง​เย​่ว​์​กำลัง​หายใจ​ช้าๆ​ ​เพื่อ​ฟื้น​สภาพ​กำลัง

​การ​เผชิญหน้า​กับ​คนที​่​ฆ่า​ด้วยมือ​ตัวเอง​ไม่ได้​ทำให้​นาง​รู้สึก​หวาดกลัว​แม้แต่น้อย​ ​แต่กลับ​เกิด​เป็นความ​ตื่นเต้น​มากกว่า

การ​ฆ่า​คน​รู้สึก​ถึง​ความสำเร็จ​มากกว่า​การ​ฆ่า​กวาง​เสียอีก

​ชุย​หมิง​เย​่ว​์​นั่ง​บน​เตียง​หอ​ที่​ปู​ไว้​ด้วย​ผ้าแดง​สีเข้ม​สีอ่อน​ ​กำลัง​มอง​เลือด​ที่​ไหล​ออกจาก​ตัว​ของ​จู​จื่อ​อวี​้​ค่อยๆ​ ​ปะปน​ผสม​เข้าด้วยกัน​กับ​สีแดง​เหล่านั้น

สี​นี้​ช่าง​สวยสด​งดงาม​จริงๆ

​ชุย​หมิง​เย​่ว​์​อด​ไม่ได้​จึง​ยื่นมือ​ออก​ไป​แตะ​เลือด​ขึ้น​มาชิม

​เทียน​มงคล​มังกร​คู่​หงส์​ที่​หนา​เพียง​นิ้ว​ของ​เด็ก​ ​ยังคง​ลุกไหม้​อยู่​อย่างนั้น​ ​ข้างนอก​หน้าต่าง​เงียบสงบ​ไร้​เสียง​ใด

​อีก​ไม่​กี่​วัน​ก็​จะ​เป็น​วัน​ไหว้พระ​จันทร์​แล้ว

​ครอบครัว​พร้อมหน้าพร้อมตา​ ​ครัวเรือน​นับ​หมื่น​ยินดี​ปรีดา

​ชุย​หมิง​เย​่ว​์​ถอนหายใจ​ ​อ้อม​ผ่าน​คราบเลือด​แล้ว​ลง​จาก​เตียง

​นาง​ไม่ได้​อยาก​ให้​เป็น​เช่นนี้​ ​หากว่า​จู​จื่อ​อวี​้​ไม่​ก่อความวุ่นวาย​ ​แล้ว​ให้​นาง​ได้​เป็น​พระ​ชายา​เซียง​อ๋อง​ดี​ๆ​ ​ต่าง​ฝ่าย​ต่าง​ก็​จะ​มีความสุข​มิใช่​หรือ

​ชุย​หมิง​เย​่ว​์​ถอนหายใจ​อีกครั้ง​ ​พลาง​รู้สึก​เสียดาย​เล็กน้อย

​เสียดาย​ที่นาง​โดดเดี่ยว​ไม่มี​กำลัง​ ​ไม่​สามารถ​จัดการ​หญิง​ชั่ว​แซ่เจียง​ได้

​หาก​พูดถึง​ความเกลียด​ ​คนที​่​นาง​เกลียด​ที่สุด​ในเวลานี้​ก็​คือ​เจียง​ซื่อ

เจียง​ซื่อ​เป็น​คนวางแผน​เรื่อง​ของ​จู​จื่อ​อวี​้​แน่ๆ​!

​นาง​ไม่มี​หลักฐาน​ ​แต่​นาง​เชื่อ​ใน​สัญชาตญาณ​ของ​ตัวเอง

​คง​เป็น​เพราะ​มีชีวิต​มา​แล้ว​สิบ​กว่า​ปี​ ​มีส​ตรี​มากมาย​เพียงนี้​ ​นี่​เป็นครั้งแรก​ที่นาง​สัมผัส​ได้​ถึง​ลมหายใจ​แห่ง​การแข่งขัน​จาก​คน​ๆ​ ​หนึ่ง

​วิญญูชน​สิบ​ปี​ล้างแค้น​ยัง​ไม่​สาย​ ​ขอ​เพียง​นาง​ยัง​มีชีวิต​ ​วันที่​คิดบัญชี​จะ​ต้อง​มาถึง​ใน​สักวัน

​ชุย​หมิง​เย​่ว​์​พัก​ไป​อีก​ครู่หนึ่ง​แล้ว​ถอด​ชุดแต่งงาน​ที่​ยุ่งยาก​ออก​โดยเร็ว​ ​นาง​ก้มลง​หยิบ​กระเป๋า​เล็ก​ๆ​ ​อัน​หนึ่ง​ออกมา​จาก​ใต้​เตียง​แล้ว​เปิด​หน้าต่าง​เบา​ๆ

​ค่ำคืน​ของ​เดือน​แปด​ ​ลม​พัดเย็น​เล็กน้อย​ ​พัด​จน​นาง​รู้สึก​ตื่นตัว

​นาง​ยืน​อยู่​ข้างต้น​กล้วย​กอ​หนึ่ง​ด้านนอก​หน้าต่าง​ ​ชุย​หมิง​เย​่ว​์​มอง​เข้าไป​ด้านใน​หนึ่ง​ที

​ผู้ชาย​บน​เตียง​หอนอน​ใน​ท่า​ตะแคง​ ​ดูเหมือน​คน​กำลัง​นอนหลับ

​สีหน้า​ของ​นาง​ไม่มี​การเปลี่ยนแปลง​ใดๆ​ ​นาง​ปิดหน้า​ต่าง​ลง​อย่างระมัดระวัง​และ​แฝงตัว​เป็นหนึ่งเดียว​กับ​ความมืด

​ชุย​หมิง​เย​่ว​์​มีวิชา​ติดตัว​เล็กน้อย​ ​ต่อให้​ตัว​คนเดียว​นาง​ก็​ไม่​กลัว​ ​นาง​หนี​ออกจาก​เรือน​เล็ก​ๆ​ ​ได้​อย่างราบรื่น

​บน​ทาง​ถนน​ไม่มีใคร​ ​มี​เพียง​โคมไฟ​สีแดง​หน้า​ประตู​เรือน​ที่​ยังคง​ส่องแสง​สลัว

​ชุย​หมิง​เย​่ว​์​รวบ​ผม​ขึ้น​ ​ฝ่าเท้า​หันไป​ทาง​หนึ่ง​และ​เริ่ม​ก้าว​ออก​ไป

​ด้านหน้า​เป็น​ทาง​เลี้ยว​ทาง​หนึ่ง​ ​ตอนที่​นาง​เดิน​มาถึง​ ​มี​มือหนึ่ง​ยื่น​ออกมา​เงียบๆ

[1] ​เหนียง​จื่อ ​คำ​ใช้​เรียก​ภรรยา​ของ​สามัญชน

[2]ออกเรือน​กับ​ไก่​ก็​อยู่​ตาม​ไก่​ ​ออกเรือน​กับ​สุนัข​ก็​อยู่​ตาม​สุนัข ​เป็น​สำนวน​ที่​มีความหมาย​ว่า​ ​ไม่ว่า​สามี​จะ​ดีร้าย​อย่างไร​ ​ภรรยา​ก็​ต้อง​คล้อยตาม​สามี​ ​เชื่อฟัง​สามี​