ตอนที่ 380

Great Doctor Ling Ran

EP 380

By loop

หลิงรันไม่สามารถทนรอลิฟต์ได้ ดังนั้นเขาจึงวิ่งลงไปบันไดอย่างรวดเร็วผ่านทางหนีไฟ

แม้ว่าเขาจะเคยทำการผ่าตัดมาเป็นเวลาเกือบหนึ่งปีแล้ว แต่การผ่าตัดไส้ติ่งถือเป็นเรื่องใหม่ที่ล่อใจหลิงรันมากในตอนนี้

ในความเป็นจริงสำหรับศัลยแพทย์, การมีเคสผ่าตัดไส้ติ่งนั้นถือเป็นลางดีสำหรับพวกศัลยแพทย์มากๆ

หากการผ่าตัดเป็นตัวแทนของการแพทย์แผนปัจจุบันสำหรับการผ่าตัดไส่ติ่งเองก็เหมือนตัวแทนของการแพทย์สมัยใหม่

เพราะการผ่าตัดไส้ติ่งเป็นผลมาจากการศึกษาทางการแพทย์ที่ทันสมัยในยุคปัจจุบัน

การผ่าตัดครั้งแรกของเด็กฝึกงานหลายคนนั้นอาจเป็นการผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน

แต่สำหรับหลิงรันแล้วเขาไม่เคยผ่าตัดไส้ติ่งมาก่อน หลิงรันเริ่มต้นด้วยการผ่าตัดนิวเชื่อมนิ้วมือแทนแทน อันที่จริงแล้วการผ่าตัดเช่นนี้ทำให้เขาอาจะหลุดจากเส้นทางการเป็นศัลยแพทย์ไปเล็กน้อย

อย่างไรก็ตามยังไงหลิงรันก็ยังอยู่บนเส้นทางของการเป็นศัลยแพทย์อยู่ นี่ถึงแม้จะแตกต่างจากเด็กฝึกงานปกติที่ต้องทำการผ่าตัดมาราวๆร้อยครั้งแต่การผ่าตัดของหลิงรันอาจมากกว่า 1 หมื่นครั้งแล้วหรือไม่ก็อาจมากกว่า 1 แสนครั้ง

ณ ห้องฉุกเฉินคนหนุ่มสาวสองคนกอดกันและกระซิบตกระซากไปมา หากถ้ามองใกล้ก็คงคิดว่าสองคนนี้กำลังจูบกันอยู่

เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์สองสามคนจากแผนกฉุกเฉินที่คนหนึ่งกำลังมองเขาไปที่ผู้ป่วยโดยไม่รู้ว่านั้นคือผู้ป่วยที่มีอาการไส้ติ่งอักเสบ ผู้ป่วยไม่มีแรงแม้กระทั้งจะพูดออกมา

“สองคนนั้นเป็นผู้ป่วยอย่างงั้นหรอ” หลิงรันเดินมาถึงด้านหลังหมอโจวโดยไม่ได้ส่งเสียงใดๆเขาเห็นคนสองคนนอนเรียงกันอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลและคอยกระซิบต่อกันโดยไม่รบกวนคนรอบข้าง

หมอโจวตกใจมากจนเขาร้องเอ๋งออกมา เขาตบหน้าอกของตัวเอง “นายมาไม่ให้ซุ่มให้เสียง ฉันหัวใจเกือบจะวายแล้ว”

ไอ่าวคุณเป็นโรคหัวใจหรอ?” หลิงรันมองไปที่หน้าอกของหมอโจวอย่างครุ่นคิด เขารู้สึกว่าด้วยทักษะในปัจจุบันของเขาเขาสามารถมีโอกาสเรียนรู้ทักษะที่เกี่ยวข้องกับหัวใจก่อนที่หมอโจวจะพบว่าตัวเองมีอาการโรคหัวใจวายได้ ในเวลานั้นบางทีเขาอาจมีโอกาสได้เปิดหน้าอกของหมอโจว

“ทำไมนายถึงจ้องฉันอย่างงั้นกันเหล่า” หมอโจวรู้สึกกลัวเมื่อเห็นการแสดงออกของหลิงรัน เขากล่าวอย่างรวดเร็วว่า “คนที่ทุกข์ทรมานจากไส้ติ่งอักเสบคือคู่รักที่กำลังติดเชื้อพีดีเออยู่ที่นั่น”

หลิงรันพยักหน้า “ตอนนี้พวกเขาต่อสายน้ำเกลือใช่ไหม แล้วเขาจะถูกส่งไปยังห้องผ่าตัดเลยไหม”

หมอโจวหัวเราะเบา ๆ และพูดว่า “พวกเขาจะยินดีไปห้องผ่าตัด แต่พวกเขาขอตกลงกันก่อน”

ในขณะที่เขาพูดหมอโจวเพิ่มระดับเสียงและพูดว่า “สวัสดีครับคุณผู้ป่วยทั้งสอง ท้องสองได้ตกลงกันแล้วใช่ไหม?

คนหนุ่มสาวสองคนก็เพิ่มเสียงของพวกเขาเช่นกัน

“คุณต้องทำการผ่าตัดก่อน”

“ไม่คุณทำได้ก่อน”

“คุณทำมันก่อนฉันจะทำตามคุณ”

“ไม่ฉันจะทำมันหลังจากคุณเสร็จ!”

การสนทนาระหว่างคนสองคนนี้ทำให้แพทย์ที่อยู่แถวนั้นถึงกับสับสน

“พวกเขายังคุยกันว่าใครจะไปก่อน”

“เรามีห้องผ่าตัดสองแห่งใช่มั้ย”

“นี้พวกเขาทั้งสองตกลงแล้วต้องการผ่าตัดจริงๆไหม”

หมอโจวโบกมือที่หลิงรันและพูดว่า “นี่คือสถานการณ์ตอนนี้พวกเขาทั้งคู่ยังคงโต้เถียงกันว่าใครจะทำศัลยกรรมก่อนพวกเขายังไม่ได้ลงนามในแบบฟอร์มแสดงความยินยอม”

“ใครครไหนที่มีอาการรุนแรงกว่ากัน” หลิงรันถาม

“น่าจะเป็นผู้หญิง” คุณหมอโจวมองไปที่เด็กผู้หญิงที่ดูสงบแล้วพูดว่า “หญิงสาวคนนี้สามารถทนต่อความเจ็บปวดในการผ่าตัดเอาไส้ติ่งออกได้มากกว่าผู้ชายมาก สำหรับการผ่าตัดโดยทั่วไป”

หลิงรัน ขมวดคิ้วและถามอย่างไม่เต็มใจ “คุณต้องการผ่าตัดอื่นหรือไม่จากนั้นเราสามารถทำการผ่าตัดทั้งสองในเวลาเดียวกัน”

“ ฉันบอกพวกเขาพวกเขาต้องการให้หมอผ่าตัดคนเดียวกัน” หมอโจวหยุดครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะพูดว่า “นายต้องการทราบเหตุผลหรือไม่”

“มันคืออะไร?”

“ พวกเขาคิดว่าแผลและเย็บแผลที่ดำเนินการโดยแพทย์คนเดียวกันจะคล้ายกันดังนั้นพวกเขาจึงต้องการให้หมอคนเดียวกันทำการผ่าตัดไส้ติ่งเพื่อที่จะได้รับ ‘แผลผ่าตัด‘” หมอโจวรู้สึกเบื่อหน่ายเมื่อเขาพูด .

หลิงรัน ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ผมเข้าใจแล้วผมจะทำการผ่าตัดให้ทั้งคู่ และผมสัญญาว่าจะทำให้แผลเป็นนั้นเหมือนกัน”

หลังจากที่เขาพูดอย่างนั้นหลิงรันก็เดินไปข้างหน้าแล้วพูดว่า “สวัสดีผมคือหลิงรัน ผมจะมาทำการผ่าตัดกับคุณทั้งคู่อนุญาตให้ผมไปตรวจร่างกายกับคุณทั้งคู่ก่อน”

หลิงรันเดินแยกทางคู่หนุ่มสาวและตรวจร่างกายพวกเขา นอกจากนี้เขายังทำการทดสอบความอ่อนโยน(ความเสี่ยงหลังการผ่าตัด) ที่ตามจุดของแมคเบรินเนอร์(ตัวชี้วัดการผ่าตัด) ทำให้หลิงโล่งใจเป็นอย่างมาก

เมื่อการถ่ายภาพทางการแพทย์ไม่สามารถใช้ได้เมื่อความเจ็บปวดในระดับอวัยวยะและความอ่อนโยนตอบสนองจะถูกกำหนดที่จุดแมกเบริ้นเน้อ แพทย์ก็สามารถมั่นใจได้ว่าผู้ป่วยที่มีไส้ติ่งอักเสบ

หลิงรันยังคงตรวจร่างกายเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีอาการอื่นใดที่จะเชื่อมโยงพวกเขาไปสู่โรคแทรกซ้อนกับไส้ติ่งอักเสบ ในเวลาเดียวกันเขาก็ถามคำถามพวกนี้ด้วย “คุณต้องการผ่าตัดทั่วไปหรือการผ่าตัดแบบส่องกล้องหรือไม่?”

หลิงรันมีทักษะการผ่าตัดไส้ติ่งระดับเชียวชาญซึ่งเป็นทักษะขั้นพื้นบานของศัลยแพทย์ ขอบเขตของทักษะนั้นมี จำกัด ดังนั้นจะมีผลเฉพาะกับไส้ติ่งอักเสบ

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่การผ่าตัดไส้ติ่ง แต่หลิงรันก็มีความคิดสร้างสรรค์ที่ทำขึ้นหลายแผนในเวลาเดียวกัน

แน่นอนว่าแผนบางอย่างเช่นแผลผ่าตัดไส้ติ่งที่มีแผลขนาดใหญ่นั้นล้าสมัยเกินไปและไม่มีความหมายใด ๆ ที่จะใช้มันอีกต่อไป ตอนนี้โดยทั่วไปไม่มีใครเลือกที่จะใช้วิธีการเหล่านั้น

เด็กชายมองไปที่หญิงสาวแล้วพูดว่า “คุณเลือกเอง”

“คุณเลือกมัน”

“ฉันจะให้คุณเลือกเวลานี้ฉันเป็นผู้ชายฉันไม่รังเกียจที่จะทำแผลแบบใด”

“ฉัน … ” หญิงสาวคนนั้นลังเลก่อนที่เธอจะถามว่า “ความแตกต่างคืออะไร”

“ให้ผมอธิบายให้ครับ” หมอโจวรู้ว่าหลิงรันไม่ชอบสื่อสารกับผู้ป่วยโดยตรง เขาออกมาข้างหน้าแล้วพูดว่า “หลิงรันนายสามารถไปเตรียมอุปกรณ์ได้ก่อนเลย”

ไม่ว่าจะเป็นแผลเล็ก ๆ หรือการส่องกล้องพวกเขาทั้งหมดถูกมองว่าเป็นการผ่าตัดเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับโรงพยาบาลเช่นโรงพยาบาลหยุนหัว ไม่จำเป็นต้องมีคำแนะนำก่อนการผ่าตัดสำหรับศัลยแพทย์ก่อนการผ่าตัด

หลิงรันถามว่า “คุณกำลังจะเข้าไปห้องผ่าตัดกับผมไหม”

“ใช่ฉันต้องเข้าไปอยู่แล้ว” หมอโจวถอนหายใจและอธิบายให้ผู้ป่วยสองรายทราบถึงความแตกต่างในวิธีการผ่าตัด

หลิงรันรู้สึกปลอดภัยขึ้นเล็กน้อย

แม้ว่าเขาจะได้รับทักษะในการผ่าตัดไส้ติ่ง แต่เขาไม่เคยใช้มันมาก่อน นอกจากนี้เมื่อเปรียบเทียบกับการผ่าตัดที่เกี่ยวข้องกับการผ่าตัดแขนขาแล้ว ความเสี่ยงในการผ่าตัดช่องท้องนั้นมีมากกว่า

หลิงรันรู้เรื่องไส้ติ่งในทางทฤษฎีเท่านั้นดังนั้นเขาจึงต้องการแพทย์ที่มีประสบการณ์มาก เพื่อแนะนำเขาตลอดการผ่าตัด

แม้ความจริงที่ว่าหมอโจวขี้เกียจมาก แต่เขาก็ยังค่อนข้างดีเมื่อมาถึงการรักษาฉุกเฉิน

หลิงรันหันกลับไปที่ห้องปฏิบัติการ และเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดของเขาและขัดผิว

จากนั้นเขากลับไปที่ห้องผ่าตัดและรออย่างอดทน ผู้ป่วยเพศหญิงถูกเลื่อนเข้ามาก่อน

“แผลเล็ก ๆ หญิงสาวคนนั้นเป็นคนแรก” หมอโจวพูดกับหลิงรันแล้วเขาก็ดูรายการในมือของเขา เขาถามว่า “ชื่อของคุณ?”

“เหม่ยเฉียวชิง” หญิงสาวประคองหน้าท้องของเธอและดูเหมือนจะเจ็บปวดเล็กน้อย

“นอนลง” หมอโจวตอบกลับและดูที่หลิงรัน

“วางเธอไว้ที่เตียง” หลิงรันถือมือของเขาไว้สูงขณะที่รอข้าง

วิสัญญีแพทย์ใช้ยาระงับความรู้สึกปวดที่ใช้เป็นประจำหรือสิ่งที่เป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่าเป็นยาชาตรงกระดูกสันหลัง

ในขณะเดียวกันด้วยความอยากรู้อยากเห็นในหัวใจของเขาหลิงรันที่มองดูหมอโจวและพยาบาลในการเตรียมความพร้อมผู้ป่วย

หลังจากสองนาทีหลิงรันดูจุดแมคเบรินเนอร์ที่ถูกเปิดเผย

หากไส้ติ่งถูกพิจารณาว่าในปัจจุบันมันไม่มีความจำเป็นกับมนุษย์แล้ว แต่การผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบเป็นการผ่าตัดที่จะเปิดประตูสู่โลกแห่งการผ่าตัดให้กับพวกหมอรุ่นใหม่

“มีดผ่าตัด.” เสียงของหลิงรันนั้นหนักแน่นและชัดเจน

* ตบ *

เสียงของมีดผ่าตัดอยู่ในมือของเขาดังกว่าปกติเล็กน้อย มันเป็นเพราะพยาบาลตอนนี้มีความกังวลเล็กหน่อย

หลิงรันไม่ได้ขมวดคิ้ว มีดผ่าตัดถูกกดเข้าไปในผิวหนังด้วยแบบเบาๆและหลิงรันตัดตามแนวเหนือจุดแมคแมคเบรินเนอร์บนท้อง

คุณหมอโจวมีความมั่นใจในหลิงรันอยู่เสมอและเมื่อเขาเห็นสิ่งนี้เขาก็สบายใจมากยิ่งขึ้น เขายิ้มและเริ่มการสนทนาใหม่ “หญิงสาวนั่นคือแฟนของคุณที่กำลังรอคุณอยู่ข้างนอก”

“ใช่ … ” เสียงของผู้ป่วยอ่อนแอ

“นี่เป็นครั้งแรกที่คุณได้รับการผ่าตัดหรือไม่”

“ใช่…”

“ไม่ต้องกังวลถ้าคุณยังไงการคลอดลูกครั้งต่อไป คุณก็จะต้องทำมัน คุณอาจจำเป็นต้องผ่าตัดคลอดได้ทุกเมื่อด้วยประสบการณ์นี้มันจะง่ายขึ้นสำหรับคุณในครั้งต่อไป”

ผู้ป่วยตอบด้วยความเงียบ

คุณหมอโจวรู้ว่าหลิงรันไม่ได้พูดคุยกันมากเขาจึงสามารถพูดคุยกับผู้ป่วยได้เท่านั้น “คุณไปทานบุฟเฟ่มาเมื่อวานนี้หรอ?

ผู้ป่วยนอนอยู่บนโต๊ะผ่าตัดและไม่เข้าใจเหตุผลที่แพทย์ถามสิ่งนี้ เธอตอบอย่างจริงจังว่า“ พวกเรากินกุ้งหลังเทามา, หอยเชลล์, หอยเป๋าฮื้อและซาชิมิปลาแซลมอน”

“คุณยังทานซาซิมิ? บุฟเฟ่ต์ที่คุณทานต้องแพงมากๆ”

“299 หยวนต่อคน” หญิงสาวพยักหน้าในขณะที่รู้สึกเจ็บปวดใจของเธอเจ็บปวดด้วยจำนวนเงินที่เธอใช้

“299 หยวนจากนั้นคุณคงไม่ได้กินมันน้อยๆสินะ”

“มันยังมีกั้งเนื้อวัวย่างหมูสับย่างและไก่ทอด”

“มีอะไรอีกไหม”

“เม่นทะเลหอยนางรมดิบปูกุ้งสีแดงขนาดใหญ่และเราก็ดื่มเบียร์ด้วย … ” เด็กหญิงคนนั้นค่อยๆคุ้นเคยกับการท่องรายการของเธอและเริ่มนึกถึงสิ่งที่เธอกินด้วยเสียงราวกับว่าเธอกำลังสวดมนต์ “ลิ้นวัว สุก, ตั๊กแตนตำข้าว, ชิ้นบัว, คัสตาร์, เต้าหู้, เห็ดอิโนอิ, หัวหอม, หอย, หอยแม่น้ำ, เค้กช็อคโกแลต, เค้กเนย … “

หมอโจวฟังเธอท่องรายการของเธอเป็นเวลาสองนาที เขาถอนหายใจแล้วพูดว่า “มันคุ้มค่า”

“ฮะ?” หญิงสาวไม่ได้ยินเขาครั้งแรก

คุณหมอโจวพูดและถามว่า “ร้านอาหารชื่อร้านอะไร”