ตอนที่ 457 ยื่นมติไม่ไว้วางใจ

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

ผู้​ที่​ทราบ​ข่าว​ก่อน​ก็​คือ​ฉี​อ๋อง

“​เจ้า​เจ็ด​นั้น​มีนิ​สัย​เอาแต่ใจ​ ​แต่​ไม่​นึก​เลย​ว่า​ภรรยา​ของ​เจ้า​เจ็ด​ก็​เอาแต่ใจ​ด้วย​เช่นกัน​”​ ​เมื่อ​อยู่​ต่อหน้า​คนสนิท​ ​ฉี​อ๋อง​จึง​พูด​ออกมา​โดย​ไร้ค​วาม​กังวล​พร้อมกับ​รอยยิ้ม

เสนาธิการ​พูดเส​ริม​ ​“​พระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​เทียบ​ไม่ได้​กับ​พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​ที่​ทั้ง​ใฝ่​คุณธรรม​ ​อ่อนโยน​และ​อยู่​ใน​ระเบียบ​”

ใบหน้า​ของ​ฉี​อ๋อง​ไม่​แสดง​ความรู้สึก​อะไร​ออกมา​ ​ทว่า​ใน​ใจ​กลับ​รู้สึก​เบื่อหน่าย​ขึ้น​มาค​รู่​หนึ่ง

สตรีที​่​หน้าตา​สวยสด​งดงาม​เอาแต่ใจ​เล็กน้อย​ยัง​พอให้​อภัย​ได้​ ​ส่วน​ภรรยา​ของ​เขา​หน้าตา​ธรรมดา​สามัญ​ก็​ควรจะ​มี​ข้อดี​ด้าน​อื่น​ ​ใฝ่​คุณธรรม​ ​อ่อนโยน​และ​อยู่​ใน​ระเบียบ​?​ ​ข้อดี​เหล่านี้​สตรี​คน​ไหน​บ้าง​ที่​ไม่มี​!

ฉี​อ๋อง​มี​ความคิด​พวก​นี้​แวบ​ผ่าน​ขึ้น​มา​ใน​ใจ​ ​ทว่า​กลับ​พูด​ขึ้น​ ​“​ที่​ท่าน​พูด​ก็​ถูก​ ​ได้​ภรรยา​เช่นนี้​ ​นับว่า​เป็น​โชคดี​ของ​ข้า​”

เสนาธิการ​รู้สึก​ตื่นเต้น​ขึ้น​มา​ ​จึง​รีบ​เอ่ย​ชม​ฉี​อ๋อง

“​ท่าน​อ๋อง​ไม่ได้​คิด​ว่าความ​งาม​นั้น​เป็น​สิ่ง​สำคัญ​ ​แน่นอน​ว่านี​่​เป็น​สิ่ง​ที่​ดีมาก​ ​ข้า​สามารถ​ติดตาม​เจ้านาย​เช่นนี้​ได้​ ​ในอนาคต​น้ำขึ้น​เรือ​ย่อม​สูง​ ​ข้า​ต้อง​พลอย​ได้ดี​ด้วย​เป็นแน่​…​”

คำชื่น​ชม​พวก​นี้​ฉี​อ๋อง​ได้ยิน​จน​ชิน​แล้ว​ ​พูด​จบ​จึง​ยิ้ม​ออกมา​มาด​นิ่ง​ ​แล้ว​เอ่ย​พูด​ด้วย​ความ​ถ่อมตัว​ออกมา​เล็กน้อย

เสนาธิการ​ตา​เป็นประกาย​ออกมา​ ​พลาง​เอ่ย​ขึ้น​ ​“​ท่าน​อ๋อง​ ​พระ​ชายา​ของ​เยี​่​ยน​อ๋อง​ทำตัว​เสียมารยาท​เช่นนี้​ ​ท่าน​ว่า​ต้อง​…​”

ฉี​อ๋อง​ลูบ​แหวน​หยก​ที่​สวม​อยู่​บน​นิ้วหัวแม่มือ​พร้อมกับ​ส่ายหน้า​ ​“​ข้า​กับ​เยี​่​ยน​อ๋อง​เป็น​พี่น้อง​แม่​เดียวกัน​ ​ภรรยา​ของ​เยี​่​ยน​อ๋อง​ไม่รู้​ว่า​อะไร​ควร​มิค​วร​ ​กลับ​ไปหา​โอกาส​เตือน​เป็นการ​ส่วนตัว​ก็​พอแล้ว​ ​ไม่จำเป็น​ต้อง​ทำให้​เป็นเรื่อง​ใหญ่​”

เสนาธิการ​รีบ​พูด​ประจบสอพลอ​ ​“​ท่าน​อ๋อง​ช่าง​มี​จิตใจ​เมตตากรุณา​…​”

“​ท่าน​ชม​เกินไป​แล้ว​”

หลังจากที่​เสนาธิการ​กลับ​ไป​ ​ห้อง​ตำรา​ก็​เงียบเหงา​ ​เหลือ​เพียงแค่​ฉี​อ๋อง​นั่ง​อยู่​เงียบๆ​ ​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ลุก​ออกจาก​เก้าอี้​เตี้ย​ตัว​หนึ่ง​ไป​ที่​หน้าต่าง

เมื่อ​เปิด​หน้าต่าง​ออก​ ​ภาพ​ที่​เห็น​อยู่​ตรงหน้า​คือ​ค่ำคืน​ช่วง​ปลาย​ฤดูใบไม้ร่วง​ ​มัน​ทั้ง​เยือกเย็น​และ​เงียบเหงา

ฉี​อ๋อง​อมยิ้ม​ขึ้น​มา

การ​รับมือ​กับ​เจ้า​เจ็ด​ ​ไม่จำเป็น​ต้อง​ให้​เขา​ลงมือ​เอง​หรอก​ ​มีพี​่​น้อง​อีก​ตั้ง​หลาย​คนที​่​คอย​ทำแทน

อย่างเช่น​เจ้า​ห้า​ที่​อารมณ์ร้อน​ ​เจ้า​หก​ที่​ถูก​เปรียบเทียบ​การ​แต่งงาน​กับ​เจ้า​เจ็ด​เนื่องจาก​วัน​แต่งงาน​ใกล้​กัน​ ​และ​องค์​รัชทายาท​ผู้​โง่เขลา​…

รอ​จน​เจ้า​เจ็ด​ตก​อยู่​ใน​สถานการณ์​ที่​ใคร​ก็​อยาก​จะ​รุม​ ​เขา​เสนอหน้า​ออก​ไป​ช่วย​นิดหน่อย​ ​เจ้า​เจ็ด​จะ​ไม่​ขอบคุณ​ ​แล้ว​หันมา​สนับสนุน​เขา​ได้​อย่างไร

พอ​ฉี​อ๋อง​คิด​เรื่อง​พวก​นี้​ ​ก็​ยิ้ม​กว้าง​ออกมา

……

ภายใน​จวน​หลู่​อ๋อง​

หลังจากที่​หลู่​อ๋อง​ทราบ​ข่าว​ก็​รู้สึก​ดีอกดีใจ​มาก​ ​จึง​ตบ​ฉาด​ลง​บน​โต๊ะ​อย่างแรง​ ​“​ดี​เสีย​จริง​ ​ครั้งนี้​ถือว่า​เจ้า​เจ็ด​ซวย​แล้ว​!​”

“​ซวย​อะไร​”​ ​พระ​ชายา​หลู่​อ๋อง​ก้าว​ข้าม​ธรณีประตู​เข้ามา​ ​ได้ยิน​อยู่​ประโยค​หนึ่ง

หลู่​อ๋อง​ขมวดคิ้ว​ขึ้น​ ​“​ทำไม​ถึง​ไม่​เคาะ​ประตู​ก่อน​เข้ามา​ใน​ห้อง​ตำรา​”

ภรรยา​ผู้​อำมหิต​คน​นี้​ ​นับวัน​ยิ่ง​ไร้มารยาท

พระ​ชายา​หลู่​อ๋อง​เหล่​ตาม​อง​เสนาธิการ​ที่อยู่​ใน​ห้อง​ตำรา​ ​พลาง​เอ่ย​เชิญ​เขา​ออก​ไป​อย่าง​สุภาพ​ ​จากนั้น​เอ่ย​พูด​น้ำเสียง​เย็นชา​ ​“​เป็นการ​ตรวจ​กะทันหัน​”

เมื่อ​หลู่​อ๋อง​ได้ยิน​ก็​ทำ​หน้า​ขรึม​ทันที​ ​พร้อมกับ​พับ​แขน​เสื้อ​ขึ้น​เป็น​เชิง​อยาก​จะ​คุย​ด้วยดี​ๆ

หาก​คนธรรมดา​ทั่วไป​มี​ภรรยา​เช่นนี้​คงอยู่​ไม่ได้​แน่​ ​ปกติ​จับตาดู​เขา​ก็​พอแล้ว​ ​เขา​ก็​แค่​แอบ​จับเนื้อต้องตัว​บ่าว​ใน​ห้อง​ตำรา​เอง​ ​ไม่​นึก​เลย​ว่า​จะ​ถูก​ภรรยา​ที่​น่ารำคาญ​ผู้​นี้​ถือ​มีด​พร้อมกับ​ถีบ​ประตูเข้า​มา

หลังจากนั้น​เป็นต้นมา​ ​สาว​รับใช้​ที่​หน้าตา​สะสวย​เนื้อตัว​อบอวล​ไป​ด้วย​กลิ่นหอม​ก็​ถูก​เปลี่ยนเป็น​ชาย​ชรา​ใบหน้า​เต็มไปด้วย​รอย​เหี่ยว​ย่น​ ​แม้แต่​เด็กรับใช้​ที่​หน้าตา​จิ้มลิ้ม​ก็​ไม่​ให้​เขา​เรียก​ใช้

พอคิด​ถึง​เรื่อง​พวก​นี้​ ​หลู่​อ๋อง​ก็​โกรธ​จน​กัดฟัน​กรอด​ ​พร้อมกับ​เอ่ย​พูด​สีหน้า​ขรึม​ ​“​ทำเกินไป​แล้ว​นะ​!​”

พระ​ชายา​หลู่​อ๋อง​แอบ​หยิบ​มีด​หั่น​ผัก​ออกมา​จาก​อ้อมอก​หนึ่ง​ด้าม​ ​ถือ​ไว้​ใน​มือ​ ​อมยิ้ม​พลาง​เอ่ย​ถาม​ ​“​ท่าน​อ๋อง​บอกว่า​ข้า​ทำเกินไป​งั้น​รึ​”

หลู่​อ๋อง​กระโดด​ตัว​โยน​ ​ความโกรธ​มลาย​หาย​ไป​ทันที​ ​“​มีเรื่อง​อะไร​จะ​พูด​ก็​คุย​กัน​สิ​ ​อยู่ดีๆ​ ​จะ​หยิบ​มีด​หั่น​ผัก​ออกมา​ทำไม​กัน​”

ภรรยา​ผู้​นี้​ช่างกล​้า​ถือ​มีด​หั่น​ผัก​มาไล​่​ฆ่า​เขา​ ​หาก​เรื่อง​นี้​แพร่งพราย​ออก​ไป​ต้อง​ขายหน้า​แย่​แน่

พระ​ชายา​หลู่​อ๋อง​เก็บ​มีด​หั่น​ผัก​ลง​ ​แล้ว​เอ่ย​ถาม​ออก​ไป​ ​“​เมื่อ​ครู่​ท่าน​อ๋อง​พูดว่า​ใคร​ซวย​”

“​ข้า​พูดว่า​เจ้า​เจ็ด​”​ ​หลู่​อ๋อง​เล่า​สิ่ง​ที่​ได้ยิน​มา​ให้พระ​ชายา​หลู่​อ๋อง​ฟัง

พระ​ชายา​หลู่​อ๋อง​พูด​พึมพำ​ออกมา​ ​“​พระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​เอาแต่ใจ​เสีย​จริง​”

หลู่​อ๋อง​หัวเราะเยาะ​ออกมา​ ​“​เจ้า​เจ็ด​ผู้​โง่เขลา​ ​อยู่​กับ​ข้า​ดี​ๆ​ ​ไม่ได้​ ​ตอนนี้​ถึงคราว​ซวย​ของ​เจ้า​แล้ว​!​”

“​ท่าน​อ๋อง​คิด​จะ​ทำ​อะไร​”​ ​พระ​ชายา​หลู่​อ๋อง​พูด​อย่างระมัดระวัง

“​ก็​ต้อง​ไปหา​พวก​ขุนนาง​เพื่อ​ยื่น​มติ​ไม่ไว้วางใจ​เจ้า​เจ็ด​สักหน่อย​”​ ​หลู่​อ๋อง​ลูบ​กำปั้น​ ​นึกถึง​สภาพ​คู่สามีภรรยา​เยี​่​ยน​อ๋อง​ซวย​เพราะ​ถูก​ขุนนาง​ยื่น​มติ​ไม่ไว้วางใจ

พระ​ชายา​หลู่​อ๋อง​เบิกตา​โพลง​จ้อง​หลู่​อ๋อง​ ​“​ท่าน​อ๋อง​ ​เรื่อง​พวก​นี้​พวกเรา​ไม่​ควรจะ​เข้าไป​ยุ่ง​จะ​ดีกว่า​”

หลู่​อ๋อง​มอง​กลับ​อย่าง​ไม่ยอม

หา​ได้​ยาก​ที่​พระ​ชายา​หลู่​อ๋อง​จะ​อ่อน​เสียง​ลง​ ​“​ถือว่า​คู่สามีภรรยา​เยี​่​ยน​อ๋อง​โชคร้าย​ไป​ ​และ​มัน​ก็​ไม่มี​ประโยชน์​อะไร​กับ​พวกเรา​ ​ท่าน​อ๋อง​ทำไม​ต้อง​ทำให้​ผู้อื่น​เสียหาย​ ​แล้ว​ตัวเอง​ก็​ไม่ได้​ประโยชน์​ด้วย​เล่า​”

“​ใคร​บอกว่า​ไม่มี​ประโยชน์​กัน​ ​เห็น​เจ้า​เจ็ด​โชคร้าย​ ​ข้า​ดีใจ​ยิ่งนัก​”

“​อย่างไรก็ตาม​ท่าน​อ๋อง​อย่า​ได้​เข้าไป​ยุ่ง​เรื่อง​นี้​ ​ไม่แน่​ที่​พระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​ทำ​เช่นนี้​อาจจะ​มีเหตุผล​ส่วนตัว​ก็ได้​”

“​จะ​มีเหตุผล​ส่วนตัว​อะไร​ ​ก็​แค่​ไม่รู้​จัก​กาลเทศะ​ ​ไม่รู้​จัก​ที่ต่ำที่สูง​”​ ​หลู่​อ๋อง​พูด​กับ​พระ​ชายา​หลู่​อ๋อง​อย่าง​ไม่เห็นด้วย

พระ​ชายา​หลู่​อ๋อง​หยิบ​มีด​หั่น​ผัก​ออกมา​เงียบๆ

พอ​มอง​จ้อง​ไป​ที่​มีด​หั่น​ผัก​ที่​ส่อง​ประกาย​แวววับ​ออกมา​ ​หลู่​อ๋อง​จึง​เงียบ​ไป​สักพัก​ ​แล้ว​ลุกขึ้น​ยืน​เพราะ​อยู่​อย่าง​ไม่​เป็นสุข​ ​“​ช่างเถอะ​ ​สตรี​นี่​เรื่องมาก​วุ่นวาย​เสีย​จริง​!​”

เขา​ผลัก​ประตูออก​ไป​ด้วย​ความโมโห​ ​จากนั้น​ก็​หันหลัง​กลับมา​โดยพลัน​ ​“​นี่​มัน​ห้อง​ตำรา​ของ​ข้า​!​”

พระ​ชายา​หลู่​อ๋อง​หยิบ​มีด​หั่น​ผัก​ลุกขึ้น​ ​อมยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ออก​ไป​ ​“​เช่นนั้น​ขอ​ขอตัว​กลับ​ห้อง​ก่อน​ ​ท่าน​อ๋อง​อย่า​ลืม​ไป​เสวย​อาหาร​ล่ะ​”

เมื่อ​พระ​ชายา​หลู่​อ๋อง​เดิน​ออก​ไป​ ​หลู่​อ๋อง​เตะ​เก้าอี้​อยู่​หลาย​ที​ถึง​หาย​โมโห

ช่างเถอะ​ ​ครั้งนี้​ถือว่า​เจ้า​เจ็ด​โชคดี​ไป​ ​ในอนาคต​ยัง​มีโอกาส​จัดการ​เขา​อีก

…….

สู่​อ๋อง​ทราบ​ข่าว​ก็​รู้สึก​โล่งใจ

ตั้งแต่งา​นอ​ภิเษก​ปี​ที่แล้ว​ ​เนื่องจาก​แต่งงาน​ห่าง​กับ​เจ้า​เจ็ด​เพียงแค่​หนึ่ง​เดือน​ ​ไม่ว่า​จะ​ด้าน​ใด​จึง​ถูก​เจ้า​เจ็ด​ข่ม​อยู่​ ​วันนี้​ถือว่า​โอกาส​แก้แค้น​มาถึง​แล้ว

“​รอดู​คนอื่น​ว่า​จะ​เคลื่อนไหว​อะไร​หรือไม่​ ​หาก​มี​ก็​คอย​ผสมโรง​ ​และ​ระวัง​อย่า​ให้​ใคร​มาระ​แคะ​ระคาย​พวกเรา​ทาง​นี้​ได้​”

หลังจากที่​กำชับ​ออก​ไป​ ​สู่​อ๋อง​ก็​ตั้งตารอ​คอย​เกี่ยวกับ​เรื่อง​ที่​กำลังจะ​เกิดขึ้น

……

ภายใน​ตง​กง​ ​องค์​รัชทายาท​หัวเราะ​ร่า​ออกมา​อย่าง​อด​ไม่ได้

นับว่า​ถึงคราว​ซวย​ของ​เจ้า​เจ็ด​แล้ว​!

ตั้งแต่​เจ้า​เจ็ด​กลับมา​ที่​เมืองหลวง​ ​ทุกครั้งที่​ก่อเรื่อง​เขา​ล้วน​ต้อง​พลอย​โดน​ด่า​ไป​ด้วย​ ​แค้น​นี้​อดทน​มานา​นมาก​แล้ว

เจ้า​เจ็ด​ที่​สมควร​ตาย​ ​ครั้งนี้​ดู​ว่า​เจ้า​จะ​หนีรอด​จาก​การถูกลงโทษ​ไป​ได้​อย่างไร

“​ไปหา​ขุนนาง​เพื่อ​ยื่น​มติ​ไม่ไว้วางใจ​คู่สามีภรรยา​เยี​่​ยน​อ๋อง​!​”

……

ไม่นาน​สมุดบัญชี​รายชื่อ​เล่ม​เล็ก​ที่​ยื่น​มติ​ไม่ไว้วางใจ​คู่สามีภรรยา​เยี​่​ยน​อ๋อง​ก็​ทะยอย​ส่ง​มาที​่​โต๊ะ​ทรง​อักษร​ของ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ราวกับ​เกล็ด​หิมะ​ ​เช้า​วันรุ่งขึ้น​ก็​ยิ่ง​มี​ขุนนาง​จำนวนมาก​แสดงตัว​ออกมา​ว่ากล่าว​ตำหนิ​พระ​ชายา​ของ​เยี​่​ยน​อ๋อง​ด้วย​ความ​ห้าวหาญ​โอหัง​ว่า​ทำลาย​ชื่อเสียง​ของ​ราชวงศ์​ ​และ​ยื่น​มติ​ว่า​เยี​่​ยน​อ๋อง​ลุ่ม​ลง​ใน​ความงาม​ ​ปล่อย​ให้พระ​ชายา​ทำความ​ผิด​โดย​ไม่​ห้ามปราม

จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ฟัง​ด้วย​สีหน้า​เรียบ​เฉย​ ​รู้สึก​ไม่สบายใจ​เอา​มาก

เจ้า​พวก​นี้​ยื่น​มติ​ไม่ไว้วางใจ​เรื่อง​พระ​ชายา​ของ​เจ้า​เจ็ด​ก็​เสียมารยาท​พอแล้ว​ ​ลาก​เรื่อง​เยี​่​ยน​อ๋อง​ลุ่มหลง​ใน​ความงาม​มา​เกี่ยวข้อง​อะไร​กัน

เช่นนี้​เรียกว่า​ลุ่มหลง​ได้​งั้น​หรือ

เลี้ยง​อนุ​ ​หลับนอน​กับ​นาง​โลม​ต่างหาก​ถึง​จะ​เรียกว่า​ลุ่มหลง​ใน​ความงาม​ ​เหตุใด​ถึง​เรียก​การ​หวงแหน​ภรรยา​ของ​ตัวเอง​ว่า​ลุ่มหลง​ใน​ความงาม​กัน​ ​นี่​เรียกว่า​คู่สามีภรรยา​รักใคร่​กลมเกลียว​กัน​ชัดๆ

จิ​่ง​หมอง​ฮ่องเต้​แอบ​เถียง​อยู่​ใน​ใจ​ ​จากนั้น​ละสายตา​ไป​มอง​อวี​้​จิ​่​นที​่​คุกเข่า​อยู่

หากว่า​กันตาม​วินัย​ ​ทุกคน​ที่​ถูก​ยื่น​มติ​ไม่ไว้วางใจ​ ​ไม่ว่า​จะ​ฐานะ​สูงส่ง​หรือ​ต้อยต่ำ​ ​มีความผิด​จริง​หรือไม่​ ​ล้วน​ต้อง​คุก​เข้า​รับฟัง​คำสั่งสอน

ทัศนคติ​ที่​แพร่หลาย​กัน​ใน​ตอนนี้​คือ​ถ้าหากว่า​เจ้า​ไม่ผิด​ ​เหตุใด​ผู้อื่น​ถึง​ได้​ยื่น​มติ​ไม่ไว้วางใจ​เจ้า​ ​เช่นนั้น​แสดงว่า​เจ้า​ต้อง​ทำ​เรื่อง​ไม่เหมาะสม​ ​เกรง​ว่า​ถึงแม้​จะ​ไม่ได้​ทำ​ ​หาก​เป็น​ดังที่​เขา​ว่า​ก็​ควร​แก้ไข​ ​ถ้า​ไม่​เป็น​ดัง​เขา​ว่า​ก็​เก็บ​ไว้​เป็น​คำเตือน​ใจ​ ​แต่​โดยสรุป​แล้ว​การคุก​เข่า​ลง​ไว้​ก่อน​ถือว่า​ถูกต้อง

อวี​้​จิ​่​นคิด​ไว้​แล้ว​ว่า​จะ​ต้อง​ได้รับ​การ​ยื่น​มติ​ไม่ไว้วางใจ​เพราะ​เจียง​ซื่อ​ไม่​ไป​ไว้ทุกข์​ ​แต่​ไม่​นึก​เลย​ว่า​ผู้​ที่มา​ยื่น​มติ​จะ​เยอะ​ขนาด​นี้​ ​เขา​คุกเข่า​ลง​จน​เข่า​แทบจะ​อักเสบ​อยู่​แล้ว

เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​เขา​ก็​ไม่จำเป็น​ต้อง​ทำ​หน้า​ให้​มัน​ดี​ๆ​ ​ความเยือกเย็น​แผ่ซ่าน​ออกมา​จาก​ตัว​เขา

ขุนนาง​ที่​ยืน​อยู่​ใกล้​กับ​อวี​้​จิ​่น​แอบ​ย้ายที่​ไป​ด้าน​ข้าง​เงียบๆ

แม้แต่​เยี​่​ยน​อ๋อง​ก็​กล้า​ที่จะ​มีเรื่อง​ ​เช่นนั้น​พวกเขา​อยู่​ห่าง​ออก​ไป​หน่อย​น่าจะ​ปลอดภัย

จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​เห็น​อวี​้​จิ​่น​ทำ​หน้า​ไม่พอใจ​ ​ก็​รู้สึก​โมโห​ขึ้น​มา​ ​“​องค์​ชาย​เจ็ด​ ​เจ้า​รู้ความ​ผิด​ของ​เจ้า​หรือไม่​”