ตอนที่ 471 ฆาตกรผู้มีประสบการณ์โชกโชน

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

เจิน​ซื่อ​เฉิง​กวาดสายตา​ไล่​เรียง​ไป​ทีละ​คน​ ​พร้อม​เอ่ย​กล่าว​ฉะฉาน​ประหนึ่ง​เสียง​ฟ้าผ่า​สั่นสะเทือน​เลือน​ลั่น​ ​“​ฆาตกร​ยังอยู่​ใน​ที่​แห่ง​นี้​”

ชั่ว​อึดใจ​เดียว​ทั้ง​โถง​นั้น​ก็​ส่งเสียง​อื้ออึง

“​ใคร​เป็น​คน​ฆ่า​อันจ​วิ​้​นอ​๋​อง​”

“​จะ​ไปรู​้​รึ​ ​เมื่อ​ครู่​ข้า​ยัง​ชน​จอก​กับ​อันจ​วิ​้​นอ​๋​อง​อยู่​เลย​ ​เหตุใด​ฟ้า​มืด​เพียงพริบ​ตาเดียว​ ​ชีวิต​หนึ่ง​ก็​โรยรา​เสีย​แล้ว​”

“​เจิน​ซื่อ​เฉิง​บอกว่า​ฆาตกร​ยังอยู่​ใน​ตำหนัก​นี้​ ​หาก​อาศัย​จังหวะ​ที่​ทั้งหมด​ตก​อยู่​ใน​ความมืด​ ​คนที​่​อยู่​ใกล้​ก็​ง่าย​ต่อ​การ​ลงมือ​ที่สุด​มิใช่​หรือ​”

“​ที่​เจ้า​พูด​มา​หมายความว่า​อย่างไร​ ​เจ้า​กำลังจะ​บอกว่า​ข้า​คือ​คนที​่​สังหาร​อันจ​วิ​้​นอ​๋​อง​อย่างนั้น​รึ​”​ ​น้ำเสียง​ขุ่นเคือง​นี้​เป็น​ของ​คังจ​วิ​้​นอ​๋​อง​ที่​ตกใจ​จน​ทำ​อะไร​ไม่​ถูก​เมื่อ​ครู่

“​ไอ้​หยา​ จ​วิ​้​นอ​๋​อง​เข้าใจผิด​แล้ว​ ​กระหม่อม​แค่​กล่าว​ไป​ตาม​หลัก​เหตุผล​ก็​เท่านั้น​…​”

“​แต่​ก็​มิค​วร​กล่าว​กระทบ​ข้า​!​”

“​พอแล้ว​ ​หุบปาก​ให้​หมด​!​”​ ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​แผดเสียง​ดังลั่น

ฤดูหนาว​ที่ตั้ง​ตาร​อมา​นานแสนนาน​ ​กว่า​จะ​ได้​ออกจาก​วัง​เพื่อ​ปลดปล่อย​เคราะห์ร้าย​ใน​ปี​ที่ผ่านมา​ ​ใคร​จะ​ไป​คิด​ว่า​จะ​มี​คนตาย​!

มี​คนตาย​อีกแล้ว​…

คิด​ดังนั้น​แล้ว​ ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ก็​ผิดหวัง​อย่างยิ่งยวด

เขา​พอ​จะ​เดา​ได้​เลย​ว่า​ ​ถ้า​อีกหน่อย​เขา​หาเรื่อง​จะ​ออกจาก​วัง​ ​เหล่า​ผู้ตรวจการ​คงมี​เหตุผล​มางั​ดง​้า​งกับ​เขา​ไม่หยุดหย่อน

“​เจิน​อ้าย​ชิง​ ​ว่า​ต่อ​เถอะ​”

เจิน​ซื่อ​เฉิง​ยกมือ​คารวะ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ ​“​อันดับ​แรก​ ​ขอ​ฝ่า​บาท​ทรง​อนุญาต​ให้​ปิดทาง​เข้าออก​ตำหนัก​เสียก่อน​ ​เพื่อ​จะ​ได้​ไม่มี​ผู้ใด​หนีรอด​ไป​ได้​”

จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​พยักหน้า​ ​และ​หันไป​ส่งสายตา​ให้​พาน​ไห่

พาน​ไห่​รับคำ​สั่ง​ไป​ถ่ายทอด​ต่อ​ ​ไม่ช้าไม่นาน​ ​เหล่า​องครักษ์​จำนวน​หนึ่ง​ก็​เข้า​ประจำ​ทุก​ตำแหน่ง​เข้าออก​ใน​ตำหนัก​ ​รวมถึง​บริเวณ​ประตู​ด้านนอก​พระราชวัง

เจิน​ซื่อ​เฉิง​เดิน​สำรวจ​รอบ​ร่าง​ของ​อันจ​วิ​้​นอ​๋​อง​หนึ่ง​รอบ​ก่อน​จะ​หยุด​ยืน

สายตา​ทุก​คู่​จดจ้อง​ไป​ที่​การเคลื่อนไหว​ของ​เขา​ ​คำสั่ง​ดุจ​เสียงคำราม​ของ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​เมื่อ​ครู่​ ​ทำให้​ไม่มี​ผู้ใด​กล้า​ส่งเสียง​อีก​เลย

ใน​ตำหนัก​ไร้​สรรพ​เสียง​โดยสิ้นเชิง

เจิน​ซื่อ​เฉิง​กระแอม​ไอ​ใน​ลำคอ​ก่อน​จะ​ถาม​ขึ้น​ ​“​ในขณะที่​ทั้งหมด​ตก​อยู่​ใน​ความมืด​ ​มี​ผู้ใด​ถูก​ชน​ ​หรือ​สัมผัส​ได้​ว่า​มี​คน​เคลื่อนไหว​ใกล้​ๆ​ ​ตัว​หรือไม่​”

ความ​เงียบ​คั่น​กลาง​หลาย​อึดใจ​ก่อน​จะ​มี​คน​กล่าว​ขึ้น​ ​“​ไม่รู้​ว่า​เมื่อ​ครู่​ใคร​เหยียบ​เท้า​ข้า​”

คน​หนึ่ง​ที่อยู่​ใกล้​ๆ​ ​คน​ผู้​นั้น​เลิ​่​กลั​่ก​ ​“​ขออภัย​ ​เป็น​ข้า​เอง​”

เจิน​ซื่อ​เฉิง​กวาดตา​มอง​ทั้งคู่​ก่อน​จะ​ถอน​สายตา​กลับ​ไป

คนที​่​ถูก​เหยียบ​เท้า​คือ​เสนาบดี​กรมโยธาธิการ​ ​ส่วน​คนที​่​เหยียบ​คือ​เสนาบดี​กรม​พิธีการ​ ​ซึ่ง​ก็​เฒ่า​ชะ​แร​แก่​ชรา​ด้วยกัน​ทั้งคู่​ ​มิใช่​เรื่อง​ง่าย​เลย​หาก​คนใดคนหนึ่ง​ใน​สอง​คน​นั้น​จะ​ต้อง​เดิน​อ้อม​โต๊ะ​หลาย​ตัว​ไป​สังหาร​อันจ​วิ​้​นอ​๋​อง​ใน​ความมืด​

มี​อีก​คน​หนึ่ง​กล่าว​ขึ้น​ว่า​ ​“​ใน​ตอนนั้น​ข้า​กำลัง​ยก​จอก​ขึ้น​คารวะ​ ​แต่​เพราะ​จู่ๆ​ ​ทั้ง​ห้อง​ก็​มืดมิด​ ​ไม่รู้​ว่า​ผู้ใด​ชน​ข้า​ ​สุรา​ถึง​ได้​หก​รด​ตัว​ข้า​เช่นนี้​”

ชาย​อีก​คน​รีบ​แถลง​ ​“​ใต้เท้า​จาง​ ​ข้ามิ​ได้​ตั้งใจ​จะ​ชน​ท่าน​ ​แต่​เพราะ​ข้าม​อง​ไม่เห็น​ ​ถึง​ได้​ลุกลี้ลุกลน​กลับ​ไป​นั่ง​ที่​เดิม​ ​แต่​ก็​มิ​รู้​ว่า​ตอนนั้น​ดัน​ไป​ชน​ใคร​เข้า​ ​แขน​เสื้อ​ของ​ข้า​ถึง​ได้​เปื้อน​สุรา​ไป​กว่า​ครึ่ง​”

ชาย​ผู้​นั้น​พูด​แล้ว​ยก​แขน​ขึ้น​ ​“​ลอง​ดม​ดูก​็​ได้​ ​ตอนนี้​เนื้อตัว​ข้ามี​แต่​กลิ่น​เหล้า​”

คน​ข้างๆ​ ​ทำ​จมูก​ฟุดฟิด​ ​และ​พบ​ว่า​มีกลิ่น​เหล้า​จริง​ดัง​ว่า

นอกจากนี้​ ​มี​อีก​หลาย​คน​กล่าวถึง​การกระแทก​เล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​ทว่า​มิได้​มี​จุด​ผิดสังเกต​แต่อย่างใด

สายตา​หลาย​คู่​เบิ่ง​จ้อง​ไป​ที่​เจิน​ซื่อ​เฉิง​เพื่อ​คาดคั้น​หาคำ​ตอบ

เรื่อง​นี้​ยาก​จะ​ไข​ ​ถาม​ไป​ก็​ไม่ได้​คำตอบ​ ​คราวนี้​เจิน​ซื่อ​เฉิง​คง​ทำลาย​ความ​ไว้ใจ​ของ​ฝ่า​บาท​เสีย​แล้ว

มี​หลาย​คน​รู้สึก​ไม่​ชอบใจ​ชาติกำเนิด​อัน​ต่ำต้อย​ไร้​ที่พึ่ง​ของ​เจิน​ซื่อ​เฉิง​เป็น​ทุนเดิม

หาก​จะ​พูด​ให้​ชัด​คือ​ ​เพราะ​มี​ฮ่องเต้​คอย​ถือหาง​ ​เขา​ถึง​กล่าว​วาจา​ไม่​ไว้หน้า​ผู้ใด​ ​นั่น​ยิ่ง​ทำให้​ผู้คน​รู้สึก​ขัดใจ​อย่างยิ่งยวด​ ​แต่​ครั้น​จะ​กล่าว​อีก​นัย​คือ​ ​ทั้งหมด​ทั้งมวล​เป็น​เพราะ​ความอิจฉา​ริษยา​ล้วน​ๆ

เจียง​อัน​เฉิง​ที่นั่ง​อยู่​ใน​มุม​หนึ่ง​อด​เป็นห่วง​เจิน​ซื่อ​เฉิง​ไม่ได้

คราวนี้​พี่​เจิน​คง​ลำบาก​แล้ว​ล่ะ

ในขณะที่​รู้สึก​เป็นห่วง​กลับ​มีความสุข​ปน​อยู่​ด้วย​ ​เดิมที​เขา​เสียดาย​ที่​บุตรสาว​และ​บุตร​เขย​ไม่ได้​มาร​่ว​มงาน​ ​แต่​เมื่อ​เหตุการณ์​เป็น​เช่นนี้​แล้ว​ ​จึง​รู้สึก​ว่า​ดี​เสียอีก​ที่​ทั้งคู่​ไม่​มา

คราวก่อน​ที่​ร่ำ​สุรา​กับ​พี่​เจิน​ ​พี่​เจิน​หลุดปาก​ออกมา​ว่า​ ​ซื่อ​เอ๋อร​์​มีด​วง​กับ​คดี​ฆาตกรรม​ ​ตอนนั้น​เขา​แทบ​ถลก​แขน​แล้ว​ทุบ​พี่​เจิน​ให้​รู้แล้วรู้รอด

หึ​ ​ทีนี้​พี่​เจิน​คง​พูด​เช่นนั้น​ไม่ได้​แล้ว

ใบหน้า​ของ​เจิน​ซื่อ​เฉิง​ใน​ยาม​นี้​ยังคง​นิ่งเฉย​ ​ภายใน​โถง​นั้น​เงียบสงบ​ลง​อีกครั้ง​ ​เขา​กล่าว​ฉะฉาน​ ​“​แม้​เมื่อ​ครู่​ทั้ง​ตำหนัก​จะ​มืดมิด​จน​ไม่มี​ผู้ใด​เห็น​ตัว​คนร้าย​ ​แต่​ถึงกระนั้น​ก็​ยัง​มีเรื่อง​ที่​พอ​จะ​ยืนยัน​ได้​”

ทั้งหมด​รอท่า​ให้​เขา​กล่าว​ต่อ

“​อันดับ​แรก​ ​คังจ​วิ​้​นอ​๋​อง​ซึ่ง​อยู่​ใกล้​อันจ​วิ​้​นอ​๋​อง​ที่สุด​มิได้​เป็น​ฆาตกร​”

ครั้น​คำพูด​นี้​หลุด​ออก​ไป​ ​ผู้คน​ก็​กระซิบกระซาบ​กัน​ทันที

คังจ​วิ​้​นอ​๋​อง​แทบ​กลั้น​น้ำตา​ไว้​ไม่อยู่​ ​เขา​เกือบจะ​วิ่ง​เข้าไป​กอด​เจิน​ซื่อ​เฉิง

“​ใต้เท้า​เจิน​ ​ท่าน​นี่​ช่าง​สายตา​เฉียบแหลม​เสีย​จริง​ ​หาก​ผู้ใด​กล้า​สงสัย​ใน​คำตัดสิน​ของ​ท่าน​ ​ข้า​คน​แรก​จะ​จัดการ​มัน​เอง​!​”

ทั้งหมด​เบือนหน้า​เงียบเชียบ

สาเหตุ​ที่​คังจ​วิ​้​นอ​๋​อง​ยกย่อง​ว่า​เจิน​ซื่อ​เฉิง​สายตา​เฉียบแหลม​นี่​ช่าง​…

จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ถาม​อย่าง​อด​ไม่ได้​ ​“​เจิน​อ้าย​ชิง​ ​เหตุ​ไฉน​เจ้า​ถึง​ปักใจ​เชื่อ​ว่า​คังจ​วิ​้​นอ​๋​อง​มิได้​เป็น​ฆาตกร​”

เจิน​ซื่อ​เฉิง​หันไป​กล่าว​แก่​คังจ​วิ​้​นอ​๋​อง​ ​“​รบกวน​ท่าน​อ๋อง​ช่วย​กลับ​หลัง​หัน​หน่อย​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

แม้​คังจ​วิ​้​นอ​๋​อง​ติดจะ​งุนงง​ ​แต่​เมื่อ​เจิน​ซื่อ​เฉิง​ยืนยัน​ว่า​เขา​มิใช่​คนร้าย​จึง​ยอม​ทำตาม​แต่​โดยดี

จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​พิศ​มอง​ไป​ที่​ด้านหลัง​ของ​คังจ​วิ​้​นอ​๋​อง​ ​รอ​ให้​เจิน​ซื่อ​เฉิง​อธิบาย​ต่อ

“​เชิญ​ฝ่า​บาท​สังเกต​ดู​ที่​ตรง​ด้านหลัง​ของ​ท่าน​อ๋อง​ ​ตรงนี้​มี​รอย​เลือด​ปรากฏ​อยู่​ ​รอย​เลือด​ที่​กระเด็น​ใน​ลักษณะ​คล้าย​เข็ม​เช่นนี้​ ​ยืนยัน​ว่า​ในขณะที่​เลือด​กระเซ็น​จาก​ร่าง​อันจ​วิ​้​นอ​๋​อง​ ​คังจ​วิ​้​นอ​๋​อง​กำลัง​หันหลัง​ให้​เขา​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​เจิน​ซื่อ​เฉิง​อธิบาย​เนิบนาบ​ ​“​ท่าน​อ๋อง​ที่​หันหลัง​อยู่​ในขณะนั้น​จะ​ลงมือ​สังหาร​ได้​อย่างไร​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

มีเสียง​หนึ่ง​กล่าว​แผ่วเบา​ ​“​แล้ว​ถ้า​หันหลัง​กลับ​ก่อนที่​เลือด​จะ​กระเซ็น​ออกมา​เล่า​”

คังจ​วิ​้​นอ​๋​อง​หันขวับ​ไปหา​คน​ผู้​นั้น​ ​พลาง​จด​จาร​ชื่อ​ของ​เขา​ลง​สมุดบัญชี​ดำ

เจิน​ซื่อ​เฉิง​ยืนกราน​ ​“​ไม่มีทาง​เป็น​เช่นนั้น​แน่​ ​เนื่องจาก​เมื่อ​ฆาตกร​ปัก​กริช​ลง​ไป​ที่​หัวใจ​ของ​อันจ​วิ​้​นอ​๋​อง​แล้วก็​ชัก​กริช​ออก​ทันที​ ​ดังนั้น​เลือด​จะ​กระเซ็น​ออกมา​ใน​วินาที​ที่​ชัก​กริช​ออก​ ​คาด​ว่า​คนร้าย​น่าจะ​ยืน​อยู่​ใน​ตำแหน่ง​ด้าน​ข้าง​ของ​อันจ​วิ​้​นอ​๋​อง​ ​ทำให้​มี​เลือด​ส่วนหนึ่ง​กระเด็น​ไป​เลอะ​ตัว​คังจ​วิ​้​นอ​๋​อง​”

เจิน​ซื่อ​เฉิง​ใช้​ผ้า​ห่อ​กริช​ที่​ตก​อยู่​ข้าง​ศพ​ของ​อันจ​วิ​้​นอ​๋​อง​ขึ้น​มา

ครั้น​เห็น​เลือด​สีแดง​สด​ที่​ปลาย​กริช​ ​ร่างกาย​ของ​คนใน​เหตุการณ์​ก็​หนาว​สะท้าน​ขึ้น​มาทัน​ใด

แม้ว่า​เป็น​ฤดูหนาว​ ​แต่​เพราะ​ภายใน​ตำหนัก​อบอุ่น​ราวกับ​ฤดูใบไม้ผลิ​ ​ผู้คน​ที่อยู่​ใน​นั้น​จึง​ถอด​เสื้อคลุม​ออก​หมด​ ​เหลือ​เพียง​อาภรณ์​ตัว​บาง​ ​ทันทีที่​เห็นภาพ​ตรงหน้า​พวกเขา​ถึง​ได้​สะท้าน​เยือก​กัน​ถ้วนหน้า

“​แล้ว​เหตุใด​ฆาตกร​ต้อง​ดึง​กริช​ออก​ด้วย​เล่า​ ​เพราะ​หาก​ไม่​ชัก​ออก​ ​เลือด​ก็​จะ​ไม่​พุ่ง​ออกมา​มิใช่​หรือ​”​ ​ขุนนาง​คน​หนึ่ง​เอ่ย​ถาม​อย่าง​ใคร่รู้

เจิน​ซื่อ​เฉิง​หัวเราะ​เย็นเยียบ​ ​“​นั่น​เป็นเรื่อง​ที่​ข้า​กำลังจะ​พูด​ใน​ลำดับ​ต่อไป​”

ผู้คน​หยุด​คาดเดา​ ​และ​รอ​ให้​เจิน​ซื่อ​เฉิง​อธิบาย​ต่อ

“​จริงอยู่​ที่​การ​ยืน​อยู่​ด้าน​ข้าง​จะ​สามารถ​หลบ​เลือด​ที่​กระเซ็น​ออกมา​ได้​ ​แต่​ก็​ใช่​ว่า​จะ​เป็น​เช่นนั้น​เสมอไป​ ​กระนั้น​แล้ว​เหตุใด​เขา​ถึง​ต้อง​ชัก​กริช​ออกมา​ในทันที​”

คำถาม​ชี้นำ​ของ​เจิน​ซื่อ​เฉิง​ชวน​ให้​เหล่า​แม่ทัพ​เริ่ม​ได้​คำตอบ

เสียง​หนึ่ง​พึมพำ​ขึ้น​ว่า​ ​“​อันจ​วิ​้​นอ​๋​อง​จะ​ได้​ไม่​สู้​กลับ​…​”

เจิน​ซื่อ​เฉิง​กล่าว​ต่อ​ ​“​ถูกต้อง​ ​เพราะ​ไม่ต้องการ​ให้​อันจ​วิ​้​นอ​๋​อง​สู้​กลับ​ ​หาก​ไม่​ชัก​กริช​ออกจาก​ตำแหน่ง​หัวใจ​ ​เขา​ก็​จะ​ไม่​ตาย​ในทันที​ ​ซึ่ง​อาจ​นำไปสู่​การต่อสู้​ยืดเยื้อ​ ​นั่น​อาจ​ทำให้​ผู้คน​รอบข้าง​รู้ตัว​ ​และ​อาจ​ทำให้​ผู้ตาย​รู้​ว่า​ฆาตกร​คือ​ใคร​ ​แต่​เพราะ​ฆาตกร​ไม่ต้องการ​ให้​เป็น​เช่นนั้น​ ​เขา​ถึง​ได้​ชัก​กริช​ออก​อย่าง​ไม่​รีร​รอ​ ​โดย​ไม่สน​ใจ​ว่า​เลือด​จะ​กระเซ็น​ไป​ที่ใด​บ้าง​ ​กอปร​กับ​ความ​ชุลมุน​ชุล​ท่ามกลาง​ความมืด​ ​มือสังหาร​จึง​ทำการ​อุกอาจ​โดย​ไม่มี​ผู้ใด​ทัน​สังเกต​”

เจิน​ซื่อ​เฉิง​กล่าว​เสริม​พร้อม​กวาดสายตา​ไปร​อบ​ๆ​ ​“​ดังนั้น​จึง​สันนิษฐาน​ได้​ว่า​ ​ฆาตกร​ต้อง​เป็น​ผู้​มีประสบการณ์​โชกโชน​อย่างแน่นอน​”