“แฮ่ แฮ่”หลี่เครู้ทันเธอ เคธี่หัวเราะแล้วพูดขึ้นว่า“พ่อคะ หนูอยากทำโปรเจกต์สักหนึ่งถึงสองโปรเจกต์ค่ะ ช่วงนี้หนูเห็นว่าที่ประเทศจีนมีหลายบริษัทที่น่าจะลงทุนด้วย โดยเฉพาะที่หนูกำลังร่วมลงทุนอยู่กับบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป ”
“โปรเจกต์เหรอ?”หลี่เคเกิดความสงสัย“หนูเข้าใจเรื่องการลงทุนเหรอ?”
“พ่อไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ หนูมีแผนอยู่ในใจแล้วค่ะ” เคธี่เพียงอยากที่จะเข้าใกล้ลี่จุนถิง
“ไม่ได้ โปรเจกต์ไม่ใช่ของที่จะเอามาล้อเล่น”หลี่เคคิดอยู่สักพักแต่ก็ยังยืนยันปฏิเสธ
เมื่อฟังความหมายของลูกสาว ดูเหมือนจะทำหลายโปรเจกต์ แต่นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น
“พ่อคะ หนูไม่ได้ไม่เข้าใจเรื่องการลงทุนนะ พ่อเชื่อหนูเถอะว่าหนูจะทำออกมาได้ดี หนูจะรายงานให้พ่อทราบตลอดเวลาค่ะ” เคธี่แสดงสีหน้าอ้อน
หลี่เคไม่พูดอะไร
“พ่อคะ!”เคธี่บิดตัวออดอ้อน เธอรู้ว่าแค่เธออ้อนบวกกับวันนี้ที่หลี่เคอารมณ์ดี ท่านต้องอนุญาตแน่ๆ
ในที่สุดหลี่เคก็ทนกับการอ้อนของลูกสาวไม่ได้ เขาถอนหายใจพูดว่า:“หมดปัญญากับลูกคนนี้จริงๆ พ่อจะให้โปรเจ็กต์หนูสองสามโปรเจ็กต์ แต่หนูต้องทำได้ดีนะ โปรเจ็กต์พวกนี้หากไม่โยกย้ายก็จะไม่ก่อผลเสียให้กับบริษัท แต่หากโยกย้ายแล้วก็ต้องทำให้ได้ดี ไม่เช่นนั้นหนูจะขาดทุน และอย่าลืมรายงานพ่อตลอดเวลา”
“ตกลงค่ะ คุณพ่อใจดีจริงๆ”เคธี่พยักหัว
“ฮ่า ฮ่า”หลี่เคหัวเราะเสียงดังพูดขึ้นว่า
เมื่อหลี่เคอนุญาต เคธี่ก็รับทันที เคธี่พูดตรงๆขึ้นมาว่า:“พ่อคะ หนูมีธุระต่อ แค่นี้ก่อนนะคะ แล้วค่อยคุยกันใหม่ บ้ายบายค่ะ”
เมื่อพูดจบเคธี่ก็วางสายอย่างรวดเร็ว
หลี่เคอยู่ในวีดีโอหัวเราะด้วยความเขิน ลูกสาวคนนี้เนี้ยนะจะวางสายก็วางไปดื้อๆ พอมีประโยชน์ก็เรียก แต่พอไม่มีประโยชน์แม้แต่พริบตาเดียวก็ยังไม่มอง
แต่จะทำอะไรได้ละ ยังไงเธอก็เป็นลูกสาวของตัวเอง
เคธี่กระโดดโลดเต้นด้วยความอย่างตื่นเต้น พ่อของเธออนุญาตแล้ว เคธี่รู้ประสิทธิภาพการทำงานของหลี่เค พรุ่งนี้เธอจะได้รับแผนโปรเจ็กต์แน่นอน
สิ่งที่เคธี่ต้องทำตอนนี้คือล้างหน้าแล้วนอนหลับให้สบาย และรอรับโปรเจ็กต์ของวันพรุ่งนี้
เหมือนอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด วันรุ่งขึ้นพอเคธี่ตื่นก็มีข้อความที่ส่งมาจากผู้ช่วยของหลี่เคในคอมพิวเตอร์แล้ว ซึ่งเป็นเอกสารการวางแผนโปรเจ็กต์ทั้งหมด
ในนั้นมีประมาณสิบกว่าโปรเจ็กต์ หลี่เคบอกว่าเคธี่เลือกหกหรือเจ็ดโปรเจ็กต์ก็พอ
เคธี่ไม่คิดว่าหลี่เคจะใจกว้างขนาดนี้ เธอกระโดดลงมาด้วยรอยยิ้ม
เธอดูแผนโปรเจ็กต์ไม่นาน ก็ได้โปรเจ็กต์ที่พอใช้ได้มาสามสี่โปรเจ็กต์ และคิดว่าให้บริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปเลือกดีกว่า
หลังจากนั้นเคธี่ก็ไปอาบน้ำ วันนี้เป็นแต่งตัวสดใสแล้วรีบไปบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป
ซู่จี้งยี้เห็นเคธี่เดินมาอย่างภาคภูมิใจแต่ไกล ก็รีบทักทายเธอทันที
“เอ๊ะ นี่ไม่ใช่คุณผู้หญิงเคธี่หรอกเหรอ?ลมอะไรพักคุณมาที่นี้ได้?”ซู่จี้งยี้ทั้งพูดและหัวเราะด้วย
“คุณไม่ต้องรู้หรอกว่าเป็นลมอะไร ฉันจะพบกับคุณชายลี่ตอนนี้”
“เกรงว่าจะไม่ได้นะสิ เพราะตอนนี้คุณชายลี่กำลังประชุม”
“คุณไม่ใช่กำลังหลอกฉันอยู่ใช่ไหม ฉันจะบอกคุณไว้นะ ถ้าคุณคิดจะหลอกฉันแล้วละก็ ฉันจะ……”ครั้งก่อนเคธี่เคยถูกซู่จี้งยี้หลอก แต่ตอนนี้เธอไม่เชื่อเขาอีกแล้ว
“ผมไม่ได้หลอกคุณ หากคุณผู้หญิงเคธี่ไม่เชื่อ คุณสามารถดูที่นี้ได้”ซู่จี้งยี้ชี้ไปที่กระจก
กระจกบานนั้นไม่ได้โปร่งใสมากนัก พอที่จะเห็นสถานการณ์ภายในห้องประชุมได้
ลี่จุนถิงกำลังตั้งใจฟังรายงานของผู้จัดการแผนกต่างๆอยู่ในห้องประชุม
เมื่อเคธี่เห็นอย่างนั้น เธอรู้สึกแค่ว่าหัวใจของเธอกำลังเธอเต้นแรง เธอตื่นเต้นมาก ท่าทางจริงจังของลี่จุนถิงมีเสน่ห์และน่าดึงดูดมากจริงๆ
“เอาละ เห็นว่าน่าสนใจหรอกนะ ” เคธี่ทำปากจู๋“งั้นคุณก็ออกไปก่อนได้เลย ฉันจะรอเขาอยู่ที่นี้”
ซู่จี้งยี้พยักหัวพูดขึ้นว่า:“คุณผู้หญิงเคธี่จะไปนั่งรอที่ห้องรับแขกไหม ผมจะได้ให้คนยกน้ำชามาบริการ
“ไม่ละ ฉันอยู่ที่นี้แหละ”เคธี่ระแวงซู่จี้งยี้มาก เขาเกรงว่าอีกสักครู่เธอจะเข้าไปในห้องประชุม และ ลี่จุนถิงก็จะหลบหน้าไปหลังจากประชุมเสร็จ ถ้าเป็นอย่างนั้นวันนี้ตัวเองก็มาเสียเที่ยวนะสิ
“ได้ครับ ผมจะให้คนยกน้ำชามาบริการที่นี่นะครับ”ซู่จี้งยี้เห็นว่าคำแนะนำของตัวเองไม่ได้ผล ในใจเขาก็รู้สึกเสียใจแทนลี่จุนถิง
วันนี้ถ้าเคธี่ตามตื้อลี่จุนถิงไม่ยอมเลิกรา จะหาว่าผมไม่ช่วยอะไรเลยก็ไม่ได้
เคธี่ดื่มน้ำชาที่พนักงานยกมาให้ไปด้วยและมองกระจกไปด้วย เคธี่มองดูลี่จุนถิงกำลังทำงาน รู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วมาก
เมื่อลี่จุนถิงประชุมเสร็จ
เคธี่ก็รีบร้อนเข้าไปทำให้ลี่จุนถิงสะดุ้งตกใจ
“คุณผู้หญิงเคธี่ คุณอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร?”ลี่จุนถิงรู้สึกสงสัย
เมื่อเขาเห็นเคธี่ก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา
“เป็นไงละ เซอร์ไพรส์ไหม?”เคธี่พูดด้วยรอยยิ้ม
“ก็ไม่รู้สึกอะไรนะ คุณมาหาผมมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
“ไม่มีธุระอะไรจะมาหาคุณไม่ได้ใช่ไหม?”เคธี่ทำปากจู๋
ลี่จุนถิงเดินเข้าลิฟต์ด้วยความรีบร้อน กดหมายเลยบนสุด:“ใช่ ผมไม่มีเวลาคุยเป็นเพื่อนคุณเพราะผมยุ่งมาก”
เคธี่รีบอธิบายว่า:“วันนี้ที่ฉันมาหาคุณเพราะมีเรื่องจะคุยด้วยจริงๆ”
“พูดได้เลย”
ลี่จุนถิงก็ไม่อยากพูดเรื่องอื่น นอกจากเรื่องงานบริษัท
“ช่วงนี้ฉันมีโปรเจ็กต์อยู่สองสามโปรเจ็กต์ ไม่คิดว่าคุณจะไม่สนใจ”เคธี่มองลี่จุนถิงด้วยรอยยิ้ม
ลี่จุนถิงไม่ไว้หน้าตอบไปว่า “ไม่สนใจ”
เคธี่ถึงกับพูดไม่ออก ทำไมถึงไม่เข้าใจความรู้สึกรักใคร่นะ? มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะดึงดูดตัวเอง
“คุณยังไม่ได้ดูเลย คุณรู้ได้อย่างไรว่าตัวเองจะไม่สนใจ โปรเจ็กต์ในมือของฉันดีๆทั้งนั้น ถ้าพลาดแล้วพลาดเลย ไม่มีอีกแล้ว”เคธี่แสดงท่าทางก้าวร้าว และโน้มน้าวลี่จุนถิง
“ช่วงนี้บริษัทของเรามีโปรเจ็กต์จำนวนมากแล้ว ไม่รับโปรเจ็กต์ใหม่”มีแค่โปรเจ็กต์เดียวที่ต้องติดต่อลี่จุนถิงก็ปวดหัวพออยู่แล้ว หากมีเพิ่มอีกหนึ่งโปรเจ็กต์ เขาต้องจบเห่แน่นอน
“ไม่ต้องมีโปรเจ็กต์มาก มีน้อยแต่อยู่ในเกณฑ์ดี”เคธี่ยังไม่ยอมยอมแพ้ เธอต้องต่อสู้เพื่อโอกาสของตัวเอง
ลี่จุนถิงเงียบไปครู่หนึ่ง เขาสังเกตว่าถ้าตัวเองไม่ยอมง่ายๆเคธี่ก็จะเซ้าซี้ต่อไปเรื่อยๆไม่มีหยุด
ดังนั้นลี่จุนถิงจึงยอม:“คุณลองเอามาให้ดูสิ”
เคธี่ทำท่าทาง “เย้”และดูเหมือนว่าเธอจะเข้าใกล้ความสำเร็จอีกก้าวหนึ่ง
เคธี่เดินตามลี่จุนถิงเข้าไปในห้องทำงาน
เมื่อ ซู่จี้งยี้เห็น เคธี่ในออฟฟิศ เขาอดไม่ได้ที่จะส่ายหัว ตามที่คาดไว้ไม่มีผิด เจ้านายของเขายังคงหนีไม่พ้นเงื้อมมือของผู้หญิงคนนี้
“เอาละ ผมให้เวลาคุณห้านาทีพูดเกี่ยวกับโปรเจ็กต์ของคุณ อีกักครู่ผมมีงานต้องทำอีก”ลี่จุนถิงเดินเข้าไปในห้องทำงานด้วยรีบเร่ง เมื่อนั่งลงที่โต๊ะทำงานหยิบสมุดบันทึกออกมาและทำการบันทึกเรื่องที่ประชุม
เคธี่รู้สึกน้อยใจเล็กน้อย ทำไมมีเวลาให้แค่ห้านาที แต่ก็ยังดีที่ยังมีเวลาให้
เคธี่เปิดโน๊ตบุ๊คอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็นำรายงานแผนโปรเจ็คส์ของเธอให้ลี่จุนถิงดู
เคธี่ไม่ได้ตั้งใจจะนำโปรเจ็คส์เหล่านี้ให้กับ ลี่จุนถิงทั้งหมดในคราวเดียว เธอมีโปรเจ็คส์มากมาย แทนที่จะให้ทีละโปรเจ็กต์ เพื่อที่ ลี่จุนถิงจะได้ติดต่อกับตัวเองตลอดเวลา