ตอนที่ 344 โองการแต่งตั้ง! รางวัล! เทพผู้ชอบธรรม! (2)
ไม่นานหลังจากนั้น เสี้ยวแห่งบุญจากเครื่องสักการะก็ก่อตัวขึ้นเหนือศีรษะของมนุษย์ธรรมดาเหล่านี้ ก่อนจะกลายเป็นลำแสงสีทองอร่ามเต็มไปทั่วท้องฟ้า และรวมตัวกันตรงไปยังหลี่ฉางโซ่ว
เหล่าเซียนจากทั้งสามสำนักบำเพ็ญเต๋าที่เดิมที ยังคงเยาะเย้ยยังหลี่ฉางโซ่วอยู่บ้าง จู่ๆ ก็มองหลี่ฉางโซ่วแตกต่างออกไปเมื่อพวกเขาสัมผัสถึงพลังแห่งบุญที่แท้จริงเหล่านี้
บรรดาเซียนมากมายที่อยากพัฒนาสำนักเทพธูป และยังบอกอีกว่า วันนี้พวกเขาได้เรียนรู้จริงๆ แล้ว…
เมื่อหลี่ฉางโซ่วสวดหลักธรรมคำสอนของเทพแห่งท้องทะเลเสร็จสิ้นแล้ว ทันใดนั้นเสียงกลองสงครามก็ดังก้องกังวานลั่นแผ่นฟ้า และเมฆขาวที่มีเหล่าทหารสวรรค์และแม่ทัพสวรรค์ในชุดเกราะเงินกำลังยืนอยู่ ก็บินข้ามฟากฟ้ามา
เหล่ามังกรนับพันร้องคำราม และเหินเวหามาจากระยะไกลเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจในการรับทหารสวรรค์มาแล้ว
ในเวลานั้น ปรมาจารย์มังกรส่วนใหญ่และเหล่าเซียนจากทั้งสามสำนักบำเพ็ญเต๋ายังไม่อาจรับรู้ได้ว่ากำลังเกิดเรื่องบ้าอันใดขึ้น
ในขณะนั้น เสี้ยวพลังเต๋าสวรรค์ก็ก่อตัวขึ้นเหนือทะเลทักษิณ และลำแสงสีทองก็พุ่งออกมาจากประตูสวรรค์ทักษิณของศาลสวรรค์ ผ่านสวรรค์และปฐพี แล้วสาดส่องไปที่หลี่ฉางโซ่ว
หลี่ฉางโซ่วยืนขึ้นในอากาศ ดวงตาของเขาเปล่งแสงศักดิ์สิทธิ์เล็กน้อยขณะกล่าวเสียงดังออกมาว่า “วันนี้เป็นวันที่ข้าได้รับการยอมรับจากเต๋าสวรรค์ และกลายเป็นเทพที่ชอบธรรมแล้ว”
ทันทีที่หลี่ฉางโซ่วกล่าวจบ เหล่าทหารสวรรค์และแม่ทัพสวรรค์ที่อยู่บนเมฆสีขาวก็เปิดเส้นทางผ่านให้ร่างหนึ่งที่เหยียบย่างอยู่บนลำแสงสีทองพร้อมด้วยเสื้อผ้าและเส้นผมสีเท่าที่พลิ้วปลิวไสว เขากำลังถือผ้าเจ็ดสีอยู่ในมือ และนั่นจะเป็นผู้ใดไปได้เล่า นอกจากแม่ทัพตงมู่?
แม่ทัพตงมู่กวาดสัมผัสเซียนรับรู้ออกไปและอดจะมือสั่นไม่ได้
อันใดกัน…นี่มันการต่อสู้แบบใดกัน?
พวกเขากำลังเสริมพลังยิ่งใหญ่ให้แก่ศาลสวรรค์หรือลดระดับลง? เหตุใดถึงมีผู้ยิ่งใหญ่จากทั้งสามสำนักบำเพ็ญเต๋ามามากมายนัก!?! ในขณะนั้น แม่ทัพตงมู่ก็ยกพระราชโองการในมือและสงบใจลง
จากนั้น แม่ทัพตงมู่ก็ร้องตะโกนออกมาว่า “เทพแห่งท้องทะเลทักษิณอยู่ที่ใดกัน?”
ที่ด้านล่างนั้น หลี่ฉางโซ่วก็โค้งคำนับ แล้วยืนตรงขึ้นพร้อมกับเชิดศีรษะขึ้นสูงท่ามกลางลำแสงสีทองพลางกล่าวว่า “เทพน้อยอยู่นี่แล้วขอรับ!”
“องค์เง็กเซียนทรงมีพระราชโองการ! เทพแห่งท้องทะเลจงสดับให้ดี!”
แม่ทัพตงมู่ค่อยๆ คลี่ม้วนพระราชโองการในมือและอ่านออกเสียง
“วันนี้ มีเทพแห่งท้องทะเลบนชายฝั่งทะเลทักษิณรวบรวมผู้ศรัทธา และก่อตั้งสำนักเทพธูป สั่งสอนผู้คน ปกป้องโลกมนุษย์ สังหารปีศาจ พิฆาตมารและสร้างคุณูปการอย่างมหาศาล!
ฝ่าบาทองค์เง็กเซียนแห่งศาลสรรค์ทรงสัมผัสได้ถึงความดีของเทพแห่งท้องทะเลและทรงคิดถึงจิตใจของผู้คน จึงได้จัดทำกรณีพิเศษเช่นนี้ขึ้น!
สมเด็จพระมหาจักรพรรดิหยกวิสุทธิคุณธรรมคุโณปการสุวรรณไพศาลวิเศษสวรรค์อนันต์กาลปรากฏเลิศหล้านภาลัยไร้ที่สิ้นสุด[1]!
ราชโองการ!
ด้วยพระบัญชาของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิองค์เง็กเซียนแห่งศาลสวรรค์ ห้าวเทียน! เทพแห่งท้องทะเลทักษิณ หลี่ฉางเกิง ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเทพแห่งสี่คาบสมุทร! เขาจะได้รับการบูชาจากสิ่งมีชีวิตในสี่คาบสมุทรและได้รับอนุญาตให้เข้าสู่หอหลิงเซียว สำนักเซียนแห่งศาลสวรรค์ ทั้งนี้ จะมีสิทธิร่วมหารือถึงเรื่องต่างๆ ในหอทงหมิง และรับผิดชอบดูแลเรื่องการรบ โรคระบาด เหล่าทหาร ภัยพิบัติในสี่คาบสมุทร! และเป็นเทพผู้ตรวจการในนามสวรรค์[2] ท่องไปทั่วทั้งสี่คาบสมุทร!”
ที่ด้านล่าง หลี่ฉางโค้งคำนับให้และตะโกนว่า “ฉางเกิงน้อมรับพระบัญชา!”
ทันทีที่กล่าวจบ พระราชโองการในมือของแม่ทัพตงมู่ก็กลายเป็นลำแสงสีรุ้งเจ็ดสีที่อุดมไปด้วยพลังแกร่งกล้าแห่งเต๋าสวรรค์ พุ่งตรงไปยังหลี่ฉางโซ่ว และตรงเข้าสู่หน้าอกของหลี่ฉางโซ่ว
ทันใดนั้น คลื่นพลังแห่งเต๋าสวรรค์ก็เข้าห่อหุ้มร่างของหลี่ฉางโซ่ว และลำแสงสีทองก็รวมตัวเข้าด้วยกันกับลำแสงสีรุ้งเหล่านั้นอย่างรวดเร็วก่อนจะพุ่งเข้าไปในร่างจำแลงของหลี่ฉางโซ่ว และตรงไปหาร่างหลักของเขาพร้อมกัน
แท้จริงแล้ว!
ก่อนที่จะได้ชื่นชมยินดี ร่างหลักของหลี่ฉางโซ่วก็ได้รับบุญจนจมอยู่ในบุญอย่างท่วมท้นแล้ว!
โชคดีที่เขาเพียงได้รับมอบบุญ และไม่เข้าใจที่จะบังคับให้เพิ่มพูนฐานพลังของเขา
ขอบเขตพลังของหลี่ฉางโซ่วเป็นหนึ่งในไพ่ไม้ตายของหลี่ฉางโซ่ว ไพ่ใบนั้นไม่ได้มีไว้กำราบ แต่เป็นกลอุบายสร้างความสับสน
หากในเวลานี้ เขาก้าวข้ามทัณฑ์สวรรค์เซียนจิน และโชคดีพอที่จะรอดพ้นไปได้ ก็เทียบเท่ากับการบอกคนอื่นๆ โดยตรงว่า เขาเพิ่งกลายเป็นเซียนจิน ซึ่งย่อมจะอันตรายมากขึ้น
มีเพียงการซ่อนความแข็งแกร่งที่แท้จริงจากผู้ที่มุ่งเป้ามาที่เขาเท่านั้น จึงจะทำให้อีกฝ่ายสงวนท่าทีและระมัดระวังมากขึ้น
ในยามนั้น พลังแห่งเต๋าสวรรค์ที่เกิดขึ้นจากพระราชโองการนั้น ได้ก่อตัวขึ้นเป็นลำแสงสีรุ้งยาวอยู่ในปราณวิญญาณของหลี่ฉางโซ่ว…
ปราณวิญญาณของหลี่ฉางโซ่วมีลำแสงยาวในขณะที่สถานการณ์ในทะเลทักษิณเปลี่ยนไปและเริ่มมีคลื่นปรากฏขึ้นบนพื้นผิวทะเล
ทันใดนั้น ปราณวิญญาณของเขาก็ปล่อยลำแสงยาวออกไปทันที และทะเลทักษิณก็กลับคืนสู่ความสงบสุขอีกครั้งอย่างรวดเร็ว…
ตำแหน่งเทพนี้ไม่ได้เพียงมีไว้ปรากฏกายให้เห็นเฉยๆ มิใช่หรือ?
ดูเหมือนว่า ในตอนนี้ เขาจะส่งผลกระทบต่อส่วนต่างๆ ในสี่คาบสมุทรได้จริงๆ ใช่หรือไม่?
ทันใดนั้น บนท้องฟ้า แม่ทัพตงมู่ก็สูดลมหายใจลึกๆ อีกครั้งและกล่าวเสียงดังว่า “ฝ่าบาทองค์เง็กเซียนจะประทานรางวัลให้ท่าน!”
หลี่ฉางโซ่วไม่กล้าแตะต้องลำแสงยาวอีกเลย และฟังเรื่องรางวัลเงียบ ๆ
องค์เง็กเซียนประทานสมบัติสามชิ้น อย่างแรกคือ “ตำราสมบัติสี่คาบสมุทร” ซึ่งบันทึกข้อมูลรายละเอียดของสี่คาบสมุทรเอาไว้
อย่างที่สองคือ ‘ชุดเครื่องแบบศาลสวรรค์’ ซึ่งเป็นสมบัติวิญญาณบุญโฮ่วเทียนซึ่งให้การป้องกันในระดับปานกลาง แต่ประเด็นหลักคือ การแต่งตัวให้ดูงดงาม
สมบัติชิ้นที่สามคือ กระบี่เล่มหนึ่ง ซึ่งเป็นสมบัติวิญญาณบุญโฮ่วเทียนที่สลักนาม ‘เทพทะเล’ เอาไว้ ซึ่งสามารถใช้กระบี่เล่มนี้เคลื่อนกองทัพทหารแห่งศาลสวรรค์ได้
จากนั้น แม่ทัพสวรรค์ก็ร่อนลงมาพร้อมกับมอบสมบัติสามอย่างเอาไว้ในอ้อมแขนของเขา หลังจากที่หลี่ฉางโซ่วได้รับพวกมันแล้ว เขาก็ค่อนข้างอารมณ์ดี
องค์เง็กเซียนใจกว้างทีเดียว พระองค์ได้มอบตำแหน่งเทพ บุญ พลัง และเหล่าทหารให้เขา
ไม่รู้ว่า บรรดาเซียนต่างๆ ของสามสำนักบำเพ็ญเต๋าจะปรารถนาให้ศาลสวรรค์ดูแลอย่างอุดมสมบูรณ์มากมายเช่นนี้ด้วยหรือไม่
จากนั้น เขาก็กวาดสัมผัสเซียนรับรู้ออกไปทั่วและพบว่าบรรดาเซียนของสามสำนักบำเพ็ญเต๋าส่วนใหญ่ต่างมีสีหน้าท่าทีอยากรู้อยากเห็นและสนใจยิ่ง…
ในอีกด้านหนึ่งนั้น คนของเผ่ามังกรล้วนมีสีหน้าซับซ้อน และมีความอิจฉาอยู่ไม่มากก็น้อย
เหตุการณ์สำคัญของวันนี้เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วก็ถือกระบี่เทพทะเลเอาไว้ในมือ และตะโกนเบา ๆ ว่า “รองเจ้าสำนัก อ๋าวอี่ อยู่ที่ใด?”
ทันใดนั้น พร้อมด้วยเสียงคำรามของมังกร อ๋าวอี่ก็กลายร่างเป็นมังกรครามและบินข้ามมาจากด้านข้าง เขาม้วนร่างมังกรขึ้นและลอยตัวอยู่ตรงหน้าหลี่ฉางโซ่ว
หลี่ฉางโซ่วกล่าวว่า “วันนี้ ข้าคือเทพแห่งท้องทะเล และเจ้าจะเป็นผู้บัญชาการแห่งกองทัพสี่คาบสมุทรของข้า และเจ้าย่อมจะได้รับตำแหน่งเทพแห่งศาลสวรรค์! ”
กล่าวจบ หลี่ฉางโซ่วก็ชี้กระบี่ยาวออกไปข้างหน้าเพื่อเพียงต้องการแบ่งปันบุญจากตำแหน่งเทพของเขาเอง
ทว่าก่อนที่เขาจะได้ทันลงมือ ก็มีลำแสงสีทองอีกสายหนึ่งพุ่งมาจากประตูสวรรค์ทักษิณ และตกลงมาที่อ๋าวอี่ จากนั้น ก็เข้าห่อหุ้มร่างมังกรของอ๋าวอี่เอาไว้ภายใน
หลี่ฉางโซ่วตะลึงงันทันที
อืม เช่นนั้น ข้าก็ประหยัดมันเอาไว้ได้
ลำแสงสีทองนี้อ่อนกว่าลำแสงสีทองที่ห่อหุ้มหลี่ฉางโซ่วเมื่อก่อนหน้านี้มาก และแน่นอนว่า ย่อมมีพลังบุญอยู่ภายในนั้นน้อยกว่ามาก
บัดนั้น ร่างของอ๋าวอี่ก็ถูกล้อมรอบไปด้วยพลังแห่งเต๋าสวรรค์ และเกล็ดมังกรทั่วร่างของเขาก็เปล่งประกายออกมา!
ทันใดนั้น พลังชั่วร้ายสีแดงเลือดก็พุ่งออกมาจากหน้าผากของอ๋าวอี่ แล้วก่อตัวขึ้นเป็นเงาดำ
แต่ก็ถูกพลังแห่งเต๋าสวรรค์บดขยี้ทำลายจนสลายไปในทันที!
นั่นคือ…
กรรมร้ายของเผ่ามังกร!
เมื่ออ๋าวอี่ได้รับตำแหน่งเทพแห่งศาลสวรรค์แล้ว แม้จะเป็นเพียงระดับต่ำสุด รองจากตำแหน่งเทพของเทพแห่งท้องทะเลก็ตาม แต่ตำแหน่งเทพที่เป็นของเทพแห่งท้องทะเลก็ได้ชะล้างกรรมร้ายที่ติดตัวเขามาก่อนที่เขาจะเกิดออกไปด้วย!
ทันใดนั้น อ๋าวอี่ก็สว่างไสวไปด้วยแสงสีเขียวสดใสไปทั่วร่างของเขา พลังแห่งบุญซ่อนเร้นอยู่ในร่างของอ๋าวอี่ แล้วอ๋าวอี่ก็ถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีเขียวที่หนาแน่นอีกครั้ง
บัดนี้ พลังสายโลหิตของเขาไร้ขีดจำกัด!
และสายโลหิตของราชามังกรได้พุ่งทะยานขึ้นนับตั้งแต่นั้น!
ทันใดนั้น มังกรครามก็พุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าและปะทะเข้ากับเมฆดำ จากนั้น ก็เกิดสายฟ้าแลบแปลบปลาบทั้งภายในและภายนอกเมฆดำ แต่พลังของอ๋าวอี่ก็เพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงเรื่อยๆ
เมื่อเห็นเช่นนั้น หลี่ฉางโซ่วก็เผยอยยิ้มบางออกมา
แต่ในขณะนั้น ปรมาจารย์มังกรส่วนใหญ่ล้วนตกตะลึงทันที เห็นได้ชัดว่า พวกเขาประทับใจอย่างยิ่ง
มังกรเฒ่ามากมายล้วนมีน้ำตาคลอเบ้าและเอ่ยอันใดไม่ออก
ผลที่ได้นั้น ดีเกินคาดจริงๆ
ในวันนี้ หลี่ฉางโซ่วได้เผยทางออกของเผ่ามังกรมาวางไว้ตรงหน้าพวกเขาแล้ว มันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพวกเขาเท่านั้น
ลำแสงยาวนั้น…
เวลานี้ หลี่ฉางโซ่วรักษาสภาพจิตใจให้มั่นคง ปราณวิญญาณของเขาอยู่บนลำแสงยาวและเขาก็ได้รับการรู้แจ้งใหม่ๆ ขึ้นมามากมาย
สมบัตินั้นเกิดขึ้นจากตำแหน่งเทพของเขา ซึ่งทำให้เกิดคลื่นในสี่คาบสมุทรได้และยังสามารถควบคุมสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาต่ำส่วนใหญ่ในสี่คาบสมุทรได้
ในภายหน้า หากจะต่อสู้กับผู้อื่นในสี่คาบสมุทร เขาก็ยังสามารถยืม ‘พลังศักดิ์สิทธิ์’ แบบนี้มาใช้ได้
และยิ่งไปกว่านั้น…ก็ดูเหมือนว่า ผลการตรวจจับของสิ่งนั้นจะดีมาก
หลี่ฉางโซ่วครุ่นคิดเล็กน้อย ในขณะนั้น สถานการณ์ภายในรัศมีหมื่นลี้ของทะเลทักษิณได้ถูกจารึกไว้ในใจของเขา และภายในระยะนี้ เขาก็ยังเห็นว่ามีบางร่างซ่อนตัวอยู่บนท้องฟ้าเหนือทะเล มีนักพรตเต๋าชราสามคนทางตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งสองคนในหมู่พวกเขา เคยถูกอาจารย์ลุงจ้าวหลอกลวงในทะเลบูรพามาก่อนหน้านี้
ผู้คนจากสำนักบำเพ็ญประจิมมาดูหรือไม่?
เช่นนั้นก็เยี่ยมจริงๆ!
ในขณะที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ ห่างออกไปหลายเพียงไม่กี่สิบลี้ บนชายทะเลที่ใกล้กับสถานที่นี้มาก ร่างงดงามนั้นยืนอยู่เงียบๆ ในหมู่เมฆขณะกำลังเฝ้ามองดูที่นี่…
นาง…มาเมื่อใดกัน?
ราวกับจะรู้ว่า หลี่ฉางโซ่วกำลังใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ตรวจจับอยู่ เทพธิดาในหมู่เมฆจึงหัวเราะเบา ๆ และเผยให้เห็นร่องรอยของนางก่อนจะขี่เมฆไปที่แท่นทะยานเมฆ
………………………………………………………………..
[1] พระนามเต็มเป็นทางการขององค์เง็กเซียน
[2] เป็นเทพผู้ตรวจการแห่งสวรรค์หรือไต่เทียนซุ่นที่ล่องไปทั่วแดนในนามสวรรค์เพื่อตรวจตราความดีความชั่วในโลกมนุษย์ ปราบปรามสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง และส่งเสริมช่วยเหลือผู้ที่สร้างคุณงามความดี