ตอนที่ 481 ข้าจะเล่นเป็นเพื่อนเจ้าเอง

หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง

ตอนที่ 481 ข้าจะเล่นเป็นเพื่อนเจ้าเอง

เจียงโม่หานและหลินเว่ยเว่ยหันไปมองหลินจื่อเหยียนราวกับนัดกันมา ดวงตาสองคู่จับจ้องไปที่ตัวเขา โดยเฉพาะดวงตาของพี่รองซึ่งดูฉายแววประหลาดใจอยู่พอสมควร หลินจื่อเหยียนรู้สึกกดดันขึ้นมาทันที เขาจึงพูดติดขัด “กู่เหนียงคนนี้ดูน่าสงสารมาก…”

“คุณชาย ช่วยข้าด้วย หากข้าโดนพวกเขาพาตัวกลับไปก็จะถูกขายให้หอนางโลม ! ” หญิงสาวนางนั้นทำเหมือนเห็นแสงสว่างโผล่ขึ้นมาท่ามกลางความมืด นางร้องไห้ราวกับสายฝน ท่าทางอ่อนแอไร้เรี่ยวแรง สภาพดูน่าเวทนามาก…เสแสร้ง เสแสร้งต่อไปเถิด !

ชายฉกรรจ์ที่ลากตัวหญิงสาวก็พลันปล่อยมือจากผมของนาง จากนั้นแสยะยิ้มพลางหันมามองหลินจื่อเหยียน “ไอโหยว ! เครายังไม่ทันขึ้นก็รู้จักรักหยกถนอมบุปผาแล้วหรือ ? ในเมื่อเจ้าสงสารนาง เช่นนั้นก็จ่ายหนี้พนันแทนบิดาของนาง ! ”

เนื่องจากหลินจื่อเหยียนเป็นเพียงเด็กหนุ่มอายุย่างเข้าปีที่สิบสี่ เขาจึงพูดกับชายฉกรรจ์ด้วยสีหน้าแดงก่ำ “บิดาของนางติดหนี้พนันเจ้า ก็ไปทวงกับบิดานางสิ มารังแกหญิงสาวอ่อนแอคนหนึ่ง คิดว่าเก่งนักหรือ ? ”

“เฮอะ ! เจ้าไก่อ่อน บิดาติดหนี้บุตรชดใช้ เจ้าไม่เข้าใจตรงไหน ? ถ้าเจ้าไม่ชดใช้แทนนางก็ทำเป็นตาบอดเข้าไว้ ไม่อย่างนั้นก็ระวังข้าจะตีเจ้าแทน ! ” ชายฉกรรจ์ผู้นั้นเดินท่าทางขึงขังเข้ามาแล้วกำหมัดข่มขู่หลินจื่อเหยียน

หลินเว่ยเว่ยรีบคว้าข้อมือของชายฉกรรจ์ทันที นางชอบให้ท้ายคนของตัวเองมากที่สุด ไม่ว่าเจ้าจะจับใครไปชดใช้หนี้ นางไม่สนหรอก แต่ถ้ามาข่มขู่คนในครอบครัว นาง ไม่ ! มี ! วัน ! ยอม !

หลินเว่ยเว่ยออกแรงที่นิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือเล็กน้อย ทำให้ชายฉกรรจ์ผู้นั้นต้องกัดฟันข่มความเจ็บปวดทันที ก่อนที่นางจะพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “กรรมเกิดจากเหตุ มีเหตุจึงมีผลตามมา เจ้าขู่ผู้ใด ? มาแข่งกันว่าหมัดใครหนักกว่ากันหรือ ? มา มา มา ข้าจะเล่นเป็นเพื่อนเจ้าเอง ! ”

“เฮ้ ! นางเด็กนี่ใจกล้าใช้ได้ เหล่าหลู เจ้าชอบสตรีเช่นนี้ไม่ใช่หรือ ? ” ตอนนี้ชายฉกรรจ์คนที่สองกำลังยืนอยู่ข้างหลังของเหล่าหลู เขาจึงไม่เห็นท่าทางทรมานของสหายที่ชื่อเหล่าหลู ใบหน้าจึงยังดูสนุกสนานกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะไม่คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่

ระหว่างที่ชายฉกรรจ์คนที่สองกะพริบตา ตัวของเหล่าหลูก็ลอยออกไปแล้ว ร่างกระแทกเข้ากับกำแพงของตรอกนั้นอย่างแรง หลังรอให้ชายฉกรรจ์คนที่สองยกเปลือกตาขึ้นมา กำปั้นของใครบางคนก็พุ่งเข้าใส่เขาแล้ว เสี้ยวอึดใจต่อมาความเจ็บแปลบก็แล่นขึ้นสู่ริมฝีปาก เขาพ่นฟันหน้าสองซี่และเลือดออกมาทันที

“ปากเหม็นขนาดนี้ ควรจะใช้เลือดล้างเสียบ้าง ! ” ต่อจากนั้นหลินเว่ยเว่ยก็ใช้เท้าถีบหน้าท้องของอีกฝ่าย ชายฉกรรจ์คนที่สองกระเด็นออกไปเช่นกัน คราวนี้ลอยไปกระแทกกับเหล่าหลูที่เพิ่งลุกขึ้นมาได้อย่างแรง จนเหล่าหลูถึงขั้นกระอักเลือดออกมา

ชายฉกรรจ์คนที่สองไม่คิดไม่ฝันว่าบัณฑิตท่าทางอ่อนแอสองคนและเด็กสาวที่ดูผอมแห้งซึ่งดูเหมือนกลั่นแกล้งได้ง่ายคนหนึ่ง จะทำให้พวกตนรู้สึกเหมือนได้เจอกับของแข็ง ผู้ที่ลงมือไม่ใช่บุรุษสองคนนั้น แต่เป็นเด็กสาวเพียงหนึ่งเดียว…ถึงคราวโชคร้ายชัด ๆ !

“อาหญิงหลิน เกิดอะไรขึ้น ? ” โม่ชิงหลีคาดไม่ถึงว่าตนเพิ่งพาน้องชายออกไปซื้อแอปเปิลไม่กี่ลูกที่ร้านด้านข้างก็เกิดเรื่องขึ้นกับคนฝั่งนี้แล้ว…โชคดีที่พวกอาหญิงหลินไม่ได้ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

หลินเว่ยเว่ยหันไปมองสองพี่น้องแล้วฉีกยิ้มออกมา “ไม่มีอะไร แค่ช่วยผดุงความยุติธรรมเท่านั้น ! ”

“ขอบคุณคุณชายทั้งสองและกู่เหนียงที่ช่วยชีวิต ข้าไม่มีสิ่งใดจะตอบแทน…”

“ฮึ ฮึ ! อย่าบอกว่าประโยคถัดไปคือพลีกายถวายชีวิต ? น่าเสียดาย เพราะบัณฑิตน้อยผู้หล่อเหลาชนิดหาที่เปรียบไม่ได้ท่านนี้ มีเจ้าของแล้ว…” หลินเว่ยเว่ยยังชี้ไปที่หลินจื่อเหยียน “น้องชายของข้าเพิ่งอายุ 14 ปี พี่สาวท่านนี้คงไม่คิดจะเคี้ยวหญ้าอ่อนหรอกกระมัง ? ”

หลินจื่อเหยียนรีบถอยหลังออกไปสองก้าว ใบหน้าขาวใสมีสีแดงระเรื่อทันที “พี่รอง ท่านเป็นคนช่วยเหลือ แม้นางจะตอบแทนก็ไม่มาถึงข้าหรอก”

“ไม่ใช่เจ้าบอกให้สองคนนั้นหยุดหรือ ? ” หลินเว่ยเว่ยเห็นชายฉกรรจ์ทั้งสองคิดหนี นางจึงเข้าไปถีบให้ล้มลงกับพื้น ชายฉกรรจ์ทั้งสองเห็นนางไม่คิดจะปล่อยพวกตนไป หากลุกขึ้นยืนก็คงโดนถีบอีก จึงนอนร้องโอดครวญอยู่อย่างนั้น

ส่วนหญิงสาวที่ถูกช่วยเหลือเอาไว้ก็คุกเข่าลง นางร้องไห้ราวกับดอกบัวขาวท่ามกลางสายฝน “ขอบคุณกู่เหนียงที่ช่วยเหลือ ซิ่วเหนียงไม่มีสิ่งใดจะตอบแทน ยินดีเป็นสาวใช้ข้างกายกู่เหนียงเจ้าค่ะ”

“ไม่ต้อง คนชนบทอย่างพวกเราทำอะไรด้วยตัวเองเสมอ ไม่มีวาสนาพอจะมีคนมาคอยรับใช้หรอก” ความหมายของหลินเว่ยเว่ยชัดเจนมากว่า…เจ้ามาจากที่ไหนก็กลับไปที่นั่นเถิด !

หญิงสาวรีบขยับตัวเข้ามาแล้วก้มศีรษะคำนับไปทางหลินเว่ยเว่ยและเจียงโม่หาน “กู่เหนียง คุณชาย พวกท่านเมตตาด้วยเถิด ได้โปรดรับซิ่วเหนียงไว้ด้วยเถิดเจ้าค่ะ ข้า…ไม่มีทางไปแล้วจริง ๆ ถ้ากลับไปก็จะโดนบิดาติดการพนันจับไปขายเพื่อชดใช้หนี้ในโรงบ่อนอีก ข้าไม่รับเงินค่าจ้างก็ได้เจ้าค่ะ ขอแค่มีข้าวกินและมีที่ให้ซุกหัวนอนก็พอแล้ว ! ”

เมื่อเทียบตำหนักหนิงอ๋องกับตำหนักอื่นแล้ว ด้านในยังถือว่าสงบอยู่พอสมควร กระนั้นก็มีนางสนมอยู่สองสามคนเหมือนกัน หลังได้เห็นแววตาของหญิงสาวนางนี้ที่หันไปมองทางคู่หมั้นของอาหญิงหลินเป็นระยะ โม่ชิงหลีก็รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้มาดีแน่นอน

“เจ้าแน่ใจว่าจะขายตัวเองเป็นทาสจริงหรือ ? พอดีเลยสิ ข้างกายข้ายังขาดสาวใช้อยู่ มาทำสัญญาซื้อขายทาส จากนั้นติดตามข้าก็แล้วกัน ! ” โม่ชิงหลีไม่กลัวอีกฝ่ายจะเล่นลูกไม้ เพราะคนที่ใช้อุบายเช่นนี้ ไม่ต้องให้หมู่เฟยออกโรง นางแค่ใช้เพียงนิ้วเดียวก็บดขยี้ได้แล้ว

“…ขอบคุณในความหวังดีของท่าน แต่…กู่เหนียงผู้นี้และเหล่าคุณชายเป็นคนช่วยชีวิตข้าไว้ ซิ่วเหนียงยอมเป็นวัวเป็นม้าเพื่อตอบแทนบุญคุณของพวกเขา…” ซิ่วเหนียงสังเกตอายุของพวกเขาสามคน น่าจะเป็นพี่น้องกัน ดูจากเครื่องแต่งกายแล้วไม่เหมือนคนที่มาจากบ้านเศรษฐีหรือตระกูลสูงศักดิ์ พอไปถึงบ้านของอีกฝ่ายแล้ว ด้วยความฉลาดและกลอุบายของนาง ยังทำให้บัณฑิตรูปงามคนนี้มาอยู่ในเงื้อมมือไม่ได้อีกหรือ ?

คุณชายในอาภรณ์สีขาวนวลจันทร์ผู้นี้หล่อเหลามากจริง ๆ ชายหญิงที่นางพบเจอมาในชาตินี้ยังไม่มีผู้ใดรูปงามเท่าเขามาก่อน ซิ่วเหนียงคิดว่าตนก็เป็นหญิงงามเช่นกัน เพราะขณะอยู่ในหอชุนเฟิงก็เป็นที่ดึงดูดเหล่าบุรุษนับไม่ถ้วน มีเศรษฐีไม่น้อยที่ยอมจ่ายเงินค่าไถ่ตัวให้นาง

แต่ซิ่วเหนียงไม่ชอบสักคน ! ถ้าผ่านไปอีกสักสองสามวันก็จะเป็นวันที่นางเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ (อายุ 18 ปี) แล้ว ตามกฎของหอนางโลม คือสตรีที่เข้าสู่วัยผู้ใหญ่จะต้องออกมาต้อนรับแขก ดังนั้นนางจะต้องหาสามีดี ๆ ให้ได้ในช่วงเวลานี้

แม่เล้าในหอชุนเฟิงสงสารนางอยู่พอสมควร บอกว่าขอแค่นางมีคนที่ชอบก็จะให้ไถ่ตัวออกไปโดยใช้เงินเพียง 50 ตำลึง เงินที่นางเก็บมาในช่วงสองปีนี้ก็มีครบพอดี ตอนนี้ขาดเพียงคนที่นางชอบพอเท่านั้น

วันนี้ซิ่วเหนียงออกมาหาซื้อเส้นด้าย บังเอิญได้เจอหนุ่มหล่อราวกับเซียนเดินดิน ไม่ว่ากิริยาหรือคำพูดก็ดูสง่างาม แม้จะดูเย็นชาไปบ้าง แต่สำหรับนางกลับเรียกว่าสมบูรณ์แบบ ด้วยเหตุนี้นางจึงเรียกบ่าวจากหอชุนเฟิงมาสองคนแล้วจ้างให้แสดงละครเช่นนี้

นางแอบเหลือบมองสองพี่น้องที่เดินเข้ามาสมทบทีหลังปราดหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับก็บ่งบอกถึงฐานะทางการเงินได้ดี ทว่าการที่นางออกจากหอชุนเฟิงไม่ได้มาเพื่อกลายเป็นทาส ซิ่วเหนียงยังมองไปที่คุณชายรูปงามอีกครั้ง ในแววตาแฝงไปด้วยความหลงใหล…ถ้าแต่งงานกับสามีแบบนี้ได้ แม้จะต้องกัดก้อนเกลือกิน นางก็ยินดี

เฮอะ มีคนปัญญาอ่อนเพิ่มมาอีกคนแล้ว !

หลินเว่ยเว่ยเข้าไปบังระยะสายตาของหญิงสาว…บัณฑิตน้อยเป็นของนาง แล้วจะปล่อยให้คนอื่นมาแย่งไปได้อย่างไร ? เฮ้อ บทละครโทรทัศน์แนววีรบุรุษช่วยหญิงงามแล้วดึงปิศาจจิ้งจอกเข้าบ้าน สุดท้ายก็มาให้นางเผชิญกับตัว !

หลินเว่ยเว่ยหันไปมองเจียงโม่หาน “บัณฑิตน้อย เจ้าคิดเห็นอย่างไร ? ”