บทที่ 523 ฮ่องเต้รุ่นแรก

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

บทที่ 523 ฮ่องเต้รุ่นแรก

มองดูผู้หญิงที่ตกลงมาบนร่างของฮ่องเต้ ความรู้สึกที่แปลกประหลาดถาโถมมา หลานเยาเยาเบิกตากว้างทันใด

ใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยจนมีความคุ้นเคยอย่างแปลกประหลาด……

ทรงผมม้วนคลื่นมีเสน่ห์เป็นที่ชื่นชอบในปัจจุบัน……

รัดรูปเย้ายวน ชุดสีดำที่เผยให้เห็นความโค้งเว้าของเรือนร่าง…….

เป็นนาง!

นี่คือนางในยุคปัจจุบันนี่!

ทำไมตัวเองถึงได้ปรากฏตัวในเวลานั้น?

อีกทั้งดูท่าแล้วยังไม่ใช่เพียงแค่วิญญาณที่ข้ามเวลามา น่าจะเป็นร่างกายและวิญญาณข้ามเวลามาโดยตรง

ในพริบตา ความเจ็บปวดก็โจมตีเข้าในสมอง

ทำไมถึงเป็นเช่นนี้?

ปวด!

ปวดหัวมาก หัวใจก็เจ็บมาก

รู้สึกว่าเลือดของตัวเองกำลังเดือดพล่าน ทุกเซลล์ล้วนพองขึ้นอย่างรุนแรง เจ็บปวดราวกับว่าต้องการจะระเบิดก็ไม่ปาน

ทางนี้นางไม่มีเวลาสนใจ ในราชสำนักก็มีความสวยงามที่ต่างออกไป

โดยทั่วไปในเวลาที่คับขันเช่นนี้ จากการแสดงออกของเหล่าขุนนางทหารก็สามารถดูออกถึงระดับการสนับสนุนของพวกเขาที่มีต่อฮ่องเต้

เวลานี้ เสียงตะโกนคุ้มกันดังจอแจ ขุนนางบางส่วนต้องการขึ้นมาคุ้มกันข้างหน้า แต่กลับถูกคนที่ละโมบกลัวตายกั้นฝีเท้าของพวกเขาไว้อย่างสับสนอลหม่าน เมื่อขุนนางทางนี้เกิดความวุ่นวาย ทหารก็ถูกกลุ่มคนที่อลหม่านสกัดไว้ทำให้ขึ้นมาด้านหน้าไม่ได้

มีเพียงขันทีและพวกนางกำนัลที่อยู่ด้านหลังบัลลังก์มังกรที่ยังนับว่าสงบสุขุม แต่ในแววตากลับเผยถึงความประหลาดใจ จากนั้นแต่ละคนก็ชักกระบี่ที่ซ่อนไว้ออกมา แทงตรงไปที่ผู้หญิงที่ตกลงหมอบอยู่บนร่างของฮ่องเต้โดยตรง

“หยุดหยุดหยุด เข้าใจผิดเข้าใจผิด ข้าไม่ใช่นักฆ่า ข้าเพียงแค่ผ่านมา……โอ้โห นางกำนัลในยุคนี้ล้วนพกดาบด้วยหรอ?”

หญิงสาวประหลาดใจมาก มองดูคนที่พุ่งมาทางนาง อยากจะแฉลบตัวหลบ ร่างกายกลับถูกจับกุมอย่างแน่นหนาด้วยมือสองข้างที่มีความแข็งเหมือนเหล็ก

“รอเดี๋ยว……” หญิงสาวขัดขืนไม่หลุด ดวงตาเบิกกว้างทันใด พบว่าสายตาของพวกนางกำนัลผิดปกติ พูดอย่างไม่น่าเชื่อว่า : “เหมือนว่าพวกเขาจะพุ่งมาทางท่าน”

กระบี่ที่แหลมคมไร้ที่เปรียบแต่ละด้าม เล็งเป้าไม่ใช่ที่นาง แต่เป็นฮ่องเต้ที่จับกุมนาง

“พูดมาก!”

เสียงทุ้มต่ำที่มีแรงดึงดูดดังมาจากด้านบนศีรษะ เย็นยะเยือกราวน้ำค้าง บ้าพลังเหมือนลม ราวกับว่าแรงสังหารได้ซ่อนไว้นานแล้ว ระเบิดออกมาอย่างกะทันหัน

ขณะที่กระบี่มากมายแทงที่ร่างของเขา กำลังภายในที่แข็งแกร่งพลังหนึ่งจากในร่างกายก็ระเบิดออกมา ทำให้คนรอบๆทั้งหมดกระเด็นออก

มีขันทีที่ซื่อสัตย์คุ้มกันเจ้านายสองสามคน ใช้แรงอันน้อยนิดขัดขวางนักฆ่า ถูกปาดคอในเหตุการณ์โดยตรง ตัดหัวคนแล้ว เลือดกระเซ็นเต็มพื้น

พวกนางกำนัลที่ได้รับบาดเจ็บหนัก ลุกขึ้นมาและทุ่มเทแรงพุ่งแทงมา แต่ละคนสีหน้าดุร้ายอำมหิต และไม่ต้องการชีวิตแล้วเช่นนั้น

นักฆ่าที่แต่งตัวเป็นนางกำนัลอีกกลุ่มหนึ่ง จากด้านหลังฉากกั้นที่สูงใหญ่และงดงาม พุ่งออกมา

“คุ้มกัน!”

ขันทีผู้หนึ่งตะโกนเสียงดังเสียงหนึ่ง และก็ได้ยินเสียงร้องที่น่าเวทนา จากนั้น “ปึง” เสียงหนึ่ง ฉากกั้นด้านหลังบัลลังก์มังกรล้มลงอย่างกะทันหัน ขันทีใหญ่อาการร่อแร่อยู่บนฉากกั้นที่ล้มลงมา

เขาใช้มือข้างหนึ่งปิดแผลที่มีเลือดไหลริน มือหนึ่งถือดาบฆ่าฟันกับผู้ที่เข้ามาต้องการจะตัดหัวของเขา ในปากเลือดสดไหลตลอด ยังตะโกนเสียงดังถึงที่สุด :

“ฝ่าบาท เป็นทหารหน่วยกล้าตายพ่ะย่ะค่ะ พวกเขาล้วนเป็นทหารหน่วยกล้าตายจากนอกแผ่นดินพ่ะย่ะค่ะ เหล่าองครักษ์อ้างอู๋ถูกล้อมไว้เป็นชั้นๆ ตายอย่างน่าอนาถและบาดเจ็บสาหัสพ่ะย่ะค่ะ”

องครักษ์อ้างอู๋เป็นองครักษ์ทองคำที่ฮ่องเต้อบรมอย่างดีที่สุด ไม่เคยปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนมาก่อน ลึกลับยากคาดเดา มีเพียงฮ่องเต้มีอันตรายพวกเขาถึงจะปรากฏตัว ตอนนี้ฮ่องเต้เพิ่งจะประสบกับอันตราย องครักษ์อ้างอู๋ที่ลึกลับยากจะคาดเดาก็ตายอย่างน่าอนาถและบาดเจ็บสาหัส

เห็นได้ว่าเป็นเหตุการณ์ลอบสังหารที่ได้วางแผนการมาอย่างแยบยล อีกทั้งยังอยู่ในท้องพระโรงใหญ่ พอที่จะพูดได้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่เคยมีก่อนหน้านี้

ฮ่องเต้กวาดมองบรรดาผู้คนแวบหนึ่ง เห็นขันทีใหญ่จะถูกนักฆ่าตัดตัว เมื่อหรี่ดวงตา ฝ่ามือที่เคลื่อนกำลังภายในที่แข็งแกร่ง โบกไปทางนักฆ่าที่ต้องการจะตัดหัวของขันทีใหญ่โดยตรง

ผู้หญิงในอ้อมอกของฮ่องเต้ ได้ถูกเหตุการณ์นี้ทำให้ตกตะลึงไปนานแล้ว

นางข้ามเวลามาไม่ถูกเวลาใช่หรือไม่?

นางหลานเยาเยาไม่ใช่ว่าปลูกฝังระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บหรอ! ปลูกฝังสำเร็จแล้ว ทำไมเจ้าระบบยังต้องการให้นางทำภารกิจ?

ทำภารกิจก็ทำภารกิจสิ!

ทำไมถึงต้องข้ามเวลามาสถานที่เลวร้ายพรรคนี้? ยังพบกับความวุ่นวายในพระราชวังอีก……

กำลังคิดอย่างกลัดกลุ้ม ของเหลวที่อุ่นๆหยดหนึ่งหยดลงบนหน้าของนาง หลานเยาเยายื่นมือไปลูบ เมื่อมองอย่างแน่วแน่ เงาสีแดงเข้ามาในตา

เป็นเลือด!

รีบเงยหน้าไปมอง มุมปากของฮ่องเต้มีรอยเลือดบางๆไหลลงเป็นรอยเล็กน้อย

ทำไมถึงเป็นเช่นนี้?

เมื่อครู่เขายังดีๆอยู่ไม่ใช่หรือ?

ครู่หนึ่งก็คิดอะไรได้ ดวงตาของหลานเยาเยาเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน สีหน้าเคร่งขรึมอย่างประหลาด

ยื่นมือไปเอามือพาดบนชีพจรของฮ่องเต้

ภายในใจตกใจ: โดนยาพิษแล้ว ยังเป็นยาพิษชนิดเรื้อรัง ยาพิษชนิดนี้ไร้สีไร้กลิ่น พิษไม่แรง สังเกตได้ยาก จำเป็นต้องกินเป็นเวลานาน สะสมเป็นเดือนๆถึงจะเข้าลึกถึงไขกระดูก

แต่ว่า!

เดิมทีพิษในร่างกายของฮ่องเต้ยังไม่ได้เข้าลึกถึงไขกระดูก ทุกอย่างยังสามารถแก้ได้ เพียงแค่ไม่สามารถใช้กำลังภายในได้ ตอนนี้กลับดี ระเบิดกำลังภายในออกไปอย่างกะทันหันสองสามครั้งแล้ว สารพิษได้เข้าไปในไขกระดูกแล้ว

“นี่ ท่านโดนยาพิษแล้ว ไม่สามารถใช้กำลังภายในได้อีก ไม่เช่นนั้นท่านจะตาย” หลานเยาเยามองไปยังดวงตาที่เคร่งขรึมแล้วเอ่ย

แต่คนอื่นไม่ได้สนใจนางโดยสิ้นเชิง เหมือนกับฟังไม่ได้ยินเช่นนั้น

เอ่อ……

ก็ได้!

แรงสังหารคุกรุ่นรอบด้าน ไม่ใช่วิทยายุทธกำลังภายใน ก็จะถูกแทงกลายเป็นรังแตนในเวลาอันสั้น

ไม่มีทางแล้ว หลานเยาเยากัดฟัน ปล่อยมือ ในมือก็ปรากฏเม็ดกลมๆสองเม็ด ยาลูกกลอนสีขาวอ้วน ยื่นให้เขาอย่างปวดใจ ไม่เต็มใจ

“กินเถอะ! อย่างน้อยมันสามารถรักษาชีพจรหัวใจของท่านได้สามชั่วโมง”

ได้ยินดังนั้น!

ร่างกายของฮ่องเต้ชะงัก ก้มลงมามองนางทันที ในดวงตาแฝงด้วยความสงสัย แต่ยังคงระอุด้วยแรงสังหาร

ภายใต้สายตาที่เย็นยะเยือกเหมือนมีดกรีด หลานเยาเยาอดกลืนน้ำลายไม่ได้ เน้นย้ำเสียงเบาๆ :

“ท่านวางใจ ข้าเป็นหมอ ไม่ใช่นักฆ่า”

คำพูดนี้เหมือนจะมีผล ฮ่องเต้แบ่งมือข้างหนึ่งออกมา อีกข้างหนึ่งรัดนางไว้บนร่างแน่น

เดิมทีคิดว่าเขาเริ่มมีความคิดแล้ว เชื่อคำพูดของตัวเอง

ใครจะรู้……

“ฉึก” เสียงหนึ่ง ไหล่ของนางเย็น เสื้อหนังสีดำรัดรูปถูกฉีกชิ้นหนึ่ง เผยให้เห็นไหล่ที่ขาวละเอียดทันที

“นี่ ท่านบ้าแล้ว โรคจิต”

ฮ่องเต้สีหน้าเปลี่ยนแปลงเป็นครุ่นคิด แววตาไม่สดใส เอาสายตาตกบนไหล่ขาวราวหิมะของนาง รอยประทับดอกไม้บางๆที่แทบจะไม่มีนอนอยู่ที่บนไหล่ของนาง ร่างกายชะงักอีกครั้ง

สายตานั้นตกลงเพียงแค่ไม่กี่วินาที ก็เคลื่อนไปแล้ว เอื้อมมือหยิบยาลูกกลอนในมือของหลานเยาเยาโดยตรง โยนเข้าไปในปากแล้วกลืนลงไปลวกๆ

ต่อจากนั้น ฮ่องเต้ที่ทรงพลังน่าเกรงขามคนเดียวต้านร้อยคน ทำลายนักฆ่ากลุ่มหนึ่งแล้วอีกกลุ่มภายใต้เงื้อมมือ

เวลานี้!

ทหารที่ถูกทำให้วุ่นวาย มาถึงข้างกายของฮ่องเต้แล้ว คุ้มกันซ้ายขวา

องครักษ์อ้างอู๋ที่โดนล้อมอย่างแน่นหนา พุ่งออกมาจากวงล้อมอย่างไม่เกรงกลัวว่าจะต้องแลกด้วยสิ่งใด แต่ละคนเลือดโชกมาคุ้มกันด้านหน้าฮ่องเต้

ขณะที่ไม่มีผู้คุ้มกัน หากว่าไม่ใช่เพราะถูกยาพิษเรื้อรังที่ไร้วี่แวว จะสามารถทำร้ายฮ่องเต้ได้อย่างไร? ตอนนี้บรรดาผู้คนคุ้มกัน นักฆ่าเหล่านั้นยิ่งไม่สามารถทำสำเร็จได้แล้ว

นักฆ่าที่รวมตัวกันกลุ่มหนึ่งโดยคนร้อยคน ในไม่ช้ากองกำลังก็พ่าย แทบจะถูกฆ่าตัดหัวทั้งหมด แต่ยังมีสองสามคนหนีออกไปได้

“ข้าน้อยทั้งหลายมาคุ้มกันช้า ขอฝ่าบาทได้โปรดลงโทษพ่ะย่ะค่ะ” เหล่าขุนนางทหารล้วนคุกเข่าอยู่ที่พื้นด้วยความสั่นเทา ขอรับโทษอย่างหวาดกลัว

ฮ่องเต้ปล่อยหลานเยาเยา เปล่งเสียงหึอย่างเย็นชา และไม่ได้มองพวกเขาสักแวบเดียว แต่เดินไปด้านข้างของขันทีใหญ่ที่ล้มอยู่บนฉากกั้น ถามด้วยเสียงทุ้มต่ำ :

“บาดแผลเป็นเช่นไร?”