บทที่ 525 ขันที?

บทที่ 525 ขันที?

แต่เมื่อชายหนุ่มได้กลิ่นเหม็นที่ปกคลุมร่างกายของตัวเองสีหน้าของซูอันก็กลายเป็นบูดเบี้ยว

ให้ตายสิ เพราะงานของผู้เฒ่ามี่จอมงี่เง่า มันทำให้ข้าต้องทนลำบากขนาดนี้!

เว่ยหงเต๋อเรียกให้คนมาพาเว่ยสั่วออกไปก่อน จากนั้นเขาก็พูดกับซูอันว่า “ขอบคุณน้องซูที่พาน้องชายของข้ากลับมา ข้าให้คนเตรียมห้องพักพร้อมอ่างน้ำร้อนเรียบร้อยแล้ว เมื่อน้องซูเสร็จธุระ เจ้าสามารถพักค้างคืนได้หากต้องการ”

ซูอันพยักหน้าและกล่าวว่า “ขอบคุณพี่เว่ยวันนี้ข้าดื่มมากไปหน่อย ถ้าข้ากลับไปแบบนี้ ภรรยาข้าคงฆ่าข้าแน่ ดังนั้นข้าคงต้องขอรบกวนท่านด้วยแล้ว”

เว่ยหงเต๋ออึ้ง เขายื่นข้อเสนอตามมารยาทเท่านั้นและไม่คิดว่าซูอันจะค้างคืนจริง ๆ

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากได้ยื่นข้อเสนอไปแล้ว เขาไม่สามารถเปลี่ยนใจและปฏิเสธได้ “น้องซู มันค่อนข้างยากที่ข้าจะจินตนาการว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลฉู่จะก้าวร้าวขนาดนั้น”

ซูอันหัวเราะคิกคัก “นางเป็นเพียงเทพธิดาต่อหน้าผู้อื่น แต่ในที่ส่วนตัวนางก็เหมือนกับผู้หญิงทั่วไป”

เว่ยหงเต๋อรู้สึกอิจฉาเมื่อได้ยินเรื่องนี้ “น้องซู ช่างโชคดีจริง ๆ”

ถ้าข้ามีภรรยาอย่างคุณหนูใหญ่ตระกูลฉู่ ข้าจะอยู่เคียงข้างนางทุกนาทีที่ทำได้! ทำไมข้าถึงต้องนอนนอกบ้านด้วย?

บรรดาผู้ที่ได้รับอาหารอย่างดีย่อมไม่เข้าใจความทุกข์ยากของความอดอยากอย่างแท้จริง!

ท่านยั่วยุเว่ยหงเต๋อสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 99!

“ฮ่า ๆ ถึงจะบอกว่าข้าโชคดี แต่ภรรยาอย่างนางมาพร้อมกับปัญหาต่าง ๆ เช่นกัน” ซูอันกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ

“มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?” แม้ว่าเว่ยหงเต๋อจะไม่มีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับซูอัน แต่ในฐานะผู้ชาย ไม่มีทางที่เขาจะพลาดโอกาสที่จะได้ยินความลับของเทพธิดาอย่างฉู่ชูเหยียน

ซูอันถอนหายใจ “ภรรยาข้าสวยเกินไป! ข้ามักจะทำให้คนอื่นอิจฉาเสมอ! ท่านรู้หรือไม่ว่าผู้คนสาปแช่งข้าเกี่ยวกับเรื่องนี้มากมายแค่ไหน?”

เว่ยหงเต๋อพูดไม่ออก

ทำไมข้ารู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ข่มข้าทางอ้อม!

ท่านยั่วยุเว่ยหงเต๋อสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 66…66…66…

ทั้งสองพบว่าตัวเองมาถึงห้องนอนแขกโดยไม่รู้ตัว เว่ยหงเต๋อยิ้มและพูดขึ้น “เอาล่ะ เรามาถึงห้องของเจ้าแล้ว ถ้าเจ้าต้องการอะไร ก็สั่งให้คนใช้นำมาให้เจ้าได้ ข้าขอตัวก่อน เชิญน้องซูพักผ่อนได้ตามสบาย”

“ขอบคุณสำหรับน้ำใจของท่าน” ซูอันประสานมือคารวะ

เว่ยหงเต๋อหันหลังกลับเพื่อจากไป แต่หลังจากที่ก้าวไปได้ไม่กี่ก้าว จู่ ๆ ก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้น และหันกลับมา “อ้อ มีอีกอย่างที่ข้าเกือบลืมบอกน้องซู ถ้าน้องซูอยากจะไปเดินเล่นรอบคฤหาสน์ก็ตามสบายเลย” เขาชี้นิ้ว “แต่ทางนั้นเป็นสถานที่ที่ผู้อาวุโสคนหนึ่งของตระกูลพักอยู่ เขาชอบความสงบและไม่ชอบถูกรบกวน ดังนั้น…”

ซูอันยิ้มกว้าง “ท่านไม่ต้องห่วง ข้าจะไม่ไปทางนั้นแน่นอน” เขาให้ความมั่นใจกับเว่ยหงเต๋อ

เขากำลังครุ่นคิดอยู่พอดีว่าเขาจะสำรวจคฤหาสน์ที่กว้างขวางเช่นนี้ตรงจุดไหนก่อน ช่างโชคดีจริง ๆ ที่เว่ยหงเต๋อผู้นี้ชี้ทางสว่างให้กับเขาโดยที่ไม่ต้องออกแรงเลย

“ขอบคุณที่เจ้าเข้าใจ” เว่ยหงเต๋อยิ้มและจากไป

ซูอันเข้าไปในห้องของเขา มีอ่างน้ำร้อนขนาดใหญ่วางอยู่ตรงกลาง และมีคนรับใช้ชายหลายคนถือเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นอื่น ๆ รอยื่นให้เขาตลอดเวลาที่เขาเรียกสั่ง

“ข้าชอบอาบน้ำนาน ดังนั้นพวกเจ้าไม่ต้องมาเฝ้าข้า” ซูอันสั่งคนรับใช้เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขารู้ว่าตัวเองจะออกสำรวจรอบคฤหาสน์

“เข้าใจแล้วคุณชาย” คนรับใช้เหล่านั้นวางของที่ถือไว้

ซูอันยิ้มบาง ๆ ตระกูลเว่ยนี้ไม่ตระหนี่เกินไปเหรอ? พวกเขาไม่ได้ส่งสาวใช้แม้แต่คนเดียวมาปรนนิบัติข้า! พวกเขากลัวว่าข้าจะทำอะไรกับพวกสาวใช้หรือไง?

แน่นอนว่านี่เป็นเพียงอารมณ์ขันเท่านั้น เขายังไม่ลืมจุดประสงค์ที่แท้จริงของเขาในวันนี้ หลังจากลงกลอนประตูแล้ว เขาก็ไปที่อ่าง ถอดเสื้อผ้าออก และนำชุดดำที่เตรียมไว้ล่วงหน้าออกมา

เมื่อแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว เขาก็กระโดดออกไปทางหน้าต่างอย่างเงียบเชียบ และแอบเข้าไปในส่วนด้านในของคฤหาสน์ตระกูลเว่ย

คงเพราะด้วยเหตุผลบางอย่าง ภายในคฤหาสน์ตระกูลเว่ยจึงไม่มีแสงไฟมากนัก ทั่วบริเวณจึงมืดครึ้มกว่าคฤหาสน์ตระกูลฉู่อยู่มาก

แน่นอนว่ามันช่วยให้การทำงานของเขาสะดวกมากยิ่งขึ้น…

เขามุ่งหน้าไปทางที่เว่ยหงเต๋อเตือนเขาไม่ให้ไป

บางทีอาจเป็นเพราะเขาอยู่ในคฤหาสน์ตระกูลเว่ยและได้ผ่านแนวป้องกันที่รัดกุมที่สุดมาแล้ว จึงไม่พบเวรยามมากนักตลอดทาง

ชายหนุ่มเดินผ่านเวรยามไม่กี่คนที่เดินตรวจตราไปมาได้อย่างง่ายดาย

ทักษะ ‘วิชาบังบดซ่อนเร้น’ ได้ปกปิดกลิ่นอายของเขา ทำให้ผู้อื่นตรวจจับได้ยากอย่างยิ่งเว้นแต่จะมองเห็นตัวเขาตรง ๆ นี่เป็นไพ่ลับซ่อนเร้นที่วิเศษจริง ๆ!

เมื่อเขามาถึงลานเรือนหลังหนึ่ง ซูอันก็แอบเข้าไปในห้องและเริ่มค้นหา

น่าเสียดายที่เขาไม่พบกล่องแบบที่ผู้เฒ่ามี่เคยให้เขาดู จะหาของชิ้นเดียวในสถานที่ใหญ่โตขนาดนี้ได้ยังไง?

ซูอันยอมแพ้หลังจากค้นหาไประยะหนึ่ง น่าเสียดายที่ข้าไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างในนั้น ไม่มีแม้แต่เงื่อนงำอะไรเลย แล้วข้าจะไปหามันได้ยังไง?

ซูอันรู้สึกปวดหัวขึ้นมา

เขาลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่าง แต่เมื่อมองออกไป เขาก็พบว่ามีห้องหนึ่งที่ยังเปิดไฟอยู่

หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง เขาก็ตัดสินใจไปดู บางทีอาจจะพบเบาะแสบางอย่างที่นั่น

เขาปกปิดตัวเองด้วยวิชาบังบดซ่อนเร้นอยู่เสมอ ตราบใดที่เขาระมัดระวังตัวพอ คงไม่มีอันตรายอะไรมาก

ชายหนุ่มเดินไปที่ห้องนั้นอย่างระมัดระวัง เมื่อไปถึง ก็ได้ยินเสียงพูดคุยกันแบบคลุมเครือ เขาจึงนั่งยอง ๆ และเอาหูแนบไปที่กำแพงใต้หน้าต่างทันที

ซูอันเคยดูละครมามากแล้วที่ผู้บุกรุกถูกจับได้จากเงาผ่านหน้าต่าง เขาไม่ต้องการที่จะทำผิดพลาดอย่างในละคร

“พ่อบุญธรรม อะไรทำให้ท่านต้องลำบากเดินทางมาที่นี่ด้วยตนเอง?”

เสียงนี้ไม่ได้เป็นของพี่น้องเว่ยคนใดคนหนึ่ง มันเป็นเสียงของชายวัยกลางคน ซึ่งน่าจะเป็นผู้นำของตระกูลเว่ย

“ก่อนหน้านี้เราได้รับข่าวสำคัญเกี่ยวกับสหายเก่าของข้าคนหนึ่งที่หายตัวไปนานแล้ว จักรพรรดิได้ส่งข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้”

เสียงนี้แหบเครือและไม่น่าฟังอย่างยิ่ง

ซูอันขมวดคิ้ว ทำไมเสียงนี้ถึงมีโทนที่คล้าย ๆ กับผู้เฒ่ามี่?

“หืม? ข้าสงสัยว่าปัญหาประเภทไหนที่แม้แต่องค์จักรพรรดิก็เดือดเนื้อร้อนใจได้?”

“ฮึ่ม อย่าถามคำถามที่เจ้าไม่ควรถาม!”

“ขออภัยด้วย ขออภัยด้วย บุตรชายบุญธรรมผู้นี้พูดผิดไป อย่างไรก็ตาม ข้าค่อนข้างคุ้นเคยกับเมืองจันทร์กระจ่างนี้ มีอะไรให้ข้าช่วยหรือไม่?”

“ยังไม่ใช่ตอนนี้ ถ้าข้าต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า ข้าจะบอกเจ้าเอง สหายเก่าของข้าคนนี้ฉลาดล้ำลึกอย่างไม่น่าเชื่อ ถ้าครั้งนี้ข้าพลาดให้เขารู้ตัว มันจะยากที่จะหาเขาเจออีก”

“อย่างที่คาดไว้ พ่อบุญธรรมช่างฉลาดหลักแหลม…”

คิ้วของซูอันขมวดเข้าหากันแน่นขณะที่เขาแอบฟังการสนทนานี้ พ่อบุญธรรมคนนี้เสียงเหมือนพวกขันทีในวังไม่มีผิด

เขารู้ได้อย่างไรว่าชายคนนี้เป็นขันทีงั้นเหรอ? ก็มันเป็นเพราะเขาชอบดูซีรีส์ย้อนยุคในทีวีเมื่อชีวิตก่อนน่ะสิ!

เดี๋ยวนะ รูปแบบการพูดของผู้เฒ่ามี่ก็ค่อนข้างคล้ายกันกับแบบนี้นี่…

ขันทีลึกลับผู้นี้เป็นใคร? ดูเหมือนว่าเขาจะทำตามคำสั่งของจักรพรรดิด้วย

จู่ ๆ เหงื่อเย็นเยียบก็หลั่งออกมาจากหน้าผาก ตระกูลฉู่กำลังตกเป็นเป้าหมายของจักรพรรดิ? อย่างไรก็ตาม หลังจากที่คิดมากขึ้น เขาก็ปฏิเสธความคิดที่ว่าขันทีคนนี้มีเป้าหมายที่ฉู่จงเทียน ขันทีเรียกเป้าหมายนั้นว่าสหายเก่า ฉู่จงเทียนดูไม่น่าใช่คนประเภทที่มีสหายเช่นนี้

เป้าหมายที่ว่านั่นคือผู้เฒ่ามี่หรือเปล่า?

ความเป็นไปได้นี้ดูมีแนวโน้มมากขึ้น ผู้เฒ่ามี่เป็นตัวตนที่ลึกลับมากเกินไป และระดับการบ่มเพาะของเขาก็สูงมากเกินกว่าที่จะเป็นคนธรรมดา

แต่แล้วทันใดนั้นเสียงเย็นชา ก็ดังขึ้นจากภายในห้อง “นั่นใคร!?”

ซูอันหน้าซีดด้วยความตกใจ ถูกจับได้แล้ว! เขาเตรียมที่จะใช้ ‘จ้าววายุ’ เพื่อหนีออกไป หากคนผู้นี้กำลังตามหาผู้เฒ่ามี่จริง ๆ แสดงว่าคน ๆ นี้น่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับผู้เฒ่ามี่ ชายหนุ่มไม่มีทางที่จะสามารถต่อสู้กับคนเหล่านี้ได้

แต่ทันใดนั้น เขาก็ได้ยินเสียงแปลก ๆ มาจากหลังคาด้านบน บุคคลที่สวมชุดดำพุ่งหนีไปอย่างความเร็ว