บทที่ 526 คำขอร้องของสาวชุดดำ

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 526 คำขอร้องของสาวชุดดำ

บทที่ 526 คำขอร้องของสาวชุดดำ

ซูอันถอนหายใจด้วยความโล่งอก ข้าเดาว่าไอ้คนบนหลังคามันโชคร้ายจริง ๆ ที่จับได้ไม้สั้น

ว่าแต่ทำไมร่างนั้นดูคุ้นเคยเล็กน้อย?

ทันทีที่ร่างนั้นเริ่มวิ่ง เสียงวัตถุตัดผ่านอากาศก็ดังขึ้น ฝาถ้วยชาพุ่งทะลุหลังคา

มันเร็วมากจนซูอันแทบจะมองตามไม่ทัน ฝากระทบกับร่างที่สวมชุดดำเกือบจะในทันที

“อ๊าา!” พร้อมกับเสียงร้อง เงาดำตกลงมาจากหลังคา

เสียงของคน ๆ นี้ฟังดูคุ้นเคย! หน้าอกขนาดใหญ่นั่นไม่มีอุปกรณ์พรางตัวใดสามารถซ่อนเร้นได้

เสียงแหบพร่าพูดขึ้นอีกครั้ง “ต๋าเป่า ข้าจะให้เจ้าจัดการเรื่องข้างนอกก็แล้วกัน”

“เข้าใจแล้วท่านพ่อบุญธรรม ท่านโปรดวางใจ ลูกชายของท่านจะต้องจับคนร้ายนั้นให้ท่านพ่อได้อย่างแน่นอน!” ผู้พูดน่าจะเป็นเว่ยต๋าเป่า ผู้นำของตระกูลเว่ยแห่งเมืองจันทร์กระจ่าง

จากนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าออกวิ่งอย่างรวดเร็ว

ซูอันออกห่างกำแพงและค่อย ๆ แอบหนีไปอย่างระมัดระวัง

ขันทีลึกลับนั่นมีระดับการบ่มเพาะที่น่าสะพรึงกลัวอย่างแน่นอน เขาสามารถทำร้ายใครซักคนจากระยะไกลได้ด้วยเพียงแค่ใช้ฝาถ้วยชา! ถ้าเขาเอาจริงขึ้นมา ผู้บุกรุกคนนั้นคงตายไปแล้วแน่นอน

เมื่อซูอันออกห่างจากเรือนหลังนั้นแล้ว ในที่สุดชายหนุ่มก็ปล่อยลมหายใจที่ตัวเองกลั้นไว้ จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังทิศที่ร่างชุดดำหนีไป

ร่างชุดดำเดินกะเผลกไปทางสวนหิน นางหลบผ่านพวกผู้คุ้มกันไปได้อย่างยากลำบาก และมาถึงขีดจำกัดของร่างกายแล้ว

การโจมตีที่ลึกลับนั้นทำให้พลังชี่ของนางปั่นป่วน แม้ว่านางจะรอดชีวิตมาได้ แต่ก็ยังได้รับบาดเจ็บสาหัส หากปล่อยเวลาจนเนิ่นนานไป นางอาจจะไม่รอด

ทันใดนั้น ก็มีใครบางคนคว้ามือนางไว้ นางกำลังจะตอบโต้แต่แล้วนางกลับได้เห็นใบหน้าที่นางไม่คาดคิดว่าจะเจอ

“ตามข้ามา!” ซูอันกล่าว

ถึงแม่นางจะสวมหน้ากาก แต่ดวงตาที่คุ้นเคยและหน้าอกขนาดใหญ่นั้นยังคงบ่งบอกตัวตนของนางได้เป็นอย่างดี

จะเป็นใครไปได้อีกนอกจากเพ่ยเหมียนหมาน!

ชายหนุ่มไม่มีเวลาถามว่าทำไมนางถึงมาที่นี่ เพราะตอนนี้คฤหาสน์ตระกูลเว่ยกำลังวุ่นวาย เขารีบพานางออกวิ่ง

เมื่อเพ่ยเหมียนหมานจำเขาได้ นางก็หยุดต่อต้านและหนีไปกับเขาทันที

ซูอันไม่คุ้นเคยกับคฤหาสน์ตระกูลเว่ย เขาสัมผัสได้ถึงผู้คุ้มกันทุกหนทุกแห่ง และผู้นำของตระกูลเว่ยก็ออกไล่ล่าหาผู้บุกรุกเป็นการส่วนตัว เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพาเพ่ยเหมียนหมานกลับไปที่ห้องของเขา

ไม่นานประตูห้องของชายหนุ่มก็ถูกกระแทกเปิดออก กลุ่มคนพุ่งตรงเข้ามาพร้อมอาวุธครบมือ

หนึ่งในผู้นำกลุ่มที่บุกเข้ามาคือชายวัยกลางคนที่มีความคล้ายคลึงกับ เว่ยหงเต๋อ เขาน่าจะเป็นผู้นำของตระกูลเว่ย เว่ยต๋าเป่า

“พี่เว่ย เกิดอะไรขึ้น…” ซูอันซึ่งถอดเสื้อผ้าเรียบร้อยและกำลังแสร้งนั่งแช่อยู่ในอ่างอาบน้ำ เขามองไปที่เว่ยหงเต๋อด้วยสีหน้าประหลาดใจ

เว่ยหงเต๋อกล่าวขอโทษ “ขออภัยด้วยน้องซู แต่เมื่อครู่นี้มีผู้บุกรุก เรามาที่นี่เพราะเรากังวลว่าผู้บุกรุกคนนี้จะมารบกวนน้องซู”

“ใครจะกล้าพอที่จะสร้างปัญหาในคฤหาสน์ตระกูลเว่ย?” ซูอันเย้ยหยันอยู่ในใจ เห็นได้ชัดว่าพ่อลูกตระกูลเว่ยกำลังสงสัยอย่างชัดเจนว่าผู้บุกรุกอยู่ที่นี่ ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงไม่บุกเข้ามาอย่างกระทันหัน

“เราไม่รู้แน่ชัด แต่เรามั่นใจว่าผู้บุกรุกเป็นผู้หญิง” เว่ยหงเต๋อกล่าว ในเวลาเดียวกัน เขาก็ผายมือแนะนำตัวชายวัยกลางคนที่อยู่ข้าง ๆ “นี่คือพ่อของข้า ท่านพ่อ นี่คือซูอัน เขาพาน้องสั่วมาส่งบ้านเมื่อค่ำนี้”

เว่ยต๋าเป่าพยักหน้า “นายน้อยของตระกูลฉู่!”

“คารวะท่านลุง” ซูอันพูดอย่างรวดเร็ว “เอ่อ…ข้ากลัวว่าตอนนี้ข้าคงจะไม่อยู่ในสภาพที่จะทักทายท่านลุงอย่างเหมาะสม ขออภัยด้วย”

เว่ยหงเต๋อรีบพูดว่า “เจ้าไม่จำเป็นต้องยืนขึ้น!”

เขาไม่อยากเห็นภาพของไอ้นั่นที่เคยเห็นในมิติลับหยกจรัสอีก!

บ้าจริง…ข้าคิดถึงมันอีกแล้ว!

เว่ยต๋าเป่าเดินไปหาซูอัน “อย่ากังวลเลย!” เขาพูดขึ้น “ สั่วน้อยของตระกูลเราอยู่ภายใต้การดูแลของเจ้าในสถาบันจันทร์กระจ่าง เราเองต่างหากที่ยังไม่มีโอกาสขอบคุณเจ้าอย่างเหมาะสม”

ขณะที่เขาพูด ดวงตาของเขาก็กวาดมองไปรอบ ๆ ห้องเพื่อค้นหาบางสิ่งอย่างชัดเจน ในที่สุดเขาก็มาถึงหน้าอ่างและมองลึกลงไปข้างใน

แต่แล้วสิ่งที่เห็นกลับเป็นกลีบดอกไม้จำนวนมากที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ ซึ่งมันทำให้เขามองไม่เห็นก้นอ่างเลย

แต่สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้เขาลำบากใจ เว่ยต๋าเป่าได้ส่งพลังชี่ของตัวเองไปในอ่างอย่างเงียบ ๆ และเมื่อไม่พบใครอยู่ภายใน เขาก็พยักหน้า “เอาล่ะ เจ้าพักผ่อนตามสบาย เราขอตัวออกไปค้นหาคนร้ายต่อก่อน”

ซูอันโบกมือด้วยรอยยิ้มราวกับว่าเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น “ข้าไม่ส่งพวกท่านนะ”

เมื่อออกจากห้องของ ซูอัน เว่ยหงเต๋อเอ่ยถามพ่อของตน “ท่านพ่อเจออะไรบ้างไหม?”

เว่ยต๋าเป่าส่ายหัว “ไม่มีใครอื่นอยู่ข้างใน ข้าคงคิดมากไปเอง”

“ผู้บุกรุกคนนั้นเป็นผู้หญิงจริง ๆ ไม่มีทางที่เขาจะเป็นนางได้” เว่ยหงเต๋อ หนักใจ

“เราจะมองหาที่อื่นต่อไป ข้าไม่เชื่อว่าผู้หญิงที่ได้รับบาดเจ็บสามารถหนีไปได้ไกลจนเราหาไม่พบ” เว่ยต๋าเป่าเอ่ยขึ้น เขาค้นหาโดยมีลูกน้องเดินตามหลังเขาต่อไป

เมื่อแน่ใจว่าคนของตระกูลเว่ยออกไปหมดแล้ว ซูอันก็รีบอุ้มเพ่ยเหมียนหมานออกจากอ่างอาบน้ำ “เจ้าเป็นยังไงบ้าง?” เขาถาม

เมื่อเห็นว่านางยังไม่รู้สึกตัวเต็มที่เขาจึงเริ่มใช้ฝ่ามือกดหน้าอกของนางเป็นจังหวะ ๆ

“แค่ก แค่ก…” เพ่ยเหมียนหมานกระอักน้ำออกมาสองสามคำ และในที่สุดนางก็กลับมารู้สึกตัว

ซูอันยิ้ม “นี่ถ้าหากเจ้ายังไม่ตื่น ข้าคงผายปอดปากต่อปากกับเจ้าแล้วล่ะ”

เพ่ยเหมียนหมานบ่นอย่างอ่อนแรง “ทำไมเจ้าถึงต้องทำตัวหยาบคายอยู่เสมอ?”

นางเอนตัวพิงกับขอบอ่าง “เมื่อกี้เจ้าหลอกพวกเขาได้ยังไง? ด้วยระดับการฝึกฝนของผู้นำตระกูลเว่ย ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่เขาจะตรวจหาข้าไม่เจอ แม้ข้าจะอยู่ที่ก้นอ่างน้ำ”

ซูอันหัวเราะเสียงดัง “ใครจะรู้? บางทีเขาอาจเห็นว่ากล้ามเนื้อหน้าอกของข้าใหญ่มากจนจิตใจของเขาตื่นตระหนกไม่อยู่กับเนื้อกับตัวและหาเจ้าไม่เจอ” อันที่จริงแล้ว ซูอันใช้ทักษะนกเป็ดน้ำสีครามปกคลุมน้ำในอ่างเพื่อปิดบังกลิ่นอายของนาง อย่างไรก็ตาม เขาเล่าเรื่องนี้ออกไปไม่ได้เพราะมันยากที่จะอธิบาย

เพ่ยเหมียนหมานหันกลับมาและเห็นร่างที่เปลือยเปล่าของเขา แก้มของนางแดงระเรื่อ “ช่วยพาข้าออกไปจากที่นี่ที”

“ตกลง” แน่นอนว่าพวกเขาไม่สามารถอยู่ในอ่างได้ตลอดไป