บทที่ 492 มาเป็นล่ามให้เราเถอะ

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 492 มาเป็นล่ามให้เราเถอะ

บทที่ 492 มาเป็นล่ามให้เราเถอะ

เสี่ยวเถียนไม่อยากคุยกับอีกฝ่ายต่อไปแล้ว เด็กหญิงอดไม่ได้ที่จะกลอกตามองบน!

หมายความว่ายังไง?

คิดจะแย่งความรักไปหรือ? เหอะ เธอไม่แปลกใจหรอกนะ เพราะยังไงย่าซูก็ฟังไม่ออกอยู่แล้ว ตอนนี้เสี่ยวเถียนคิดว่าเธอโชคดีที่ย่าซูฟังไม่ออก และก็โชคดีที่คริสติน่าพูดจีนไม่ได้

แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะไม่แปลให้ฟังเสียหน่อย

ภาพที่หลานสาวกลอกตาไม่อาจหลุดพ้นสายตาของฟ่านชูฟาง หญิงชราจึงแปลสิ่งที่คริสติน่าพูดออกมาได้อย่างไม่คิดเกรงใจ

คุณย่าซูไม่คิดว่าสาวต่างชาติคนสวยจะคิดเช่นนั้น ตอนนี้หน้าของเธอจึงบานเป็นดอกไม้เลย

ไอ้หยา ทำไมสาวต่างชาติคนนี้ถึงจริงใจขนาดนี้นะ? หมายความว่าจะให้เธอเป็นย่าบุญธรรมงั้นหรือ?

“พี่สะใภ้ พี่ว่ามาเลยค่ะ อยากมีหลานสาวต่างชาติคนนี้ไหม?”

ฟ่านชูฟางว่าแล้วก็พลางเหลือบมองเสี่ยวเถียนโดยไม่รู้ตัว เพราะที่บ้านมีเด็กผู้หญิงแค่คนเดียว และทุกคนทั้งรักทั้งห่วงเธอคนเดียว นี่แหละคือความหึงหวง

เสี่ยวเถียนที่ฟังเข้าใจได้แต่พูดไม่ออก!

ย่ารองคิดจะทำอะไรกัน?

เหอะ แต่เธอไม่กลัวหรอกนะ

ย่าซูไม่มีทางอยากได้หลานสาวคนนี้หรอก เสี่ยวเถียนเลิกคิดเรื่องนี้ก็จริง แต่เธอก็ยังคงมีความกังวลอยู่เล็กน้อย ย่าชอบเด็กผู้หญิง ความจริงข้อนี้เสี่ยวเถียนรู้ดี

แถมคริสติน่ายังเป็นสาวต่างชาติที่หน้าตาสะสวย!

ในขณะเดียวกันสีหน้าของออกัสก็บิดเบี้ยวน่าเกลียด น้องสาวเขาพูดจาไม่รู้เรื่องอยู่เรื่อย เพียงเพื่อให้ได้ของกินก็ยอมรับคนอื่นเป็นย่าเลยหรือ

แล้วถ้าเรื่องที่ทำมันไปถึงหูคนที่บ้าน จะไม่โดนตีตายหรือไง?

หลงลืมตัวตนไปแล้วหรือ?

เดิมทีคริสติน่าก็ไม่ได้คิดอะไรเยอะ แค่รู้สึกว่ามีย่าเพิ่มสักคนก็ไม่เสียหายอะไร!

สุดท้ายการสานสัมพันธ์ในครั้งนี้ก็ไม่ได้รับการยอมรับ เหตุผลนั้นง่ายมาก คุณย่าซูกลัวหลานรักจะเกิดอาการหวง

ฟ่านชูฟางมองออกทันที แล้วคุณย่าซูจะมองไม่ออกได้ยังไง?

“หลานรักอย่าโกรธย่าเลยนะ ย่าอยากได้หนูเป็นหลานคนเดียวเท่านั้น!” คุณย่าซูกอดเสี่ยวเถียนแล้วยิ้มเอ็นดู

ทุกคนขบขันกับประโยคนั้น และแล้วก็ใกล้ถึงเวลา

รัฐมนตรีเฉียนขอตัวกลับก่อนเพราะมีธุระอื่น จริง ๆ เขาอยากจะอยู่รอให้ออกัสไปก่อน แต่เหมือนอีกฝ่ายไม่คิดจะไปไหนเลย

คนตัดฟืนอยู่กับคนเลี้ยงไปด้วยกันไม่ได้ เขาเลยต้องขอตัวกลับก่อน ส่วนฟ่านชูฟางต้องกลับแล้วเหมือนกัน เพราะยังมีงานต้องทำอีกในตอนบ่าย

“เสี่ยวเถียน ไว้วันไหนมีเวลา ย่าจะพาไปดูที่แผนกการแปลเองนะ!” หญิงชราเอ่ยก่อนออกจากบ้าน

ในสายตาของเธอ ฟ่านชูฟางชื่นชมเสี่ยวเถียนมาก เพราะเด็กคนนี้รับงานแปลงานล่ามมา เลยสามารถพาไปที่แผนกการแปลด้วยได้

อาจจะพบความสามารถที่เป็นประโยชน์ต่อแผนกก็ได้นะ

เพราะหลังจากที่จากไปและกลับมาอีกครั้ง ถึงจะไม่ได้ทำงานเยอะเหมือนเคยแต่ก็เห็นได้ว่า แผนกการแปลขาดคนมีความสามารถอยู่

เสี่ยวเถียนได้ยินประโยคนั้นก็ยิ้มรับทันที อันที่จริงก็อยากรู้เหมือนกันว่าการทำงานในยุคนี้เป็นยังไง นักแปลในนั้นเข้าใจกันกี่ภาษาแล้ว? และอายุเท่าไรกันบ้าง?

การที่เธอทำแบบนี้มันฝืนธรรมชาติไปหรือเปล่า? อย่างแรกช่วยเปิดทางให้พี่ใหญ่ก่อนดีกว่า

“เสี่ยวเถียน ย่าได้ยินว่าซูโส่วเวินก็เรียนภาษาต่างประเทศเหมือนกัน ไว้ถึงตอนนั้นค่อยไปด้วยกันนะ”

ก่อนที่จะได้พูดอะไร หญิงชราก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน แล้วขอตัวกลับไปทันที

เสี่ยวเถียนมีความสุขมากเมื่อได้ยินเช่นนั้น

พี่ใหญ่มีความสามารถทางด้านนี้ แต่เพราะการเรียนที่ล้าหลังเลยทำให้เรียนช้าไปหน่อย โชคดีที่พี่ของเธอเป็นคนอดทนต่อความยากลำบาก ผ่านไปอีกสักพักเขาจะสามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างแน่นอน

ฉืออวี้เลี่ยงก็เตรียมจะไปบ้างแล้ว ตอนนี้ที่โรงงานยังวุ่นวายอยู่ เรื่องที่โรงพยาบาลก็ยังต้องจัดการและที่สถานีตำรวจก็ยังไม่มีคำตอบอะไร ดังนั้นพวกเราจึงต้องจัดการต่อ

แต่เหมือนคุณออกัสจะไม่อยากไปไหนเลยนะ…

หลังจากชั่งน้ำหนัก ผู้อำนวยการทั้งสองก็เอ่ยขอโทษอยู่หลายครั้ง แล้วขอตัวกลับไป

ตอนนี้เหลือชาวต่างชาติฝั่งออกัสที่ยังอยู่โต๊ะ ดวงตาคู่งามเหลือบมองสองพี่น้อง พวกเขาควรจะไปบ้างหรือเปล่า? แต่ใครจะรู้เล่าว่าคริสติน่ากลับไม่ได้ไป แถมยังชวนเสี่ยวเถียนมาเป็นล่ามให้พวกเธออีกด้วย

“ที่รัก คือแบบนี้นะ ฉันจะอยู่ที่นี่ต่ออีกหลายวันน่ะ หวังว่าเธอจะมาเป็นล่ามให้ฉันนะ!”

เสี่ยวเถียนสับสน พวกเขาก็พาล่ามมาไม่ใช่หรือไง? แล้วจะอยากได้เธอไปทำไม?

“คุณคริสติน่า ฉันเป็นนักเรียนอยู่นะคะ ยังต้องเรียนหนังสือนะ!”

คริสติน่าเพิ่งรู้ว่าเสี่ยวเถียนยังเป็นนักเรียนอยู่ แต่เธออยากให้เสี่ยวเถียนมาเป็นล่ามนะ ต้องทำยังไงล่ะ?

“คุณซู น้องสาวฉันอยากให้คุณมาเป็นล่ามด้วยความตั้งใจนะ”

การพูดจาของออกัสยังคงห่างเหินเช่นเดิม

“คุณซู วางใจเถอะครับ ช่วงเวลาที่อยู่ประเทศจีน ขอแค่คุณตกลงเป็นล่ามให้เรา เงินเดือนจะยังได้เท่ากับที่ทางโรงงานผ้าไหมให้แน่นอน คุณไม่เดือดร้อนเลยครับ!”

เสี่ยวเถียนใจเต้นแรง ทำยังไงดีล่ะ? ชั่วโมงละร้อยหยวนไม่ใช่น้อย ๆ เลยนะ ไปโรงเรียนหรือไปเป็นล่ามดี? แต่งานที่ออกัสให้ทำก็เหนื่อยเหมือนกัน

“ที่รัก ได้โปรดเถอะ ฉันอยากได้ล่ามคนจีนและเธอก็เป็นคนจีนที่ฉันรู้จักดีที่สุด!”คริสติน่าประสานมือแล้วอ้อนวอน

เสี่ยวเถียนชอบเธอนะ อีกฝ่ายเป็นเด็กสาวที่หน้าตาสะสวยและนิสัยดี ถึงฐานะทางบ้านจะดีแต่ก็ไม่ได้มีนิสัยเสีย อย่างน้อยเวลาคบกันก็ไม่ได้ดูถูกเพราะเป็นล่ามที่จ้างมา

เหตุผลหลักคือ คริสติน่ามองเห็นด้วยความเอ็นดูอย่างลูกแมวเลยปฏิเสธไม่ลง

เพราะหลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว เสี่ยวเถียนก็เลือกที่จะตามคริสติน่าไปจนกว่าจะสิ้นสุดการเดินทาง

สองพี่น้องมีความสุขมากกับคำตอบ

แม้แต่คุณออกัสก็ยังยกยิ้มมุมปาก

ถึงจะตอบตกลง แต่ตอนบ่ายนี้ก็ต้องไปทำงานอยู่ดี สองพี่น้องจองไว้สำหรับมื้อเย็น จากนั้นก็กลับโรงแรมไปพัก

สองวันที่ผ่านมาพิธีลงนามยังไม่เสร็จ ออกัสเหนื่อยเล็กน้อย ส่วนเสี่ยวเถียนเองก็เหนื่อยล้าเช่นกัน

ตกเที่ยง เด็กสาวพักสักครู่แล้วตรงไปที่โรงแรมของคริสติน่า ตอนแรกก็คิดว่าเราจะไปกันห้าคน แต่ตอนออกเดินทางก็พบว่าเฟลิกซ์และแดเนียลกลับไปแล้ว