ตอนที่ 1019 หัวใจของเด็กสาว (1) / ตอนที่ 1020 หัวใจของเด็กสาว (2)
ตอนที่ 1019 หัวใจของเด็กสาว (1)
สองสามวันต่อมา ชีวิตในเมืองพันอสูรของจวินอู๋เสียบอกได้อย่างเดียวว่าจืดชืดไม่มีอะไรน่าสนใจ นางแทบไม่ออกจากห้องเลย กระทั่งชิงอวี่ก็ไม่เจอจวินอู๋เสียในตึกเพลิงพิโรธเลย
ทุกครั้งที่เขาเสนอว่าจะพาจวินอู๋เสียออกไปเดินเที่ยวรอบเมืองพันอสูร เขาก็ถูกจวินอู๋เสียปฏิเสธอย่างรวดเร็ว
แต่นั่นก็ทำให้ชิงอวี่มีเวลาว่างไปจัดการงานในตำแหน่งหน้าที่ของเขาที่สะสมเอาไว้ก่อนหน้านี้
ชวีหลิงเย่ว์มาที่ตึกเพลิงพิโรธในวันที่ห้าหลังจากจวินอู๋เสียมาที่เมืองพันอสูร นางเคาะประตูห้องของจวินอู๋เสียขณะที่ยืนไม่สบายใจอยู่หน้าห้อง
“คุณชายจวิน ท่านอยู่ในนั้นหรือเปล่า”
ประตูห้องเปิดออกอย่างช้าๆ และจวินอู๋เสียก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าชวีหลิงเย่ว์ แค่มองแวบแรกก็จะเกือบทำให้ชวีหลิงเย่ว์หัวเราะออกมาเสียงดังลั่น จวินอู๋เสียหลังจากปลอมตัวเป็นบุรุษก็ยังจัดได้ว่าน่ามอง แต่ใบหน้าละเอียดอ่อนนั้นมักจะมีแววเย็นชาอยู่เล็กน้อยซึ่งทำให้รู้สึกว่าเข้าถึงได้ยาก แต่ตอนนี้…
จวินอู๋เสียกำลังอุ้มใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะขนปุยตัวกลมอยู่ในอ้อมแขน ขณะที่บนไหล่ซ้ายและขวาก็มีเจ้าแมวดำตัวน้อยกับกระต่ายหูใหญ่สีขาวราวหิมะเกาะอยู่ เจ้าตัวเล็กน่ารักทั้งสามได้เพิ่มความตลกขบขันให้แก่ท่าทางเย็นชาของจวินอู๋เสียมากทีเดียว
ชวีหลิงเย่ว์พยายามกลั้นไม่ให้เสียงหัวเราะดังหลุดออกมาอย่างยากลำบาก
“เข้ามาสิ” จวินอู๋เสียพูดเสียงเรียบ
ชวีหลิงเย่ว์เดินตามหลัง ‘เด็กหนุ่ม’ เข้าไปอย่างว่าง่าย และทันทีที่เข้าไปนางก็ได้กลิ่นสมุนไพรจางๆ กลิ่นนั้นหอมมาก แต่พอมองไปทั่วห้อง นางก็ไม่เห็นร่องรอยของสมุนไพรใดๆ เลย
“มีอะไรอย่างนั้นหรือ” จวินอู๋เสียถามพร้อมกับวางใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะลงบนโต๊ะก่อนจะอุ้มเกระต่ายโลหิตกับเจ้าแมวดำตัวน้อยมาวางบนโต๊ะด้วย โชคดีที่สัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติสามารถปรับเปลี่ยนน้ำหนักตอนที่แปลงร่างได้ ไม่อย่างนั้นแขนขาเล็กๆ ของนางคงไม่สามารถอุ้มเจ้าสามตัวนี้ไปไหนมาไหนได้
“เอ่อ อีกไม่นานก็จะสิ้นเดือนแล้ว ท่านพ่อให้ข้ามาถามว่าท่านมีแผนอะไรบ้าง” ชวีหลิงเย่ว์พูดพร้อมกับมองไปที่จวินอู๋เสีย รอยยิ้มบนใบหน้าของนางเมื่อครู่จางหายไป สีหน้าของนางตอนนี้เคร่งเครียดจริงจัง
ทุกๆ สิ้นเดือนชวีซินรุ่ยจะพาตัวคนที่นางปล่อยตัวออกมาตอนต้นเดือนกลับไปนอกเมือง และปล่อยนักโทษอีกกลุ่มมาตอนเริ่มเข้าเดือนใหม่เท่านั้น ถ้าพวกเขาอยากค้นหาว่าชวีซินรุ่ยขังคนทั้งหมดเอาไว้ที่ไหน ก็มีแค่ช่วงเวลานี้เท่านั้นที่จะทำได้
“ไม่มี” จวินอู๋เสียตอบอย่างใจเย็น
ชวีหลิงเย่ว์ตกใจเล็กน้อย จวินอู๋เสียอยู่ในเมืองพันอสูรมาหลายวันแล้ว และนางก็ไม่เห็นอีกฝ่ายลงมือทำอะไรเลย ไม่ใช่ว่านางไม่เชื่อในความสามารถของจวินอู๋เสีย แต่เนื่องจากนางไม่รู้ว่า ‘เด็กหนุ่ม’ คนนี้วางแผนอะไรไว้บ้าง นางจึงอดรู้สึกไม่สบายใจไม่ได้
“ท่านจะไม่ไปพบกับคนที่กลับมาจากที่นั่นหน่อยหรือ แล้วพยายามถามว่าพวกเขาถูกขังเอาไว้ที่ไหน” ชวีหลิงเย่ว์ถามอย่างเป็นกังวล
จวินอู๋เสียส่ายหน้า “ทั้งเมืองพันอสูรตกอยู่ภายใต้การควบคุมของคนผู้นั้น ใครที่เข้าหาคนพวกนั้น คนผู้นั้นย่อมต้องรู้ นอกจากนั้น…ถ้านางกล้าปล่อยคนพวกนั้นออกมา ก็หมายความว่าทุกคนย่อมไม่รู้ว่าตัวเองถูกขังไว้ที่ไหน ไปถามพวกเขาก็เสียเวลาเปล่า แถมยังทำให้ศัตรูรู้ตัวอีก”
วิธีแก้ปัญหาวิกฤตที่เมืองพันอสูรกำลังเผชิญอยู่ จะต้องมาจากข้างนอกไม่ใช่ข้างใน
ชวีหลิงเย่ว์พูดว่า “คุณชายจวินเดาได้ถูกต้อง ครอบครัวของทุกคนที่ถูกปล่อยตัวมาเคยถามพยายามระบุสถานที่ที่พวกเขาถูกขังเอาไว้แล้ว แต่ไม่มีใครบอกอะไรได้เลย หลังจากที่พวกเขาถูกส่งออกไปนอกเมืองพันอสูร ทุกคนก็ถูกทำให้หมดสติอย่างรวดเร็วและเมื่อพวกเขาฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองถูกขังเอาไว้แล้ว”
ตอนที่ 1020 หัวใจของเด็กสาว (2)
“ก็น่าจะเป็นเช่นนั้น” จวินอู๋เสียไม่แปลกใจแม้แต่น้อย
ท่านยายสามารถจับคนของเมืองพันอสูรเป็นตัวประกันมาได้หลายปี ย่อมเป็นคนที่มีความสามารถสูงมาก นางย่อมเตรียมการเรื่องนี้มาเป็นอย่างดี
ชวีหลิงเย่ว์ยักไหล่ นางไม่ได้เจอมารดาของนางมานานมากแล้ว และนางก็คิดถึงมารดาอย่างถึงที่สุด เวลาที่นางเห็นครอบครัวของคนอื่นกลับมาแต่ไม่เห็นมารดาของตัวเอง นางก็รู้สึกผิดหวังอยู่หลายครั้งและกระวนกระวายใจมากขึ้นเรื่อยๆ ตามเวลาที่ผ่านไป
เมื่อเห็นชวีหลิงเย่ว์ดูเศร้าสลดและหดหู่ เจ้าแมวดำตัวน้อยก็ใช้หางเขี่ยจวินอู๋เสีย
จวินอู๋เสียหันไปมองเจ้าแมวดำตัวน้อยและเห็นเจ้าแมวดำตัวน้อยพยายามส่งสายตาให้นาง
“เหมียว”
เจ้านายยังไม่รู้อีกหรือว่าคุณหนูใหญ่ชวีมาหาท่านก็เพราะอยากได้ความมั่นใจ
จวินอู๋เสียเลิกคิ้วขึ้น นางไม่ค่อยบอกแผนการของนางกับใครจนกลายเป็นนิสัยไปแล้ว ชวีหลิงเย่ว์ไม่รู้แผนของนางเลยแม้แต่นิดเดียวและต้องผิดหวังมาหลายครั้งแล้ว ชวีหลิงเย่ว์จึงอยากได้ความหวังแม้เพียงเศษเสี้ยวก็ยังดี
จวินอู๋เสียจึงพูดขึ้นว่า “เจ้าโง่เฉียวกับคนอื่นๆ อยู่นอกเมืองแล้ว พอคนพวกนั้นถูกพาออกไปนอกเมือง พวกเขาก็จะตามคนพวกนั้นไป แล้วเราจะได้พบกับสถานที่ที่ทุกคนถูกขังเอาไว้”
อย่างที่คาด เมื่อได้ยินคำอธิบายของจวินอู๋เสีย ชวีหลิงเย่ว์ก็เงยหน้าขึ้นทันที ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความประหลาดใจระคนยินดี
จวินอู๋เสียมองดวงตากลมโตของชวีหลิงเย่ว์ที่เป็นประกายด้วยความยินดีและความหวังแล้วก็เข้าใจว่าทำไมเจ้าแมวดำตัวน้อยถึงได้พูดเช่นนั้น แค่นางพูดไม่กี่ประโยคก็สามารถช่วยให้ชวีหลิงเย่ว์มีความหวังและความมั่นใจขึ้นมาได้ มันก็ง่ายๆ แค่นั้น
จวินอู๋เสียที่ดูเหมือนจะได้เรียนรู้อะไรบางอย่าง ก็ยกมือขึ้นและเลียนแบบสิ่งที่จวินอู๋เย่าเคยทำ มือเล็กๆ ของนางลูบไปที่ศีรษะของชวีหลิงเย่ว์เบาๆ
“วางใจเถอะ ข้าสัญญาอะไรไว้ข้าก็ย่อมทำให้สำเร็จตามนั้น” เพื่อให้ได้แผนที่มา นางย่อมไม่ยอมให้ตัวเองทำพลาดเช่นกัน
ชวีหลิงเย่ว์ตกตะลึงไปพร้อมกับมองไปที่จวินอู๋เสีย ดวงตาเย็นชาคู่นั้นดูเหมือนจะลดความเย็นชาลงและเจือความอบอุ่นเล็กน้อยแทน แม้ว่าจะยังเย็นชาอยู่ แต่ก็ไม่เสียดแทงอีกต่อไปแล้ว
ถึงแม้ชวีหลิงเย่ว์กับจวินอู๋เสียจะรู้จักกันมาพักใหญ่แล้ว แต่ดวงตาของจวินอู๋เสียก็ทำให้นางไม่กล้าเข้าใกล้ ‘เด็กหนุ่ม’ คนนี้มากนัก กระทั่งการมาถามข่าวคราวจากอีกฝ่ายในวันนี้ นางก็ยังต้องใช้ความกล้าหาญมากทีเดียว ถึงแม้จวินอู๋เสียจะอายุน้อยกว่านางเล็กน้อย แต่นางไม่เคยกล้ามองจวินอู๋เสียเป็นแค่ ‘เด็กหนุ่ม’ ธรรมดาเลย ในสายตาของนางจวินอู๋เสียอยู่เหนือธรรมเนียมอาวุโสไปแล้ว
ในใจของนางจวินอู๋เสียมีภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่ง เย็นชา ฉลาดเฉลียว และมองการณ์ไกล
แต่ตอนนี้จวินอู๋เสียกำลังปลอบใจนาง ‘เขา’ ยกมือขึ้นลูบศีรษะนางเบาๆ จู่ๆ ชวีหลิงเย่ว์ก็พบว่าหัวใจของนางเต้นผิดจังหวะ
ใบหน้าเล็กๆ ของนางร้อนฉ่าขึ้นมา ดวงตาเบิกกว้างมอง ‘เด็กหนุ่ม’ ที่ไม่ได้จัดว่าเป็นคนที่หล่อเหลามากมายอะไรนัก แต่ไม่รู้ว่าทำไมตอนนี้นางถึงได้รู้สึกว่าจวินอู๋เสียดูน่าหลงใหลมากกว่าชายหนุ่มที่หล่อเหลาเสียจนน่าเหลือเชื่อที่ดึงดูดสายตาของทุกคนที่โรงประมูลภูติอัคคีในวันนั้นเสียอีก
ชวีหลิงเย่ว์รู้สึกราวกับว่ามีกวางหลายตัวกระโดดอยู่ในหัวใจของนาง กระทั่งลมหายใจของนางก็ผิดปกติขึ้นมา
จวินอู๋เสียมองใบหน้าแดงระเรื่อของชวีหลิงเย่ว์แล้วก็หรี่ตาลง
ด้วยสัญชาตญาณในฐานะหมอของนาง จึงทำให้นางคิดว่าชวีหลิงเย่ว์กำลังไม่สบาย แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกนางจะเป็นเพียงแค่คนที่ร่วมมือกันเท่านั้น แต่จวินอู๋เสียก็มักจะอ่อนโยนกับสตรีมากกว่าอยู่แล้ว นางเงยหน้าขึ้นมองและวางมือทาบลงบนหน้าผากของชวีหลิงเย่ว์ทันที