ตอนที่ 544 สุนัขขุนนาง

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

“​มีต​รง​ไหน​ที่​บอกว่า​มิใช่​สุนัข​ธรรมดา​งั้น​หรือ​”​ ​ไท่​จื่อ​กวาดตา​ไป​ทาง​เอ้อร​์​หนิว​ ​“​ก็​แค่​หัว​โตก​ว่า​สุนัข​ตัว​อื่นๆ​ ​และ​เนื้อตัว​ก็​อวบอ้วน​กว่า​หน่อย​ ​เอ๋​ ​หรือว่า​ขา​ไม่​ค่อย​จะ​ดี.​..​”

เอ้อร​์​หนิว​แยกเขี้ยว​ใส่​พลาง​เห่า​ ​“​โฮ่ง​!​”

มัน​ไม่ได้​แผลงฤทธิ์​เลย​เห็น​มัน​เป็น​เหมือน​กระต่าย​หรือ​อย่างไร​ ​คน​นี้​มัน​วอน​โดน​กัด​จริง​เชียว​!

สายตา​ของ​สุนัข​ตัว​ใหญ่​ไป​หยุด​อยู่​ที่​บั้นท้าย​ของ​ไท่​จื่อ

มัน​ชอบ​กัด​ตำแหน่ง​นี้​มาก​ที่สุด

ไท่​จื่อ​ที่​ถูก​เอ้อร​์​หนิ​วจ​้​อง​เขม็ง​ขนลุกซู่​ ​ก่อน​จะ​เอี้ยว​ตัว​ไป​หลบ​ด้านหลัง​ขุนนาง​ที่​ยืน​อยู่​ข้างๆ​ ​พลาง​เอ่ย​อย่าง​ไม่สบอารมณ์​ ​“​เจ้า​เจ็ด​ ​สุนัข​ของ​เจ้า​คง​เก่ง​แต่​เที่ยว​กัด​คน​ ​ข้าว​่า​ทาง​ที่​ดีส​่​งมั​นก​ลับ​จวน​อ๋อง​ไป​เถิด​”

“​โฮ่ง​!​”​ ​เอ้อร​์​หนิว​เห่า​หนึ่ง​ครั้งก่อน​จะ​ยืน​ด้วย​สอง​ขา​หลัง

ไท่​จื่อ​ตกใจ​จน​หน้าซีด​ ​“​รีบ​พามั​นอ​อก​ไป​!​”

เอ้อร​์​หนิ​วที​่​ยืน​ด้วย​สอง​ขา​ทำให้​ความสูง​ของ​มัน​เกือบจะ​เท่า​ไหล่​ของ​คน​ ​อวี​้​จิ​่น​จึง​ลูบ​หัว​ของ​มัน​ได้​ถนัดมือ

เขา​ลูบ​ขน​เจ้า​สุนัข​ตัว​ใหญ่​พลาง​หัวเราะ​ ​“​พี่​รอง​ว่า​ผิด​อีกแล้ว​ ​สุนัข​ที่​ดี​ก็​ควรจะ​กัด​คน​ได้​ ​ไม่งั้น​มัน​จะ​มีประโยชน์​อัน​ใด​ ​ให้​เอาไว้​ตุ๋น​เนื้อ​กิน​งั้น​หรือ​”

“​มัน​จะ​กัด​หรือไม่​กัด​ ​เจ้า​ก็​ช่วย​เอา​มัน​ไปให้พ้น​ที​เถอะ​!​”​ ​ไท่​จื่อ​ร้อง​ตะโกน​ด้วย​ใบหน้า​ซีดเซียว

อวี​้​จิ​่น​ทำ​หน้า​จริงจัง​ ​“​พี่​รอง​อย่า​ทำให้​น้อง​ลำบากใจ​เลย​ ​นี่​คือ​สุนัข​ขุนนาง​ที่จะ​เดินทาง​ไป​กับ​ข้า​ด้วย​”

“​สุนัข​ขุนนาง​?​”​ ​ไท่​จื่อ​ชะงัก​ไป

อวี​้​จิ​่น​ชี้นิ้ว​ไป​ที่​เหรียญทองแดง​ที่​คอ​ของ​เอ้อร​์​หนิว​ ​“​ที่​คือ​ป้าย​ห้อย​เอว​ที่​องค์​จักรพรรดิ​พระราชทาน​ ​เอ้อร​์​หนิว​เป็น​แม่ทัพ​เซี่ยว​เทียน​ชั้น​ห้า​ ​หาก​พี่​รอง​ไม่เชื่อ​ ​ลอง​เข้ามา​ดู​ใกล้​ๆ​ ​ก็ได้​”

เจ้า​สุนัข​ตัว​ใหญ่​ผงกหัว​ตามที่​อวี​้​จิ​่​นอ​ธิ​บาย​ ​พร้อม​ก้าว​สอง​เท้าหลัง​ไป​ข้างหน้า​สอง​ก้าว

ไท่​จื่อ​ถึง​ได้​เข้าใจ​ ​ที่แท้​ที่​เจ้า​สุนัข​ยืน​สอง​ขาก​็​เพื่อให้​เขา​เห็น​ป้าย​ห้อย​เอว​นี่เอง

นี่​มัน​สุนัข​แสนรู้​ชัดๆ

เมื่อ​เห็น​ว่า​สุนัข​ตรงหน้า​มี​จิตใต้สำนึก​เฉกเช่น​มนุษย์​ ​ไท่​จื่อ​จึง​คิด​ว่า​มัน​คง​ไม่​กัด​ใคร​หาก​ไม่ได้​รับ​อนุญาต​จาก​เจ้านาย​ของ​มัน​ ​ในขณะนั้น​ความรู้สึก​กลัว​หาย​ไป​แล้ว​ ​เหลือ​เพียง​ความสนใจ​ใน​ตัว​เอ้อร​์​หนิว​เท่านั้น

“​น่าสนใจ​ยิ่งนัก​ ​ข้า​ไม่​ยัก​รู้มาก​่อ​นว​่า​ ​สุนัข​ของ​น้อง​เจ็ด​จะ​ได้รับ​การ​แต่งตั้ง​เป็น​แม่ทัพ​กับ​เขา​ด้วย​”​ ​ไท่​จื่อ​ลูบ​คาง​ตัวเอง

เหล่า​ขุนนาง​ที่​ตามมา​หลาย​คนยัง​คง​ส่าย​หัว​กับ​ภาพ​เหตุการณ์​ตรงหน้า

เดิมที​ ​แค่​เห็น​ว่า​มีสุนั​ขมา​เดิน​รวม​อยู่​ใน​ขบวน​ก็​รู้สึก​ว่า​เยี​่​ยน​อ๋อง​ไม่​เป็น​งาน​ ​แต่​พอ​มาคิด​ดู​อีกที​ก็​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​ ​เมื่อ​หลาย​ปีก่อน​ ​ฮ่องเต้​ทรง​แต่งตั้ง​สุนัข​ตัว​หนึ่ง​ขึ้น​เป็น​แม่ทัพ​เซี่ยว​เทียน​ ​อีกทั้ง​ยัง​ได้ยิน​มา​ว่า​สุนัข​ตัว​นั้น​คือ​ผู้​มีพ​ระ​คุณ​ที่​ช่วยชีวิต​เยี​่​ยน​อ๋อง​เอาไว้

ใน​ตอนนั้น​ ​มี​คน​ถกเถียง​ประเด็น​นี้​กัน​อย่าง​หนาหู​ ​น่าเสียดาย​ที่​เยี​่​ยน​อ๋อง​ไม่ได้​กลับมา​ที่​เมืองหลวง​เป็นประจำ​ ​เรื่อง​นี้​ถึง​ได้​เลือนหาย​ไป​ใน​ความทรงจำ

การ​ที่​ไท่​จื่อ​ไม่ทราบ​เรื่อง​นี้​มาก​่อน​ทำให้​คนอื่นๆ​ ​มอง​เขา​ไม่ดี​ ​เพราะ​นั่น​หมายความว่า​ไท่​จื่อ​ไม่ใส่ใจ​กิจการ​บ้านเมือง​เลย​สักนิด

มนุษย์​ก็​เป็น​เช่นนี้​ ​หลังจาก​ไท่​จื่อ​ถูก​ปลด​ ​ตำแหน่ง​องค์​รัชทายาท​ก็​ถูก​ทิ้ง​ว่าง​ ​เหล่า​ขุนนาง​เป็นห่วง​กลัว​ว่า​จะ​เป็นเหตุให้​บ้านเมือง​เข้าสู่​วิกฤติ​ ​จึง​เร่งเร้า​ให้​มี​การ​สถาปนา​ไท่​จื่อ​โดยเร็ว​ ​ทั้งหมด​ต่าง​ตั้งตารอ​ ​แต่​แล้ว​วันนี้​ไท่​จื่อ​ที่​ได้​ครองตำแหน่ง​ ​ยัง​เป็นไท​่​จื่อ​ไม่เอาถ่าน​คน​เดิม​ ​จึง​ทำให้​แต่ละคน​ถอนหายใจ​ออกมา​อีกครั้ง

ดีที​่​การ​ถอนหายใจ​เช่นนี้​เกิดขึ้น​มานาน​หลาย​ปี​ ​เหล่า​ขุนนาง​ถึง​ได้​ชาชิน​กับ​มัน​เสีย​แล้ว

“​น้อง​เจ็ด​ ​นอกจาก​เจ้า​จะ​พา​เจ้า​สุนัข​มาด​้ว​ย.​..​”

อวี​้​จิ​่​นก​ล่าว​แก้​ ​“​เอ้อร​์​หนิว​”

ไท่​จื่อ​ดึง​มุม​ปาก​ ​แต่​ใน​ใจ​ก็​ไม่​อยาก​ผิดใจ​กับ​น้อง​ที่​มีนิ​สัย​ลึกลับ​เช่นนี้​ ​เขา​เอาแต่​ยิ้ม​กลบเกลื่อน​ ​“​นอกจาก​พา​เอ้อร​์​หนิว​มาด​้วย​ ​เจ้า​คง​ไม่ได้​เอา​อะไร​มา​อีก​ใช่​หรือไม่​”

“​แล้ว​จำเป็น​จะ​ต้อง​เอา​อะไร​มา​อีก​งั้น​หรือ​”​ ​อวี​้​จิ​่น​ฉงน​กับ​คำถาม​ ​ก้มหน้า​มอง​รอบ​ๆ​ ​ตัว

“​ก็​พวก​ชุด​ใหม่​สำหรับ​เปลี่ยน​สอง​สาม​ชุด​ ​กับข้าว​ของใช้​ที่​ใช้​ประจำ​”​ ​ครั้น​คิดถึง​ข้าวของ​น้อย​นิด​ที่​พระ​ชายา​เตรียม​ให้​แล้ว​ ​ไท่​จื่อ​ก็​อารมณ์เสีย​ขึ้น​มาทัน​ที

“​นอกจาก​ชุด​สำหรับ​เปลี่ยน​และ​อาวุธ​ประจำ​กาย​ ​ของ​อื่นๆ​ ​ก็​มิได้​นำ​ติดตัว​มา​”​ ​อวี​้​จิ​่น​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​ฟ้า​ ​“​พี่​รอง​ ​ควร​ออกเดินทาง​กัน​เลย​หรือไม่​”

ไท่​จื่อ​ถอนหายใจ​ ​จะ​เร่ง​อะไร​กัน​หนัก​กัน​หนา​!

กอง​ขบวน​ยิ่งใหญ่​เคลื่อน​พล​ตาม​ไท่​จื่อ​ ​มุ่งหน้า​สู่​อำเภอ​เฉียน​เหอ​ ​มีทั​้ง​ยารักษาโรค​ ​เครื่องมือ​ทางการแพทย์​ ​และ​ข้าวของ​ต่างๆ​ ​ใช้เวลา​สาม​วัน​กว่า​กอง​ขบวน​จะ​มาถึง​อำเภอ​เฉียน​เหอ

ขุนนาง​และ​เจ้าหน้าที่​บรรเทา​สาธารณภัย​ที่​ได้รับ​แจ้ง​ข่าวด่วน​มารอ​ต้อนรับ​อยู่​ที่​ด้านนอก​เมือง​ ​รอ​จะ​กระทั่ง​ดวงอาทิตย์​คล้อย​ลง​ทาง​ทิศตะวันตก​ก็​ยัง​ไม่เห็น​ใคร​โผล่​มา

“​นี่​มัน​เรื่อง​อะไร​กัน​ ​ไหน​บอกว่า​จะ​มาถึง​ภายใน​หนึ่ง​ชั่ว​ยาม​”

“​ใคร​จะ​ไปรู​้​ ​หรือ​อาจมี​เรื่อง​ที่​ทำให้​ล่าช้า​อยู่​กระมัง​”

“​ก็​แค่​จะ​มาป​ลอบ​ขวัญ​ราษฎร​ ​มีเรื่อง​ใด​ทำให้​ล่าช้า​หนัก​รึ​”

ผู้คน​ว่า​กัน​ไป​ต่างๆ​ ​นานา​ ​คาดเดา​เหตุผล​ที่​ไท่​จื่อ​มาถึง​ช้า​กว่า​กำหนด

คน​หนึ่ง​ควบ​ตะบึง​ม้า​ตรง​มา​หยุด​ยืน​ที่​หน้า​คน​กลุ่ม​นั้น​ ​พลาง​ยกมือ​ขึ้น​คารวะ​ ​“​ใต้เท้า​ทั้งหลาย​ ​บัดนี้​ไท่​จื่อ​หยุดพัก​อยู่​ที่​ดง​ไป๋​หยาง​ซึ่ง​ห่าง​ออก​ไปราว​ๆ​ ​สิบ​ลี้​ขอรับ​”

ดง​ไป๋​หยาง​เป็น​เนินเขา​เตี้ย​ที่​มีต​้น​ไป๋​หยาง​ขึ้น​ปกคลุม​ ​เป็น​ทาง​ที่อยู่​ระหว่าง​เมืองหลวง​และ​อำเภอ​เฉียน​เหอ

ทั้งหมด​หัน​มองหน้า​กันและกัน

ดง​ไป๋​หยาง​ไม่มี​ทั้ง​บ้านเรือน​และ​ร้านค้า​ ​เหตุใด​ไท่​จื่อ​ถึง​หยุดพัก​ที่นั่น

ไท่​จื่อ​คือ​องค์​รัชทายาท​ ​เป็นตัวแทน​ของ​องค์​จักรพรรดิ​ ​ไม่ว่า​จะ​หยุดพัก​อยู่​ที่นั่น​ด้วย​สาเหตุ​ใด​ ​อย่างไร​แล้ว​พวกเขา​ก็​ทำได้​เพียง​เร่ง​รี่​ไปหา

กอง​ขบวน​หยุดพัก​อยู่​กลาง​ป่า​ ​ควัน​ขาว​ลอย​ฉุย​ขึ้น​ฟ้า

นี่​กำลัง​เตรียม​อาหาร​กัน​อยู่​หรือ

คน​กลุ่ม​นั้น​รีบ​เข้าไป​ทำความเคารพ​ไท่​จื่อ​ ​“​กระหม่อม​ถวายบังคม​องค์​รัชทายาท​ ​หนทาง​ที่ผ่านมา​ ​คง​ลำบาก​มาก​เลย​ใช่​หรือไม่​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

ไท่​จื่อ​กวาดตา​มอง​คน​กลุ่ม​นั้น​พลาง​ถาม​ ​“​พวก​เจ้า​คือ​ขุนนาง​และ​เจ้าหน้าที่​ที่​รับหน้าที่​ดูแล​เรื่อง​บรรเทา​สาธารณภัย​งั้น​หรือ​”

เสนาบดี​กรม​พระ​คลัง​เป็น​หัวหน้า​ดูแล​ฝ่าย​บรรเทา​สาธารณภัย​ ​เขา​มี​แซ่​จ้าว​ ​เมื่อ​ได้ยิน​ไท่​จื่อ​ถาม​เช่นนั้น​ก็​รีบ​ตอบ​ ​“​กระหม่อม​จ้าว​หรู​ชิ่ง​ ​เป็น​ซื่อ​หลาง​ฝ่ายขวา​ประจำ​กรม​พระ​คลัง​ ​เป็น​หัวหน้า​ดูแล​การ​บรรเทา​สาธารณภัย​ใน​ครั้งนี้​ ​คน​เหล่านี้​เป็น​เหล่า​เจ้าหน้าที่​ที่​ตาม​กระหม่อม​มาจาก​เมืองหลวง​ ​และ​นี่​คือ​เจ้าหน้าที่​ท้องถิ่น​ของ​อำเภอ​เฉียน​เห​อพ​่ะ​ย่ะ​ค่ะ​…​”

ไท่​จื่อ​พยักหน้า​เชื่องช้า​ ​แต่​นอกจาก​จ้าว​ซื่อ​หลาง​แล้ว​ ​คนอื่นๆ​ ​เขา​แทบ​จำ​ไม่ได้​เลย

“​สถานการณ์​ที่​เฉียน​เหอ​เป็น​อย่างไรบ้าง​”

สีหน้า​ของ​จ้าว​ซื่อ​หลาง​ย่ำแย่​อย่างเห็นได้ชัด​ ​“​สถานการณ์​ไม่​สู้​ดี​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​เหตุ​แผ่นดินไหว​ใน​ครั้งนี้​เป็น​เหตุการณ์​แผ่นดินไหว​ใน​รอบ​ร้อย​ปี​เลย​ก็​ว่า​ได้​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​ผู้คน​ล้มตาย​ไป​กว่า​หมื่น​ชีวิต​ ​หนำซ้ำ​สภาพอากาศ​ยัง​เลวร้าย​ ​เป็นเหตุให้​โรคระบาด​บานปลาย​เกิน​ควบคุม​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​…​”

ไท่​จื่อ​ซ่อน​สายตา​แห่ง​ความรังเกียจ​เอาไว้​ก่อน​จะ​ถาม​ ​“​แล้ว​พวก​เจ้า​มี​วิธี​ป้องกัน​ไม่​ให้​ตัวเอง​ติดโรค​ระบาด​พวก​นั้น​อย่างไร​”

ครั้น​ได้ยิน​เช่นนั้น​ ​มุม​ปากของ​แต่ละคน​ก็​กระตุก​วูบ​

จ้าว​ซื่อ​หลาง​ตอบ​ ​“​ทุกครั้งที่​เข้าไป​ตรวจตรา​ใน​เมือง​ ​พวก​กระหม่อม​จะ​ปฏิบัติตาม​คำสั่ง​ของ​แพทย์​หลวง​คือ​ให้​ใช้​โอสถ​ต้ม​ ​อาบน้ำ​ด้วย​สมุนไพร​ ​และ​รมควัน​อาภรณ์​ที่​สวมใส่​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​…​”

ไท่​จื่อ​ได้ยิน​ดังนั้น​หนัง​ศีรษะ​ก็​ปวด​หนึบ​ขึ้น​ทันใด

ที่​เขา​กังวล​มัน​ไม่ผิด​ไป​จาก​สถานการณ์​จริง​เลย​สักนิด​ ​แค่​การ​จะเข้า​ไป​หนึ่ง​ครั้ง​ ​ยัง​ยุ่งยาก​ถึง​เพียงนี้​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​โรคระบาด​นี้​ร้ายแรง​ยิ่งนัก

ไม่​กลัว​เรื่อง​ที่​คาดเดา​ได้​ ​แต่​กลัว​เรื่อง​ที่​คาดเดา​ไม่ได้​ ​เขา​จะ​ไม่มีทาง​เอาชีวิต​ไป​เสี่ยง​เด็ดขาด​!

“​แล้ว​ผู้คน​ใน​เมือง​อยู่​กัน​อย่างไร​”​ ​เสียง​แผ่วเบา​เอ่ย​ขึ้น

คำถาม​ที่​ดู​เป็นการเป็นงาน​เช่นนี้​ทำเอา​จ้าว​ซื่อ​หลาง​นิ่ง​ไป​ชั่วขณะ​ ​ก่อน​จะ​หัน​มอง​ไป​ที่​ใบหน้า​ที่​ดู​อ่อนเยาว์​ไม่​ต่าง​จาก​ไท่​จื่อ​นัก​ ​แต่กลับ​ดู​คมคาย​กว่า​มาก

อวี​้​จิ​่น​ไม่​คิด​ว่าการ​ถาม​คำถาม​ทั่วไป​จะ​ทำให้​ทั้งหมด​นิ่ง​ค้าง​กลางอากาศ​ ​เพราะ​ก็​เห็นชัด​ๆ​ ​อยู่​ว่า​คำถาม​เบาปัญญา​ของ​ไท่​จื่อ​ยัง​ตอบ​กัน​คล่องปาก​อยู่​แท้ๆ

เขา​กระแอม​กระไอ​แผ่วเบา​เป็นการ​เตือน​จ้าว​ซื่อ​หลาง

จ้าว​ซื่อ​หลาง​พลัน​ได้สติ​ ​ทันทีที่​หันไป​เห็นท่า​ที​ของ​อวี​้​จิ​่น​ ​เขา​ก็​ดู​ลุกลี้ลุกลน​ขึ้น​กว่า​เดิม​ ​“​ปัจจุบัน​เขตเมือง​แบ่ง​ออก​เป็น​สอง​ส่วน​คือ​ฝั่ง​ตะวันตก​ ​และ​ฝั่ง​ตะวันออก​ ​คนที​่​ไม่ได้​ติดโรค​ให้​ไปรว​มอยู​่​ที่​ฝั่ง​ตะวันตก​ ​ส่วน​คนที​่​มีส​มาชิก​ใน​ครอบครัว​ติดโรค​ ​แต่​ไม่ยอม​แยกกัน​อยู่​ก็​ยังคง​อาศัย​อยู่​ที่​ฝั่ง​ตะวันออก​ ​มี​การจดบันทึก​จำนวน​ผู้เสียชีวิต​และ​ผู้​ที่​บาดเจ็บ​ใน​เล่ม​ทะเบียน​ ​ร่าง​ของ​ผู้เสียชีวิต​จะ​ถูก​ฝัง​รวม​ไว้​ที่​เดียวกัน​ ​นอกจากนี้​ยัง​มี​การ​มอบ​เงิน​ทำขวัญ​ครอบครัว​ละ​หนึ่ง​เหลียง​…​ ​แต่​เมื่อ​สถานการณ์​โรคระบาด​รุนแรง​ขึ้น​ ​ผู้ประสบภัย​พิบัติ​ที่อยู่​ใน​ฝั่ง​ตะวันตก​ก็​ไป​เรียกร้อง​อยู่​ที่​หน้า​ประตูเมือง​ ​เพราะ​ต้องการ​ย้ายออก​จาก​เมือง​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​…​”

โดยทั่วไปแล้ว​ ​พื้นที่​ที่เกิด​โรคระบาด​ ​จะ​ไม่​อนุญาต​ให้​คนใน​พื้นที่​ออก​นอก​พื้นที่​ ​ยิ่ง​เป็น​อำเภอ​เฉียน​เหอ​ที่อยู่​ใกล้​กับ​เมืองหลวง​แล้ว​ ​เหล่า​ขุนนาง​ถึง​ไม่กล้า​ปล่อย​เหยื่อ​ภัยพิบัติ​เหล่านั้น​ออก​ไปนอก​เมือง

เพราะ​หาก​มี​คน​ติดโรค​เล็ดลอด​ออก​ไป​คง​สร้าง​ความวุ่นวาย​ไม่น้อย