ตอนที่ 546 ความไม่สงบ

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

เช้า​วัน​ถัดมา​อากาศ​สดชื่น​แจ่มใส

อวี​้​จิ​่น​ตื่นขึ้น​มา​แต่เช้า​ตรู่​ ​ครั้น​ล้างหน้า​เรียบร้อย​แล้ว​ ​ชายหนุ่ม​ก็​ออก​ไป​ฝึก​ต่อสู้​ ​จนกระทั่ง​ลม​เย็น​พัด​โชย​มา​อีกครั้ง​ ​ถึง​จะ​ได้ยิน​เสียง​ความเคลื่อนไหว​จาก​ห้องพัก​ของ​ไท่​จื่อ

การ​ออกมา​พักแรม​ข้างนอก​มิได้​มีพิ​ธีรี​ตอง​มาก​นัก​ ​คนที​่​มาร​่วม​โต๊ะอาหาร​เช้า​กับ​ไท่​จื่อ​และ​อวี​้​จิ​่​นมี​เพียง​จ้าว​ซื่อ​หลาง

คหบดี​ถือ​ถาด​อาหาร​เข้ามา​ด้วย​ตนเอง​ ​แต่​คนที​่​ทำหน้าที่​จัดเรียง​จานชาม​และ​ตะเกียบ​คือ​บุตรสาว​ของ​คหบดี​…​ ​นาง​เป็น​เด็กสาว​สวยสะ​คราญ​ใน​วัย​ขบเผาะ

ไท่​จื่อ​ชำเลือง​มอง​เด็กสาว​หลายครั้ง

แม้ว่า​ความงาม​ของ​นาง​จะ​มิสู​้​เหล่า​นางใน​ใน​ตำหนัก​บูรพา​ ​แต่​ถึงกระนั้น​ ​ดอกไม้​ป่า​ใน​ชนบท​ก็​ให้​รส​สัมผัส​ที่​ต่าง​ไป

ไท่​จื่อ​เป็น​พวก​กาย​ไม่เคย​ขาด​สตรี​ ​แต่​การ​เดินทาง​ครั้งนี้​ไม่​สามารถ​พา​เหล่า​อนุภรรยา​ติดสอยห้อยตาม​มาด​้วย​ ​เรื่อง​นี้​จึง​กวนใจ​ไท่​จื่อ​อยู่​เนืองๆ

ครั้น​คหบดี​เห็น​ว่า​ไท่​จื่อ​ชำเลือง​มอง​บุตรสาว​ของ​ตน​หลายครั้ง​ ​เขา​ก็​ตื่นเต้น​จน​หน้าแดง​

โอ้​สวรรค์​ ​บรรพบุรุษ​เคย​กู้ชาติ​บ้านเมือง​มา​หรือ​อย่างไร​ ​ถึง​ได้​มีโอกาส​ต้อนรับ​ไท่​จื่อ​และ​ท่าน​อ๋อง​พร้อม​ๆ​ ​กัน​เช่นนี้​!

หาก​บุตรี​ของ​เขา​เข้าตา​ไท่​จื่อ​ ​นั่น​ก็​นับว่า​ได้​ก้าว​ขึ้นไป​สูง​อีก​ขั้น

เสียง​เกรียวกราว​ดัง​ขึ้น​ ​พร้อม​ตะเกียบ​คู่​หนึ่ง​ร่วงหล่น​ลงพื้น

เด็กสาว​รีบ​ก้มลง​เก็บ​ ​นาง​ใช้​กระโปรง​เช็ด​ฝุ่น​ออก​ก่อน​ทำท่า​จะ​วาง​ลง​บน​โต๊ะอาหาร

คหบดี​ดึง​บุตรสาว​อย่างแรง​พร้อม​ออกปาก​ตำหนิ​ ​“​ตะเกียบ​ที่​หล่น​พื้น​แล้ว​จะ​ให้​เหล่า​ผู้สูงศักดิ์​ใช้งาน​อีก​ได้​อย่างไร​ ​รีบ​เอา​ไป​เปลี่ยน​เดี๋ยวนี้​”

เด็กสาว​บุ้ยปาก​อย่างน้อย​เนื้อ​ต่ำ​ใจ​ ​พร้อม​ค้อม​หลัง​เดิน​ออก​ไป

ไท่​จื่อ​ขมวดคิ้ว

การกระทำ​มักง่าย​ ​ทำให้​ไท่​จื่อ​รู้สึก​สะอิดสะเอียน

ความสนใจ​เมื่อ​ครู่​พลัน​มลาย​หาย​สิ้น

คหบดี​รีบ​ขออภัย​การ​ใหญ่​ ​“​บุตรี​ของ​ข้า​หยาบคาย​ยิ่งนัก​ ​ที่​บังอาจ​ล่วงเกิน​ไท่​จื่อ​”

“​ช่างเถิด​ ​เจ้า​มิต​้​อง​เข้ามา​ดูแล​ใน​นี้​แล้ว​ ​ออก​ไป​เถิด​”​ ​ไท่​จื่อ​กล่าว​อย่าง​หมด​ความอดทน​ ​ครั้น​ความสนใจ​ใน​ตัว​หญิงสาว​หมด​ลง​ ​ความสนใจ​ใน​ตัว​บิดา​ของ​นาง​กลับ​มีน​้อย​ยิ่งกว่า​

คหบดี​ถอย​ออก​ไป​จาก​ห้อง​ ​แล้วจึง​เรียก​บุตรสาว​มา​เอ็ด​ยกใหญ่​ ​“​ทุกที​ก็​เห็น​ไหวพริบดี​ออก​ปาน​นั้น​ ​เหตุใด​กับ​แค่​ถือ​ตะเกียบ​กลับ​จับ​ให้​มั่น​ยัง​ไม่ได้​ ​เรื่อง​นี้​ว่า​แย่​แล้ว​ ​ตะเกียบ​หล่น​พื้น​แล้วยัง​มีหน้า​หยิบ​ขึ้น​มา​เช็ด​บน​ตัว​ ​นี่​เจ้า​กำลัง​ยั่วโมโห​ข้า​อยู่​ใช่​หรือไม่​”​

เด็กสาว​หัวเราะ​คิกคัก​ ​“​ก็​ข้า​ตั้งใจ​ ​สายตา​เช่นนั้น​จะ​ได้​เลิก​จ้อง​มาที​่​ข้า​เสียที​ ​หึ​ ​ท่าน​พ่อ​คิด​อะไร​อยู่​ ​อย่า​คิด​ว่า​ข้า​รู้​ไม่ทัน​ ​ข้า​จะ​บอก​ท่าน​พ่อ​ให้​นะ​ว่า​ ​ต่อให้​ข้า​ต้อง​แต่งงาน​กับ​หนุ่ม​บ้าน​นา​ ​ยังดี​กว่า​ไป​เป็น​สนม​ให้​ไท่​จื่อ​ขี้​หลี​เช่นนั้น​…​”

“​ไอ้​เจ้า​ลูก​คน​นี้​ ​เบา​เสียง​หน่อย​จะ​ได้​ไหม​…​”

เด็กสาว​พ่น​สิ่งที่คิด​ใน​ใจใส​่​ผู้​เป็น​บิดา​แล้วก็​วิ่ง​ฉิว​หาย​ไป

คหบดี​ส่าย​หัว​อย่าง​ช่วยไม่ได้

เอาเถอะ​ ​ทั้ง​ลูกชาย​ลูกสาว​ก็​ไม่ได้เรื่อง​สัก​คน​ ​อย่า​เก็บ​มา​ใส่ใจ​เลย​จะ​ได้​ไม่ต้อง​หัวเสีย​โดยใช่เหตุ

ภายใน​ห้องอาหาร​ ​ไท่​จื่อ​ค่อยๆ​ ​ละเอียด​อาหารเช้า​ทีละ​นิด​ ​ทั้งที่​รู้แจ้ง​แก่​ใจ​ว่า​ ​ถึงอย่างไร​ก็​หนี​ภาระ​นี้​ไม่​พ้น​ ​เขา​หันไป​กล่าว​แก่​จ้าว​ซื่อ​หลาง​ ​“​ไป​เถอะ​ ​ไปดู​ที่​อำเภอ​เฉียน​เห​อกัน​ดีกว่า​”

จ้าว​ซื่อ​หลาง​ลอบ​ถอนหายใจ​แผ่วเบา

ตอนแรก​เขา​กลัว​ว่า​ไท่​จื่อ​จะ​ไม่ยอม​เสด็จ​ไป​ ​และ​ทำให้​พวกเขา​ที่มา​จาก​เมืองหลวง​ต้อง​เสียหน้า

ผ่าน​ไป​กว่า​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​ ​ไท่​จื่อ​และ​ขบวน​ผู้ติดตาม​ก็​มาถึง​ที่​หน้า​ประตูเมือง

“​องค์​รัชทายาท​ ​ต้อง​สวม​ฉลองพระองค์​ที่​ผ่าน​การ​รมควัน​สมุนไพร​คลุม​ทับ​อีก​ชั้น​ก่อน​ ​แล้ว​ถึง​จะ​เสด็จ​เข้า​เขต​ด้านใน​ได้​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

ไท่​จื่อ​ไม่​รอช​้า​ ​รับ​ชุด​คลุม​ตัว​บาง​จาก​จ้าว​ซื่อ​หลาง​มาค​ลุม​ทับ​ ​พลาง​ชี้นิ้ว​ไป​ที่​กำแพง​พลาง​เอ่ย​ ​“​ยิ่ง​สูง​ยิ่ง​เห็น​ได้​ไกล​ ​พวกเรา​ขึ้นไป​ดู​จาก​บน​กำแพง​นั้น​ก็แล้วกัน​ ​เพื่อ​จะ​ได้​เห็นภาพ​รวมทั้งหมด​”

สีหน้า​ของ​แต่ละคน​บิดเบี้ยว​ผิดรูป

“​แค่ก​ๆ​ ​ไท่​จื่อ​ตรัส​มีเหตุผล​ยิ่งนัก​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​จ้าว​ซื่อ​หลาง​มิ​รู้​ว่า​ควร​ยินดี​หรือ​ยิน​ร้าย​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​ไท่​จื่อ​พยายาม​หลบหลีก​ ​ตน​ก็​ไม่​อยาก​บังคับ​ขืนใจ

ฮ่องเต้​ส่ง​ไท่​จื่อ​มาส​ร้าง​ขวัญ​กำลังใจ​ให้​เหล่า​ราษฎร​ ​หาก​ให้​ว่า​กันตาม​จริง​ก็​เพื่อให้​เหล่า​ขุนนาง​และ​ราษฎร​ได้​เห็น​ ​เมื่อ​เสด็จ​กลับ​ไป​แล้ว​ ​คงมี​ฎีกา​เชิดชู​เกียรติคุณ​องค์​รัชทายาท​ส่ง​มา​ไม่ขาดสาย​ ​แต่​ผู้ใด​จะ​ไป​คิด​ว่า​ไท่​จื่อ​จะ​ไม่ยอม​เสด็จ​เข้า​เมือง​ด้วย​เช่นนี้

แต่​เป็น​เช่นนี้​ก็ดี​ ​อย่างน้อย​ๆ​ ​ไท่​จื่อ​ก็​ยัง​ปลอดภัย​ดี​ ​เพราะ​หากว่า​ไท่​จื่อ​ทรง​มีอันเป็นไป​ ​อนาคต​ของ​เขา​คง​ดับสูญ​เป็นแน่

กลุ่มคน​เดินตาม​ไท่​จื่อ​ขึ้นไป​ด้านบน​กำแพง

และ​เป็นจริง​ดังที่​ไท่​จื่อ​ว่า​ไว้​คือ​ ​ยิ่ง​สูง​ยิ่ง​เห็น​ได้​ไกล

อวี​้​จิ​่​นที​่​ยืน​อยู่​บน​กำแพง​มอง​ไป​เบื้องหน้า​ ​ภาพ​ซาก​เมือง​ขนาดใหญ่​ฝั่ง​ตะวันออกเฉียงเหนือ​ปรากฏ​แก่​ตา​ ​เพียง​ได้​เห็นใจ​ก็​สั่นสะท้าน​ ​ตลอดจน​ฝั่ง​ตะวันตกเฉียงใต้​ ​มีบ​้าน​เรือน​พังทลาย​ย่อยยับ​ไม่น้อย​ ​พื้นที่​บริเวณ​นั้น​แทบจะ​กลายเป็น​พื้นที่​รกร้าง​ ​ในเวลานี้​ ​สิ่ง​ที่​เห็น​มี​เพียง​กระโจม​พักอาศัย​ชั่วคราว​มากมาย​ ​และ​เงา​คน​ขนาดเล็ก​จิ๋ว

เขา​พิศ​มอง​ภาพ​นั้น​เงียบงัน​ ​ไม่มีความรู้​สึก​ใด​ส่งผ่าน​ออกมา​ทาง​สีหน้า

ตอนที่​อาศัย​อยู่​ทาง​ตอน​ใต้​ ​เขา​ผ่าน​สงคราม​เล็ก​ใหญ่​มานับ​ไม่​ถ้วน​ ​ภาพ​เหตุการณ์​น่าเศร้า​สลด​กว่านี​้​ ​เขา​ก็​เคย​เห็น​มา​แล้ว​หลายครั้ง​ ​แต่​ภาพ​แสน​หดหู่​เช่นนั้น​เกิด​จาก​น้ำมือ​ของ​คน​ฝ่าย​เดียว​กับ​เขา​และ​ฝ่าย​ศัตรู​ทำ​ร่วมกัน​ ​แต่​เหยื่อ​ผู้เคราะห์ร้าย​เบื้องหน้า​คือ​ราษฎร​ต้า​โจว

อวี​้​จิ​่น​เพิ่งจะ​รับรู้​ได้​ว่า​คน​สอง​คน​ก็​ให้ความรู้​สึก​แตกต่าง​กัน​ออก​ไป

ส่วน​ไท่​จื่อ​ในขณะนี้​ก็ได้แต่​เบิกตา​กว้าง​ด้วย​ความ​ตกตะลึง

เขา​รู้สึก​หวาดกลัว​ทุกครั้งที่​หวนนึก​ถึง​เหตุการณ์​แผ่นดินไหว​ที่เกิด​ขึ้น​ที่​วัด​ไท่​ ​ทั้งที่​ใน​ตอนนั้น​มี​เพียง​พื้นดิน​สั่นสะเทือน​ ​เสาธง​หัก​ล้ม​ลงมา​ ​เดิมที​เขา​คิด​ว่า​ ​เหตุการณ์​ครั้งนั้น​น่ากลัว​ที่สุด​ใน​ชีวิต​ ​แต่​ไม่เคย​คิด​เลย​ว่า​จะ​มี​เหตุการณ์​ร้ายแรง​กว่านั​้​นมาก

เขา​เห็น​แม้กระทั่ง​นายทหาร​กำลัง​หาม​ร่าง​ศพ​บวม​ฉึ่ง​ไป​ไว้​อีกที​่

โชคดี​ที่​เขา​ยืน​อยู่​ไกล​ ​มิฉะนั้น​อาหารเช้า​ที่​กิน​เข้าไป​คงได้​สำรอก​ออกมา​เป็นแน่

ไท่​จื่อ​ดวงตา​เลื่อนลอย​หันไป​มอง​จ้าว​ซื่อ​หลาง​ ​“​แผ่นดินไหว​เกิดขึ้น​ตั้ง​นาน​แล้ว​ ​เหตุ​ไฉน​ถึง​มี​ร่าง​คน​เสียชีวิต​เกลื่อนกลาด​เพียงนี้​”

จ้าว​ซื่อ​หลาง​ไม่​อยาก​จะ​วิจารณ์​ความไร้เดียงสา​ของ​ไท่​จื่อ​ ​ตอบ​ไป​เพียง​ว่า​ ​“​ผู้คน​เหล่านั้น​เสียชีวิต​จาก​โรคระบาด​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​เมื่อใด​ก็ตามที​่​มี​คน​หนึ่ง​ติดโรค​ร้าย​ ​ก็​จะ​นำ​โรค​นี้​แพร่กระจาย​ไป​สู่​คนใน​ครอบครัว​ ​และ​ในที่สุด​ก็​เสียชีวิต​กัน​หมด​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​…​”

ไท่​จื่อ​ตกใจ​จน​เนื้อตัว​สั่นสะท้าน

โรคระบาด​นี้​ช่าง​น่ากลัว​ยิ่งนัก​ ​เขา​อยาก​กลับบ้าน​เดี๋ยวนี้​เลย​!

ใบหน้า​ของ​ไท่​จื่อ​ที่​พยายาม​ห้าม​เท้า​ตัวเอง​ไม่​ให้​วิ่งหนี​ไป​ซีดเซียว​เข้าขั้น​ ​‘​ควบคุม​ไม่ได้​เลย​รึ​’

จ้าง​ซื่อ​หลาง​ยิ้ม​จืด​เจื่อน​ ​“​โรคระบาด​ควบคุม​ได้ที่​ไหน​กัน​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​นอก​เสีย​จาก​…​”

เพราะ​กลัว​ว่า​จะ​ทำให้​ไท่​จื่อ​หวาดผวา​มากกว่า​เก่า​ ​เขา​จึง​ไม่​กล่าว​ต่อให้​จบ​ ​แต่​แล้ว​จู่ๆ​ ​ก็​มีเสียง​เย็นชา​ของ​ใคร​บางคน​เอ่ย​ขึ้น​ ​“​นอก​เสีย​จาก​ตาย​กัน​หมด​ ​ก็​นับว่า​ควบคุม​ได้​สำเร็จ​”

ไท่​จื่อ​และ​จ้าว​ซื่อ​หลาง​หันไป​มอง​ต้นเสียง

ใบหน้า​ของ​อวี​้​จิ​่น​ยังคง​นิ่งเฉย​ ​ประหนึ่งว่า​คนที​่​พูด​ประโยค​เมื่อ​ครู่​ไม่ใช่​เขา​อย่างไร​อย่างนั้น

จนถึง​ตอนนี้​ ​เขา​ก็​เข้าใจ​แผนการ​ของ​คน​พวก​นี้​อย่าง​ทะลุปรุโปร่ง​แล้ว

เรื่อง​บรรเทาทุกข์​สาธารณภัย​ทำได้​เพียง​บรรเทา​ไป​ตามเรื่อง​ ​แต่​อย่า​หวัง​ว่า​คน​พวก​นี้​จะ​ลง​ไป​จัดการ​ ​และ​หาก​เป็น​เช่นนี้​ต่อไป​ ​รอ​จนกระทั่ง​ไม่มี​ผู้เสียชีวิต​จาก​โรคระบาด​ ​ถึง​จะ​นับว่า​แก้ไขปัญหา​ได้​สำเร็จ​ ​ส่วน​จะ​มี​ผู้รอดชีวิต​มาก​น้อย​เพียงใด​ก็แล้วแต่​ดิน​แต่​ฟ้า​จะ​เมตตา

วิธีการ​จัดการ​กับ​โรคระบาด​เช่นนี้​เป็น​วิธี​ปฏิบัติ​ที่​ส่ง​ทอด​กัน​มา​หลาย​ยุค​หลาย​สมัย

เมื่อ​ต้อง​เผชิญ​กับ​ภัยพิบัติ​ทางธรรมชาติ​ ​ชีวิต​มนุษย์​ด้อยค่า​ไม่​ต่าง​อะไร​จาก​มด​ตัว​กระจิริด​ ​ไร้​ซึ่ง​ทางรอด

จ้าว​ซื่อ​หลาง​ไม่​คิด​ว่า​อวี​้​จิ​่น​จะ​กล่าว​ความจริง​ที่​ไม่น่า​พิสมัย​ออกมา​ตรงๆ​ ​เช่นนี้​ ​เขา​ได้​แต่​ยิ้ม​กลบเกลื่อน​ ​“​ท่าน​อ๋อง​ทรง​มอง​แง่ร้าย​เกินไป​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​ราษฎร​ที่รวม​ตัว​อยู่​ที่​ฝั่ง​ตะวันตก​ก็​มิใช่​ปัญหา​ใหญ่​ปาน​นั้น​…​”

ยัง​ไม่ทัน​จบ​ประโยค​ ​จู่ๆ​ ​เบื้องหน้า​ก็​ตก​อยู่​ใน​ความ​ชุลมุน​วุ่นวาย

ชาวเมือง​นับ​สิบ​ออกมา​ยืนออ​กัน​อยู่​ที่​ประตูเมือง​ ​ประจันหน้า​กับ​เหล่า​ทหาร​ผู้​มี​อาวุธ​ครบมือ

“​ปล่อย​พวก​ข้า​ออก​ไป​เดี๋ยวนี้​ ​ปล่อย​พวก​ข้า​ออก​ไป​เดี๋ยวนี้​!​”

“​เปิด​ประตูเมือง​เดี๋ยวนี้​ ​พวก​ข้า​ไม่​อยาก​นอน​รอค​วาม​ตาย​อยู่​ที่นี่​…​”

ชาวบ้าน​ใน​ชุด​มอซอ​มีทั​้ง​ชาย​ ​หญิง​ ​คน​เฒ่า​ ​และ​เด็ก​ ​ทุกคน​ล้วนแล้วแต่​สิ้นหวัง​เต็มประดา​ ​ดวงตา​แดงก่ำ​ร้อง​ตะโกน​สุดเสียง

ไท่​จื่อ​อ้า​ปาก​ ​“​คน​พวก​นี้​…​”

จ้าว​ซื่อ​หลาง​อธิบาย​ ​“​คือ​ราษฎร​จาก​ฝั่ง​ตะวันตก​ที่​อยาก​หนี​ออกจาก​เมือง​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

ความ​ไม่​ยี่หระ​แยแส​แวบ​ผ่านสายตา​ของ​ไท่​จื่อ

ใคร​จะ​ไปรู​้​ว่า​ชาวบ้าน​พวก​นี้​ติดโรค​แล้ว​หรือยัง​ ​แล้วยัง​มีหน้า​มา​โวยวาย​จะ​ออกจาก​เมือง​ให้​ได้​ ​ความรับผิดชอบ​ต่อ​ส่วนรวม​ไม่มี​อยู่​ใน​จิตสำนึก​เลย​สักนิด​!​ ​โชคดี​ที่​เขา​ไหวตัว​ทัน​ ​ถึง​ได้​ขึ้น​มายืน​ดู​ข้างบน​นี้​ ​เพราะ​หาก​เข้าไป​ใน​เมือง​จริงๆ​ ​คง​ถูก​คนชั่ว​พวก​นั้น​ล่วงเกิน​เป็นแน่

ไท่​จื่อ​แอบ​ชื่นชม​ความ​ฉลาด​ของ​ตัวเอง

ครั้น​ผู้ดูแล​อำเภอ​เฉียน​เหอ​เห็น​ว่า​เหล่า​ผู้ประสบภัย​ก่อ​ความ​ไม่​สงบ​ต่อหน้า​ไท่​จื่อ​ ​จึง​กระแอม​ไอ​พลาง​แผดเสียง​ ​“​ทุกคน​ ​อยู่​ใน​ความสงบ​ ​ฟัง​ที่​ข้า​กำลังจะ​บอก​ ​ราชสำนัก​จะ​ดูแล​พวก​เจ้า​แต่ละคน​อย่างดี​ ​ไม่มีทาง​ทอดทิ้ง​ผู้ใด​ไว้​ข้างหลัง​ ​พวก​เจ้า​ดู​นี่​ซิ​ ​นี่​คือ​ไท่​จื่อ​ผู้​เป็น​องค์​รัชทายาท​ ​ทรง​เสด็จ​มา​ในนามของ​ฮ่องเต้​ ​เพื่อมา​ดูแล​ทุกคน​ด้วย​พระองค์​เอง​…​”

ทั้งหมด​นิ่งเงียบ​เพียง​ชั่ว​อึดใจ​ ​ก่อนที่​รองเท้า​ข้าง​หนึ่ง​จะ​ลอย​ขึ้นไป​บน​กำแพง​ ​และ​พุ่ง​เข้าที่​หน้าผาก​ของ​ไท่​จื่อ​เต็มรัก