ตอนที่ 557 ฝันกลางวันในตอนกลางคืน

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

“​เจ้า​บื้อ​ ​เจ้า​ถีบ​ข้า​ทำไม​”​ ​ชาย​ผู้​ที่​กำลัง​นอน​สะลึมสะลือ​บ่นว่า​ถูก​คน​ข้างๆ​ ​ถีบ

ชาย​ร่าง​ใหญ่​ปัด​มือ​ที่​ยืด​เหยียด​ออกมา​ ​พลาง​ตะโกน​ด่า​ขึ้น​ ​“​ใคร​ถีบ​ข้า​ ​ข้า​นอนหลับ​อยู่ดีๆ​ ​เจ้า​จะ​เขย่าตัว​ข้า​ทำไม​”

แรง​สั่นสะเทือน​รุนแรง​ยิ่งขึ้น​อีก

หลี​่​เจิ​้ง​เป็น​คน​แรก​ที่​วิ่ง​ออกมา​จาก​กระโจม​ ​มอง​พื้นดิน​ที่​กำลัง​สั่น​ไหว​ ​กระโจม​แต่ละ​หลัง​ราว​กกับ​เรือ​เล็ก​ที่​กระเพื่อม​ขึ้น​ลง​ใน​แม่น้ำ​ ​สีหน้า​เปลี่ยน​ขึ้น​มา​โดยพลัน​ ​พร้อมกับ​ตะโกน​ลั่น​ ​“​แผ่นดินไหว​ ​แผ่นดินไหว​แล้ว​…​”

ชาย​แก่​ร้อง​เสียงหลง​ ​ทรุดตัว​คุกเข่า​ลง​บน​พื้น​ ​สอง​มือ​ยัน​ไว้​บน​พื้นที่​เปียกชื้น​ ​พร้อมกับ​ร้องไห้​พูด​ขึ้น​ ​“​แผ่นดินไหว​แล้ว​ ​แผ่นดินไหว​แล้ว​จริงๆ​!​”

คน​จำนวนนับ​ไม่​ถ้วน​ตกใจ​ตื่น​ ​ไม่นาน​เสียง​กรีดร้อง​ด้วย​ความตกใจ​ของ​สตรี​กับ​เสียงร้อง​ของ​เด็ก​ก็​ดัง​ขึ้น​ใน​กระโจม

พวก​ผู้ชาย​ต่าง​ดีด​ตัว​ลุกขึ้น​มา​ ​รับรู้​ได้​ถึง​แรง​สั่นสะเทือน​จาก​พื้นดิน​ ​สีหน้า​ซีดเผือด

ที่​ท่าน​อ๋อง​พูด​ไว้​ไม่มี​ผิด​จริง​ด้วย​!

“​แย่​แล้ว​ ​ใน​เมือง​!​”​ ​มี​คน​ตะโกน​ออกมา​ด้วย​ความตกใจ​ ​จากนั้น​ก็​ชัก​เท้า​วิ่ง​ไป​ทาง​เมือง​จิ๋น​หลี​่​ ​ทว่า​กลับ​ถูก​คน​ข้างๆ​ ​ดึง​ไว้​สุด​ชีวิต

คนที​่​ถูก​ดึง​ร้อนใจ​เป็นอย่างมาก​ ​ตะเบ็งเสียง​ลั่น​ ​“​ปล่อย​ข้า​เดี๋ยวนี้​นะ​ ​พี่น้อง​ข้า​กลับ​ไป​ที่นั่น​…​”

“​เจ้า​อยาก​ตาย​รึ​ ​แรง​สั่นสะเทือน​นี้​มาจาก​ใน​เมือง​ของ​พวกเรา​ ​ใน​เมือง​ไม่ได้​กว้างขวาง​เหมือนกับ​ที่นี่​ ​ล้วน​เต็มไปด้วย​ขอนไม้​ ​กลับ​ไป​จะ​ถูก​ทับ​ตาย​เอา​นะ​!​”​

ทั้งสอง​ยื้อยุด​ฉุดกระชาก​ ​เมื่อ​พื้นดิน​สั่นสะเทือน​แรง​ยิ่งขึ้น​ก็​ทำให้​เซ​จน​ล้ม​ลง​กับ​พื้น

เสียงร้อง​ไห้​ด้วย​ความหวาดกลัว​ของ​พวก​เด็ก​ๆ​ ​ยิ่ง​ดัง​ขึ้น​ ​แม้แต่​สตรี​จำนวน​ไม่น้อย​ก็​ร้องไห้​ออกมา

ถึงแม้ว่า​จะ​เป็น​ทุ่ง​กว้าง​ ​ทว่า​แผ่นดินไหว​ภัยพิบัติ​ที่​ไม่​อาจ​ควบคุม​ได้​ก็​ทำให้​ลึก​ๆ​ ​แล้ว​พวกเขา​รู้สึก​หวาดกลัว​นัก

ภายใต้​ภัยธรรมชาติ​ ​ผู้คน​มักจะ​เป็น​เหมือน​มด​ตัวเล็ก​ๆ​ ​ไม่มีค่า​พอที่​จะ​เอ่ยถึง

พื้นที่​ที่​ได้รับ​แรง​สั่นสะเทือน​ยัง​มี​เมือง​อู​จี​ด้วย

อวี​้​จิ​่​นลืม​ตา​ขึ้น​มา​อย่างรวดเร็ว​ ​ดีด​ตัว​ลุกขึ้น​ ​รีบ​เดิน​ออก​ไปดู​ข้างนอก

ดูเหมือนว่า​แรง​สั่นสะเทือน​ภายใน​เรือน​จะ​ชัดเจน​กว่า​ ​สามารถ​เห็น​กิ่งไม้​ใบไม้​กวัดแกว่ง​ไปมา​อย่างรุนแรง

หลง​ต้าน​เดิน​มา​อยู่​ข้างๆ​ ​อวี​้​จิ​่น​ ​น้ำเสียง​หวาดหวั่น​เล็กน้อย​ ​“​ท่าน​อ๋อง​ ​นี่​คือ​แผ่นดินไหว​หรือ​ขอรับ​”

อวี​้​จิ​่​นพ​ยัก​หน้า​ลง​เล็กน้อย​ ​พลาง​ส่งสายตา​มอง​ไป​ทาง​เมือง​จิ๋น​หลี​่

“​เอ้อร​์​หนิ​วนี​่​สุดยอด​จริงๆ​”​ ​หลง​ต้าน​พูดจาก​ใจ​ ​พอคิด​ได้​ก็​วิ่ง​ไป​ที่​โรง​ครัว​หยิบ​เนื้อ​ติด​กระดูก​สอง​สาม​อัน​ออกมา​มายื​่น​ตรงหน้า​เอ้อร​์​หนิว

“​เอ้อร​์​หนิว​ ​รีบ​กิน​สิ​ ​นี่​เลี้ยง​ฉลอง​เจ้า​นะ​”

เอ้อร​์​หนิว​เหลือบมอง​เนื้อ​ติด​กระดูก​ ​แยกเขี้ยว​ออกมา​อย่าง​จองหอง

“​สุนัข​ตัว​นี้​ ​เมิน​แม้แต่​เนื้อ​ติด​กระดูก​หรือ​”​ ​หลง​ต้าน​กลอกตา​ใส่​ ​แล้ว​หันมา​โอบ​คอ​เอ้อร​์​หนิว​ ​ลูบ​ขน​อย่างสนิทสนม​ ​“​เอ้อร​์​หนิว​ ​รีบ​พูด​ออกมา​สิ​ ​เจ้า​รู้​ได้​อย่างไร​ว่า​เมือง​จิ๋น​หลี​่​จะ​เกิด​แผ่นดินไหว​”

เอ้อร​์​หนิว​ ​โฮ่ง​!

หลง​ต้าน​ลูบ​ปลายจมูก​พลาง​ลุกขึ้น

ลืม​ไป​เลย​ว่า​เอ้อร​์​หนิว​พูด​ภาษาคน​ไม่ได้​ ​น่าเสียดาย​จริง​เลย

ในขณะที่​ยัง​มี​การสั่น​สะเทือน​อยู่​เรื่อยๆ​ ​พอ​จ้าว​ซื่อ​หลาง​และ​คณะ​รู้สึกตัว​ได้​จึง​วิ่ง​ออกมา

เมื่อมา​ถึง​ข้าง​ขอก​ ​แรง​สั่นสะเทือน​ใต้เท้า​ก็​ยิ่ง​ชัดเจน

จ้าว​ซื่อ​หลาง​หน้าซีด​ ​มอง​ไป​ที่​อวี​้​จิ​่น​ด้วย​สายตา​ที่​ซับซ้อน​ ​“​ท่าน​อ๋อง​ ​แผ่นดินไหว​แล้ว​!​”

“​อืม​”​ ​อวี​้​จิ​่น​หยัก​หน้า​สีหน้า​เรียบ​เฉย

สักพัก​ก็​มี​อีก​คน​หนึ่ง​วิ่ง​เข้ามา​ ​สีหน้า​ซับซ้อน​ ​“​ท่าน​อ๋อง​ ​แผ่นดินไหว​แล้ว​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​!​”

“​อืม​”

มี​อีก​คน​หนึ่ง​วิ่ง​เข้ามา​ ​“​ท่าน​อ๋อง​ ​แผ่นดินไหว​แล้ว​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​!​”

“​อืม​”

หลง​ต้าน​ได้ยิน​ก็​เงยหน้า​มอง​ท้องฟ้า​อยู่​เงียบๆ

คน​พวก​นี้​นัด​กัน​มา​หรือ​ ​ทุกคน​เห็นท่า​นอ​๋​อง​แล้ว​ต้อง​พูด​ประโยค​เดียวกัน​ออกมา

คน​สุดท้าย​ที่​ผลัก​ประตูออก​มาก​็​คือ​ไท่​จื่อ

ไท่​จื่อ​ขยี้ตา​ด้วย​ความ​สะลึมสะลือ​ ​พลาง​พูด​พึมพำ​ออกมา​ ​“​ข้าง​โวยวาย​อะไร​กัน​ ​เสียงดัง​จน​นอน​ไม่ได้​…​”

แรง​สั่นสะเทือน​ใต้เท้า​ทำเอา​เขา​ได้สติ​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​ปฏิกิริยา​แรก​คือ​หมอบลง​กับ​พื้น​อย่างรวดเร็ว​ ​ยกมือ​ขึ้น​กอด​ศีรษะ​ไว้​ ​“​แผ่นดินไหว​แล้ว​!​”

ทุกอย่าง​เงียบเชียบ​ ​มี​เพียง​เสียง​กิ่งก้าน​ต้นไม้​ที่​กวัดแกว่ง​ไปมา

ไท่​จื่อ​ไม่รู้​สึก​ถึง​การเคลื่อนไหว​เป็นเวลา​นาน​ ​จึง​เงยหน้า​มองดู​ ​ก็ได้​รับสาย​ตา​ประหลาดใจ​จาก​คน​นับไม่ถ้วน

เกิด​อะไร​ขึ้น

ไท่​จื่อ​ลุกขึ้น​มา​ ​มอง​ไปร​อบ​ๆ​ ​ด้วย​ความ​งุนงง

บน​พื้น​ยังคง​สั่นสะเทือน​ ​แต่​ดูเหมือนว่า​ถ้า​ยืน​ให้​มั่น​ก็​ไม่มีปัญหา

เช่นนั้น​ปฏิกิริยา​เมื่อ​ครู่​ของ​เขา​…

ไท่​จื่อ​หน้าแดง​ระเรื่อ​ ​รีบ​เดิน​เข้าไป​อยู่​ข้าง​อวี​้​จิ​่น​ ​เอ่ย​พูด​น้ำเสียง​น้อยใจ​ ​“​น้อง​เจ็ด​ ​แผ่นดินไหว​แล้ว​ทำไม​เจ้า​ไม่​ส่ง​คน​ไป​เรียก​ข้า​”

อวี​้​จิ​่น​เอา​มือ​ไขว้หลัง​ไว้​เอ่ย​พูด​ท่าทาง​เรียบ​เฉย​ ​“​ที่นี่​ไม่เป็นไร​ ​พี่​รอง​นอน​ต่อ​ได้​”

ไท่​จื่อ​ส่ายหน้า​ ​“​แผ่นดินไหว​แล้ว​ ​ใคร​จะ​หลับ​ลง​กัน​!​”

ถ้าหาก​เขา​หลับ​ไป​ ​แล้ว​ทุกคน​หนี​ไป​แล้ว​จะ​ทำ​อย่างไร

ไท่​จื่อ​คิด​อย่างง่ายๆ

“​ท่าน​อ๋อง​ ​เมือง​จิ๋น​หลี​่​ทาง​นั้น​…​”

อวี​้​จิ​่​นม​อง​จ้าว​ซื่อ​หลาง​พร้อมกับ​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ ​“​เอ้อร​์​หนิว​สามารถ​รับรู้​อันตราย​อย่างรุนแรง​ได้​ ​เดา​ว่า​แผ่นดินไหว​ครั้งนี้​น่าจะ​มาจาก​ทาง​นั้น​”

จ้าว​ซื่อ​หลาง​นิ่งเงียบ​ไป​พัก​หนึ่ง

ขนาด​เมือง​อู​จี​ยัง​รู้สึก​ได้​ถึง​แรง​สั่นสะเทือน​ที่​ชัดเจน​เช่นนี้​ ​เกรง​ว่าที่​เมือง​จิ๋น​หลี​่​คง​เป็น​ภัยพิบัติ​ที่​นำไปสู่​หนทาง​แห่ง​ความตาย​แน่

ไท่​จื่อ​มอง​เอ้อร​์​หนิว​ตาลุก​วาว​ ​“​น้อง​เจ็ด​ ​เอ้อร​์​หนิ​วสุด​ยอด​ไป​เลย​”

สุนัข​ที่สามา​รถ​ล่วงรู้​ว่า​จะ​เกิด​แผ่นดินไหว​ได้​ ​หาก​เป็น​ของ​เขา​น่าจะ​ดี​ ​เขา​จะ​ได้​ไม่​กลัว​แผ่นดินไหว​อีก

เมื่อ​ได้รับ​สายตา​อัน​แรงกล้า​จาก​ไท่​จื่อ​ ​เอ้อร​์​หนิ​วก​็​แยกเขี้ยว​ระวังตัว​ออกมา

สายตา​ที่​คน​ผู้​นี้​มอง​มัน​แปลก​มาก​ ​มักจะ​ทำให้​มัน​อยาก​กัด​เขา​สักครั้ง​…

ไท่​จื่อ​เขยิบ​มา​อยู่​ข้าง​อวี​้​จิ​่น

อะ​แฮ่ม​อะ​แฮ่ม​ ​สุนัข​ตัว​นี้​กับ​เขา​ยัง​ไม่สนิ​ทกัน​ ​ประเดี๋ยว​ต้อง​ลอง​ป้อน​เนื้อ​ติด​กระดูก​สัก​สอง​สาม​ครั้ง

“​ไปดู​สถานที่​ที่​จัด​ให้​ชาวบ้าน​ของ​เมือง​จิ๋น​หลี​่​ก่อน​กัน​เถอะ​”

ไท่​จื่อ​กังวล​ขึ้น​มา​ ​“​น้อง​เจ็ด​ ​ที่นั่น​จะ​อันตราย​มาก​หรือไม่​”

อวี​้​จิ​่น​ยิ้ม​ ​“​ไม่​หรอก​ ​ทุ้ง​กว้าง​รกร้าง​ไม่มี​อะไร​ที่​พังทลาย​ลงมา​ได้​”

ไท่​จื่อ​มอง​ท้องฟ้า​ที่​ดำมืด​ ​พร้อมกับ​ส่ายหน้า​ ​“​คืนนี้​ข้า​เป็นหวัด​เล็กน้อย​ ​แถม​ยัง​เวียนหัว​ ​ข้า​ไม่​ไป​กับ​น้อง​เจ็ด​แล้วกัน​”

“​เช่นนั้น​พี่​รอง​นอน​พักผ่อน​เถอะ​”​ ​สำหรับ​ไท่​จื่อ​ ​อวี​้​จิ​่น​ไม่ได้​คาดหวัง​อะไร​อยู่​แล้ว​ ​เวลานี้​เขา​ไม่​ไป​สร้าง​ปัญหา​ก็ดี

ไท่​จื่อ​ชำเลือง​มอง​เอ้อร​์​หนิว​ ​เอ่ย​ถาม​หยั่งเชิง​ ​“​น้อง​เจ็ด​ ​ทิ้ง​เอ้อร​์​หนิว​ไว้​ที่นี่​ได้​หรือไม่​”

“หืม​”​ ​อวี​้​จิ​่น​เลิก​คิ้ว​ขึ้น

ไท่​จื่อ​ยิ้ม​พูด​ขึ้น​ ​“​ถ้าหาก​ที่นี่​มี​อะไร​เกิดขึ้น​ ​จะ​ได้​มี​เอ้อร​์​หนิว​ไป​แจ้ง​ข่าว​ให้​เจ้า​ทราบ​ได้​”​

อวี​้​จิ​่​นคิด​ดูก​็​รู้สึก​มีเหตุผล​ ​จึง​พยักหน้า​รับ

แน่นอน​ว่า​จ้าว​ซื่อ​หลาง​และ​พวก​จะ​ตาม​ไป​กับ​อวี​้​จิ​่น​ด้วย​ ​พริบตาเดียว​ลาน​เรือน​ก็​โล่งโจ้ง

ขุนนาง​ที่​ถูก​ทิ้ง​ไว้​ที่นี่​หาก​ไม่​ถูก​ไท่​จื่อ​เรียก​ก็​ไม่​อาจ​เข้ามา​ได้​ ​จึง​ทำได้​เพียง​รอ​รับสั่ง​อยู่​ไกลๆ​

แน่นอน​ว่า​ไท่​จื่อ​ไม่​คุย​กับ​คน​เหล่านั้น​อยู่​แล้ว​ ​จึง​มอบหมาย​งาน​ให้​กับ​ข้าหลวง​ ​“​ไป​นำ​เนื้อ​ติด​กระดูก​ใน​โรง​ครัว​ออกมา​กะ​ลัง​มัง​หนึ่ง​”

เมื่อ​ได้​เนื้อ​ติด​กระดูก​ ​ไท่​จื่อ​ก็​สบตา​กับ​เอ้อร​์​หนิว​ครู่หนึ่ง​ ​เผย​รอยยิ้ม​ประจบ​ออกมา​ ​“​เอ้อร​์​หนิว​ ​กิน​เนื้อ​หรือไม่​”

เอ้อร​์​หนิว​เมิน​ไท่​จื่อ​ ​แล้ว​หันหลัง​เดิน​ไป

“​นี่​…​”​ ​ไท่​จื่อ​อ้า​ปาก​ต้องการ​จะ​ห้าม​เอ้อร​์​หนิว​ไว้

เอ้อร​์​หนิว​หันขวับ​ ​แยกเขี้ยว​พร้อมกับ​เห่า​ออกมา​ใส่​ไท่​จื่อ​อย่างรวดเร็ว​ ​และ​สะบัด​หาง​เดินหนี​ไป

ในขณะที่​ไท่​จื่อ​หวาดกลัว​ ​แววตา​ก็​ยิ่ง​แรงกล้า

หาก​ได้​เป็น​เจ้านาย​ของ​เอ้อร​์​หนิว​ ​สุนัข​ตัว​นี้​ก็​จะ​ฟัง​แค่​เขา​คนเดียว​ ​และ​ทำ​หน้า​โหด​กับ​คนอื่น

แค่​คิด​ก็​รู้สึก​มีความสุข​แล้ว

ขณะที่​อวี​้​จิ​่​นกำ​ลัง​นำ​คน​มุ่งหน้า​ไป​ยัง​ที่พัก​ของ​ชาวบ้าน​เมือง​จิ๋น​หลี​่​ ​เสียงร้อง​ไห้​ก็​ดังระงม

หลี​่​เจิ​้ง​เดินโซเซ​เข้ามา​ ​แล้ว​คุก​เข้า​ลง​ต่อหน้า​อวี​้​จิ​่น​ ​“​กระหม่อม​มาคา​รวะ​ท่าน​อ๋อง​แล้ว​ ​ท่าน​อ๋อง​ช่าง​มีบุญ​คุณ​ยิ่งนัก​ ​เมือง​จิ๋น​หลี​่​จะ​มิมี​วัน​ลืม​…​”

อวี​้​จิ​่​นพ​ยุง​หลี​่​เจิ​้ง​ขึ้น​มา​ ​“​ที่นี่​เป็น​อย่างไรบ้าง​ ​มี​คน​บาดเจ็บ​หรือไม่​”

ถึงแม้​ที่นี่​จะ​กว้างขวาง​ ​แต่ว่า​อยู่​ใกล้​กับ​เมือง​จิ๋น​หลี​่​มากกว่า​ ​ช่วง​ที่​ชุลมุน​วุ่นวาย​อาจมี​คน​หกล้ม​หรือ​เหยียบ​กัน

“​ทุกคน​ปลอดภัย​ดี​ ​ทุกคน​ปลอดภัย​ดี​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​หลี​่​เจิ​้ง​พูด​ไป​พลาง​ร้องไห้​ไป​ ​“​หลังจาก​แผ่นดินไหว​สงบ​ลง​ ​กระหม่อม​ก็​ก็​ส่ง​คนที​่​เดินทาง​ว่องไว​กลับ​ไปดู​ที่​ใน​เมือง​ ​ทว่า​ทั่วทั้ง​เมือง​กลายเป็น​ซากปรักหักพัง​เสีย​แล้ว​…​”