ตอนที่ 517 เดินไปทีละก้าวอย่างยากลำบาก

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 517 เดินไปทีละก้าวอย่างยากลำบาก

เหลียงอ๋องเดาว่าเรื่องจดหมายอาจเป็นฝีมือของอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนที่ทำไปเพื่อให้ราชสำนักต้าจิ้นเกิดความวุ่นวาย

ให้เขาใช้จดหมายฉบับนี้ดึงหลี่เม่ามาเป็นพวกจะได้มีอำนาจต่อกรกับองค์รัชทายาทได้

ทว่า อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนคงไม่รู้ว่าอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายหลี่เม่าเป็นคนขององค์ชายรองอยู่แล้ว แม้ตอนนี้จะไม่เปิดเผยตัว ทว่า หลี่เม่าคือคนของเขา

แม้จะเป็นเช่นนี้ ทว่า เหลียงอ๋องก็รู้สึกขอบคุณอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนจากใจจริง

เหลียงอ๋องนั่งอ่านจดหมายซ้ำไปมาอยู่ข้างหน้าต่าง เขาอดนึกถึงคำกล่าวที่เสด็จพี่รองกล่าวกับตู้จือเวยไม่ได้ เขากล่าวว่าหลี่เม่าเป็นคนปากหวากก้นเปรี้ยวและเจ้าเล่ห์มาก หากต้องการใช้คนผู้นี้…ไม่เพียงแค่ตบรางวัลให้เขา ทว่า ต้องกุมความลับที่ยิ่งใหญ่ของเขาไว้ด้วย

เมื่อก่อนเหลียงอ๋องไม่รู้ว่าเสด็จพี่รองกุมความลับใดของหลี่เม่าเอาไว้ ตอนนี้ดูเหมือนว่าความลับนั้นคงจะเป็น…จดหมายที่เขียนด้วยลายมือของหลี่เม่ากระมัง

เขาเชื่อว่าจดหมายที่หลี่เม่าเขียนถึงเสด็จพี่รองไม่ได้มีเพียงเท่านี้ ต้องมีที่ร้ายแรงกว่านี้แน่ ทว่า จดหมายเหล่านั้นอยู่ที่ใดกันนะ

เหลียงอ๋องนึกถึงตู้จือเวยขึ้นมา หากตู้จือเวยยังอยู่ก็คงดี เขาคงไม่ต้องเดินไปทีละก้าวอย่างยากลำบากเช่นนี้

เหลียงอ๋องมองดูเปลวไฟที่สะบัดไปมาในตะเกียงใส ก้มหน้ามองจดหมายในมือของตน นิ้วสัมผัสไปยังจดหมายเบาๆ จากนั้นตะโกนเสียงดัง “หงเชี่ยว!”

หงเชี่ยวรับคำพลางเดินเข้ามาด้านใน ทำความเคารพเหลียงอ๋องผ่านฉากกั้น “องค์ชาย!”

“เจ้าเข้ามานี่!” เมื่อเหลียงอ๋องตัดสินใจได้แล้ว เขามองไปยังหงเชี่ยวที่เดินผ่านฉากกั้นเข้ามาทำความเคารพเขาด้านใน กล่าวขึ้น “หงเชี่ยว บัดนี้คนที่ข้าไว้ใจได้ก็มีเพียงเจ้าเท่านั้น”

หงเชี่ยวได้ยินจึงเงยหน้าขึ้นทันที ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ รีบคุกเข่าลงบนพื้น กล่าวกับเหลียงอ๋อง “หากองค์ชายทรงมีรับสั่ง ต่อให้หงเชี่ยวต้องตาย หงเชี่ยวก็จะทำให้สำเร็จเพคะ!”

“ข้าแค่คิดถึงตู้จือเวยและถงจี๋เท่านั้น หงเชี่ยว ข้าไม่มีพวกเขาแล้ว ข้าจะเสียเจ้าไปอีกคนไม่ได้เด็ดขาด!” เหลียงอ๋องกล่าวขึ้น

หงเชี่ยวก้มศีรษะแนบพื้น ลำคอตีบตัน กล่าวสิ่งใดไม่ออกแม้แต่คำเดียว

เหลียงอ๋องยื่นจดหมายให้หงเชี่ยว “ข้าจะคัดลอกลายมือ เจ้าสามารถทำให้จดหมายกลายเป็นจดหมายเก่าเท่ากับจดหมายฉบับนี้ได้หรือไม่”

หงเชี่ยวลูบไปที่กระดาษ ก้มหน้าดมกลิ่นของหมึก จากนั้นพยักหน้า “ไม่กล้ารับรองว่าจะเหมือนถึงสิบส่วน ทว่า เหมือนแปดส่วนแน่เพคะ”

“แปดส่วนก็พอแล้ว! เจ้าไปหากระดาษที่เหมือนกันมา เราจะเขียน ส่วนเจ้าทำให้มันเก่า” เหลียงอ๋องถามต่อ “ใช้เวลานานเท่าใด”

หงเชี่ยวก้มมองกระดาษในมืออย่างครุ่นคิด จากนั้นกล่าวขึ้น “อย่างน้อยสามชั่วยามเพคะ”

“ได้! ไปเถิด!”

หลี่เม่านอนไม่หลับทั้งคืน เขาเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นเครื่องแบบขุนนาง นำจดหมายที่พ่อบ้านนำมาให้เขาเมื่อวานไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้ในวังตั้งแต่เช้าตรู่ เขามอบจดหมายต่อหน้าพระพักตร์อย่างกล้าๆ กลัวๆ

“ฝ่าบาททรงทราบดีว่าตอนนั้นกระหม่อมรู้สึกว่าองค์ชายรองทรงมีพิรุธ ทว่า ไม่มีหลักฐาน กระหม่อมจึงแสร้งแฝงตัวเข้าไปในจวนองค์ชายรองเพื่อสืบความจริงแทนฝ่าบาท ผู้ใดจะคิดว่าเมื่อรู้ความจริงกลับสายเกินไปแล้ว ทว่า ยังโชคดีที่กระหม่อมช่วยเหลือฝ่าบาทไว้ได้ทัน แต่กระหม่อมไม่ทราบจริงๆ ว่าจดหมายตกไปอยู่ในมือของผู้ใด คนผู้นั้นถึงได้กล้าคัดลอกจดหมายแล้วแพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงเช่นนี้ ช่างน่าหวาดกลัวจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ” หลี่เม่าคุกเข่าคำนับแนบพื้น

ฮ่องเต้เงยหน้ามองหลี่เม่า สายตาหยุดอยู่ที่จดหมายฉบับนั้นนิ่ง ในจดหมายมีเพียงคำสรรเสริญองค์ชายรองของหลี่เม่า กล่าวว่าหากองค์ชายได้ขึ้นครองราชย์ต้องโดดเด่นกว่าโอรสองค์อื่นๆ กระทั่งฉลาดกว่าฮ่องเต้อย่างเขา ไม่มีเนื้อหาร้ายแรงอื่นใด

ปกติหลี่เม่ามักกล่าวสรรเสริญเยินยอฮ่องเต้เป็นประจำอยู่แล้ว จดหมายนี้เป็นจดหมายของหลี่เม่าแน่ๆ ที่สำคัญหลี่เม่ายังสารภาพออกมาด้วยตัวเองอีกด้วย

หากตอนนั้นหลี่เม่าทำลงไปเพราะต้องการความไว้วางใจจากองค์ชายรอง มันก็ดูสมเหตุสมผลดี

“องค์ชายรองฉลาดกว่าเราอย่างนั้นหรือ” น้ำเสียงของฮ่องเต้นิ่งขรึม

หลี่เม่ารีบก้มศีรษะแนบพื้น “ฝ่าบาท! กระหม่อมกล่าวเหลวไหลเพราะต้องการได้รับความไว้วางใจจากองค์ชายรองเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทเป็นจักรพรรดิที่ปรีชาชาญ แม้องค์ชายรองจะเป็นโอรสของพระองค์ ทว่า เขามีใจกบฏและอกตัญญู จะเทียบกับฝ่าบาทได้เช่นไรพ่ะย่ะค่ะ!”

ฮ่องเต้ลูบจดหมายอย่างใช้ความคิด จ้องไปที่หลี่เม่านิ่ง ตอนนั้นหลี่เม่ากล่าวสรรเสริญองค์ชายรองเพื่อให้ได้ความเชื่อใจ บัดนี้หลี่เม่าก็อาจกล่าวสรรเสริญฮ่องเต้อย่างเขาเพื่อให้ได้ความเชื่อใจจากเขาเช่นกัน

ฮ่องเต้หรี่ตามองไปยังหลี่เม่าที่ยังคงคุกเข่าอยู่กลางท้องพระโรง เขากำลังสงสัยว่าตอนนั้นหลี่เม่าอาจรอให้องค์ชายรองก่อกบฏจนสำเร็จแล้วตนจะได้เป็นขุนนางที่มีความดีความชอบ ทว่า หากองค์ชายรองล้มเหลวขึ้นมา หลี่เม่าจะได้เปลี่ยนแผนมาคุ้มครองเขาแทน เช่นนี้ไม่ว่าอย่างไรเขาก็กลายเป็นผู้ชนะอยู่ดี

ต่อมา เมื่อหลี่เม่าเห็นว่าองค์ชายรองกำลังจะล้มเหลว หลี่เม่าจึงหันมาคุ้มกันฮ่องเต้อย่างเขาแทน!

ทว่า หลายปีมานี้หลี่เม่าจงรักภักดีต่อเขาจริงๆ ฮ่องเต้จึงสลัดความคิดนี้ทิ้งไป

ทว่า เมื่อเห็นจดหมายฉบับนี้ เขานึกถึงตอนที่หลี่เม่าอ้างว่าสงสัยว่าองค์ชายรองกำลังคิดกบฏจึงแสร้งตีสนิทกับองค์ชายรองเพื่อสืบการกระทำของเขา ทว่า ในระหว่างสืบ หลี่เม่าปิดบังไว้อย่างมิดชิด ไม่ยอมแพร่งพรายให้ฮ่องเต้อย่างเขารู้สักนิด

หากหลี่เม่าบอกให้เขารู้สักนิด เขาจะได้ป้องกันตัว ไม่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่เกือบจะถูกตัดศีรษะเช่นนั้น

แววตาของฮ่องเต้นิ่งขรึมลงกว่าเดิม ทว่า เขาซ่อนมันเอาไว้ “เรารู้แล้ว เจ้ากลับไปก่อนเถิด!”

“พ่ะย่ะค่ะ!” หลี่เม่าไม่กล้าเงยหน้าขึ้น เดินออกไปจากตำหนักอย่างนอบน้อม รู้สึกเย็นวาบไปทั้งร่าง

เขารู้ดีว่าการมาสารภาพกับฮ่องเต้ในวันนี้อาจทำให้ฮ่องเต้ซึ่งมีนิสัยขี้หวาดระแวงผู้นี้หวาดระแวงในตัวเขาได้ ทว่า หากเขาไม่มาสารภาพ ฮ่องเต้ต้องหวาดระแวงเขามากกว่าเดิม

เขาสารภาพกับฮ่องเต้เรียบร้อยแล้ว ทว่า ฮ่องเต้ไม่ได้สั่งว่าเขาควรจัดการเรื่องนี้เช่นไร หากตอนว่าราชการตอนเช้ามีคนถวายฎีกาเรื่องนี้ เขาควรยอมรับหรือไม่

หลี่เม่ายังหาคำตอบไม่ได้ จู่ๆ ฮ่องเต้ก็ปวดศีรษะขึ้นมาอีกครั้ง เกาเต๋อเม่ารีบส่งคนไปตามแม่นางหลูเข้ามาในวัง ฮ่องเต้ไม่ได้ออกว่าราชการตอนเช้า หลี่เม่าจึงคลายกังวล ทว่า ผู้ตรวจการสูงสุดถวายฎีกาเรื่องนี้ให้ฮ่องเต้

หลี่หมิงรุ่ยนั่งรถม้าคันเดียวกับหลี่เม่าผู้เป็นบิดากลับจวน ระหว่างทางเขากล่าวกับหลี่เม่าเสียงเบา “ท่านพ่อ ระหว่างที่ข้าเดินทางมาวังหลวงเมื่อเช้านี้ สาวใช้ข้างกายของเหลียงอ๋องหงเชี่ยวมาบอกข้าว่าให้ข้าบอกให้ท่านพ่อไม่ต้องกังวล เหลียงอ๋องหาจดหมายเหล่านั้นเจอหมดแล้วขอรับ”

ใจของหลี่เม่ากระตุกวูบ “เหลียงอ๋องหาเจอทั้งหมดอย่างนั้นหรือ”

จดหมายเหล่านั้นอยู่ที่องค์หญิงเจิ้นกั๋วไม่ใช่หรือ เหตุใดเหลียงอ๋องจึงหามันพบ!

หลี่เม่าขมวดคิ้วแน่น รู้สึกปวดศีรษะหนักกว่าเดิม เหตุใดทุกคนล้วนบอกว่ามีจดหมายของเขาอยู่ในมือกัน!

เขาไม่เคยเห็นองค์หญิงเจิ้นกั๋วหยิบจดหมายเหล่านั้นออกมาให้เขาเห็นกับตาของตัวเอง

ทว่า เหลียงอ๋องคือน้องชายคนสนิทที่สุดขององค์ชายรอง หากจดหมายอยู่ที่เขา…ย่อมมีความเป็นไปได้มากกว่า

“เป็นเรื่องจริงหรือไม่”

“ยังไม่ได้ตรวจสอบขอรับ เดี๋ยวข้าจะเดินทางไปตรวจสอบที่จวนเหลียงอ๋องด้วยตัวเอง หากเหลียงอ๋องมีจดหมายทั้งหมดอยู่ในมือจริงๆ ข้าจะหาทางทำลายมันให้ได้ ไม่ให้ท่านพ่อต้องเป็นกังวลอีกขอรับ!”

แม้หลี่เม่าจะไม่อยากเชื่อว่าเหลียงอ๋องจะขโมยจดหมายทั้งหมดมาจากองค์หญิงเจิ้นกั๋วได้ ทว่า เรื่องใดก็เกิดขึ้นได้ทั้งสิ้น ให้หลี่หมิงรุ่ยไปตรวจสอบให้แน่ชัด เขาจะได้สบายใจ