บทที่ 423-2 โต้ตอบ (2)

สามีข้าคือขุนนางใหญ่

บทที่ 423 โต้ตอบ (2)

กู้เจียวคาดไว้ไม่ผิด หลังจากหนิงอ๋องพบว่าหยวนถังจัดการได้ยาก จึงไม่ได้เคลื่อนไหวขั้นต่อไปกับหยวนถังอีก

เรื่องนี้แม้จะยังไม่ใหญ่โต แต่จะปิดปากรุ่ยอ๋องเฟยก็ไม่ใช่ง่ายๆ หนิงอ๋องมีทางเลือกที่ค่อนข้างดีสองทาง หนึ่งคือเล่นละครสักฉาก ให้รุ่ยอ๋องเฟยเจอ ‘บุรุษหลังภูเขาจำลองที่แท้จริง’ บุรุษคนนี้ก็ปล่อยให้หนิงอ๋องเลือกมาเต็มที่เพื่อเป็นแพะรับบาป

เพียงแต่มันต้องใช้ความร่วมมือจากไท่จื่อเฟยด้วย จากความสัมพันธ์ระหว่างไท่จื่อเฟยกับหนิงอ๋องที่วันนี้กู้เจียวสังเกตดู เหมือนว่าไท่จื่อเฟยจะไม่ยินยอมเท่าใดนัก

อีกอย่างต่อให้มีแพะรับบาปคนใหม่ แล้วต่อจากนั้นเล่า จะผลักไท่จื่อเฟยกับแพะรับบาปคนนั้นออกมารึ หนิงอ๋องหักใจทำให้ชื่อเสียงไท่จื่อเฟยป่นปี้ได้รึ

ทางเลือกที่สองก็คือฆ่ารุ่ยอ๋องเฟยทิ้ง

รุ่ยอ๋องเฟยเป็นสักขีพยาน อันที่จริงกู้เจียวก็เป็นด้วย เพียงแต่กู้เจียวไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ ไม่เหมือนรุ่ยอ๋องเฟยที่มีความขัดแย้งกับไท่จื่อเฟย นางไม่มีทางปล่อยโอกาสที่จะทำลายชื่อเสียงไท่จื่อเฟยให้ย่อยยับไปง่ายๆ หรอก

“แม่นางกู้ พวกเรากลับโรงหมอหรือไม่” เสี่ยวซานจื่อบนรถม้าถามขึ้น

“ไปจวนหนิงอ๋อง” กู้เจียวบอก

“ขอรับ!”

เสี่ยวซานจื่อขับรถม้าไปยังจวนหนิงอ๋อง

หนิงอ๋องเฟยพบกู้เจียวที่เรือนตัวเอง นางให้คนยกชามาให้ “วันนี้หมอกู้มาเพื่อตรวจอาการข้าซ้ำหรือ ข้าจำได้ว่าอีกสามวันจึงจะตรวจซ้ำนี่นา”

ความนัยก็คือมองออกว่าถ้ากู้เจียวไม่มีเรื่องคงไม่มาหา

กู้เจียวกลับไม่ได้อ้อมค้อม นางเอ่ยเข้าประเด็นทันที “อ๋องเฟย ข้าเชื่อใจท่านได้หรือไม่”

มือที่ถือถ้วยชาของหนิงอ๋องเฟยพลันชะงัก

หนิงอ๋องกับไท่จื่อวุ่นอยู่ในศาลาองคมนตรีจนค่ำมืด เมื่อกลับมาที่จวนก็ดึกดื่นแล้ว

หนิงอ๋องเฟยนั่งดื่มชาอยู่ในศาลารับลม

หนิงอ๋องนวดหว่างคิ้วเดินไปหา มีคนรับใช้เลิกม่านให้เขา เขาจึงพบว่ารุ่ยอ๋องเฟยก็อยู่ด้วย

เขาชะงักไปเล็กน้อย เพียงครู่เดียวสีหน้าก็กลับมาปกติ ก่อนยิ้มเอ่ยอย่างนุ่มนวล “ซู่ซิน ข้ากลับมาแล้ว ภรรยาน้องสามก็อยู่ด้วยหรือนี่”

“พี่ใหญ่!” รุ่ยอ๋องเฟยได้ยินเสียงเขาจึงหันมามอง นางลุกขึ้นยิ้มแย้มค้อมกายคำนับให้ “พี่สะใภ้ใหญ่บอกว่านางอุดอู้นัก ข้าจึงย้ายมาพักด้วยสองสามวัน จะได้เป็นเพื่อนพี่สะใภ้ใหญ่ พี่ใหญ่คงไม่ว่ากระมัง”

“จะว่าได้อย่างไร มีเจ้าอยู่เป็นเพื่อนซู่ซินข้าดีใจด้วยซ้ำ” หนิงอ๋องอมยิ้มเอ่ยพลางเดินมาอีกด้านของหนิงอ๋องเฟย แล้วนั่งลงติดกับนางพลางเอ่ย “ขอโทษด้วย วันนี้งานที่เน่ยเก๋อเยอะแยะมากมาย จึงไม่ได้กลับมาดูละครเป็นเพื่อนเจ้า”

หนิงอ๋องเฟยเทชาดอกไม้ให้เขาถ้วยหนึ่ง “ไม่เป็นไรเพคะ ภรรยาน้องสามดูเป็นเพื่อนข้าแล้ว”

หนิงอ๋องยิ้มมองทั้งคู่ “ดูฉากไหนกันรึ สนุกหรือไม่”

รุ่ยอ๋องเฟยพยักหน้าหงึกหงักเหมือนตำกระเทียม “ฉากศาลาไหว้พระจันทร์เพคะ ยอดเยี่ยมยิ่งนัก ข้าดูจนร้องไห้แหน่ะ!”

หนิงอ๋องหัวเราะ มองหนิงอ๋องเฟยอย่างรักใคร่ “แล้วซู่ซินร้องหรือไม่”

หนิงอ๋องเฟยถามกลับ “ฝ่าบาทอยากให้ข้าร้องหรือไม่”

หนิงอ๋องชะงักไปอีกหน จากนั้นก็กุมมือนางไว้ข้างหนึ่งพลางถาม “จะอยากได้อย่างไรเล่า ข้าเคยสัญญากับซู่ซินแล้วว่าชาตินี้จะไม่ให้เจ้าเสียน้ำตา”

หนิงอ๋องเฟยชักมือออกจากฝ่ามือเขา แล้วดันชาดอกไม้ไปตรงหน้าเขา “ฝ่าบาทดื่มชาเถิดเพคะ”

“ได้สิ”

ทั้งสามคนนั่งอยู่ในศาลาพักหนึ่ง หนิงอ๋องก็เอ่ยขึ้น “ดึกมากแล้ว ข้าส่งพวกเจ้ากลับไปพักผ่อนดีกว่า”

ทั้งสามเดินออกจากศาลา ทว่าชั่วขณะที่ลงบันไดนั้น จู่ๆ รุ่ยอ๋องเฟยก็หวีดร้องขึ้นมา พร้อมกับร่างที่ล้มไปด้านหน้า

ระหว่างนางกับหนิงอ๋องมีหนิงอ๋องเฟยคั่นกลาง จึงยื่นมือไปช่วยไม่ทัน เห็นหนิงอ๋องเฟยคว้าตัวรุ่ยอ๋องเฟยเอาไว้ ดึงตัวนางให้ถอยมาด้านหลัง ทำให้ร่างนางยืนมั่น

ส่วนหนิงอ๋องเฟยเสียหลักเสียเอง จึงกลิ้งลงมาจากบันได

“ซู่ซิน!”

“พี่สะใภ้ใหญ่!”

หนิงอ๋องเฟยล้มกระแทกรุนแรง แขนซ้ายนางเคลื่อนเลยทีเดียว

หลังจากหมอต่อคืนให้นางและพันผ้าพันแผลให้นางแล้ว ก็ให้นางนอนพักผ่อน

รุ่ยอ๋องเฟยเสียใจจนน้ำตาตก “ขะ…ข้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ๆ ขาก็ลื่น…”

หนิงอ๋องเฟยบอกให้รุ่ยอ๋องเฟยไม่ต้องคิดมาก กลับห้องไปพักผ่อนได้แล้ว

หนิงอ๋องรั้งอยู่ป้อนยาให้หนิงอ๋องเฟย

หนิงอ๋องเฟยไม่ยอมดื่มยา แต่จ้องเขาเขม็ง “ฝ่าบาท ท่านว่าเหตุใดภรรยาน้องสามจึงลื่นได้เพคะ เหยียบอะไรเข้าหรือไม่”

หนิงอ๋องชะงักไปเล็กน้อย

หนิงอ๋องเฟยเอ่ยต่อ “ข้าให้คนมาทำความสะอาดศาลาเสียเอี่ยมอ่อมแท้ๆ ใครเป็นคนมาวางสิ่งที่ไม่ควรวางกันนะ”

แววตานางทำให้หนิงอ๋องต้องขมวดคิ้ว “ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร”

เอ่ยจบก็นึกได้ว่าน้ำเสียงตัวเองไม่ดีพอ จึงสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่งก่อนจะเอ่ย “หากซู่ซินอยากรู้ ข้าจะให้คนตรวจสอบให้”

หนิงอ๋องเฟยเบ้ปาก “ทางที่ดีท่านอ๋องต้องหาให้เจอนะเพคะ”

หนิงอ๋องย่อมหาเจออยู่แล้ว เรื่องพรรค์นี้มันจะไปยากอะไรสำหรับเขา

ทว่าผลลัพธ์ที่เขาตรวจสอบได้แทบจะทำให้สีหน้าเขาพังทลายเดี๋ยวนั้นเลย!

“อะ…อ๋องเฟยเป็นคนให้พวกบ่าว…ทะ…ทาน้ำมันหมูบนบันไดพ่ะย่ะค่ะ” บ่าวรับใช้ตัวสั่นงันงก พูดจากติดๆ ขัดๆ

สวรรค์คงรู้ดีว่าเหตุใดหนิงอ๋องเฟยผู้อ่อนโยนและมีคุณธรรมมาโดยตลอด จู่ๆ ก็เลิกเป็นมนุษย์และต้องการทาน้ำมันหมูเพื่อทำร้ายรุ่ยอ๋องเฟย!

แต่ดันทำร้ายรุ่ยอ๋องเฟยไม่สำเร็จ ตัวเองเลยมาล้มเองเสียนี่…

หนิงอ๋องกำหมัดแน่นจนเสียงดัง “ไสหัวออกไป! ไปรับโบยกันเอง!”

“พะ…พะย่ะค่ะ!” บ่าวรับใช้ล้มลุกคลุกคลานออกไป กลัวว่าหากช้าอีกนิดท่านอ๋องผู้นี้คงได้เปลี่ยนใจตัดหัวเขาแทน

แม้หนิงอ๋องเฟยจะได้รับบาดเจ็บ แต่การนอนหลับไม่ได้รับผลกระทบเลย

นางหลับแล้วตื่นอีกทีฟ้าสว่างจ้า รุ่ยอ๋องเฟยตื่นมาได้สักพักแล้ว

นางไปห้องของหนิงอ๋องเฟย

หนิงอ๋องก็มาหา เขามีอะไรจะคุยกับหนิงอ๋องเฟย แต่รุ่ยอ๋องเฟยอยู่ด้วยเขาจึงไม่สะดวกพูด

เขามองหนิงอ๋องเฟยอย่างลุ่มลึก ก่อนจะไปจัดการราชกิจที่ศาลาองคมนตรี

ทว่าสิ่งที่เขาไม่คาดคิดมาก่อนเลยก็คือเขาหย่อนก้นนั่งที่ศาลาองคมนตรียังไม่ทันร้อน ผู้ดูแลที่จวนก็มารายงานว่าหนิงอ๋องเฟยโดนวางยาพิษ!

หนิงอ๋องจุกอยู่ในลำคอ แทบจะจุกคอตาย!

“ฝ่าบาท ยามนี้…” มหาบัณฑิตของศาลาองคมนตรีเดินมาหา กำลังจะหารือกับหนิงอ๋องก็เห็นหนิงอ๋องลุกพรวดขึ้น แล้วรีบร้อนออกไปโดยไม่มองเขาสักนิด

มหาบัณฑิตศาลาองคมนตรี “…”

เมื่อหนิงอ๋องเข้าห้องมา หนิงอ๋องเฟยก็กำลังนั่งดื่มยาอยู่ตรงหัวเตียง ใบสีหน้าซีดขาว ทว่าท่าทางกลับไม่แยแส

หนิงอ๋องกำหมัดด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “พวกเจ้าออกไปให้หมด”

“พ่ะย่ะค่ะ!” คนรับใช้รีบออกไป

หนิงอ๋องหลับตาลง สูดหายใจลึกหลายเฮือก ก่อนเดินมานั่งข้างเตียง แล้วมองนางอย่างอ่อนโยน “เอามาให้ข้า”

หนิงอ๋องเฟยส่งถ้วยยาให้เขา

หนิงอ๋องลองชิมดูจิบหนึ่ง ไม่เย็นและไม่ร้อน จึงได้ตักขึ้นช้อนหนึ่งมาป้อนนาง

“เป็นอูโถวน่ะ” หนิงอ๋องเฟยดื่มยาก่อนเอ่ยขึ้น

การตักยาครั้งที่สองของหนิงอ๋องจึงชะงักไป

หนิงอ๋องเฟยแย้มยิ้มเอ่ย “เดิมทีทำลูกพลัมเปรี้ยวให้ภรรยาน้องสาม ข้าสนใจใคร่รู้จึงลองชิมไปลูกหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าจะโดนพิษเข้า ฝ่าบาทว่าใครเป็นคนวางยากัน”