ตอนที่ 534 เกลียดชัง

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 534 เกลียดชัง

โชคดีที่ไป๋ชิงเหยียนพักอยู่ที่เรือนเดียวกับต่งเหล่าไท่จวิน ชุนเถาจึงใช้เวลาไปตามไม่นาน

ชุนเถาไม่ชอบชิวหวนมากจริงๆ นางรู้สึกดีใจที่นางขอตามคุณหนูใหญ่มาที่เติงโจวด้วย มิเช่นนั้นไม่รู้ว่าอสรพิษตัวใดจะมารับใช้อยู่ข้างกายคุณหนูใหญ่ของนาง

“องค์หญิง!” ชิวหวนเห็นชุนเถาเดินจากไปก็รีบคุกเข่าคำนับแนบพื้น “ไม่ใช่บ่าวจริงๆ เพคะ บ่าวแค่อยากรับใช้ข้างกายขององค์หญิงเท่านั้น พี่ชุนเถากลัวว่าบ่าวจะมาแย่งความโปรดปรานกับนางจึงจงใจหาเรื่องบ่าวเช่นนี้ บ่าว…บ่าว…”

ยิ่งชิวหวนเห็นสายตาเยือกเย็นของไป๋ชิงเหยียน น้ำเสียงก็ยิ่งแผ่วลง ได้แต่ก้มหน้างุด คุกเข่าอยู่บนพื้นอย่างสั่นเทา

หวังหมัวมัวได้ยินว่าไป๋ชิงเหยียนต้องการพบนาง อีกทั้งเห็นสีหน้าที่ไม่สู้ดีของชุนเถา ใจของนางกระตุกวูบ เดาว่าหลานสาวของนางอาจก่อปัญหาใดขึ้น

หวังหมัวมัวรีบละมือจากงานที่ทำแล้วมุ่งหน้าไปที่ห้องของไป๋ชิงเหยียนทันที เมื่อแหวกม่านเดินเข้าไปด้านใน มองผ่านฉากกั้นไม้มู่หนานลายนกกางเขนเข้าไปก็เห็นชิวหวนคุกเข่าอยู่บนพื้น

ใจของหวังหมัวมัวกระตุกวูบ รีบแหวกม่านลูกปัด เดินอ้อมฉากกั้นเข้าไปด้านใน

ได้ยินเสียงผ้าม่านสั่น ร่างของชิวหวนสั่นสะท้าน เมื่อเห็นหวังหมัวมัวเดินเข้ามา ชิวหวนรีบส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปยังหวังหมัวมัว

หวังหมัวมัวถลึงตาใส่ชิวหวนเขม็ง จากนั้นทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน “คุณหนูเปี่ยว!”

“หวังหมัวมัวพาสาวใช้ผู้นี้กลับไปเถิด!” ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้บอกเหตุผล เพียงแค่เอ่ยขึ้นนิ่งๆ

“เจ้าค่ะ!” หวังหมัวมัวไม่กล้าถามสิ่งใดมากไปกว่านั้น กล่าวเพียง “พรุ่งนี้บ่าวจะพาสาวใช้ที่ฉลาดคล่องแคล่วมาให้คุณหนูเปี่ยวเลือกใหม่เจ้าค่ะ!”

“เรื่องฉลาดไม่สำคัญ ข้าชอบคนที่รู้จักหน้าที่ของตัวเอง ไม่เจ้าเล่ห์ กล่าววาจาใส่ร้ายผู้อื่น!” ไป๋ชิงเหยียนหยิบตำราไม้ไผ่ขึ้นมาเปิดอ่านต่อ “ครั้งนี้ข้าเห็นแก่หน้าของหมัวมัวจึงไม่เอาความนาง หวังหมัวมัวอย่าให้นางไปรับใช้ข้างกายท่านยายเด็ดขาด ท่านยายอายุมากแล้ว อย่าให้ท่านต้องปวดหัวกับเรื่องเหล่านี้”

หวังหมัวมัวรู้ทันทีว่าไป๋ชิงเหยียนรู้ความสัมพันธ์ของนางกับชิวหวนแล้ว นางรีบก้มศีรษะคำนับไป๋ชิงเหยียน “ขอบพระคุณคุณหนูเปี่ยวเจ้าค่ะ คุณหนูเปี่ยวไม่ต้องห่วงนะเจ้าคะ บ่าวจะไม่ให้นางไปรับใช้เหล่าไท่จวินเด็ดขาดเจ้าค่ะ ครั้งนี้บ่าวพลาดเองจึงปล่อยให้นางหลุดไปรับใช้คุณหนูเปี่ยวได้ คุณหนูเปี่ยวเมตตาไม่เอาผิดนาง ทว่า บ่าวไม่ปล่อยนางไว้แน่เจ้าค่ะ! บ่าวขอโทษแทนนางด้วยนะเจ้าคะ!”

“หมัวมัวรีบลุกขึ้นเถิด!” ไป๋ชิงเหยียนเอื้อมมือไปประคองให้หวังหมัวมัวลุกขึ้น “หมัวมัวดูแลรับใช้ข้างกายท่านยายมานาน เป็นเสมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งของข้า หมัวมัวไม่จำเป็นต้องคาราวะข้าเช่นนี้ ข้ารู้สึกนิสัยของหมัวมัวดี ข้าไม่ได้ต้องการตำหนิท่าน หมัวมัวพานางกลับไปอบรมสั่งสอนให้ดีเถิด อย่างไรก็เป็นลูกหลาน ไม่ใช้สาวใช้ที่ซื้อมาจากด้านนอก หากนางทำผิด ผู้อื่นจะโทษมาถึงหมัวมัวได้”

ไป๋ชิงเหยียนกล่าวเพื่อหวังหมัวมัว หมัวมัวอยู่เรือนหลังมานานย่อมรู้เรื่องราวพวกนี้ดี ที่ชิวหวนได้มาอยู่รับใช้ข้างกายไป๋ชิงเหยียนในคราวนี้ก็เพราะนางอวดอ้างบารมีของหวังหมัวมัวไม่ใช่หรือ

หวังหมัวมัวพาชิวหวนจากไป สั่งให้คนลงโทษโบยนางอย่างไม่ออมมือ จากนั้นส่งตัวกลับไปสำนึกผิดที่ห้อง

คราวนี้ชิวหวนรู้สึกเกลียดชังชุนเถาเป็นอย่างมาก คิดว่าชุนเถาต้องกล่าวให้ร้ายนางต่อหน้าองค์หญิงเจิ้นกั๋วแน่ มิเช่นนั้นเหตุใดองค์หญิงเจิ้นกั๋วถึงได้ไล่นางออกมาเช่นนี้

ทว่า ชิวหวนไม่รู้ว่าชุนเถาไม่ได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหน้าเรือนหนังสือของต่งชิงเยว่ให้ไป๋ชิงเหยียนฟังแม้แต่น้อย ชิวหวนไม่อายที่จะทำเรื่องเช่นนี้ ทว่า ชุนเถาไม่อยากนำเรื่องไร้สาระเหล่านี้ไปกวนใจไป๋ชิงเหยียน

เช้าวันต่อมา ฟ้ายังไม่สว่าง หวังหมัวมัวพาสาวใช้คนใหม่ที่รู้ขอบเขตและสงบเสงี่ยมไปรับใช้ไป๋ชิงเหยียน

สาวใช้คนใหม่สงบเสงี่ยมมาก เอาแต่เดินตามหลังชุนเถาอย่างหวาดกลัว ชุนเถาให้นางทำสิ่งใดนางก็ทำ อีกทั้งทำได้ดีมากด้วย หวังหมัวมัวเลือกคนเก่งยิ่งนัก

ชุยซื่อไปคาราวะยามเช้าต่งเหล่าไท่จวินที่เรือน จากนั้นกลับมารับประทานอาหารเช้าที่เรือน นางรับน้ำดอกกุหลาบมากลั้วคอ ใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดปาก หมัวมัวข้างกายรายงานให้ชุยซื่อฟังว่าเมื่อคืนไป๋ชิงเหยียนเปลี่ยนตัวหลานสาวของหวังหมัวมัว วันนี้หวังหมัวมัวเลือกสาวใช้คนใหม่ไปให้ไป๋ชิงเหยียนด้วยตัวเอง

ชุยซื่อใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดริมฝีปาก “เปลี่ยนคนหรือ”

“ได้ยินว่าชิวหวนโดนโบยด้วยเจ้าค่ะ”

ชุยซื่อตกตะลึง “ชิวหวนรับใช้ไม่ดีอย่างนั้นหรือ”

ชุยซื่อเป็นคนจัดคนไปรับใช้ไป๋ชิงเหยียน นางจึงอดเป็นห่วงไม่ได้

“ไม่ทราบเจ้าค่ะ ชุนเถาสาวใช้ข้างกายขององค์หญิงเจิ้นกั๋วปิดปากเงียบ ที่สำคัญเรื่องเกิดในเรือนของเหล่าไท่จวิน ไม่อาจสืบได้ง่ายๆ เจ้าค่ะ ทว่า ถึงหลานสาวของหวังหมัวมัวก่อเรื่องอันใดขึ้นก็ไม่ใช่ความผิดของฮูหยินอยู่ดีเจ้าค่ะ” หมัวมัวข้างกายของชุยซื่อกล่าว

“หมัวมัวกล่าวอันใดเช่นนี้!” ชุยซื่อส่งผ้าเช็ดหน้าให้สาวใช้ ลุกขึ้นยืนอย่างไม่พอใจ “ข้ารู้จักนิสัยของคุณหนูเปี่ยวดี นางไม่มีทางโทษข้าอยู่แล้ว ทว่า ข้าต้องไปสอบถามเรื่องราวสักหน่อย หากชิวหวนทำสิ่งใดไม่เหมาะสม ข้าจะได้เตือนสาวใช้คนอื่นๆ คุณหนูเปี่ยวจะได้อยู่ที่นี่อย่างสบายใจ ท่านพี่บอกว่าอีกไม่กี่วันนางก็จะเดินทางกลับซั่วหยางแล้ว”

หมัวมัวได้ยินชุยซื่อกล่าวเช่นนี้ก็ฉีกยิ้มกว้าง รีบประคองชุยซื่อเดินไปด้านนอก “ฮูหยินเป็นคนใจกว้างมีเมตตา บ่าวสู้มิได้หรอกเจ้าค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนรับประทานอาหารเช้าเป็นเพื่อนต่งเหล่าไท่จวิน ต่งเหล่าไท่จวินปฏิเสธที่จะเดินทางไปซั่วหยางกับนาง โบกมือที่กำตะเกียบเบาๆ กล่าวยิ้มๆ “ยายแก่แล้ว! เดินทางไปไม่ไหวแล้ว! ยายอยู่ดูแลตัวเองที่เติงโจวนี่แหล่ะ อาเป่าของยายแต่งงานเมื่อใด ยายค่อยลากสังขารของยายไปงานแต่งงานของอาเป่า!”

กล่าวจบ ต่งเหล่าไท่จวินคีบมันเทศไส้พุทราถั่วแดงเข้าปาก หวังหมัวมัวเป็นคนเข้าครัวทำด้วยตัวเอง นางเคยทำให้ไป๋ชิงเหยียนทานตอนหญิงสาวยังเด็ก ไป๋ชิงเหยียนทานอย่างเอร็ดอร่อย หวังมัวมัวจึงจำเอาไว้ วันนี้นางจึงลงครัวทำของว่างชนิดนี้มาให้หญิงสาวทานก่อนมื้ออาหารเช้า

ไป๋ชิงเหยียนเห็นดวงตาอ่อนโยนของท่านยายก็รู้ได้ทันทีว่าท่านตัดสินใจดีแล้ว หญิงสาวจึงก้มหน้าทานของว่างต่อ

เมื่อเห็นว่าวันนี้ไป๋ชิงเหยียนทานอาหารได้ค่อนข้างมาก ต่งเหล่าไท่จวินจึงดีใจเป็นพิเศษ เมื่อกลั้วคอด้วยน้ำดอกไม้เสร็จ ต่งเหล่าไท่จวินใช้ผ้าเช็ดหน้าซับมุมปากแล้วกล่าวขึ้นยิ้มๆ “เจ้าชอบทานอาหารที่มีรสชาติหวานเพียงเล็กน้อยเหมือนแม่ของเจ้า! ร่วมโต๊ะอาหารกับยายได้อย่างสบาย”

ในสายตาของต่งเหล่าไท่จวิน ไป๋ชิงเหยียนยังเป็นเพียงเด็กน้อย ทว่า เด็กคนนี้กลับต้องยืนหยัดขึ้นมาหลักจากสูญเสียท่านปู่และบิดาของตนไป นางจะไม่ปวดใจได้อย่างไรกัน

ต่งเหล่าไท่จวินเห็นกิริยาที่สง่างามเรียบร้อยของไป๋ชิงเหยียน ดวงตาของนางเริ่มแดงก่ำ รีบหันหน้าหนี ใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาที่หางตา