บทที่ 591 หลุมดำ

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 591 หลุมดำ

บทที่ 591 หลุมดำ

ซูอันสงสัยว่าผู้เฒ่ามี่จะถูกบดขยี้เป็นเนื้อบดข้างในหรือไม่

แม้ว่าจะสงสัยในความคิดแอบแฝงของผู้เฒ่ามี่ แต่พวกเขาทั้งสองคนก็ใช้เวลาร่วมกันมาค่อนข้างนาน เขายังคงหวังว่าจะเห็นผู้เฒ่ามี่เป็นฝ่ายชนะ

แน่นอน ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดคือทั้งคู่ควรตายไปพร้อม ๆ กัน

โชคดีที่ผู้เฒ่ามี่ไม่ได้อ่อนแอถึงขนาดถูกจัดการได้ง่าย ๆ ขนาดนั้น ผ้าเช็ดหน้าเริ่มมีรอยฉีกขาดมากขึ้นเรื่อย ๆ

เว่ยต้านขมวดคิ้ว พร้อมกับเพิ่มความถี่ในการโจมตีของตนเอง

แต่แล้วหลังจากผ่านไปอีกไม่กี่อึดใจ นิ้วของผู้เฒ่ามี่ก็ทะลวงผ้าเช็ดหน้าได้อย่างสมบูรณ์จนเป็นรูขนาดใหญ่

ถัดมา ดอกบัวสีม่วงผลิบานภายในผ้าเช็ดหน้ายักษ์ส่งผลให้ผ้าเช็ดหน้าที่กำลังม้วนเหมือนรังไหมระเบิดออกด้วยเสียงอันดัง

ผู้เฒ่ามี่โผล่ออกมาจากข้างใน เขากระโดดขึ้นไปบนหลังคากระท่อมใกล้ ๆ “ขออภัย ดูเหมือนว่าข้าจะทำลายผ้าเช็ดหน้าดวงดาราของเจ้าโดยไม่ได้ตั้งใจ” เขากล่าวอย่างเยาะเย้ย

เว่ยต้านส่ายหัว “ข้าประหลาดใจที่การบ่มเพาะของเจ้าพัฒนาขึ้นมากตั้งแต่การพบกันครั้งล่าสุดของเรา”

ผู้เฒ่ามี่หัวเราะ “ข้าไม่ได้บอกเจ้าก่อนหน้านี้เหรอว่า อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าระหว่างใครจะชนะหากยังไม่ได้ลงมือสู้กันจริง”

เว่ยต้านถอนหายใจ “อย่างนั้นเหรอ? เช่นนั้นข้าขอดูสักหน่อยก็แล้วกันว่าเจ้าพัฒนาไปไกลแค่ไหนแล้ว!” หลังจากพูดจบประโยค เว่ยต้านก็พุ่งตัวอย่างแรงเข้าหาผู้เฒ่ามี่

ซูอันสังเกตเห็นเว่ยต้านเหยียดมือทั้งสองข้างไปข้างหน้าของตัวเองในระหว่างที่พุ่งเข้าหาผู้เฒ่ามี่เหมือนซอมบี้ในภาพยนตร์ไม่มีผิดเพี้ยน!

ขณะเดียวกัน สีหน้าของผู้เฒ่ามี่เปลี่ยนเป็นจริงจังอย่างยิ่งยวด เขาใช้วิชาร่างก้าวทานตะวันหลบไปด้านข้างทันที กระท่อมฟางที่เขายืนอยู่เมื่อสักครู่นี้ถูกกระแสคลื่นพลังจนแหลกลาญ ก่อนที่ฝ่ามือของเว่ยต้าน จะมาถึงด้วยซ้ำ!

ดวงตาของซูอันเบิกกว้าง ทั้งสองคนนี้เป็นยอดมนุษย์หรือไง?!

เว่ยต้านเปลี่ยนทิศทางเคลื่อนไหวโดยการถีบตอเสาที่ยังเหลืออยู่ของกระท่อมเพื่อส่งตัวเองพุ่งตรงไปที่ผู้เฒ่ามี่ซึ่งกำลังหลบหลีกอีกครั้ง

ผู้เฒ่ามี่หลบเลี่ยงโดยใช้วิชาร่างก้าวทานตะวัน และรอโอกาสโต้กลับ

ซูอันคาดว่าวิชาร่างก้าวทานตะวันจะทำให้ผู้เฒ่ามี่ได้เปรียบในการปะทะกันเช่นนี้ แต่เว่ยต้านกลับดูเหมือนจะรู้ทันในทุกเส้นทางที่ผู้เฒ่ามี่จะหลบหลีกไปและการโจมตีของเขาก็เร็วดุจสายฟ้า สถานการณ์นับได้ว่าได้เปรียบผู้เฒ่ามี่อยู่หน่อย ๆ

ต้องรู้ว่าการใช้วิชาร่างก้าวทานตะวันเคลื่อนที่ไปรอบ ๆ นั้นสิ้นเปลืองพลังชี่ไปไม่น้อย การหลบหลีกซ้ายขวาไปมาจะทำให้พลังของผู้เฒ่ามี่หมดเร็วขึ้น

ยิ่งการต่อสู้ดำเนินไป การเคลื่อนไหวของผู้เฒ่ามี่ก็เริ่มช้าลง แม้ว่าซูอันจะแทบมองไม่ทัน แต่ก็ยังสัมผัสได้ชัดเจนเพราะเขาคุ้นเคยกับวิชาร่างก้าวทานตะวัน

ซูอันพอจะเดาได้ว่าระดับการบ่มเพาะของเว่ยต้านนั้นเหนือกว่าผู้เฒ่ามี่เล็กน้อย เพราะเขาดูอ่านการเคลื่อนไหวของผู้เฒ่ามี่ออกและเลือกมุมของการโจมตีได้อย่างสมบูรณ์ สิ่งนี้จะเป็นไปไม่ได้หากไม่มีระดับการบ่มเพาะที่เหนือกว่า

อย่างไรก็ตาม มีบางอย่างที่ซูอันยังข้องใจ เขารู้สึกงุนงงว่าทำไมผู้เฒ่ามี่ไม่ใช้จ้าววายุหรือทักษะอื่น ๆ ที่ได้รับจากวิชาวัฏจักรหงส์อมตะ?

การเคลื่อนไหวอย่างฉับพลันของจ้าววายุสามารถเอาชนะการรุกของของเว่ยต้านได้อย่างแน่นอน และยิ่งถ้านำมันไปใช้ควบคู่กับวิชาร่างก้าวทานตะวัน เว่ยต้านจะเป็นคนที่เสียเปรียบแทน

ผู้เฒ่ามี่พยายามแสร้งทำเป็นอ่อนแอโดยรอช่วงเวลาสำคัญเพื่อเปิดเผยไพ่เด็ดของเขาหรือไม่?

ในขณะนั้น การต่อสู้ก็ดำเนินเข้าสู่จุดเดือดสุด เขาได้ยินเว่ยต้าน หัวเราะเสียงดัง “ข้าจับเจ้าได้แล้ว!”

“กักขังสมบูรณ์!”

เว่ยต้านควงฝ่ามือหมุนเป็นวงกลมและทันใดนั้นลูกบอลสีฟ้าอ่อนขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางราวสามจั้ง*[1] ก็โผล่พรวดขึ้นจากพื้นกลืนกิน

ผู้เฒ่ามี่ให้มันอยู่ด้านใน จากนั้นเมื่อเว่ยต้านประทับฝ่ามือของตนเองเข้าหากัน ลูกบอลแสงสีฟ้าก็เริ่มหดตัวเข้าหาผู้เฒ่ามี่จากรอบด้าน!

ผู้เฒ่ามี่ก็ตกตะลึงเช่นกัน เขาตะโกนทันที “ดัชนีทานตะวัน!”

เขากางนิ้วทั้งสิบออก และทิ่มแทงไปยังพื้นผิวของลูกบอลแสงสีน้ำเงินที่กำลังล้อมเข้ามาหาตัวเองจากด้านใน

อย่างไรก็ตาม ดัชนีนี้ที่เคยสามารถเข่นฆ่าผู้บ่มเพาะระดับเจ็ดได้อย่างง่ายดาย ขณะนี้กลับไม่สามารถเจาะผ่านลูกบอลแสงที่ดูอ่อนแอเหมือนฟองสบู่ขนาดยักษ์ได้เลย!

เว่ยต้านยิ้ม “ไม่มีประโยชน์ พลังนี้เป็นผลมาจากกฎแห่งมิติที่ข้าเพิ่งเข้าใจอย่างถ่องแท้ มันไม่สามารถเอาชนะด้วยพลังทางโลกใด ๆ ได้!”

กฎแห่งมิติ?

ซูอันไม่สามารถซ่อนความตกใจของเขาได้ ชายชราคนนี้มีระดับการบ่มเพาะสูงแค่ไหน?

ไม่น่าแปลกใจเลยที่การเคลื่อนไหวแบบซอมบี้ของเขาจะทรงพลังมาก เขาใช้กฎแห่งมิติเพื่อเสริมกำลัง

ผู้เฒ่ามี่หยุดความพยายามของตัวเองที่จะฉีกลูกบอลแสงนี้ออกไปด้วยดัชนีทานตะวัน ทันใดนั้น เขาก็หันไปมองเว่ยต้าน “ไม่น่าแปลกใจเลยที่เจ้ายังคงไม่สะทกสะท้าน แม้ว่าผ้าเช็ดหน้าแห่งดวงดาราของเจ้าจะถูกทำลาย ที่แท้เจ้าก็มีไพ่ตายอีกใบนี่เอง”

“แน่นอน” เว่ยต้านกำหมัดของเขาไว้ “รางวัลแห่งการภักดีต่อองค์จักรพรรดินั่นก็คือ ในบางครั้งฝ่าบาทจะสละเวลาชี้แนะให้ข้าบ้างเป็นครั้งคราวที่เรียกให้ข้าไปเข้าเฝ้า คำชี้แนะที่พระองค์มอบให้นั้น ทำให้ข้าย่นระยะเวลาการบ่มเพาะที่ควรจะนานเป็นทศวรรษให้สั้นลงได้ ข้าจะกล้าไล่ล่าเจ้าได้อย่างไรถ้าข้าไม่คืบหน้าเลย?”

ขณะที่เขาพูด ลูกบอลสีฟ้าอ่อนยังคงกระชับพื้นที่เข้าหาผู้เฒ่ามี่ ยิ่งไปกว่านั้น ขณะนี้มีจุดแสงสีดำแปลก ๆ ปรากฏขึ้นที่ศูนย์กลางของมัน ผู้เฒ่ามี่เริ่มสูญเสียการเคลื่อนไหว ร่างกายของเขาค่อย ๆ ถูกดูดไปยังจุดที่มืดมิดนั้นอย่างช้า ๆ

นั่นหลุมดำเหรอ?!

ซูอันมึนงง เขาตระหนักขึ้นได้อีกครั้งว่าหลายสิ่งในโลกนี้อยู่นอกเหนือความเข้าใจในวิทยาศาสตร์ของเขาไปไกลโข

ผู้เฒ่ามี่พยายามใช้วิชาร่างก้าวทานตะวันหลายครั้ง แต่น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถขยับร่างกายได้

เสียงของเว่ยต้านขุ่นเคือง “อิ๋งน้อย เห็นแก่มิตรภาพของเราที่เคยมีมา ข้าจะปล่อยเจ้าไป ถ้าเจ้ายอมหักแขนของเจ้าเอง ไม่เช่นนั้น แม้แต่องค์จักรพรรดิก็ไม่อาจช่วยเจ้าได้ ถ้าเจ้าถูกดูดเข้าไปสู่ความมืดมิดนั้น”

“หักแขนตัวเอง?” ผู้เฒ่ามี่เยาะเย้ย “ข้ายอมตายดีกว่ายอมจำนน!”

“ทำไมต้องเป็นเช่นนั้น?” เว่ยต้านขมวดคิ้ว “ตราบใดที่เจ้ามอบวิชาวัฏจักรหงส์อมตะให้ข้า เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องตาย ทำไมเจ้าถึงดื้อรั้นเช่นนี้??”

ผู้เฒ่ามี่หัวเราะ

“ฮ่า ๆ ก็มันเป็นเพราะข้ารู้ว่าเจ้ายังต้องการวิชาวัฏจักรหงส์อมตะของข้าอยู่ ข้าจึงมั่นใจที่จะสู้ต่อไป ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะกล้าฆ่าข้าจริง!”

[1] 7.5 เมตร