ตอนที่ 1119 ข้ามารับเจ้ากลับบ้าน (6) / ตอนที่ 1120 พังทลาย (1)
ตอนที่ 1119 ข้ามารับเจ้ากลับบ้าน (6)
“ท่านก็รู้สึกแบบนั้นหรือ” จวินอู๋เสียถามทันที
จวินอู๋เย่าแปลกใจแวบหนึ่งแล้วก็ส่ายหน้า
“นั่นเป็นแค่ข้ออ้างของคนอ่อนแอ ถ้าจิตใจของพวกเขาแข็งแกร่งแล้วละก็ ถึงร่างกายภายนอกจะเปลี่ยนไปแล้วจะแตกต่างตรงไหน ใครจะกล้ามาเหยียดหยามเจ้า ถ้าเป็นเพราะคนรอบๆ ตัว อย่างนั้นก็ยิ่งไม่ควรไปใส่ใจ ชีวิตคนก็ควรอยู่เพื่อตัวเอง ถ้าบุรุษคนไหนดูถูกสตรีเพราะเรื่องนั้น อย่างนั้นก็หมายความว่าบุรุษผู้นั้นไม่เคยรักใครจริงๆ ถ้าเขารักสตรีนางนั้นจริงๆ เขาจะใส่ใจเรื่องนั้นทำไม สิ่งที่รักควรเป็นจิตวิญญาณภายในไม่ใช่เปลือกนอก”
คำพูดของจวินอู๋เย่าตรงกับความคิดของจวินอู๋เสีย นางไม่ใช่คนที่ใส่ใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรอยู่แล้ว
การมีชีวิตอยู่เท่านั้นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด!
อย่างไรสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นกับชวีหลิงเย่ว์นั้นก็เกี่ยวข้องกับนางไม่มากก็น้อย นางจึงไม่อาจนั่งอยู่เฉยๆ ได้
แล้วจวินอู๋เสียกับจวินอู๋เย่าก็ออกจากคุกใต้ดิน
ชวีหลิงเย่ว์ถูกวางลงที่ห้องนอนห้องหนึ่งในหอเมฆาสวรรค์ เยี่ยซาจี้จุดชวีหลิงเย่ว์ให้หลับไปเพื่อให้สงบลงชั่วคราวและไม่ทำร้ายตัวเองมากไปกว่านี้
จวินอู๋เสียสั่งให้เอาน้ำร้อนและผ้าเช็ดตัวเข้ามาและดูแลจัดการบาดแผลทั้งหมดบนร่างกายของชวีหลิงเย่ว์
เห็นได้ชัดว่าชวีหลิงเย่ว์ที่กำลังนอนอยู่บนเตียงนั้นน้ำหนักลดลงไปมาก ร่างกายของนางเต็มไปด้วยรอยเฆี่ยนและรอยช้ำ นางผอมจนเห็นกระดูกซี่โครงอย่างชัดเจน การเสียโลหิตไปมากรวมถึงการถูกทรมานเป็นเวลานานทำให้ร่างกายของนางอ่อนแอมาก แต่ที่สาหัสที่สุดก็คือบาดแผลรอบๆ แขนขาทั้งสี่ของนาง
ริมฝีปากของนางแตกยับเยินเนื่องจากขาดน้ำอย่างหนักจึงเกิดบาดแผลโลหิตออกมากมายที่ปาก
จวินอู๋เสียรักษาบาดแผลทั้งหมดของนางไปทีละนิดอย่างอดทน การรักษาของนางทั้งอ่อนโยนและเบามือแต่แม่นยำมาก แม้ว่านางจะรู้ว่าชวีหลิงเย่ว์ถูกจี้จุดให้หลับเอาไว้และนางจะไม่รู้สึกเจ็บ จวินอู๋เสียก็ยังใส่โอสถวิเศษที่ทำให้ชาลงบนบาดแผลอย่างเคยชิน
ด้านนอกหอเมฆาสวรรค์ สยงป้ากับชิงอวี่ยืนอยู่ข้างนอกและไม่กล้าเข้าไป เยี่ยเม่ยส่งชวีซินรุ่ยให้พวกเขาและสยงป้าก็ให้คนเอาตัวนางไปขังไว้ในคุกใต้ดินของตึกเพลิงพิโรธ ไม่อย่างนั้นด้วยสิ่งที่ชวีซินรุ่ยทำไว้กับคนของเมืองพันอสูร พวกชาวเมืองที่เกลียดนางคงพากันมาฉีกนางเป็นชิ้นๆ
หลังจากจัดการกับเรื่องของชวีซินรุ่ยแล้ว สยงป้ากับชิงอวี่ก็รีบมาที่หอเมฆาสวรรค์ทันทีเนื่องจากพวกเขาเห็นจวินอู๋เสียตรงมาทางนี้ แต่เมื่อมาถึงประตู พวกเขาก็ไม่กล้าก้าวเข้าไป
เป็นเพราะเยี่ยซายืนอยู่หน้าประตูด้วยสีหน้าเคร่ง ท่าทางของเขาก็เย็นชาและไม่ต้อนรับพวกเขาเลย
ขณะที่สยงป้ากับชิงอวี่ยืนอยู่ด้านนอกหอเมฆาสวรรค์อย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี เฉียวฉู่กับสหายของเขาก็มาถึง ผู้เยาว์ทั้งห้าเจอกับสยงป้าและชิงอวี่ที่ประตูหอเมฆาสวรรค์ พอเจอกันสยงป้ากับชิงอวี่ก็ก้มศีรษะอย่างสำนึกผิดทันที
การที่เมืองพันอสูรรอดพ้นจากวิกฤตได้นั้นเป็นเพราะจวินอู๋เสียและสหายของเขา เทียบกับการทรยศที่พวกเขาทำกับจวินอู๋เสียแล้ว พวกเขาก็ไม่อาจมองสบตาเฉียวฉู่กับคนอื่นๆ ได้จริงๆ
เฉียวฉู่ตวัดสายตามองสยงป้ากับชิงอวี่ที่ก้มศีรษะอย่างละอายใจด้วยความโกรธและส่งเสียงหึออกมาอย่างดูถูก เขาหันหน้ากลับไปแล้วก้าวยาวๆ เข้าไปในหอเมฆาสวรรค์โดยไม่อยากจะพูดกับพวกเขาแม้แต่คำเดียว
สยงป้าเหงื่อออกจนชุ่ม เขาเงยหน้าขึ้นแล้วทำท่าเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ลังเลและหยุดตัวเองเอาไว้เมื่อเห็นแผ่นหลังที่มุ่งมั่นของพวกผู้เยาว์ คำพูดที่กำลังจะออกมาจุกอยู่ที่คอ และไม่ว่าจะพยายามเท่าไรก็ไม่สามารถพูดออกมาได้
ฟ่านจัวเป็นคนสุดท้ายที่เดินเข้าไปในหอเมฆาสวรรค์ เขาเพิ่งก้าวเท้าข้ามธรณีประตูเข้าไปก็หยุดชะงักแล้วหันกลับมามองสยงป้าที่ดูสำนึกผิดอย่างมากและกำลังทุกข์ทรมานด้วยความกังวลก่อนจะพูดขึ้นว่า
“น้องเสียจะช่วยคุณหนูใหญ่ของท่านแน่”
…..
ผู้แต่งเป่ย: ถ้าสมมุติว่า…เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นกับ เอ่อ…คนนั้นน่ะ นายท่านจะทำอย่างไรหรือ
นายท่าน: ทำให้คนพวกนั้นเสียใจที่เกิดมาและให้…ความรักให้มากขึ้น รักให้มากขึ้นจนนางไม่มีเวลาไปคิดอย่างอื่นอีก เจ้ากล้าสมมุติเรื่องแบบนี้อย่างนั้นเรอะ อยากตายหรืออย่างไร
ผู้แต่งเป่ย: นั่นเป็นแค่เรื่องสมมุตินะ! ข้าพูดว่าสมมุติอย่างไร!
อู๋เสีย: คำที่หายไปจากประโยคของพวกท่านคืออะไรน่ะ
ผู้แต่งเป่ย/นายท่าน: ไม่มีอะไร!
ตอนที่ 1120 พังทลาย (1)
สยงป้าอึ้งไปชั่วครู่ เขาไม่พูดอะไรนอกจากก้มศีรษะคำนับฟ่านจัว
เมื่อเฉียวฉู่กับคนอื่นๆ มาถึงหอเมฆาสวรรค์ จวินอู๋เสียกำลังรักษาบาดแผลของชวีหลิงเย่ว์อยู่ เมื่อพวกผู้เยาว์เห็นเด็กสาวที่นอนผอมซีดอยู่บนเตียง ทุกคนก็พากันยืนปิดปากเงียบไปโดยปริยาย พวกเขาจะได้ไม่รบกวนการรักษาของจวินอู๋เสีย
พวกเขาทุกคนคิดว่าสิ่งที่ชวีหลิงเย่ว์ต้องเจอนั้นน่าปวดใจมาก แต่เมื่อได้มาเห็นสภาพของชวีหลิงเย่ว์เข้าจริงๆ พวกเขาก็รู้ว่าสิ่งที่เด็กสาวคนนี้ต้องเจอมันเลวร้ายกว่าที่พวกเขาคิดเอาไว้มาก
“ข้าว่า…ข้าคงไม่เกลียดชวีเหวินเฮ่ามากขนาดนั้นแล้วล่ะ” เฉียวฉู่พูดขึ้นพร้อมกับถูจมูก
การทรยศหักหลังเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ แต่เมื่อชวีเหวินเฮ่าถูกบังคับให้ดูบุตรีตัวเองถูกย่ำยีแบบนั้นต่อหน้าต่อตา เขาก็ต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ และตอนนั้นเขาก็แค่ตัดสินใจทำสิ่งที่คนเป็นบิดาจะทำเท่านั้น
“ข้าหวังว่านางจะหายดี” หรงรั่วพูดพลางขมวดคิ้ว สายตาเต็มไปด้วยความสงสารเห็นใจ
จวินอู๋เสียนั่งอยู่ข้างเตียงของชวีหลิงเย่ว์ทั้งวันทั้งคืน นางรักษาบาดแผลของชวีหลิงเย่ว์โดยไม่หยุดเลยสักนาที จนกระทั่งเย็นวันรุ่งขึ้น เมื่อแสงอาทิตย์ยามตกดินส่องผ่านหน้าต่างเข้ามา ชวีหลิงเย่ว์ก็ลืมตาขึ้นในที่สุด
สิ่งที่นางเห็นไม่ใช่ห้องขังที่มืดสลัวอีกแล้ว แต่เป็นห้องที่ตกแต่งอย่างหรูหรา ในห้องมีกลิ่นหอมจางๆ ของสมุนไพรลอยอยู่ในอากาศ ความเจ็บปวดบนร่างนางดูเหมือนจะหายไปแล้ว
ฝันหรือ
ชวีหลิงเย่ว์กะพริบตาและมองไปยังผ้าไหมเรียบลื่นที่แขวนอยู่เหนือเตียง
“ตื่นแล้วหรือ” เสียงแหบเล็กน้อยดังขึ้นข้างๆ ชวีหลิงเย่ว์
ชวีหลิงเย่ว์ตกใจและดิ้นรนเล็กน้อยขณะที่หันหน้าไปมอง ใบหน้าเย็นชาของจวินอู๋เสียปรากฏขึ้นในดวงตาของนาง
“จวินเสีย…” ชวีหลิงเย่ว์รู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันที
ทำไมจวินเสียถึงมาอยู่ข้างเตียงของนางได้
ในความตื่นตระหนกนั้น ชวีหลิงเย่ว์อยากจะซุกหน้าลงใต้ผ้าห่ม แต่เมื่อนางยกมือขึ้นเพื่อจะดึงผ้าขึ้นมา ความเจ็บปวดก็จู่โจมข้อมือของนางทันที
นางมองข้อมือทั้งสองของตัวเองที่ถูกพันผ้าไว้หลายทบให้ชัดๆ ผิวสีขาวตัดกับรอยเฆี่ยนและรอยช้ำที่อยู่บนแขนเป็นเหมือนสายฟ้าฟาดที่ทำให้นางตื่นขึ้นจากความฝันอันแสนหวาน!
ค่ำคืนที่ยาวนานของการทรมานและความหวาดกลัวอย่างที่ไม่อาจจินตนาการได้ ความทรงจำในเหตุการณ์พวกนั้นเป็นเหมือนคลื่นแรงที่ซัดเข้ามาในสมองของนาง ดวงตาของเบิกกว้าง ความทรงจำอันน่าหวาดกลัวได้โยนนางลงไปในทะเลสาบแห่งความสิ้นหวังที่เย็นยะเยือก!
“กรี๊ด!!!”
นั่นไม่ใช่ความฝัน!
ทุกอย่างคือความจริง!
อารมณ์ของชวีหลิงเย่ว์แปรผันไปอีกครั้ง นางดิ้นรนจะลุกขึ้นนั่งและเอาผ้าห่มพันตัวไว้แน่น ไม่ยอมให้จวินอู๋เสียมองอีก!
“ออกไปนะ! ออกไป!” ชวีหลิงเย่ว์เหมือนสัตว์ตัวเล็กที่บาดเจ็บ นางไม่อยากเจอใครทั้งนั้น โดยเฉพาะจวินอู๋เสีย
นางเป็นแบบนี้ไปแล้ว สกปรก…น่ารังเกียจอย่างถึงที่สุด…
นางไม่อยากให้จวินอู๋เสียเห็นนางในสภาพน่าสังเวชแบบนี้ นางยอมตายในห้องขังนั่นดีกว่าจะให้คนที่นางรักมาเห็นนางในสภาพนี้
จวินอู๋เสียมองชวีหลิงเย่ว์อย่างงุนงง ตอนแรกอารมณ์ของนางก็กลับมาเป็นปกติแล้วแท้ๆ แต่จู่ๆ นางก็ทรุดลงและแตกสลายอีกครั้ง เสียงกรีดร้องอย่างหมดหนทางของนางฟังดูน่าสงสารยิ่งนัก
จวินอู๋เสียขมวดคิ้ว ชวีหลิงเย่ว์ดิ้นรนอย่างรุนแรงไม่หยุดจนทำให้บาดแผลที่นางเพิ่งพันผ้าเอาไว้ฉีกออกอีกครั้ง โลหิตซึมผ่านผ้าพันแผลออกมาเป็นรอยแดงฉาน
“อย่ามองข้า…ขอร้อง…อย่า…อย่ามองข้า…” ชวีหลิงเย่ว์อ้อนวอนทั้งน้ำตา นางซุกตัวอยู่ในผ้าห่มและสั่นไปทั้งร่างด้วยความหวาดกลัว