ตอนที่ 1121 พังทลาย (2) / ตอนที่ 1122 พังทลาย (3)
ตอนที่ 1121 พังทลาย (2)
ชวีหลิงเย่ว์ไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งนางจะตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ นางปกป้องพรหมจรรย์ของตัวเองอย่างดีมาตลอดและคิดเสมอว่าจะมอบให้แก่คนรักซึ่งเป็นคนที่มีค่ามากที่สุดสำหรับนาง แต่มันก็ถูกกระชากเอาไปอย่างโหดร้ายพร้อมทั้งศักดิ์ศรีและจิตวิญญาณของนาง ทุกอย่างแหลกสลายไม่มีวันหวนกลับคืนมาได้อีก
“ขอร้อง…อย่ามองข้า…ได้โปรดออกไปเถอะ…ข้าแปดเปื้อน…สกปรก…ขอร้องล่ะ…ออกไป…” ชวีหลิงเย่ว์ในอดีตมีความปรารถนาอย่างมากที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับจวินอู๋เสีย แต่ตอนนี้นางรู้สึกว่าตัวเองไม่มีแม้แต่คุณสมบัติที่จะอยู่ในห้องเดียวกับอีกฝ่าย นางไม่อยากให้จวินอู๋เสียเห็นสภาพที่น่าเกลียดน่าขยะแขยงของนาง สายตาของจวินอู๋เสียมีแต่จะทำให้นางรู้สึกละอายใจอย่างมาก
จวินอู๋เสียหรี่ตาลงมองร่างที่กำลังสั่นเทาของชวีหลิงเย่ว์
ทันใดนั้นนางก็คุกเข่าลงข้างหนึ่งที่ข้างเตียงแล้วดึงชวีหลิงเย่ว์ออกจากผ้าห่ม
“ไม่!” แววตาของชวีหลิงเย่ว์เต็มไปด้วยความสิ้นหวังอย่างถึงที่สุด แต่นางอ่อนแอจนไม่สามารถขัดขืนได้ นางถูกลากออกจากผ้าห่ม น้ำตาไหลเป็นทาง ริมฝีปากที่สั่นระริกของนางแสดงให้เห็นว่านางรู้สึกหวาดกลัวมากแค่ไหน
“อย่ามองข้า…ได้โปรด…อย่ามอง…”
จวินอู๋เสียไม่สนใจคำอ้อนวอนของชวีหลิงเย่ว์ มือข้างหนึ่งของนางจับไหล่ชวีหลิงเย่ว์เอาไว้ ส่วนอีกข้างเชยคางของชวีหลิงเย่ว์ขึ้นเพื่อบังคับให้มองตานาง
“เจ้ากลัวอะไร” จวินอู๋เสียพูด
ดวงตาของชวีหลิงเย่ว์พร่ามัวด้วยน้ำตา นางอยากสลัดให้หลุดแต่ก็ไม่มีแรง ทำได้แค่ส่ายหน้าไปมา
“ข้าสกปรก…สกปรกมาก…ขอร้องล่ะ…อย่ามาอีกเลย เจ้าไปเสียจะได้หรือไม่ ข้าไม่อยากให้เจ้าเห็นข้าในสภาพนี้…” ทำไมนางถึงยังมีชีวิตอยู่ ทำไมไม่ตายๆ ไปเสีย ชวีหลิงเย่ว์ไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกแล้ว นางอยากตายในห้องขังนั่นมากกว่าต้องมาเผชิญหน้ากับจวินอู๋เสียอีกครั้ง
ดวงตาของชวีหลิงเย่ว์แดงก่ำจากการร้องไห้ นางสะอึกสะอื้นอย่างหนักจนต้องสลับหายใจเป็นระยะ
จวินอู๋เสียกุมมือของชวีหลิงเย่ว์เอาไว้และยกมันขึ้นมาตรงหน้า
มือเล็กๆ คู่นั้นเต็มไปด้วยบาดแผลเล็กๆ หลายแห่ง พวกมันถูกรักษาอย่างระมัดระวังและเริ่มตกสะเก็ดแล้ว
“ใครบอกว่าเจ้าสกปรก ข้าล้างตัวเจ้าให้หมดแล้ว ตอนนี้เจ้าสะอาดแล้ว” จวินอู๋เสียพูดพลางจ้องมองชวีหลิงเย่ว์โดยไม่ละสายตา
ชวีหลิงเย่ว์หันหน้าหนี ไม่ยอมมองตัวเองด้วยซ้ำ
“ปล่อยข้าเถอะ…อย่ายุ่งกับข้าเลย…” นางยังคงอ้อนวอนต่อไป
ชวีหลิงเย่ว์ในตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองแปดเปื้อนสกปรกไปจนถึงจิตวิญญาณ นางหวังเป็นอย่างยิ่งให้ตัวเองตายไปแล้วหรือไม่ก็เป็นบ้าไปเสีย จะได้ไม่ต้องเผชิญกับเรื่องทั้งหมดนี้
ไม่มีอะไรที่ทำให้นางเจ็บช้ำได้มากไปกว่าการที่จวินอู๋เสียมาเห็นนางในสภาพนี้
“มารดาเจ้าตายแล้ว” จวินอู๋เสียพูดขึ้น
ชวีหลิงเย่ว์ตัวแข็งทื่อทันที ดวงตาเบิกกว้างจ้องมองจวินอู๋เสียอย่างไม่อยากเชื่อ
“มารดาของเจ้าป่วยหนักตั้งแต่ช่วงแรกๆ และชวีซินรุ่ยก็ไม่ให้ใครรักษานางแถมยังสั่งให้เอาศพของนางไปโยนทิ้งไว้ในป่าให้เป็นอาหารของพวกสัตว์ป่า” เสียงของจวินอู๋เสียเย็นชาจนทำให้ผู้คนตัวสั่นได้เลย
ชวีหลิงเย่ว์ตกใจมาก นางนั่งเหม่อมองอยู่บนเตียง น้ำตาร่วงลงมาตามใบหน้าอย่างไม่อาจควบคุมได้
“บิดาของเจ้าเองก็เสียสติไปแล้ว ถ้าเจ้าตาย ข้าก็จะปล่อยเขาให้เป็นบ้าอยู่อย่างนั้น ถ้าเจ้าอยากให้ข้ารักษาบิดาของเจ้า เจ้าก็ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป” จวินอู๋เสียพูดพลางมองชวีหลิงเย่ว์อย่างจริงจัง น้ำเสียงของนางหนักแน่นและไม่ยอมผ่อนปรน
ชวีหลิงเย่ว์เงยหน้าขึ้นมองจวินอู๋เสียอย่างตกใจ
ตอนที่ 1122 พังทลาย (3)
จวินอู๋เสียปล่อยมือที่จับชวีหลิงเย่ว์เอาไว้และถอยออกจากเตียง สีหน้าของนางไร้ความรู้สึก สายตาเย็นยะเยือกจนน่ากลัว
“จะอยู่หรือตาย เจ้าเลือกเอง”
ชวีหลิงเย่ว์นิ่งตะลึง ข่าวการตายของมารดาและการเสียสติของบิดาทำให้นางตกใจมาก และเป็นไปไม่ได้ที่นางจะซึมซับเข้าใจเรื่องทั้งหมดได้ในระยะเวลาสั้นๆ นางทรุดตัวลงนั่งบนเตียงและกระแทกอย่างแรงที่มุมผ้าห่ม พร้อมกับร้องไห้ออกมาอย่างเงียบๆ ความเศร้าโศกและสิ้นหวังทำให้นางพังทลายอย่างไร้ความปรานี
จวินอู๋เสียหันหลังเดินออกจากห้องไป ทันทีที่นางปิดประตู เสียงร่ำไห้ก็ดังออกมาให้ได้ยิน
เฉียวฉู่ที่ยืนอยู่ข้างนอกกลืนน้ำลายเงียบๆ เมื่อได้ยินเสียงร้องไห้ เขาได้ยินทุกถ้อยคำที่จวินอู๋เสียพูดกับชวีหลิงเย่ว์เมื่อครู่อย่างชัดเจน
เรื่องที่ชวีหลิงเย่ว์จะคิดฆ่าตัวตายเป็นสิ่งที่พวกเขาคาดเอาไว้อยู่แล้ว แต่ถึงจะตีเขาให้ตาย เขาก็ไม่เคยคิดว่าจวินอู๋เสียจะใช้วิธีการเช่นนี้หยุดชวีหลิงเย่ว์จากการฆ่าตัวตาย
วิธีของน้องเสียนี่โคตรโหดจริงๆ!
“บอกเรื่องทุกอย่างกับนางแบบนั้นจะไม่เป็นไรจริงๆ น่ะหรือ” เฉียวฉู่ถามพร้อมกับมองจวินอู๋เสียอย่างไม่เห็นด้วย คนในห้องเพิ่งเจอกับฝันร้ายเกินจินตนาการมา แทนที่จะพูดปลอบใจแบบอ่อนโยนกลับข่มขู่นางเสียนี่!
“ถ้าไม่ใช้วิธีนี้ แล้วจะทำอย่างไร” จวินอู๋เสียถามพร้อมกับขมวดคิ้วมองเฉียวฉู่
นางไม่รู้ว่าจะปลอบคนอย่างไรจริงๆ นอกจากนั้นนางไม่คิดว่าคำพูดดีๆ พวกนั้นจะช่วยอะไรได้ ตอนนี้ชวีหลิงเย่ว์รังเกียจและขยะแขยงตัวเองอย่างถึงที่สุด ไม่ว่านางจะพูดอะไรไป ชวีหลิงเย่ว์ก็คงไม่ฟัง ดังนั้นนางจึงต้องใช้วิธีนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ชวีหลิงเย่ว์ฆ่าตัวตาย
“เอ่อ…” เฉียวฉู่จนปัญญากับคำตอบโต้ของจวินอู๋เสีย เขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีเหมือนกัน เขาเองก็ไม่เคยปลอบคนอื่นและยิ่งเรื่องแบบนี้ด้วยแล้ว…
“เจ้ามาหาข้ามีอะไรอย่างนั้นหรือ” จวินอู๋เสียถามพร้อมกับมองเฉียวฉู่ที่ยังพูดไม่ออก
เฉียวฉู่นึกขึ้นได้ทันทีว่าเขามาหาจวินอู๋เสียทำไม “เอ่อ…พี่ใหญ่อู๋เย่าพบบางอย่างในหอเมฆาสวรรค์ เขาบอกให้ข้ามาบอกให้เจ้าไปที่นั่น มันอยู่ที่ชั้นหก”
จวินอู๋เสียพยักหน้าและเดินจากมา ทิ้งให้เฉียวฉู่ยืนฟังเสียงร้องไห้ที่ดังออกมาจากในห้องตามลำพัง เขาถูจมูกตัวเองหลายครั้งอย่างจนปัญญา
หอเมฆาสวรรค์กลายเป็นที่อยู่ชั่วคราวของจวินอู๋เสีย แต่หลังจากที่นางช่วยชวีหลิงเย่ว์มาได้แล้ว นางก็ไม่ได้ก้าวออกจากห้องนั้นเลยจึงไม่คุ้นกับเส้นทางในนี้ เหล่าชายหนุ่มคนโปรดที่อยู่ในหอเมฆาสวรรค์ถูกเยี่ยซากับเยี่ยเม่ยไล่ออกไปหมดแล้ว เมื่อเห็นความน่ากลัวของจวินอู๋เย่า พวกขี้ขลาดพวกนั้นก็ไม่กล้าพูดอะไรสักคำตอนที่ถูกสั่งออกไป พวกเขาไม่เสียเวลาเก็บข้าวของเลยสักนิดและพากันรีบร้อนออกไปจากหอเมฆาสวรรค์
ที่ชั้นหกมีประตูไม้หนึ่งบานขวางกั้นพื้นที่ส่วนใหญ่เอาไว้ ตอนที่วินอู๋เสียมาที่หอเมฆาสวรรค์ครั้งแรกเพื่อร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของชวีซินรุ่ย นางได้สังเกตเห็นประตูบนชั้นหกอยู่แล้ว ประตูไม้บานนั้นมีกลิ่นโลหิตจางๆ ลอยออกมาจากด้านในและจนถึงตอนนี้กลิ่นโลหิตนั้นก็ยังอยู่
เยี่ยซากับเยี่ยเม่ยยืนอยู่ที่ประตู เมื่อพวกเขาเห็นจวินอู๋เสียมาถึงก็คุกเข่าลงคารวะทันที
จวินอู๋เสียยกมือสั่งให้พวกเขาลุกขี้นและเดินผ่านประตูเข้าไป
ทันทีที่จวินอู๋เสียก้าวข้ามธรณีประตู กลิ่นโลหิตเข้มข้นก็ลอยมาเตะจมูกนาง และสิ่งที่นางเห็นในนั้นก็ทำให้นางขมวดคิ้วมุ่น
ด้านหลังประตู พื้นหินใต้เท้านางเต็มไปด้วยโลหิตที่แข็งตัวหนาเป็นชั้น พื้นทั้งหมดทุกซอกทุกมุมเต็มไปด้วยโลหิต และเนื่องจากโลหิตพวกนั้นแข็งตัวมาเป็นเวลานาน มันจึงกลายเป็นสีดำไปแล้ว