บทที่ 593 น่ารังเกียจที่สุด

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

เจียงหยุนเอ๋อยิ้มให้กับโม่เสี่ยวฮุ่ย “แม่ หนูไม่เป็นไรหรอก หนูสามารถดูแลตัวเองได้ ถึงเวลานั้นแม่หนูก็สามารถมาดูแลหนูได้

เมื่อลี่จุนซินเห็นแม่ของตัวเองยอมรับในตัวของเจียงหยุนเอ๋อแล้ว รู้สึกดีใจมาก จึงเสนอขึ้นว่า:

“เอาอย่างนี้ละกันพรุ่งนี้ฉันไม่ไปทำงานละ พวกเราผู้หญิงด้วยกันไปช้อปปิ้งกันดีกว่า จากนั้นไปซื้อเสื้อผ้าและของเล่นของเด็กหลังคลอดกัน อีกอย่าง เสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ก็ออกมาแล้ว ฉันไม่ได้ไปช็อปปิ้งนานมากแล้ว พอดีเลยจะได้ซื้อเสื้อใหม่สักสองสามตัว”

จากนั้นลี่จุนซินไปนั่งข้างๆ โม่เสี่ยวฮุ่ย ดึงมือโม่เสี่ยวฮุ่ยไว้แล้วพูดว่า: “แม่ แม่ไม่ได้อยู่ตอนที่คลอดถวนจื่อ เด็กคนที่สองเเม่ห้ามพลาดเด็ดขาดเลยนะ!”

โม่เสี่ยวฮุ่ยหันไปมอง เมื่อเห็นเจียงหยุนเอ๋อไม่ได้ต่อต้านเธอ จึงยิ้มให้กับเจียงหยุนเอ๋อ แล้วพยักหน้า ตอบตกลง

เจียงหยุนเอ๋อนั้นอารมณ์ดียิ้มให้กับโม่เสี่ยวฮุ่ย แล้วพูดขึ้นว่า: “แม่ คืนนี้ดึกมากแล้ว แม่นอนค้างที่นี่เลยนะคะ พรุ่งนี้พวกเราออกไปพร้อมกันก็สะดวกกว่า อีกอย่างที่นี่ก็มีของครบทุกอย่างอยู่แล้ว”

ลี่จุนซินเห็นเจียงหยุนเอ๋อเริ่มที่จะดึงความสัมพันธ์เข้าใกล้โม่เสี่ยวฮุ่ยแล้วจึงช่วยพูดเสริมขึ้นว่า: “ใช่แล้วค่ะ แม่ แม่ค้างที่นี่เถอะหยุนเอ๋อเชิญชวนแม่แล้ว และคืนนี้หนูก็ไม่ได้จะกลับบ้านอยู่แล้ว”

“อีกอย่าง แม่ หนูไม่ได้นอนกับแม่นานแล้ว พอดีเลยคืนนี้หนูเล่าเรื่องของเวียร์ให้แม่ฟัง”

เมื่อลี่จุนซินเอ่ยถึงเวียร์ หูแดงขึ้นมาทันที โม่เสี่ยวฮุ่ยก็อยากหาโอกาสคุยกับลี่จุนซินเหมือนกัน ดังนั้นจึงตอบตกลงออกมา

ทันใดนั้นลี่จุนซินนึกถึงเรื่องที่ลี่จีถองฟื้นความทรงจำได้แล้วและเรื่องนี้ยังไม่ได้เล่าให้โม่เสี่ยวฮุ่ยฟังเลย เมื่อเห็นบรรยากาศของคืนนี้ค่อนข้างดี จึงตัดสินใจเล่าเรื่องนี้ให้โม่เสี่ยวฮุ่ยฟัง

“แม่ เมื่อสองวันก่อนพวกเราได้ไปเที่ยวข้างๆ แถวเมืองโบราณหนิงซี หนูมีข่าวดีจะเล่าให้แม่ฟังนะ จีถองจำทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นั่นได้แล้ว”

“จริงเหรอ?จีถอง แกจำทุกอย่างได้แล้วจริงเหรอ?”

โม่เสี่ยวฮุ่ยดีใจจนอยากกระโดดขึ้นมา จากนั้นรีบหันไปมองลี่จีถอง เพื่อรอคำตอบจากเขา

“ใช่แล้ว แม่ ผมจำได้หมดแล้ว ตอนนั้นอยากกลับไปบอกแม่ แต่เนื่องจากบริษัทค่อนข้างวุ่นวาย เลยทำให้ผมลืมเรื่องนี้ไป”

“ใช่แล้ว แม่ ยังมีอีกเรื่อง ตอนนั้นผมเกือบจะเป็นบ้า แม่จำแม่เลี้ยงฟู้ชูเหม่ยของหยุนเอ๋อได้ไหม?…”

เมื่อโม่เสี่ยวฮุ่ยได้ยินชื่อฟู้ชูเหม่ยนี้ สีหน้าชาไปทันที นึกถึงเมื่อก่อนที่ตัวเองร่วมมือกับฟู้ชูเหม่ยทำร้ายเจียงหยุนเอ๋อ จึงหันไปมองเจียงหยุนเอ๋อด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเสียใจ

“…หลังจากที่เธอติดหนี้แล้วหนีหายไป กลับหลบซ่อนตัวอยู่ตรงนั้น และหลังจากที่เจอพวกเราที่เมืองโบราณ ก็ติดตามพวกเราตลอดทาง และผลักหยุนเอ๋อลงไปที่ทะเลสาบอีก ดีที่ตอนนั้นมีคนเยอะ ช่วยเหลือหยุนเอ๋อขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว หลังจากที่พวกเราหาตัวของฟู้ชูเหม่ยเจอ ได้ตบสั่งสอนเธอ รู้สึกสะใจมาก”

หลังจากที่โม่เสี่ยวฮุ่ยได้ยินว่าเจียงหยุนเอ๋อถูกผลักตกไปในทะเลสาบ สีหน้าซีดลงทันที แล้วรีบลุกขึ้น เข้าไปนั่งใกล้ๆ เจียงหยุนเอ๋อ กุมมือเธอไว้แล้วพูดว่า “ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?มีตรงไหนไม่สบายอยู่อีกหรือเปล่า?”

เจียงหยุนเอ๋อซาบซึ้งจนอยากร้องไห้ออกมา เธอกุมมือของโม่เสี่ยวฮุ่ยไว้ “แม่ หนูไม่เป็นไร แม่ไม่ต้องเป็นห่วง”

ลี่จีถองเห็นว่าถ้าตัวเขายังไม่ออกมาห้ามปรามอีก สองคนนี้คงต้องกอดคอกันร้องไห้แน่นอน

“ไม่เป็นไรแล้ว ทุกอย่างได้ผ่านไปแล้ว อย่าไปนึกถึงมันอีก ตอนนี้ดึกมากแล้ว แม่ พวกเราควรพักผ่อนกันได้แล้ว”

วันรุ่งขึ้น เจียงหยุนเอ๋อตื่นมาลงไปชั้นล่างเพื่อกินข้าว ปรากฏว่าแม่ของเธอซูม่านลีก็อยู่ด้วย ลี่จีถองเดินขึ้นไปรับเจียงหยุนเอ๋อลงมา แล้วอธิบายให้เจียงหยุนเอ๋อฟัง

“วันนี้พวกคุณจะไปช็อปปิ้ง ผมเห็นแม่อยู่บ้านคนเดียวไม่มีอะไรทำ เช้านี้จึงให้คนขับรถไปรับแม่มา วันนี้พวกคุณไปช็อปปิ้งด้วยกัน แต่จำไว้อย่างหนึ่งคุณอย่าปล่อยให้ตัวเองเหนื่อยเกินไป พักผ่อนบ่อยครั้งหน่อย”

หลังจากที่พวกเขากินอาหารเช้าเสร็จ และแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย จึงเตรียมตัวออกเดินทาง ก่อนออกเดินทางลี่จีถองได้เตือนพวกเขาอีกครั้ง แล้วออกไปทำงานอย่างเร่งรีบ

ความจริงเป็นที่ประจักษ์ ความปรารถนาในการซื้อของของผู้หญิงสามารถเอาชนะความอ่อนล้าทั้งหมดได้ เจียงหยุนเอ๋อที่ท้องโย้เดินช็อปปิ้งกับลี่จุนซินและแม่ตลอดช่วงเช้า ซื้อของใช้เด็กเยอะแยะมากมาย และยังซื้อเสื้อผ้าให้ถวนจื่ออีกไม่น้อย

ตอนเที่ยง พวกเขาทั้งหลายหาร้านอาหารที่บรรยากาศดีแล้วนั่งลงกินข้าว เพื่อพักผ่อนสักครู่ ตรึกตรองดูว่าช่วงบ่ายจะซื้ออะไรดี

ระหว่างกินข้าวลี่จุนซินได้ใช้มือถือสั่งจองเสื้อผ้าไปหลายร้านและหลายตัว เพื่อไปเอาในช่วงบ่าย หลังจากที่ทุกคนพักผ่อนเพียงพอแล้ว จึงเริ่มออกไปช้อปปิ้งที่ห้างต่ออีก

หลังจากที่พวกเขาไปเอาเสื้อผ้าเป็นเพื่อนลี่จุนซินแล้ว และได้ทดลองใส่เสื้อผ้าไปอีกหลายตัว ตัวที่ใส่แล้วรู้สึกเหมาะสมก็ซื้อมันหมดทุกตัวเลย

เมื่อถึงเวลาใกล้มืดค่ำ พวกเขารู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย จึงหาร้านกาแฟนั่งลงเพื่อพักผ่อน

ในขณะที่พวกเขากำลังสนทนากันอย่างสนุกนั้น เงยหน้าขึ้นเห็นแม่ของลี่หุยจ้าวเฟยเฟยกับลี่เจี้ยนหวา ก่อนหน้านั้นตอนที่เจียงหยุนเอ๋อพาถวนจื่อออกไปถึงเเม้จะเคยเห็นจ้าวเฟยเฟยแล้วครั้งหนึ่ง แต่เธอก็จำจ้าวเฟยเฟยได้ และรู้ว่าเธอเป็นแม่ของลี่หุยลูกนอกสมรสคนนั้น

ทันทีที่โม่เสี่ยวฮุ่ยเห็นหน้าจ้าวเฟยเฟย ไม่ได้ให้สีหน้าที่ดีกับเธอเลย ส่วนสีหน้าของลี่จุนซินก็ไม่น่าดูเช่นเดียวกัน

ตอนที่จ้าวเฟยเฟยเห็นพวกเขา สีหน้าชาไปทันที แต่ก็ปรับสภาพเป็นปรกติได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นดึงมือของลี่เจี้ยนหวาแล้วเดินเข้าไปทักทาย

“พี่ พี่อยู่ที่นี่ด้วยเหรอ ช่างประจวบเหมาะจริงๆ ไม่คิดว่าจะเจอพี่ที่นี่ ยี๋ พวกพี่ออกมาซื้อเสื้อผ้ากันเหรอ เสื้อผ้าสำหรับฤดูกาลใหม่มาถึงแล้ว ฉันพาเจี้ยนหวามาก็เพื่อจะมาหาซื้อเสื้อใหม่สองสามตัวให้เขา”

โม่เสี่ยวฮุ่ยหันหน้ากลับไป ไม่อยากสนใจเธอ ส่วนลี่จุนซินนั้นเหลือบตาไปมองจ้าวเฟยเฟย แล้วหัวเราะเยาะเย้ออกมา

“อ๊ายโย่ว ไม่รู้ว่าแม่ของฉันไปมีน้องสาวที่ชอบไปเป็นนางจิ้งจอกอย่างเธอตั่งแต่เมื่อไหร่ น้องสาวอ่ะ”

เมื่อลี่เจี้ยนหวาได้ยิน นี่ไม่ใช่เป็นการด่าเขาทางอ้อมหรอกเหรอ จึงคำรามโม่เสี่ยวฮุ่ยออกมา:

“โม่เสี่ยวฮุ่ย ดูสิลูกสาวที่เธอสอนออกมา อ้าปากปิดปากก็นางจิ้งจอก ไม่รู้จักเคารพผู้ใหญ่เลย”

“ลูกสาวฉันเป็นอะไรเกี่ยวอะไรกับคุณ!”

โม่เสี่ยวฮุ่ยอดไม่ได้ จึงด่ากลับออกมา

พวกเขามีความขัดแย้งกันขึ้นมา และเสียงดังไม่น้อย ผู้คนรอบข้างเมื่อได้ยินเสียงต่างหันมามองทางนี้พร้อมกัน

จ้าวเฟยเฟยเห็นลี่เจี้ยนหวาเข้าข้างตัวเอง ได้ใจไม่น้อย หันกลับไปเห็นเจียงหยุนเอ๋อที่กำลังท้องโตจึงยิ้มออกมาอย่างเสแสร้งแล้วถามเจียงหยุนเอ๋อว่า:

“อ๊ายโย่ว เมียของจีถองใกล้คลอดแล้วสิ เดี๋ยวฉันไปหาซื้อเสื้อผ้าสองสามชุดแล้วส่งไปให้ ถือว่าเป็นของขวัญก็แล้วกันนะ”

เจียงหยุนเอ๋อเตรียมจะตอบโต้เธอ แต่โม่เสี่ยวฮุ่ยพูดแทรกขึ้นว่าไม่จำเป็น

“ไม่ต้องรบกวนเธอหรอก หลานของฉัน ไม่จำเป็นต้องให้คนนอกซื้อเสื้อผ้าให้ ถ้าพวกเธอไม่มีธุระอะไรแล้วก็รีบออกไปเถอะ อยู่ที่นี่อย่างกับแมลงวันน่ารังเกียจที่สุด”

จ้าวเฟยเฟยกับลี่เจี้ยนหวาเดินออกไปอย่างไม่พอใจ หลังจากที่ทั้งสองคนเดินออกไปแล้ว เห็นได้ชัดว่าโม่เสี่ยวฮุ่ยอารมณ์เริ่มไม่ดี

ซูม่านลีลูบมือของเธอเบาๆ แล้วปลอบใจเธอ “คุณไม่จำเป็นต้องโกรธเธอ โกรธแสดงว่าแพ้ ในเมื่อคุณหย่าร้างกับเขาแล้ว ก็ไม่ต้องไปสนใจเขาอีก คุณต้องรู้สึกปล่อยวาง คุณดูไม่ออกเหรอว่าผู้หญิงคนนั้นจงใจยั่วโมโหคุณ?”

โม่เสี่ยวฮุ่ยสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดขึ้นว่า: “ฉันเหนื่อยแล้ว พวกเรากลับกันเถอะ”

ลี่จุนซินกับเจียงหยุนเอ๋อเห็นท่าทางแบบนี้ของโม่เสี่ยวฮุ่ยแล้ว ก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก