บทที่ 594 ขยายสายสืบเพิ่ม

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

หลังจากที่กลับถึงบ้านแล้ว โม่เสี่ยวฮุ่ยยังคงอารมณ์เสียอยู่ นั่งลงบนโซฟาไม่และพูดอะไร ส่วนซูม่านลีนั้นปลอบใจเธออยู่ข้างๆ ตลอดเวลา

“โม่เสี่ยวฮุ่ย เรื่องทุกอย่างล้วนมีสองด้าน การหย่าร้างก็เช่นเดียวกัน ถ้าคุณดูแค่ด้านลบ ก็จะรู้สึกโศกเศร้า หดหู่ แต่ถ้าตัวคุณเองเปลี่ยนมุมคิดอีกมุมหนึ่ง มองปัญหาในด้านบวก แบบนั้นคุณก็จะหลุดพ้นจากความโศกเศร้าได้เอง”

“อีกอย่าง คุณดูฉันสิ ก็ผ่านมันมาได้แล้วเห็นไหม ถึงจะอยู่ตัวคนเดียวโลกก็ยังเหมือนเดิมมีพระอาทิตย์ขึ้นพระอาทิตย์ตก และมีช่วงเวลาที่สวยงาม อีกอย่างคุณดูสิหลานคนที่สองของคุณก็ใกล้จะคลอดแล้ว เขามีอะไร มีแค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่สามารถเชิดหน้าชูตาได้และลูกชายนอกสมรสอีกคนก็เท่านั้นเอง”

“ในเมื่อแยกทางการแล้ว ก็ไม่ต้องเป็นยึดติดในตัวเขาอีกต่อไป อย่าเพราะสูญเสียคนที่ไม่รักคุณไปหนึ่งคน แล้วทำให้คนที่รักคุณต้องเสียใจเพราะคุณ คุณดูสิว่าจุนซินพวกเขาเป็นห่วงคุณมากแค่ไหน”

โม่เสี่ยวฮุ่ยเห็นซูม่านลียอมเปิดเผยบาดแผลตัวเองเพื่อปลอบใจเธอ จึงถอนหายใจออกมา “คุณพี่ ฉันก็แค่ไม่พอใจเท่านั้นเอง”

“มีอะไรที่ไม่พอใจอีก ทุกอย่างล้วนอยู่ข้างคุณทั้งนั้น ท่านอยู่ข้างคุณ ลูกชายลูกสาวล้วนเป็นของคุณ อีกอย่างหลานคนที่สองก็กำลังจะคลอด คุณยังไม่อะไรไม่พอใจอีก”

โม่เสี่ยวฮุ่ยเงยหน้าขึ้นมองลี่จุนซินกับเจียงหยุนเอ๋อที่นั่งอยู่ตรงข้ามเธอ สุดท้ายก็ตัดสินใจ หันกลับมาแล้วกุมมือซูม่านลีไว้ แล้วพยักหน้า

“คุณพี่ คุณพี่พูดถูก ฉันมีทุกอย่าง ฉันจะไม่ยอมเสียใจให้ไอ้คนเลวคนนั้นอีก ปล่อยให้พวกเขาเล่นกันไปเองเถอะ ฉันไม่เล่นเป็นเพื่อนด้วยแล้ว”

เป็นเวลาพอเหมาะที่ถวนจื่อเลิกเรียนกลับมาพอดี ทักทายทุกคนอย่างกระตือรือร้นหนึ่งรอบ และหลังจากที่โม่เสี่ยวฮุ่ยเห็นหลานแล้ว ก็อารมณ์ดีขึ้น จากนั้นอุ้มถวนจื่อไว้ เงยหน้าพูดกับเจียงหยุนเอ๋อว่า:

“หยุนเอ๋อ คืนนี้แม่ไม่กลับแล้ว เมื่อคืนแม่ยังเล่นกับถวนจื่อไม่พอเลย ก็ถูกจีถองไล่ให้ไปพักผ่อนแล้ว วันนี้ยังไงแม่ก็จะขอเล่นกับหลานนานหน่อย หนูคงไม่รังเกียจอะไรนะ?”

“แม่ แม่พูดอะไรอ่ะ แม่จะอยู่นานแค่ไหนก็ได้ เอาอย่างนี้ก็แล้วกันคืนนี้ทุกคนห้ามกลับ พวกเรามากินเลี้ยงกัน เล็กๆ ในครอบครัว เดี๋ยวหนูไปให้ห้องครัวเตรียมกับข้าวเพิ่มสองสามอย่าง”

ในมื้อค่ำนั้น ลี่จีถองเอ่ยขึ้นพรุ่งนี้จะพาเจียงหยุนเอ๋อไปตรวจครรภ์ รบกวนฝากให้ลี่จุนซินดูแลทุกคนหน่อย

เจียงหยุนเอ๋อนึกขึ้นได้ ลี่จีถองครั้งที่แล้วตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลแล้วยังไม่เคยกลับไปตรวจเช็กซ้ำอีกเลย พรุ่งนี้ให้ลี่จีถองไปตรวจเช็กร่างกายพร้อมเธอ และโม่เสี่ยวฮุ่ยก็พูดขึ้นว่าจะไปด้วย พอดีเลยพรุ่งนี้ตรวจเช็กร่างกายเสร็จจะได้ไปเยี่ยมท่านด้วยกัน

คืนนั้นก่อนพักผ่อนเจียงหยุนเอ๋อเล่าเรื่องวันนี้ที่ได้เจอกันกับจ้าวเฟยเฟยกับลี่เจี้ยนหวาให้ลี่จีถองฟัง ลี่จีถองขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย และในขณะที่เตรียมจะลุกขึ้นเพื่อไปสอบถามโม่เสี่ยวฮุ่ยนั้น เจียงหยุนเอ๋อรีบดึงตัวของลี่จีถองไว้

“ตอนนี้แม่ไม่เป็นไรแล้ว คุณไม่ต้องไปถามอีก แต่ฉันรู้สึกว่าควรไปตักเตือนพวกเขาสักหน่อย ไม่เช่นนั้นครั้งต่อไปพวกเขาก็จะมาหาเรื่องแม่อีก”

“ได้ ฉันรู้แล้ว เรื่องนี้ผมจัดการเอง คุณไม่ต้องเป็นห่วง ผมไม่ยอมให้แม่ผมต้องเสียใจอยู่แล้ว พวกเขาก็แค่สนใจลูกนอกสมรสคนนั้นกับอำนาจในลี่ซื่อเท่านั้น ผมจะให้พวกเขาได้ลิ้มลองรสชาติของการสูญเสียดู”

วันรุ่งขึ้น ลี่จีถองปลุกให้เจียงหยุนเอ๋อลุกออกมาจากเตียงแต่เช้า หลังจากที่ทุกคนกินอาหารเช้าเสร็จ คนไปทำงานก็ไปทำงาน คนที่ไปโรงเรียนก็ไปโรงเรียน ส่วนคนที่ไปโรงพยาบาลก็ไปโรงพยาบาล

หลังจากที่เจียงหยุนเอ๋อตรวจครรภ์เสร็จ ทุกอย่างปรกติดี มีเพียงแค่โลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเอง เมื่อลี่จีถองได้ยิน รีบถามคุณหมอว่าควรทำยังไง คุณหมอท่านนี้ก็รู้จักลี่จีถองเหมือนกัน เขาไม่เคยเห็นอาการที่กระวนกระวายแบบนี้ของลี่จีถองมาก่อน

เขาหันไปมองเจียงหยุนเอ๋อ รู้สึกที่หนังสือพิมพ์ตีแผ่ว่าลี่จีถองเป็นคนคลั่งรักเมียนั้นไม่มีผิดเลย เขาเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้ม

“ประธานลี่ ไม่ต้องห่วง มีคนท้องมากมายที่เมื่อมาถึงระยะนี้แล้วล้วนโลหิตจางกันทั้งนั้น กินอาหารและผลไม้จำพวกเพิ่มธาตุเหล็กเยอะๆ ก็พอ ผักและเนื้อไม่ติดมัน เนื้อสัตว์ ตับหมูเลือดหมู ไข่ต่างๆ ที่มีธาตุเหล็กเยอะๆ ก็พอ และอย่าลืมกินโฟลิคด้วย”

โม่เสี่ยวฮุ่ยเห็นท่าทางแบบนี้ของลี่จีถองแล้ว อดไม่ได้ที่จะล้อเขาเล่นขึ้นมา

“ไอ้ลูกชาย ตอนแม่ไม่สบายไม่เห็นแกเป็นห่วงขนาดนี้เลย”

เจียงหยุนเอ๋อหน้าแดงขึ้นมาทันที แล้วรีบช่วยลี่จีถองอธิบาย:

“ไม่ใช่แบบนั้น คุณแม่ คุณแม่อย่าเพิ่งโกรธ ในใจของจีถองนั้นคุณแม่สำคัญที่สุด จริงๆ นะ”

“โม่เสี่ยวฮุ่ยเห็นเจียงหยุนเอ๋อช่วยลี่จีถองอธิบายอย่างจริงจัง อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “แม่ไม่ได้โกรธ แม่แค่ล้อจีถองเล่น เธอไม่ต้องคิดมาก”

เวลานี้ใบหน้าของเจียงหยุนเอ๋อยิ่งแดงขึ้นไปอีก

ทั้งสามคนหลังจากบอกลาคุณหมอแล้ว ก็ไปหาหลันเยว่เฉิน หลันเยว่เฉินตรวจเช็กร่างกายทั่วไปให้กับลี่จุนถิง บอกว่าไม่เป็นอะไร ทั้งสามคนจึงกลับบ้านไป

เมื่อเดินมาถึงหน้าประตูโรงพยาบาล ลี่จีถองได้รับโทรศัพท์ของชิงโม่ บอกว่าเขาสืบเรื่องของลี่หุยได้แล้ว และเขากำลังรอลี่จีถองที่ออฟฟิศทำงานของเขา

ที่ลี่จีถองหลังจากส่งเจียงหยุนเอ๋อกับโม่เสี่ยวฮุ่ยกลับถึงบ้านแล้ว รีบกลับไปที่บริษัทอีกครั้ง

เมื่อมาถึงบริษัท เห็นชิงโม่นั่งอยู่บนโซฟาออฟฟิศ ไขว้ขาไว้ ดื่มกาแฟอยู่ และอารมณ์ดีมาก

“นายบอกสืบเรื่องของลี่หุยได้แล้วไม่ใช่เหรอ?”

ชิงโม่ลุกขึ้นหยิบเอกสารที่อยู่ข้างๆ โยนให้กับลี่จีถอง แล้วดื่มกาแฟอีกหนึ่งคำ พูดว่า:

“ในนี้เป็นหลักฐานที่ลี่หุยร่วมมือกับเกลกรุ๊ป นายลองดูสิ”

และในขณะเดียวกันนั้นลี่จุนซินก็เข้ามาพอดี เธอหยิบเอกสารขึ้นมาดู โกรธจนหน้าแดง

“คนพวกนี้สมคบคิดกันจริงๆ ด้วย กินบนเรือนขี้บนหลังคาทั้งนั้น”

“เป็นแบบนี้ยิ่งดี หลายปีมานี้ลุงรองเลี้ยงพรรคพวกของตัวเองไว้ในบริษัทไม่น้อย ถือโอกาสนี้ ถอดเคี้ยวเล็บพวกเขาออก นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุด”

หลังจากนั้นติดต่อกันหลายวัน ลี่จีถองได้จัดการไปหลายคน

หลายวันมานี้ลี่หยูนห่วนเห็นคนสนิทของตัวเองกับของลี่เจี้ยนเย่ถูกลี่จีถองจัดการไปเกือบหมด เลยรู้ว่าลี่จีถองสืบเรื่องที่ลี่หุยสมคบคิดกับเกลกรุ๊ป ส่งผลให้คนของตัวเองก็ถูกสืบเจอไปด้วย ทำให้ตัวเขาและพ่อที่ทุ่มเททำงานมาหลายปีนี้ถูกลี่จีถองทำลายพังพินาศไปหมดสิ้น จึงรู้สึกโกรธมาก

เขาเรียกลี่หุยเข้ามา ด่าแรงๆ ไปหนึ่งฉาก ถึงทำให้อารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อย

“ลี่หุยแกมันใช้ไม่ได้ บอกแกแล้วใช่ไหมทำอะไรให้ระวังหน่อย ไม่ต้องรีบสร้างผลงาน แกดูตอนนี้สิ แค่คำสั่งเดียวของลี่จีถองก็ไล่คนของฉันออกหมด การทุ่มเทหลายปีมานี้ของฉันและพ่อฉันพังยับเยินหมด”

ลี่หุยถึงแม้จะถูกด่าอย่างไม่เป็นธรรม แต่ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือจะแก้ไขสถานการณ์นี้ยังไง ทั้งสองคนจึงต้องไปขอความช่วยเหลือจากอลัน

“พวกคุณอย่าเพิ่งใจร้อน ลี่จีถองเขาเพิ่งลงมือ พวกคุณก็กระวนกระวายขนาดนี้แล้ว นี่ไม่ใช่เหรอคือสิ่งที่เขาต้องการ จะว่าไปแล้วผมก็ได้วางสายสืบไว้ในแผนกของลี่จุนซินแล้วไม่ใช่เหรอ รอสักพัก อย่าเพิ่งใจร้อน”

“อีกอย่างบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปใหญ่ขนาดนั้น จะขยายสายสืบเพิ่มก็ไม่ใช่เรื่องยากไม่ใช่เหรอ”