ตอนที่ 456 พี่อวี่ เส้นทางของท่านถูกปิดกั้นแล้ว (2)

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ตอนที่ 456 พี่อวี่ เส้นทางของท่านถูกปิดกั้นแล้ว (2)

เขาวางแผนมาเป็นเวลานานและพบอีกวิธีหนึ่ง เขาแอบใช้วิชาลับของสำนักบำเพ็ญประจิมเพื่อส่งผลต่อจิตใจขององค์ชายรัชทายาทแห่งวังทะเลประจิม เขาพร้อมที่จะใช้โอกาสนี้เพื่อยึดครองเผ่ามังกรในรุ่นต่อไป

เผ่ามังกรให้ความสำคัญกับทายาทรุ่นใหม่เป็นอย่างมาก หากเขาควบคุมมากกว่าครึ่งหนึ่งของเผ่ามังกรรุ่นต่อไปและกดดันเผ่ามังกรในด้านอื่นๆ ได้ เช่นนั้น เหตุใดเผ่ามังกรจะไม่ล่มสลายลงเล่า?

ทว่าเพียงแผนการเพิ่งเริ่มต้นขึ้น วันนี้ ในที่สุดเขาก็สามารถเชิญองค์ชายมังกรทั้งสามแห่งวังมังกรทะเลทักษิณ วังมังกรทะเลบูรพา และวังมังกรทะเลอุดรมาได้ตามลำดับ เขายังพบลูกหลานของเจ้าหน้าที่มังกรที่สำคัญสองสามคน

เขาได้แอบเคลื่อนไหวอย่างลับๆ ในขณะนั้นเอง เขาก็ได้ย้ายบุตรชายสองคนของเจ้าหน้าที่มังกรที่ไม่สำคัญเมื่อเทพแห่งท้องทะเลมาถึง!

เป็นไปตามที่คาดไว้ เขาเป็นผู้ดำรงอยู่ที่สามารถทำให้ราชินียุงต้องเจ็บปวดสูญเสียอย่างต่อเนื่อง

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”

จินฉานจื่อไม่ได้กลัวเลยเมื่อถูกห้อมล้อมด้วยปรมาจารย์เผ่ามังกรสามคน เขาหัวเราะเสียงดังและกล่าวชมว่า “เทพแห่งท้องทะเล เจ้าชนะแล้ว!”

หือ?

แม้หลี่ฉางโช่วจะเต็มไปด้วยคำถาม ในใจ แต่ท่าทีภายนอกของเขา ก็ยังคงสงบนิ่ง เขายิ้มอย่างสบายใจ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ที่ด้านหลังของเขา ทั้งองค์เง็กเซียนและแม่ทัพตงมู่ต่างมองหน้ากัน

ดวงตาของแม่ทัพตงมู่เต็มไปด้วยแววชื่นชม แม้เขาจะไม่เข้าใจว่าเทพแห่งท้องทะเลทำได้อย่างไร แต่เขาก็ไม่อาจให้ฝ่าบาทเห็นว่าเขาไม่เข้าใจได้

องค์เง็กเซียนยังเผยรอยยิ้มบาง ราวกับว่าทุกอย่างล้วนอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา

ในขณะนั้น องค์ชายใหญ่แห่งวังมังกรทะเลบูรพาก็ได้บินมาอยู่ตรงหน้าหลี่ฉางโซ่วแล้ว และมีชายชราคนหนึ่งเดินตามหลังเขามาและโค้งคำนับให้หลี่ฉางโซ่วอย่างสุดซึ้ง

“พี่ชายเทพทะเล! วันนี้ข้าเกือบถูกคนล่อหลอกแล้ว ทั้งหมดนี้ล้วนต้องขอบคุณพี่ชายเทพทะเลที่มาได้ทันการณ์!”

หลี่ฉางโช่วพยักหน้พลางยิ้มและถามชายชราว่า “เหตุใดท่านถึงมาที่นี่ได้?”

ผู้อาวุโสเผ่ามังกรรีบกล่าวว่า “เทพแห่งท้องทะเล เป็นองค์ชายรองที่พบเราและขอให้พวกเรามาช่วยปกป้ององค์รัชทายาท” อ๋าวเจี่ยยิ้มและกล่าวว่า “เป็นเช่นนั้น พี่ชายเทพทะเลได้เตรียมการไว้แล้ว!”

หลี่ฉางโซ่วถึงกับพูดไม่ออก

เรื่องนี้เขาไม่ได้เตรียมการจริงๆ น่าจะเป็นอ๋าวอี่ที่เป็นผู้จัดการ

หลี่ฉางโซ่วกล่าวอย่างสงบว่า “ทุกคน โปรดโจมตีและจับสัตว์ร้ายตัวนี้!”

“ได้!”

ผู้อาวุโสหัวมังกรประสานมือคารวะและตอบกลับ เขาหันกลับมาและแผดเสียงคำรามของมังกรที่สั่นสะเทือนปฐพี ปรมาจารย์เผ่ามังกรทั้งสามที่ล้อมรอบจินฉานจื่อ ต่างก็โจมตีพร้อมกันในขณะที่จินฉานจื่อ หัวเราะและหายตัวไปด้วยท่าทางแปลกประหลาด และเมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง เขาก็อยู่ที่ด้านหลังขององค์ชายที่งุนงงแห่งวังมังกรทะเลอุดรแล้ว

ทันใดนั้น มีดสั้นที่บางราวกับปีกก็ถูกกดลงที่ลำคอขององค์ชายมังกร!

ในเวลาเดียวกันนั้น ใบมีดบางๆ ก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของลำคอขององค์ชายวังมังกรทะเลประจิมและวังมังกรทะเลทักษิณ!

องค์ชายมังกรทั้งสามล้วนถูกตรึงเอาไว้ในทันที มังกรศึกโบราณทั้งสามทำได้เพียงหยุดเอาไว้เท่านั้น

เมื่อเห็นเช่นนั้น อ๋าวเจี่ย ซึ่งอยู่ห่างออกไปหลายพันลี้ ก็ซ่อนตัวอยู่ข้างหลังผู้อาวุโสหัวมังกรทันทีและมองเข้าไปในช่วงระยะห่างจากด้านหลังไหล่ของผู้อาวุโสหัวมังกร

จินฉานจื่อกวาดสายตาไปทั่วบริเวณโดยรอบ เขายังคงสงบนิ่งและสุขุมเยือกเย็น เห็นได้ชัดว่าเขาได้วางแผนวิธีที่จะหลบหนีไปแล้ว

เขายิ้มและกล่าวว่า “ข้าเก่งกาจเรื่องการใช้พลังจิตเคลื่อนย้ายและมีความเร็วสูงมาก เกรงว่ามันจะเป็นปัญหาหากพวกเจ้าต้องการให้ข้าอยู่ที่นี่ เทพแห่งท้องทะเล ไฉนเราไม่ใช้โอกาสนี้คุยกันอีกเล่า? หลังจากที่ได้คุยกับเทพแห่งท้องทะเล ครั้งล่าสุด ข้าก็ก็รู้สึกว่า เทพแห่งท้องทะเลทำให้ข้าหลงทางจนไม่อาจแสดงความคิดของข้าได้”

หลี่ฉางโซ่วกล่าวอย่างสงบว่า “ข้าไม่มีอะไรจะคุยกับเจ้า จินฉานจื่อ เจ้ากล้าจะฆ่าองค์ชายทั้งสามนี้จริงๆ หรือ? สำนักบำเพ็ญประจิมต้องการให้เผ่ามังกรเชื่อฟังคำสั่งของเจ้าหรือเจ้าต้องการให้เผ่ามังกรสู้ตายกับเจ้า?”

“ข้าเกรงว่าเทพแห่งท้องทะเลจะเข้าใจผิด” จินฉานจื่อกล่าวอย่างเย็นชา “ข้าเป็นเพียงผู้ฝึกบำเพ็ญอิสระบนภูเขา ข้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับภูเขาวิญญาณตะวันตก”

“จริงหรือ?”

หลี่ฉางโซ่วกล่าวอย่างสงบว่า “ปฏิญญาต้าเต๋าที่เจ้าให้สัตย์สาบานเอาไว้เมื่อครั้งล่าสุดยังอยู่ในหูของข้า เหตุใดเจ้าถึงไม่กล้าจดจำผู้สนับสนุนของเจ้าในตอนนี้? หรือว่าเขาถูกไล่ออกแล้ว?

“ช่างน่าขันอะไรเช่นนี้!”

จินฉานจื่อตะโกนอย่างเย็นชา คราวนี้ เขาระวังตัวมากขึ้นและไม่โต้เถียงต่อ

ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วกได้ยินข้อความเสียงด้วยน้ำเสียงมีเสน่ห์และอ่อนโยน แต่ยังเขินอายอยู่เล็กน้อย ดุจกลิ่นอายของบุปผาละเอียดอ่อนที่ถูกจงใจสร้างขึ้นมา

“นายท่าน ข้าอยู่ที่นี่แล้ว ท่านสามารถส่งข้อความเสียงไปยังปลาวิญญาณในทะเล ข้าซ่อนตัวอยู่ห่างออกไปพันลี้”

ผู้บำเพ็ญเหวินจิงมาถึงแล้ว

พวกเขาไม่ได้ติดต่อกันมาระยะหนึ่งแล้ว เหตุใดเขาถึงรู้สึกว่านางเปลี่ยนไป?

หลี่ฉางโซ่วส่งข้อความเสียงไปยังปลาวิญญาณทันทีและสั่งว่า “หากหลังจากนี้ จินฉานจื่อสามารถหลบหนีไปได้ เจ้าจงใช้โอกาสนี้ช่วยเขา จำไว้ว่า ห้ามเปิดเผยตัวเอง หากหลังจากนี้ จินฉานจื่อหนีไปไม่ได้ เจ้าก็ไม่ต้องปรากฏตัว แค่แสร้งทำเป็นว่า เจ้าไม่เคยมาที่นี่มาก่อน”

ผู้บำเพ็ญเหวินจิงตอบผ่านการส่งข้อความเสียงทันทีว่า “ข้าจะเชื่อฟังคำสั่งของท่าน มีปรมาจารย์จากสำนักบำเพ็ญประจิมซ่อนอยู่ที่นี่ โปรดระวังวังตัวด้วย”

หลี่ฉางโซ่วยิ้มเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาได้พิจารณาเรื่องนั้นแล้ว เพียงขณะที่เขาเตรียมการให้ผู้บำเพ็ญเหวินจิงเสร็จ เขาก็ได้ยินจินฉานจื่อกล่าวเสียงดังว่า “เหตุใดเทพแห่งท้องทะเลถึงหยุดอยู่ห่างออกไปหกร้อยลี้เล่า? อาจจะกลัว? หากข้าจำไม่ผิด เทพแห่งท้องทะเลยังคงใช้ร่างจำแลงของเขาอยู่ แล้วเขาไม่กล้าคุยกับข้าได้อย่างไร?”

นั่นเป็นการยั่วยุ

หลี่ฉางโซ่วกล่าวอย่างสงบว่า “บรรดาผู้ที่สนทนาเต๋ากับข้า ล้วนเป็นผู้กล้าทั้งหมด พวกเขาล้วนไม่ใช่คนเล็กๆ[1]”

นั่นเป็นจิตวิทยาย้อนกลับ

“เป็นผู้กล้าอะไร” จินฉานจื่อเยาะเย้ย “หากจะพูดเรื่องจอมวายร้าย คนสองคนที่อยู่ข้างหลังเจ้าเป็นใครเล่า? ดูจากท่าทีแล้ว กลิ่นอายลมปราณของพวกเขาดูธรรมดาและมีบุญจากศาลสวรรค์อยู่บ้าง พวกเขาเป็นเพียงเทพน้อยแห่งศาลสวรรค์ เหตุใดกัน ข้าด้อยกว่าพวกเขาหรือ?”

แม่ทัพตงมู่ตะโกนว่า “เจ้า!”

“เฮ้” องค์เง็กเซียนขัดจังหวะแม่ทัพตงมู่ด้วยรอยยิ้ม เขาไม่ได้เอ่ยอะไรและมองจินฉานจื่อเงียบๆ

หลี่ฉางโซ่วก่นด่า

“ไร้สาระ! น่าขัน! จินฉานจื่อ เจ้าใช้พลังเวทเพื่อพูดคุยถึงผู้กล้า แต่เจ้ากลับไม่รู้ว่า ข้ากำลังพูดถึงศีลธรรมและตัวตน! แต่สิ่งที่เจ้าพูดคืออารมณ์ ดูการกระทำของเจ้าสิ เจ้ากำลังใช้ชีวิตขององค์ชายทั้งสามเพื่อข่มขู่ข้า แล้วเจ้ายังอยากจะสนทนาเต๋ากับข้าอีกหรือ เรียกได้ว่า เจ้ามันไร้ยางอาย แล้วเจ้าจะไม่ถูกเรียกว่าจอมวายร้ายได้อย่างไร?”

“เจ้า เทพแห่งท้องทะเล! เจ้ามันปากคอเราะรานนัก ข้าพูดสู้เจ้าไม่ได้!”

ดวงตาของจินฉานจื่อฉายเจตนาสังหารออกมา และทันทีที่เขากล่าวจบ ก็มีแสงสีทองพุ่งขึ้นไปแล้วร่างของเขาก็หายวับไป!

มังกรศึกโบราณทั้งสาม ปล่อยหมัดออกไปยังที่ใดสักแห่งบนท้องฟ้าพร้อมๆ กัน ทันใดนั้น ทั่วทั้งจักรวาลพลันป่วนปั่นสั่นสะเทือนและหมู่เมฆก็แตกเป็นเสี่ยงๆ แต่พวกเขาไม่ได้อะไรเลย!

ทันใดนั้น มังกรศึกก็ร้องตะโกนว่า “เทพแห่งท้องทะเล ระวัง!”

หลี่ฉางโซ่วรู้สึกได้ถึงอันตรายทันที มีกระแสวังวนสีดำปรากฏขึ้นบนพื้นผิวทะเลที่อยู่ห่างออกไปหนึ่งร้อยจั้ง มีลำแสงสีทองจางๆ หกสายพุ่งออกมาจากมัน!

ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วกระโดดมาจากทางซ้ายและยืนกางแขนของเขาอยู่ด้านหน้าองค์เง็กเซียน! ในขณะเดียวกันนั้น แม่ทัพตงมู่ก็ไม่สนใจความปลอดภัยของตัวเอง เขากระโดดมาจากทางขวาเพื่อปกป้ององค์เง็กเซียนเช่นกัน พวกเขาทั้งสองคนดูราวกับว่าพร้อมที่จะตาย พวกเขาเพียงร้องตะโกนสั้นๆ ว่า “คุ้มกัน” และ “คุ้มกัน”

องค์เง็กเซียนถึงกับพูดไม่ออก หน้าผากของเขาเต็มไปด้วยเส้นเลือดปูดโปน ชั่วขณะนั้น เขาแทบจะตบแขนขวาออกไป

ภายใต้การปกป้องของหลี่ฉางโซ่วและแม่ทัพตงมู่ องค์เง็กเซียนก็เคาะนิ้วของเขาเบาๆ ทันใดนั้น ก็มีแสงสีขาวสาดส่องมาจากด้านบนและเข้าปกคลุมตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของหลี่ฉางโซ่ว

พร้อมด้วยเสียงกระทบกันเล็กน้อย ใบมีดสีทองบางๆ หกใบก็ถูกแสงสีขาวขวางกั้นเอาไว้อย่างง่ายดาย…

ลำแสงสีขาวสองสายพุ่งออกมาจากดวงตาขององค์เง็กเซียน แล้วแสงสีขาวก็รวมตัวกันและก่อตัวขึ้นเป็นกระบี่ขนาดใหญ่ที่ฟันเข้าไปในกระแสวังวน!

มีเสียงคร่ำครวญเจ็บปวดดังมาจากกระแสวังวนนั้น ร่างที่พร่ามัวสั่นเล็กน้อยและหายวับไปพร้อมกับกระแสวังวน มีเลือดหยดลงมาจากท้องฟ้าเพียงเล็กน้อย… แล้วคำพูดที่ดุร้ายของจินฉานจื่อก็ดังมาจากทั่วทุกทิศทาง

“ข้าไม่เคยคิดเลยว่าจะในศาลสวรรค์จะมีพยัคฆ์หมอบ มังกรซ่อนอยู่เช่นนี้ วันนี้ ข้าได้สัมผัสมันแล้ว! เจ้าซ่อนลูกศรลับทำร้ายคน[2]เอาไว้ เจ้าลอบทำร้ายผู้อื่นลับๆ สหายเต๋า เจ้าไม่ใช่ผู้กล้า เจ้ามันจอมวายร้ายที่แท้จริง! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”

หลี่ฉางโซ่วแอบสังเกตสีหน้าท่าทีขององค์เง็กเซียน และหัวใจของเขาก็กระตุกขึ้น

เหตุใดพี่คนนี้ยังยิ้มอยู่ได้

“เฮ้อ พี่อวี่ ในที่สุด ข้าก็รู้แล้วว่า เหตุใดเมื่อท่านกลับชาติมาเกิดใหม่เพื่อศึกษาพระสูตร ท่านถึงถูกแม่ทัพนิรนามแห่งศาลสวรรค์สังหารถึงเก้าครั้ง…”

ดวงตาขององค์เง็กเซียนเต็มไปด้วยแสงสีขาว เขามองไปในทิศทางที่แน่นอนบนท้องฟ้าและส่งข้อความเสียงไปยังหลี่ฉางโซ่วว่า “มีคนช่วยเขา เขาหนีไปแล้ว.”

“ฝ่าบาท ใครเป็นคนรับเขาหรือ?”

“สตรีผู้หนึ่งที่น่าจะเป็นสัตว์ร้ายเช่นกัน”

หลี่ฉางโซ่วยิ้มและกล่าวว่า “แล้วฝ่าบาทคิดอย่างไรกับสตรีผู้นั้น?”

“เฮ้ อย่าคิดมาก” องค์เง็กเซียนกล่าวอย่างจริงจัง “ศิษย์น้องหญิงของข้าและข้าเป็นตัวแทนของการแต่งงานระหว่างสวรรค์และปฐพี เราไม่อาจทำเรื่องไม่ยั้งคิดเช่นนั้นได้”

หลี่ฉางโซ่วถึงกับพูดไม่ออก

เขาไม่อาจตีความและทำความเข้าใจในถ้อยคำของฝ่าบาทได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน

………………………………………………………………..

[1] คนไม่สำคัญ ไม่โดดเด่น

[2] ใช้แผนการ กลอุบาย สิ่งของซ่อนเร้นเพื่อลอบทำร้ายคน หรือใช้พฤติกรรมลอบทำร้ายผู้อื่น