ในขณะที่หลันเยว่เฉินได้รับโทรศัพท์นั้น เขากำลังเดินทางไปที่นัดหมายไว้ แม่ของเขาได้แนะนำผู้หญิงให้เขา แต่ตอนนี้เกิดเรื่องขึ้นกับเจียงหยุนเอ๋อ หลันเยว่เฉินจึงต้องโทรศัพท์ไปขอโทษผู้หญิงคนนั้น จากนั้นได้โทรไปโรงพยาบาลอีกครั้ง
เมื่อหลันเยว่เฉินมาถึง ลี่จีถองก็มาถึงพอดี และคุณหมอก็รอรับอยู่ทางเข้าของโรงพยาบาลแล้ว
หลังจากที่ลี่จีถองลงมาจากรถแล้ว ไม่ได้อุ้มเจียงหยุนเอ๋อขึ้นรถเข็นของโรงพยาบาล แต่เขาอุ้มเข้าไปด้วยตัวเอง ลี่จีถองก้มมองเจียงหยุนเอ๋อที่พูดอะไรไม่ได้แล้ว รู้สึกปวดใจมาก ทำให้ยิ่งเดินเร็วขึ้นไปอีก
ลี่จีถองวางเจียงหยุนเอ๋อลงที่เตียงของผู้ป่วยแล้ว ก้มลง แล้วจับมือเจียงหยุนเอ๋อไว้
“ไม่เป็นไรนะ หยุนเอ๋อ ไม่เป็นไรนะ”
คุณหมอให้พยาบาลฉีดยาแก้ปวดให้เจียงหยุนเอ๋อก่อนหนึ่งเข็ม จากนั้นรีบตรวจร่างกายให้เจียงหยุนเอ๋อ
หลังจากที่ตรวจเช็กเสร็จ เจียงหยุนเอ๋อถูกส่งตัวไปที่ห้องผู้ป่วยทั่วไป ถึงแม้จะระงับความปวดได้แล้ว แต่ลี่จีถองยังคงเป็นห่วงอยู่
“คุณแม่ ที่ภรรยาผมปวดท้องเป็นเพราะสาเหตุอะไรเหรอ?จะมีอันตรายถึงชีวิตไหม?”
“ประธานลี่ คุณไม่ต้องตื่นเต้น คุณนายไม่เป็นอะไรมากหรอก ผมรู้ว่าช่วงนี้ลี่ซื่อกรุ๊ปมีเรื่องเกิดขึ้นเยอะ คุณนายน่าจะกังวลมากเกินไป จึงทำให้อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ มากเกินไป และส่งผลให้เลือดไปหล่อเลี้ยงในสมองไม่เพียงพอ จึงกระทบต่อเด็กทางอ้อม”
“อย่างไรก็ตาม ในเดือนที่ 7 ของการตั้งครรภ์ สตรีมีครรภ์มีแนวโน้มที่จะคลอดก่อนกำหนด หากร่างกายมีตรงไหนไม่สบาย ให้ทำตัวตามสบายและใจเย็น จากนั้นค่อยมาพบแพทย์ที่โรงพยาบาล ในช่วงเวลานี้คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ไม่เพียงแต่ควรใส่ใจกับโภชนาการของอาหารเท่านั้น แต่ยังต้องให้ความสำคัญกับการพักผ่อน และไม่ทำงานหนักเกินไปด้วย มิฉะนั้นถ้าควบคุมได้ไม่ดี ก็จะคลอดก่อนกำหนดได้ ”
“เดี๋ยว ผมจะให้พยาบาลเตรียมยาบำรุงครรภ์ให้คุณนาย ไม่ต้องห่วง ยานี้ไม่เป็นอันตรายต่อเด็ก”
หลังจากที่คุณหมอพูดกับลี่จีถองเสร็จ ได้หันไปพูดกับเจียงหยุนเอ๋อ
“คุณนาย ช่วงนี้คุณต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ห้ามทำงานหนักอีก หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ต้องใช้กำลังมาก หลีกเลี่ยงการนอนดึก รักษาอารมณ์ให้มีความสุข และนอนหลับให้เพียงพอ ”
“คืนนี้ให้น้ำเกลือเสร็จ พรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้ หลังจากกลับไปแล้วต้องพักผ่อนให้เพียงพอ”
หลังจากที่คุณหมอสั่งเสร็จ ก็เดินออกไป หลันเยว่เฉินส่งสัญญาณให้ลี่จีถอง แล้วเดินตามออกไป
“จีถอง ฉันช่วยนายไปส่งคุณหมอนะ”
หลังจากที่พวกเขาออกไปแล้ว ลี่จีถองนั่งลงข้างเตียง แล้วจับมือเจียงหยุนเอ๋อไว้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความเสียใจ
“หยุนเอ๋อ ขอโทษด้วย ช่วงนี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย ทำให้คุณต้องเป็นห่วง หลังจากนี้ผมจะแบ่งเวลามาอยู่เป็นเพื่อนคุณให้เพิ่มมากขึ้น”
เจียงหยุนเอ๋อก็รู้สึกขอโทษเช่นกัน “จีถอง น่าจะเป็นฉันที่ต้องขอโทษ ช่วงนี้สำคัญขนาดนี้ ฉันยังเพิ่มภาระให้คุณอีก”
“คุณอย่าพูดแบบนี้ ผมต่างหากที่ดูแลคุณไม่ดี เรื่องของบริษัทคุณไม่ต้องเป็นห่วง ศัตรูพวกนั้นไม่ต้องกังวล เมื่อเทียบกันแล้ว คุณกับลูกสำคัญกว่า ยังเหลืออีกสองเดือน ผมจะดูแลคุณเป็นอย่างดีแน่นอน”
กลางดึก หลังจากที่เจียงหยุนเอ๋อให้น้ำเกลือเสร็จ อยากกลับบ้าน แต่ลีจีถองอยากให้เธออยู่สังเกตอาการที่โรงพยาบาลต่ออีกสักพัก
“จีถอง ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่ ฉันอยากกลับบ้านจริงๆ”
ลี่จีถองทำอะไรไม่ได้ จึงเรียกคุณหมอมาอีกครั้ง หลังจากที่คุณหมอแจ้งว่าเจียงหยุนเอ๋อไม่เป็นไรแล้ว ลี่จีถองจึงยอมตอบตกลง
เมื่อทั้งสองคนกลับมาถึงบ้าน โม่เสี่ยวฮุ่ยกับซูม่านลียังไม่นอน เมื่อเห็นทั้งสองคนกลับมา จึงรีบเข้าไปสอบถาม
“จีถอง เป็นยังไงบ้าง?เจียงหยุนเอ๋อไม่เป็นไรนะ?”
เจียงหยุนเอ๋อยิ้มให้โม่เสี่ยวฮุ่ยกับซูม่านลี “แม่ ฉันไม่เป็นไร ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้เป็นห่วง”
“ดูลูกคนนี้พูดอะไรกัน เป็นห่วงเธอมันเป็นเรื่องปรกติอยู่แล้วหนิ”
“เธอไม่เป็นไรก็ดีแล้ว เมื่อกี้ทำพวกเราตกใจหมด ดึกมากแล้ว ขึ้นข้างบนไปพักผ่อนเถอะ มีเรื่องอะไรไว้พรุ่งนี้ค่อยคุยกัน”
เจียงหยุนเอ๋อกับลี่จีถองพยักหน้า แล้วขึ้นไปข้างบนพักผ่อน
“แม่ แม่สองคนก็รีบไปพักผ่อนเถอะ”
หลายวันติดต่อกัน ลี่จีถองเลิกงานแต่เช้าเพื่อกลับมาอยู่เป็นเพื่อนเจียงหยุนเอ๋อ นวดเท้าให้เธอ พยุงเธอค่อยๆ เดินออกกำลังกายที่บ้าน หรือดูหนังกับอ่านหนังสือเป็นเพื่อนเธอ
ลี่จีถองกับเจียงหยุนเอ๋อคิดถึงถวนจื่อ ดังนั้นวันหยุดสุดสัปดาห์จึงไปรับถวนจื่อกลับบ้าน เมื่อถวนจื่อมาถึง เห็นเจียงหยุนเอ๋อนั่งอยู่บนโซฟา ถอดรองเท้าออกแล้ววิ่งไปหาเจียงหยุนเอ๋อทันที
เมื่อลี่จีถองเห็นถวนจื่อจะโผเข้ากอดเจียงหยุนเอ๋อ และก่อนที่ถวนจื่อจะโดนตัวเจียงหยุนเอ๋อนั้น ตาเร็วมือไวรีบเข้าไปดึงตัวถวนจื่อขึ้นมา
หลังงจากที่ทุกคนเห็นถวนจื่อถูกดึงตัวขึ้นมา ท่าทางที่มึนงงนั้น ดูแล้วรู้สึกน่ารักมาก จึงหัวเราะเสียงดังออกมาพร้อมกัน
หลังจากที่ถวนจื่อได้ยินเสียงหัวเราะ จึงได้รู้ตัว และเริ่มขัดขืน
“คุณพ่อ คุณพ่อใจร้าย รีบปล่อยผมลงมาเดี๋ยวนี้!”
ลี่จีถองเห็นถวนจื่อเริ่มขัดขืน จึงปล่อยเขาลงมา และลูบหัวเขาเบาๆ
“ตอนนี้คุณแม่ท้องใหญ่มากแล้ว ถ้าหนูพุ่งเข้าไปแล้วคุณแม่ได้รับบาดเจ็บจะทำยังไง”
ถวนจื่อเบ้ปาก ท่าทางไม่พอใจ “ผมรู้ว่าต้องทำยังไง”
เจียงหยุนเอ๋อรู้ว่าถวนจื่อเริ่มไม่พอใจ จึงรีบดึงถวนจื่อมากอดไว้
“ถวนจื่อของแม่ก็แค่คิดถึงแม่มากเกินไป เลยตื่นเต้นไปหน่อย ใช่ไหม?ตอนที่ถวนจื่อของเราจะพุ่งเข้ามานั้น ต้องรู้จักควบคุมแรงพุ่งอยู่แล้ว ใช่ไหม?”
ถวนจื่อมุดเข้าไปในอ้อมกอดของเจียงหยุนเอ๋อ กอดเจียงหยุนเอ๋อเบาๆ บ่นพึมพำว่า “ผมโตแล้ว ผมรู้ว่าต้องทำยังไง คุณพ่อใจร้ายเกินไป”
จนกระทั่งถึงเวลากินข้าว ถวนจื่อก็ยังโกรธลี่จีถองอยู่ ลี่จีถองต้องใช้เวลานานมากกว่าจะเกลี้ยกล่อมถวนจื่อให้หายโกรธได้ และทั้งครอบครัวก็กลับมามีความสุขและรักใคร่กัน
หลังจากที่กินข้าวเสร็จ ทุกคนนั่งคุยกันบนโซฟา ทันใดนั้นเจียงหยุนเอ๋อนึกถึงลี่จุนซิน และถามว่าพี่ลี่จุนซินจะกลับมาเมื่อไร
ลี่จีถองทำท่าแบมือ, “ผมไม่รู้หรอก ผมแค่พูดว่าให้เธอกับเวียร์เที่ยวต่อที่นั่นอีกสองสามวัน คุณดูสิตอนนี้ก็ผ่านไปกี่วันแล้ว หรือคุณจะลองโทรศัพท์ไปถามดู?”
เมื่อลี่จีถองพูดจบ เจียงหยุนเอ๋อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาวิดีโอคอลหาลี่จุนซิน
ตอนที่ลี่จุนซินรับโทรศัพท์ขึ้นมานั้น เพิ่งมาถึงด้านนอกของบริติชมิวเซียมพอดี
“ไฮ หยุนเอ๋อ เธอสบายดีไหม?”
“ไฮ พี่ ฉันสบายดี พี่เที่ยวอยู่ข้างนอกสนุกไหม?ตึกข้างหลังพี่สวยจังเลย”
“พี่เที่ยวสนุกมาก พี่กับเวียร์เพิ่งถึงบริติชมิวเซียม เธอก็โทรศัพท์มาพอดี เธอดูสิ ที่นี่ก็คือบริติชมิวเซียม สวยมากจริงๆ !รอเธอคลอดลูกเสร็จ พวกเราก็มาเที่ยวกันอีกครั้ง”
“ได้สิ พี่ ฉันรู้ว่าข้างในบริติชมิวเซียมมีมัมมี่ เดี๋ยวพี่อย่าลืมถ่ายรูปและวิดีโอนะ แล้วส่งมาให้ฉัน ให้ฉันดูหน่อยว่าเป็นของจริงหรือเปล่า”
“ได้สิ เดี๋ยวพวกเราไปหามัมมี่ก่อน จากนั้นค่อยไปดูพิพิธภัณฑ์เมืองจีน ไปดูว่าพวกเขาปล้นสมบัติประจำชาติอะไรของพวกเราไปบ้าง
“พี่ โชคดีที่ตอนนี้พี่ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษ ถ้าคนต่างชาติที่อยู่ใกล้ๆ พี่ได้ยินแล้วล่ะก็ ระวังจะถูกพวกเขาตีนะ”
“เป็นไปไม่ได้หรอก ประวัติศาสตร์นี้ ทุกคนรู้หมด ถ้าไม่เชื่อเดี๋ยวพี่ไปสัมภาษณ์สามสี่คนให้ดู”
หลังจากที่ลี่จุนซินพูดจบ ได้ไปสัมภาษณ์คนต่างชาติสามสี่คนดูจริงๆ