บทที่ 624 ความคิดสุดโต่ง

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 624 ความคิดสุดโต่ง

บทที่ 624 ความคิดสุดโต่ง

ซูอันพบว่าตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก หากนางถูกผนึกเช่นนี้ ก็มีแนวโน้มว่าฉู่จงเทียนจะโดนเช่นกัน ไม่มีทางที่เขาจะพาทั้งสองคนหนีออกไปด้วยระดับการบ่มเพาะในปัจจุบันได้

“ว่าแต่ฮวนเจาเป็นยังไงบ้าง?” ฉินหว่านหรูถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล

“ท่านแม่ยาย ไม่ต้องห่วง ข้าได้พานางไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว” ซูอันตอบ

“ก็ดี ก็ดี” ฉินหว่านหรูหายใจออกด้วยความโล่งอก นางล้วงมือเข้าไปที่คอเสื้อ หน้าของนางแดงซ่านขึ้น “เจ้าช่วยหันกลับไปได้ไหม?”

“อื้ม” ซูอันงุนงง แต่หันกลับมาโดยไม่รู้ตัว

“นี่สำหรับเจ้า” ฉินหว่านหรูพูดอย่างรวดเร็ว

นางวางตราประทับสี่เหลี่ยมไว้ในมือของเขา เขาตรวจสอบ และตกใจเมื่อเห็นว่านี่เป็นตราคำสั่ง!

อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกกระอักกระอ่วนนิดหน่อยเมื่อรับมันมา ตราคำสั่งโลหะนี้นั้นไม่ได้เย็นยะเยือกแต่กลับอบอุ่นอย่างเหลือเชื่อ นอกจากนี้ยังมีกลิ่นหอมหลงเหลืออยู่บนมันอีกด้วย

ใบหน้าของฉินหว่านหรูแดงขึ้น นางพูดเบา ๆ ว่า “สิ่งนี้สำคัญมาก ข้าจึงเก็บมันติดตัวเอาไว้ตลอด ข้าคือพระชายาแห่งอ๋อง หลิวเหย่าจะไม่ค้นร่างกายของข้าแม้ว่าเขาจะค้นคฤหาสน์ทั้งหมด นี่คือเหตุผลว่า ทำไมเขาถึงไม่พบมัน”

ซูอันจำได้ว่านางล้วงมือเข้าไปในคอเสื้อของนางอย่างไร ดังนั้นเขาจึงเดาได้ว่ามันถูกซ่อนไว้ที่ไหน เขาอดไม่ได้ที่จะมองนางอีกครั้ง มีที่ว่างมากมายอยู่ตรงนั้นด้วยงั้นเหรอ!

การจ้องอย่างงุนงงของเขา ทำให้ฉินหว่านหรูอึดอัดมาก นางกระแอมเบา ๆ แล้วพูดว่า “นำตราคำสั่งนี้ไปเรียกกองทัพผ้าคลุมสีชาดที่ประจำการอยู่ในเขตชานเมือง หลิวเหย่าล้ำเส้นเกินไป! เราจะทำให้เขารู้ว่าตระกูลฉู่ไม่ใช่ตระกูลไก่กาที่เขาจะเหยียบย่ำเมื่อไหร่ก็ได้!”

ซูอันตกตะลึง สองคนนี้เป็นแม่ลูกกันจริง ๆ คราวนี้พวกนางตัดสินใจเหมือนกันทุกประการ

“เจ้ามองข้าทำไม?” ฉินหว่านหรูเริ่มตกใจ นางตรวจสอบเสื้อผ้าของตัวเองโดยไม่รู้ตัว กลัวว่านางอาจจะลืมกลับปกเสื้อของนางขึ้นหลังจากแกะมันออก

“ความคิดของท่านกับความคิดของชูเหยียนเหมือนกันไม่มีผิด!” ซูอันพูดซ้ำแผนของฉู่ชูเหยียนกับนาง

“สมแล้วที่เป็นลูกสาวของข้า!” ฉินหว่านหรูยังยิ้ม แต่หลังจากนั้นกลับถอนหายใจทันที “แต่ข้ากลัวว่าทุกอย่างจะไม่ราบรื่นอย่างที่นางคาดไว้ หงซิงอิงเป็นคนขายเราและเขายังมีสมุดบัญชีอีกด้วย ทั้งหมดเป็นความผิดของข้าที่ไร้ประโยชน์ ฉู่เทียนเซิงขโมยมันไปก่อนหน้านี้ ”

“หงซิงอิง!” ซูอันกัดฟันด้วยความโกรธ เป็นความผิดของไอ้สารเลวนั่นที่ชี้ตัวเขาให้หลิวเหย่าเห็นก่อนหน้านี้ด้วย จนเขาเกือบจะเสียชีวิต

“ไม่ต้องห่วง ข้าจะบอกเรื่องพวกนี้กับชูเหยียน เราจะคุยกันว่าต้องทำยังไงต่อไป ที่แย่ที่สุด ข้าจะฆ่าไอ้หงซิงอิงนั่นด้วยวิธีของข้า แล้วใช้กองทัพผ้าคลุมสีชาดกำจัดหลิวเหย่าซะ” ซูอันประกาศ

ฉินหว่านหรูตกใจ “อย่าพูดเรื่องไร้สาระแบบนั้น เราทนใช้ชีวิตเหมือนเชลยได้ แต่ไม่มีทางที่เราจะรอดได้ถ้าเราก่อกบฏ!”

เห็นได้ชัดว่าผู้คนในโลกนี้มีความรู้สึกเกรงกลัวต่อตัวตนชั้นผู้ปกครองแบบฝังหัว แต่มันก็ไม่แปลก เพราะจักรพรรดิเป็นผู้ที่มีอำนาจมากที่สุดในสายตาพวกเขา

มีเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาพร้อมกับน้ำเสียงที่เย่อหยิ่ง “ฮูหยินฉู่ ท่านนอนหลับหรือยัง? ข้า…หงซิงอิง มีเรื่องจะคุยด้วย!”

เมื่อทั้งสองคนได้ยินก็ตกใจกลัว ฉินหว่านหรูผลักซูอันไปทางด้านหลังของนาง “ซ่อนไว้! ถ้าเขาแจ้งเตือนกองทหารราชองครักษ์พวกเราจบแน่ ๆ”

การเผชิญหน้ากับหลิวเหย่ายังคงสดใหม่ในความทรงจำของเขา ซูอันจึงไม่อยากเจอประสบการณ์นั้นซ้ำอีก

ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจซ่อนตัวอยู่ด้านหลังและประเมินสถานการณ์

ประตูเปิดออก ในขณะที่ซูอันเข้าไปแอบในที่ซ่อน และหงซิงอิงก็เดินเข้ามา

ฉินหว่านหรูแต่งทรงผมของนางให้ดูยุ่งเหยิงเหมือนเพิ่งผ่านการนอนมา “เจ้ามาที่นี่ทำไม?”

“เราไม่ได้เจอกันนานมากแล้ว ดังนั้นข้าจึงอยากมาทักทายท่านสักหน่อย” น้ำเสียงของหงซิงอิงรื่นเริง

ฉินหว่านหรูเย้ยหยัน “ทำไม? เจ้ามาที่นี่เพื่อเยาะเย้ยข้ารึ?”

“ไม่คิดเลยว่าฮูหยินจะมองข้าออกเร็วขนาดนี้!” หงซิงอิงไม่ได้พยายามปฏิเสธ “ตระกูลฉู่ของท่านไม่รู้วิธีปฏิบัติต่อผู้บ่าวรับใช้อย่างถูกต้องจนท่านต้องอยู่ในสภาพเช่นนี้ ดังนั้นข้าจะพลาดโอกาสที่จะได้เห็นความเสียใจบนใบหน้าของท่านได้อย่างไร”

“เจ้าพูดถูก ข้ารู้สึกเสียใจจริง ๆ” ฉินหว่านหรูเน้นเสียง “ข้าเสียใจที่ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเจ้าเป็นคนแบบไหน และไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้ซูอันวิเศษแค่ไหน!”

ซูอันที่ซ่อนตัวอยู่ รู้สึกปลาบปลื้มใจเมื่อได้ยิน ท่านแม่ยายชมเชยข้าโดยตั้งใจให้ข้าได้ยินงั้นเหรอ?

หงซิงอิงโกรธมากเมื่อได้ยินชื่อซูอัน “ซูอัน? มันเป็นแค่ไอ้คนโชคดีที่ไร้ค่าเท่านั้น! เจ้าเอาเศษสวะนั่นมาเทียบกับข้าได้ยังไง?!”

ใบหน้าที่หล่อเหลาก่อนหน้านี้ของเขาบิดเบี้ยวด้วยความโกรธและความเกลียดชัง เขาที่มักจะมองตัวเองค่อนข้างสูงส่ง แต่ถูกซูอันทำให้พ่ายแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่า ซูอันได้กลายเป็นฝันร้ายที่เขาไม่สามารถกำจัดได้

ฉินหว่านหรูถอนหายใจ “ความจริงที่ว่าเจ้ายังมองไม่เห็นว่าเขาเหนือกว่าเจ้าทุกทางเป็นข้อพิสูจน์ได้อย่างดีถึงความโง่เขลาของเจ้า”

ในความเห็นของนาง ซูอันนั้นโดดเด่นกว่าหงซิงอิงในทุกด้าน

หงซิงอิงยิ่งรู้สึกเหมือนโดนยั่วยุ เขาค่อย ๆ เดินเข้าหานาง “ไม่ใช่ว่าเจ้าเคยเกลียดไอ้ซูอันหรอกเหรอ จู่ ๆ ตอนนี้เจ้าปกป้องมันทำไม? แต่ก่อนหน้านี้ มีข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วว่ามีเจ้าสองคนมีอะไรกัน ดูเหมือนว่าข่าวจะเป็นความจริงสินะ!”

“เจ้าช่างน่ารังเกียจอะไรอย่างนี้ กล้าพูดแบบนี้กับข้าได้ยังไง?!” ฉินหว่านหรูโกรธ นางไม่เคยคิดว่าคนใช้ที่เคยให้เกียรตินางจะพูดแบบนี้

หงซิงอิงพ่นลมหายใจ “เจ้ากำลังพยายามจะขู่ใคร เจ้าคิดว่าเจ้ายังคงเป็นพระชายาอ๋องผู้สูงศักดิ์และไม่มีใครแตะต้องได้อีกเหรอ? อีกไม่นาน ตระกูลฉู่ของเจ้าก็จะสิ้นวงศ์ตระกูลแล้ว”

“ไม่มีทางเป็นเช่นนั้นแน่” ฉินหว่านหรูไม่มีอารมณ์จะพูดคุยอีกต่อไป “ ไปซะ ที่นี่ไม่ต้อนรับเจ้าอีกต่อไป”

“เหอะ เจ้าไม่มีอำนาจใด ๆ ในคฤหาสน์นี้อีกต่อไปแล้ว” หงซิงอิงไม่เพียงแค่ไม่ขยับหนี แต่เขากลับเข้ามาใกล้ฉินหว่านหรูทีละก้าว

“เจ้ากำลังจะทำอะไร?” สีหน้าของฉินหว่านหรูเปลี่ยนไปทันทีเมื่อนางเห็นเขาใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ นางก้าวถอยหลังด้วยความตื่นตระหนก

“เจ้าคิดว่าข้ากำลังทำอะไรล่ะ?” ดวงตาของหงซิงอิงแฝงแววบ้าคลั่ง “ถ้าซูอันสามารถมีอะไรกับเจ้าได้ ทำไมข้าถึงทำไม่ได้!?”

เขาไม่เคยกล้าที่จะคิดเช่นนี้มาก่อน แต่การล่มสลายของตระกูลฉู่เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ฉินหว่านหรูเองก็ถูกผนึกระดับการบ่มเพาะเอาไว้แล้ว ในขณะที่คนของหลิวเหย่าต่างออกไปตามล่าตัวซูอัน

ฉินหว่านหรูกลายเป็นเหมือนกระต่ายที่ไม่เป็นอันตรายในสายตาของเขาและนางก็ยั่วยุเขาด้วยการชื่นชมซูอัน ความคิดชั่วร้ายบางอย่างที่เขาเคยระงับไว้ภายในใจเริ่มปรากฏขึ้น

“ข้าขอเตือนเจ้าครั้งสุดท้าย หยุดซะ!” ฉินหว่านหรูตกใจ นางพยายามจะหลบเขา แต่การบ่มเพาะของนางถูกผนึกไว้ สภาพปัจจุบันของนางไม่ต่างจากคนธรรมดาเลย นางจะหลบหนีได้อย่างไร?

หงซิงอิงก้าวรวดเดียวถึงตัวนาง เขาเอื้อมมือไปหาหน้าอกที่โค้งมน

ในสายตาของเขา ฉินหว่านหรูเป็นคนที่ไม่มีใครแตะต้องได้เสมอ แม้ว่านางจะมีเสน่ห์มาก แต่เขาไม่เคยกล้าที่จะคิดฟุ้งซ่านเกี่ยวกับนาง อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในตอนนี้ต่างไปจากเดิม เมื่อความคิดเหล่านี้ถูกปลดปล่อยออกมา เขาก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป

ในใจของเขาร้อนรุ่มเมื่อเขาคิดว่าเขาจะเพลิดเพลินไปกับชายาอ๋องผู้สูงส่งนี้อย่างไร เขาก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นไปอีกเมื่อคิดว่านางมีความเกี่ยวข้องกับฉู่ชูเหยียนในฐานะมารดาอย่างไร

อย่างไรก็ตาม มือที่ยื่นออกมาของเขาไม่ได้สัมผัสกับความรู้สึกนุ่มนิ่มที่จินตนาการไว้ แต่กลับเต็มไปด้วยความเจ็บปวดอย่างมาก ผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ระหว่างพวกเขา บีบมือของเขาและจ้องมองมาที่เขาอย่างเย็นชา