บทที่ 625 ดัชนีเจิดจรัส
บทที่ 625 ดัชนีเจิดจรัส
“ซูอัน!” หงซิงอิงทั้งตกใจและโกรธที่เห็นคนที่ตัวเองเกลียดที่สุดปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าขัดขวางช่วงเวลาที่เขากำลังจะได้มีความสุข แถมยังอยู่ในห้องของฉินหว่านหรูอีกต่างหาก “เจ้าสองคนคบชู้กันจริง ๆ!”
“หุบปากซะ!” ซูอันตบหน้าเขา
เสียงฝ่ามือกระแทกกับใบหน้าดังกึกก้อง รอยรูปมือสีแดงขนาดใหญ่ปกคลุมใบหน้าของเขาครึ่งหนึ่ง
ซูอันประคองฉินหว่านหรูขึ้นมาทันที “ท่านแม่ยาย เป็นอะไรหรือเปล่า?”
ฉินหว่านหรูพยักหน้าและพูดด้วยน้ำเสียงเบา “อย่าปล่อยให้มันหนีไปได้”
ซูอันมองไปที่หงซิงอิง “เจ้าไม่ได้บอกว่าข้าแย่กว่าเจ้าในทุก ๆ ด้านเหรอ? นี่คือโอกาสของเจ้า มาสู้กับข้าตัวต่อตัวซะ! ถ้าเจ้าชนะ วันนี้ท่านแม่ยายก็เป็นของเจ้า”
ฉินหว่านหรูอ้าปากค้าง
หงซิงอิงกำลังจะเรียกทหาร แต่เขากลืนคำพูดลงไปเมื่อได้ยินสิ่งที่ซูอัน พูด “จริงเหรอ?”
ซูอันหัวเราะ “ถ้าเจ้าเอาชนะข้าได้ ก็จะไม่มีใครห้ามเจ้าอีกต่อไป”
แม้ว่าฉินหว่านหรูจะเข้าใจไม่มากก็น้อยว่า ซูอันตั้งใจขัดขวางหงซิงอิง ไม่ให้ออกไปแจ้งทหาร แต่การถูกใช้เป็นรางวัลเดิมพันก็ยังคงทำให้นางรู้สึกละอายและโกรธเคือง
หงซิงอิงหวั่นไหว เขาเชื่อเสมอว่าความแข็งแกร่งของเขามากกว่าซูอัน และระดับการบ่มเพาะของเขาได้พัฒนาขึ้นอย่างมากตั้งแต่เข้าร่วมสถาบันจันทร์กระจ่าง เขาเพิ่งขึ้นสู่ระดับห้าเมื่อไม่นานมานี้ด้วยซ้ำ!
อย่างไรก็ตาม ทักษะการเคลื่อนไหวที่ซูอันได้แสดงในระหว่างงานประลองระหว่างตระกูล ทำให้เขารู้สึกประหม่าเล็กน้อย
แต่เขารู้ว่าซูอันได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการโจมตีครั้งก่อนของหลิวเหย่า ถ้าเขาไม่สามารถแม้แต่จะเอาชนะซูอันที่กำลังได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาก็อาจจะต้องเอาหัวไปโขกเต้าหู้ตายก็ได้
“ก็ได้!” หงซิงอิงชักกระบี่ออกมา เขายังคงยิ้มอย่างชั่วร้าย “วันนี้ ข้าจะคืนความอัปยศที่เจ้าเคยมอบให้ข้ากลับคืนเป็นร้อยเท่า!”
กระบี่ของเขาแทงออกเหมือนงูพิษที่ฉกเหยื่อทันทีที่เขาพูดจบ
แม้ว่าเขาจะไม่เชื่อว่าซูอันมีกำลังต่อสู้เหลืออยู่มากนัก แต่สิงโตก็ยังไล่ล่ากระต่ายด้วยพละกำลังทั้งหมดของมัน
การได้เห็นต้นเหตุแห่งความเกลียดชังอันขมขื่นทำให้เขากลายเป็นบ้าไปแล้ว กระบี่ของหงซิงอิงก็พุ่งเข้าหาซูอันด้วยกำลังสิบสองส่วนจากสิบ
ปราณกระบี่อันทรงพลังปกคลุมไปทั่วห้อง แม้แต่ฉินหว่านหรูก็ยังรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดจากคลื่นพลังที่บาดผิว
แม้ว่าการบ่มเพาะของนางถูกผนึกไว้ แต่วิสัยทัศน์ของนางก็ยังคงอยู่
กระบี่นี้เร็วราวกับสายฟ้า มันแทบจะเรียกได้ว่าไร้ที่ติ
กระบี่ถูกห่อหุ้มไปด้วยแสงสีฟ้า เห็นได้ชัดว่าหงซิงอิงสำเร็จถึงระดับที่ 5 แล้ว และปลุกธาตุสายฟ้าเรียบร้อย ซึ่งเป็นธาตุที่มีจุดเด่นในด้านความเร็วและพลัง!
พรสวรรค์ของหงซิงอิงนั้นจัดว่าสูงส่ง เห็นได้ชัดว่าในขณะที่เขารับใช้ตระกูลฉู่ เขาจะบ่มเพาะล่าช้าไปบ้างเนื่องจากต้องเสียเวลาไปกับการทำภารกิจหลายอย่าง แต่กลับพัฒนาอย่างเร็วยิ่งยวดหลังจากเข้าร่วมสถาบันจันทร์กระจ่าง
น่าเสียดายที่คนที่โดดเด่นเช่นนี้ได้หลงจากทางที่ชอบธรรมไปแล้ว
นางเริ่มกังวลแทนซูอัน นางเคยเห็นซูอันต่อสู้มาก่อนก็จริง แต่ตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ซ้ำร้ายคู่ต่อสู้ของเขายังใช้ธาตุสายฟ้า ซึ่งเพิ่มความเร็วและพลัง สิ่งนี้ทำให้ความได้เปรียบในทักษะการเคลื่อนไหวของซูอันน้อยลง…
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทันที่นางจะได้คิดจนเสร็จสิ้น ความวุ่นวายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในห้องก็สงบลงในทันที นักสู้ทั้งสองยืนเผชิญหน้ากันนิ่งราวกับเป็นรูปปั้น
นางขยี้ตาเพื่อให้แน่ใจว่าสายตาไม่ได้หลอกลวงตัวเอง ปลายกระบี่อยู่ตรงกลางระหว่างสองนิ้วของซูอัน ใบหน้าของหงซิงอิงแดงก่ำ แต่กระบี่ก็ไม่ยอมขยับไปข้างหน้าเลย
“นี่มันบ้าอะไรกัน!?” หงซิงอิงตกใจและตื่นตระหนก
ซูอันไม่ตอบ เขาเพิ่มแรงนิ้วที่คีบกระบี่อยู่ และหักปลายกระบี่มาถือไว้ ก่อนจะใช้ปลายกระบี่ที่หักนั้นปาดเข้าไปที่ลำคอของหงซิงอิงอย่างฉับพลัน!
“อ่อก…อ่อก…จ…เจ้า…” หงซิงอิงเอามือกุมลำคอมองไปที่ซูอันอย่างไม่เชื่อ ทักษะการต่อสู้ด้วยนิ้วที่ซูอันแสดงนั้นลึกล้ำอย่างไม่น่าเชื่อ แถมความเร็วและความแข็งแกร่งของซูอันนั้นเหนือกว่าเขาหลายเท่า!
เป็นไปได้ยังไง? วันนี้ข้าลงจากเตียงผิดด้านหรือเปล่า…?!
เขาตายโดยไม่เข้าใจเลย เดี๋ยวก่อน ข้ายังไม่ได้ใช้ทักษะธาตุของข้าเลยด้วยซ้ำ…
ช่างน่าเสียดาย!
—
ท่านยั่วยุหงซิงอิงสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 1,024!
—
…
ซูอันไม่สะทกสะท้านเมื่อเห็นหงซิงอิงตาย เขาแข็งแกร่งกว่าหงซิงอิงตั้งแต่แรก และเมื่อรวมกับคุณสมบัติของวิชาวัฏจักรหงส์อมตะที่เสริมพลังให้เขาในยามที่ได้รับบาดเจ็บ การกำจัดอีกฝ่ายจึงเป็นเรื่องที่ง่ายยิ่งขึ้น
“นั่นเป็นทักษะการต่อสู้ประเภทใด?” ฉินหว่านหรูรู้สึกราวกับยังคงฝันอยู่ อย่างไรก็ตาม นางรู้ว่ามันเป็นเคล็ดวิชาดัชนีที่ลึกซึ้งมากอย่างแน่นอน
“มันเป็นยอดเคล็ดวิชาที่ข้าใช้เวลานับพันปี…แค่ก ๆ มันถูกเรียกว่าดัชนีเจิดจรัส” ซูอันไม่ชอบคำว่าทานตะวันอีกต่อไป เขาจึงเปลี่ยนชื่อ
“ดัชนีเจิดจรัส?” ฉินหว่านหรูตะลึง “เป็นชื่อที่ดีทีเดียว” นางชมเชย
“แน่นอน!” ซูอันรู้สึกภูมิใจในตัวเองเล็กน้อย
“เจ้าควรไปได้แล้ว พวกทหารย่อมรู้สึกถึงความผันผวนของธาตุและในไม่ช้าก็คงจะพากันมาที่นี่!” เสียงฝีเท้าที่รีบร้อนมาจากข้างนอกทันทีที่ฉินหว่านหรูพูดจบ
“ท่านแม่ยาย โปรดรักษาตัวด้วย!” ซูอันไม่เสียเวลาและรีบจากไป ระหว่างทาง เขาเก็บศพของหงซิงอิงเข้าไปในดวงแก้วผู้รอบรู้เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้หลิวเหย่าเกิดความสงสัย
เขามุ่งหน้าตรงไปยังชานเมืองซึ่งเป็นที่ตั้งค่ายของกองทัพผ้าคลุมสีชาด ระหว่างทางได้เหวี่ยงศพของหงซิงอิงเข้าไปในป่า สัตว์ร้ายในป่าจะจัดการกับศพของหงซิงอิงโดยใช้เวลาน้อยกว่าครึ่งวัน
หลังจากนั้นเขาก็หยิบกระจกออกมาแล้วเรียกฉู่ชูเหยียน
ใบหน้าที่สวยงามของฉู่ชูเหยียนปรากฏขึ้นบนพื้นผิวกระจกหลังจากนั้นไม่นาน “อาซู เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือ?”
นางสามารถบอกได้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ซูอันรู้สึกอบอุ่นในใจ “ไม่ต้องกังวล อาการบาดเจ็บเล็กน้อยพวกนี้ไม่มีอะไรมากหรอก”
จากนั้นเขาก็เล่าทุกอย่างที่เขาเห็นและได้ยินในคฤหาสน์ตระกูลฉู่กับนาง ในขณะเดียวกันเขาก็บอกนางเกี่ยวกับความกังวลของเขาเอง “ตอนนี้สมุดบัญชีนั้นอยู่ในมือของราชสำนัก ดังนั้นเราอาจจบลงด้วยการเป็นนักโทษ จริงสิ เจ้ารู้หรือเปล่าว่าค่ายเมฆาทมิฬตั้งอยู่ที่ไหน? ข้าคิดว่าบางทีหลังจากนี้เราอาจจะไปที่นั่นและแต่งตั้งพวกเราเองเป็นราชาแห่งขุนเขาซะเลย เราสามารถเดินเล่นชมนกชมไม้คู่กันได้!”
“ใครจะอยากเป็นราชาแห่งขุนเขากับเจ้ากัน!” ฉู่ชูเหยียนบุ้ยปาก นางรีบถาม “หนังสือที่ข้าให้เจ้าครั้งสุดท้าย… ‘ภรรยาผู้น่ารัก:เซียนกระบี่ไร้เทียมทานกับภารกิจตามหารักแท้ใน 99 คืน’ …ยังอยู่ไหม?
แค่พูดชื่อหนังสือเล่มนั้นออกมาดัง ๆ ก็ทำให้นางเขินอายและอยากจะอาเจียน
ใบหน้าของซูอันมืดลง “นี่เจ้าไม่รู้เหรอว่าเราอยู่ในสถานการณ์แบบไหน!?”
“ตอบข้ามาก่อน มันยังอยู่ไหม?!” น้ำเสียงของฉู่ชูเหยียนเร่งเร้า
“แน่นอน! ข้าจะเอาไปให้ใครได้ ไม่มีใครนอกจากเจ้าแน่ที่จะอ่านเรื่องแบบนี้!” ซูอันสูดลมหายใจ
รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าของฉู่ชูเหยียนในทันที “ถ้าอย่างนั้น ทุกอย่างก็เรียบร้อยดี นั่นแหละคือสมุดบัญชีของจริง!”