ตอนที่ 614 ความผิดปกติของอูเหมียว

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

​หลังจากนั้น​เพียง​ไม่​กี่​วัน​ ​กอง​ขบวน​ที่​ถูก​ส่ง​ไป​ที่ดิน​แดน​เผ่า​อู​เหมียว​ก็​กลับมา​ถึง​เมืองหลวง

​หง​หลู​ซื่อ​ชิง​มิได้​ตรง​กลับ​ไป​ที่​จวน​ของ​ตน​ ​เขา​ไป​เข้าเฝ้า​ฮ่องเต้​เป็นอัน​ดับ​แรก

​“​หม่า​อ้าย​ชิง​อยู่​ที่​อู​เหมียว​มานาน​หลาย​เดือน​ ​สถานการณ์​ทาง​นั้น​เป็น​อย่างไรบ้าง​”​ ​เพิ่ง​ผ่าน​ไป​เพียง​ไม่​กี่​วัน​ ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ยัง​ฟื้นตัว​ไม่​เต็มที่​ ​สภาพร่างกาย​ยังคง​ไร้​กำลัง​ ​แต่​เมื่อ​ได้ยิน​ว่า​หง​หลู​ซื่อ​ชิง​และ​คนอื่นๆ​ ​กำลังจะ​กลับมา​ ​เขา​ก็​กระปรี้กระเปร่า​ขึ้น​มาก​ทีเดียว

​หง​หลู​ซื่อ​ชิง​ยัง​ไม่ทราบ​เรื่อง​ไท่​จื่อ​ ​จึง​รู้สึก​ประหลาดใจ​เมื่อ​เห็นท่า​ที​เฉื่อย​เนือย​ของ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ ​เขา​จึง​เลือก​เฉพาะเรื่อง​ที่​น่าสนใจ​ของ​ทางใต้​มารา​ยงาน

​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ยิ่ง​ฟัง​ ​ใบหน้า​ก็​ยิ่ง​คล้ำ​หม่น

นี่​เขา​ส่ง​คน​พวก​นี้​ไป​ที่​อู​เหมียว​เพื่อให้​ไปเที่ยว​เล่น​หรือ​อย่างไร

​ครั้น​หวนนึก​ถึง​ความมืด​หม่น​ใน​ช่วง​ที่ผ่านมา​ ​กอปร​กับ​ใบหน้า​ปั้นจิ้มปั้นเจ๋อ​ของ​หง​หลู​ซื่อ​ชิง​แล้ว​ ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ก็​นึก​อยาก​จะ​เอา​ที่​ทับ​กระดาษ​เขก​หัว​ให้​รู้แล้วรู้รอด

​พาน​ไห่​เห็นท่า​จะ​ไม่ดี​ ​จึง​ส่งเสียง​กระแอม​ไอ

​หง​หลู​ซื่อ​ชิง​ชำเลือง​มอง​ไป​ที่​พาน​ไห่​ด้วย​หาง​ตา​ ​และ​เห็น​ว่า​เขา​กำลัง​ส่าย​ศีรษะ​ ​ใน​ใจ​เริ่ม​หวั่นวิตก

ซวย​แล้ว​ ​ก็​แค่​อยาก​จะ​ทำให้​ฮ่องเต้​อารมณ์ดี​ ​ไม่​คิด​ว่า​ตบ​ตูด​ม้า​จะ​พลาด​โดน​ขาม้า[1]เสีย​อย่างนั้น

จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​ไม่ได้​เห็น​หน้า​แค่​ครึ่ง​ปี​ ​แต่​เหตุ​ไฉน​ฮ่องเต้​ถึง​ได้​ดู​แก่​ไว​พรวดพราด​ปานนี้

แต่​เดี๋ยว​ ​ตอนที่​เขา​เดิน​เข้ามา​ใน​วัง​หลวง​ ​รอบข้าง​เงียบกริบ​จะ​น่ากลัว​ ​ต้อง​มี​อะไร​ผิดปกติ​แน่ๆ

​หง​หลู​ซื่อ​ชิง​แอบ​คิดในใจ​ว่า​รายงาน​ความคืบหน้า​เสร็จ​เมื่อไหร่​จะ​รีบ​ไปหา​คำตอบ

เขา​ห่าง​จาก​เมืองหลวง​แค่​ครึ่ง​ปี​ ​อะไร​ๆ​ ​ก็​เปลี่ยนไป​หมด​แล้ว​หรือ

​เมื่อ​เห็น​ว่า​หง​หลู​ซื่อ​ชิง​เงียบ​ไป​ ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​กลับ​รู้สึก​เบาใจ​ ​จึง​เอ่ย​ถาม​ ​“​แล้ว​คน​อู​เหมียว​ที่นั่น​ปฏิบัติ​กับ​พวก​เจ้า​อย่างไร​”

​“​กราบทูล​ฝ่า​บาท​ ​ชาว​อู​เหมียว​ปฏิบัติ​ต่อ​พวก​กระหม่อม​ด้วย​ท่าที​เกรงใจ​ ​และ​ต้อนรับขับสู้​อย่างดี​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​…​”

​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ฟัง​หง​หลู​ซื่อ​ชิง​รายงาน​กว่า​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​ ​แต่กลับ​ไม่ได้​ข้อมูล​เบาะแส​ที่​เป็นประโยชน์​ ​เขา​จึง​กล่าว​ด้วย​ใบหน้า​ไร้อารมณ์​ ​“​หม่า​อ้าย​ชิง​คง​เดินทาง​มา​เหน็ดเหนื่อย​ ​เจ้า​กลับ​ไป​พัก​ที่​จวน​เถอะ​”

​หง​หลู​ซื่อ​ชิง​ลอบ​ถอนหายใจ​ ​เขา​ยกมือ​คารวะ​ ​“​กระหม่อม​ทูล​ลา​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

​รอ​จนกระทั่ง​หง​หลู​ซื่อ​ชิง​กลับ​ออก​ไป​ ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ก็​หันไป​กล่าว​แก่​พาน​ไห่​โดยพลัน​ ​“​อีก​เดี๋ยว​เจ้า​ไป​ที่​พระตำหนัก​คุน​หนิง​ ​แล้ว​บอก​ให้​ฮองเฮา​เรียก​พระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​เข้ามา​ ​ข้ามี​เรื่อง​จะ​ไหว้วาน​นาง​เสียหน่อย​”

​พาน​ไห่​รับคำ​สั่ง

​“​ตอนนี้​เจ้า​ไป​เรียก​หัน​หรา​นมา​หา​ข้า​”

​การ​ส่ง​กอง​ทักำ​ลัง​ไป​ที่​อู​เหมียว​ครั้งนี้​ ​นอกจาก​ให้​หง​หลู​ซื่อ​ชิง​เป็นตัวแทน​แล้ว​ ​ยัง​มี​หน่วย​องครักษ์​จิ​่น​หลิน​ร่วม​เดินทาง​ไป​ด้วย​ ​เพื่อ​จะ​ช่วย​อำนวยความสะดวก​ใน​การ​สืบหา​ความจริง

​ไม่นาน​หัน​หรา​นก​็​เข้ามา​พร้อมกับ​ผู้ใต้บังคับบัญชา​คน​หนึ่ง​ ​ซึ่ง​รับหน้าที่​เป็น​หัวหน้า​นำ​หน่วย​องครักษ์​จิ​่น​หลิน​ไป​ที่​อู​เหมียว

​“​ถวายบังคม​ฝ่า​บาท​”

​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ขมวดคิ้ว​พลาง​เอ่ย​เนิบนาบ​ ​“​ไม่ต้อง​มาก​พิธี​ ​พวก​เจ้า​เจอ​เบาะแส​เกี่ยวกับ​ผู้อาวุโสฮ​วา​และ​หลานสาว​บ้าง​หรือไม่​”

​เรื่อง​ของ​ผู้อาวุโสฮ​วาที​่​แหกคุก​ออกมา​และ​ลักลอบ​เปิดร้าน​รวง​เล็ก​ๆ​ ​อยู่​ใน​เมืองหลวง​มานาน​เป็น​สิบ​ปี​ทำให้​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ไม่​อาจ​วางใจ​สงบ

​ลูกน้อง​ของ​หัน​หราน​เอ่ย​ตอบ​ ​“​กราบทูล​ฝ่า​บาท​ ​กระหม่อม​ไม่​พบ​ร่องรอย​เบาะแส​ของ​ผู้อาวุโสฮ​วา​และ​หลานสาว​เลย​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ขมวดคิ้ว​มุ่น

​การ​ที่​ไม่​พบ​เบาะแส​เกี่ยวกับ​ผู้อาวุโสฮ​วามี​ความเป็นไปได้​สอง​อย่าง​ ​อย่าง​แรก​คือ​ ​เผ่า​อู​เหมียว​ทราบ​เรื่อง​ที่​ผู้อาวุโสฮ​วาก​่อ​ไว้​ที่​เมืองหลวง​ ​ครั้น​เห็น​ว่า​ต้า​โจว​ส่ง​กอง​ขบวน​ไป​เยี่ยมเยียน​จึง​เอา​ตัว​ทั้งคู่​ไป​ซ่อน​ ​หรือ​ความเป็นไปได้​อย่างที่​สอง​คือ​ยาย​หลาน​คู่​นั้น​อาจจะ​ยังอยู่​ใน​เมืองหลวง

​ไม่ว่า​จะ​เป็น​ข้อ​ใด​ก็​สร้าง​ความ​หนักใจ​ให้​เขา​อย่างใหญ่หลวง

​“​แล้ว​ที่​เผ่า​อู​เหมียว​มีความผิด​ปกติ​อะไร​บ้าง​หรือไม่​”​ ​คำถาม​ของ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​เจือ​ไป​ด้วย​ความผิดหวัง

เมื่อ​เรื่อง​เกี่ยวข้อง​กับ​อู​เหมียว​คราใด​ ​ผล​ที่​ได้​เป็น​ต้อง​ลึกลับ​ทุกครั้ง​ไป​ ​การ​ที่​เขา​อุตส่าห์​ส่ง​องครักษ์​จิ​่น​หลิน​ให้​เดินทาง​ไป​พร้อมกับ​กอง​ขบวน​นี่​มัน​ได้เรื่อง​อะไร​บ้าง​ไหม

​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​เลิก​หวัง​ไป​แล้ว​ ​ทว่า​คำตอบ​ของ​ลูกน้อง​หัน​หราน​ทำให้​เขา​ต้อง​ประหลาดใจ

​“​กราบทูล​ฝ่า​บาท​ ​กระหม่อม​อยู่​ที่​อู​เหมียว​หลาย​เดือน​ ​จึง​มีโอกาส​ได้​อยู่ร่วม​พิธี​สักการะ​ทวยเทพ​ซึ่ง​จัด​ทุกๆ​ ​สาม​ปี​ ​แต่​ปรากฏ​ว่า​กลับ​ไม่เห็น​สตรี​ศักดิ์สิทธิ์​เลย​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​เลิก​คิ้ว

​แผ่นดิน​ของ​ต้า​โจว​และ​อู​เหมียว​อยู่​ติดกัน​ ​ความลึกลับ​ของ​ชน​เผ่า​นี้​ทำให้​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ได้​ศึกษา​วัฒนธรรม​ของ​พวกเขา​มานาน​แล้ว

​พิธี​สักการะ​ทวยเทพ​ที่​จัด​ทุก​สาม​ปี​ถือเป็น​พิธี​สำคัญ​ของ​เผ่า​อู​เหมียว​ ​ซึ่ง​โดยปกติ​แล้ว​หัวหน้า​ผู้อาวุโส​เผ่า​อู​เหมียว​จะ​เป็น​ผู้​ประกอบ​พิธี​ ​ส่วน​สตรี​ศักดิ์สิทธิ์​จะ​ทำหน้าที่​เป็น​ผู้​บวงสรวง​ต่อ​เทพเจ้า

​การ​ที่​สตรี​ศักดิ์สิทธิ์​ไม่​ปรากฏตัว​ใน​งานพิธี​สำคัญ​เยี่ยง​นี้​ ​ดู​ผิดปกติ​ยิ่งนัก

​“​ว่า​ต่อ​ซิ​”

​ลูกน้อง​ของ​หัน​หรา​นก​ล่าว​ต่อ​ ​“​เนื่องจาก​สตรี​ศักดิ์สิทธิ์​มิได้​ปรากฏตัว​ใน​พิธี​สักการะ​ทวยเทพ​ ​ชาว​อู​เหมียว​จึง​รู้สึก​ไม่สบายใจ​ ​นอกจากนี้​กระหม่อม​ยัง​บังเอิญ​เห็น​ผู้อาวุโส​สอง​ท่าน​มี​ถกเถียง​กัน​ถึง​สาเหตุ​ที่​สตรี​ศักดิ์สิทธิ์​ไม่​มาป​รากฏ​ตัวต่อ​หน้า​สาธารณชน​ตลอด​หลาย​ปี​ที่ผ่านมา​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​…​”

​“​ก็​หมายความว่า​ ​การ​ที่​สตรี​ศักดิ์​ไม่​ปรากฏ​กาย​ ​ทำให้​ชาว​อู​เหมียว​รู้สึก​ไม่สบายใจ​อย่างนั้น​หรือ​”

​ลูกน้อง​ของ​หัน​หรา​นพ​ยัก​ศีรษะ​ ​“​เป็นจริง​ดังนั้น​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​เนื่องจาก​มี​ขุนนาง​ต้า​โจว​อยู่​ที่นั่น​ด้วย​ ​บรรดา​ผู้อาวุโส​เผ่า​อู​เหมียว​จึง​พยายาม​ปิด​เรื่อง​นี้​เป็นความลับ​ ​แต่​ถึงกระนั้น​ก็​ไม่​อาจ​ซ่อน​ความกระวนกระวายใจ​ไว้​ได้​ ​กระหม่อม​รับรู้​ได้​ถึง​ความไม่สบายใจ​ของ​ชาว​อู​เหมียว​ได้​อย่างชัดเจน​ ​อีกทั้ง​ยัง​เห็น​ว่า​มี​คน​บาง​กลุ่มเรียกร้อง​ขอ​พบ​หน้า​สตรี​ศักดิ์สิทธิ์​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

​“​แล้ว​เจ้า​ทราบ​หรือไม่​ว่า​สตรี​ศักดิ์สิทธิ์​เริ่ม​หายตัว​ไป​ตั้งแต่​เมื่อไหร่​”

​“​กระหม่อม​ได้ยิน​จาก​ปากของ​สตรี​ชาว​อู​เหมียว​นาง​หนึ่ง​ว่า​สตรี​ศักดิ์สิทธิ์​ไม่ได้​ปรากฏตัว​ต่อหน้า​สาธารณชน​อย่างน้อย​ๆ​ ​ก็​สาม​ปี​แล้ว​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

​“​แล้ว​มีความผิด​ปกติ​อะไร​อีก​หรือไม่​”

​ลูกน้อง​ของ​หัน​หราน​ส่าย​หัว​ ​“​กระหม่อม​โง่เขลา​ ​มิได้​สังเกตเห็น​ความผิดปกติ​อื่นๆ​ ​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​หัวเราะ​ ​“​เจ้า​ทำได้​ดี​แล้ว​ ​หัน​หราน​ ​นาย​คน​นี้​เลือก​มา​ได้ดี​ทีเดียว​”

​หัน​หรา​นรีบ​ตอบ​ ​“​ฝ่า​บาท​ตรัส​ชม​เกินไป​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​โชคดี​ที่​องครักษ์​ผู้​นี้​พอ​เข้าใจ​ภาษา​อู​เหมียว​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​…​”

​การ​จะ​เป็น​สายสืบ​ที่​ดี​ ​พละกำลัง​ด้าน​ร่างกาย​อย่าง​เดียว​อาจ​ไม่​เพียงพอ​ ​ความรู้​ความสามารถ​ถือเป็น​สิ่ง​ที่​ขาดไม่ได้​ ​เคราะห์ดี​ที่​เมื่อ​สอง​ปีก่อน​ ​เขา​ส่ง​คนหนุ่ม​ที่​มีฝีมือ​กลุ่ม​หนึ่ง​ไป​เรียน​ภาษา​อื่นๆ​ ​พร้อมกับ​คน​จาก​หง​หลู​ซื่อ​ ​เพราะ​คิด​ว่าน​่า​จะ​เป็นประโยชน์​ในอนาคต

​เมื่อ​เห็น​ว่า​คง​ไม่ได้​เบาะแส​อะไร​เพิ่มเติม​ ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ก็​พยักหน้า​เล็กน้อย

​ผู้ใต้บังคับบัญชา​ของ​หัน​หราน​จึง​กลับ​ออก​ไป

​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​มอง​ไป​ที่​พาน​ไห่​และ​หัน​หรา​นพ​ลาง​ถาม​เคร่งขรึม​ ​“​พวก​เจ้า​มี​ความเห็น​อย่างไร​”

​ทั้งคู่​หันมา​สบตา​กัน

​ผ่าน​ไป​ไม่นาน​ ​หัน​หรา​นก​็​เป็น​ฝ่าย​พูด​ก่อน​ ​“​กระหม่อม​คิด​ว่าน​่า​จะ​เกิดเรื่อง​กับ​สตรี​ศักดิ์สิทธิ์​เผ่า​อู​เหมียว​ ​เพราะ​ไม่อย่างนั้น​คงมา​ปรากฏตัว​ใน​พิธี​สักการะ​ทวยเทพ​แล้ว​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

​สถานะ​ของ​สตรี​ศักดิ์สิทธิ์​เทียบเท่า​กับ​สถานะ​ของ​ไท่​จื่อ​ใน​แผ่นดิน​ต้า​โจว​ ​หรือ​อาจจะ​สำคัญ​มากกว่า​นั้น​ ​การ​ที่​มิได้​ออกมา​ปรากฏตัว​จึง​ทำให้​คนใน​เผ่า​รู้สึก​ไม่สบายใจ​ ​อีกทั้ง​ยัง​เป็นการ​จุดประกาย​ความคิด​ที่จะ​รุกราน​ของ​ชน​ต่างชาติ

​“​ยัง​เหลือ​คน​ของ​พวกเรา​อยู่​ที่นั่น​อีก​เท่าไหร่​”​ ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ถาม

​หัน​หรา​นรับ​ตอบ​ ​“​เหลืออยู่​หก​คน​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​แต่​คน​พวก​นั้น​ปลอมตัว​เป็น​พ่อค้า​ทั่วไป​ ​มิได้​เผย​ตัวตน​ตั้งแต่แรก​แล้ว​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

​คน​อู​เหมียว​อยู่​กัน​เป็น​กลุ่มก้อน​ ​ประกอบกับ​จำนวน​ประชากร​อันน้อย​นิด​ ​ฉะนั้น​การ​ที่​ชน​ต่างชาติ​เข้าไป​อยู่​ท่ามกลาง​พวกเขา​จึง​เป็น​ที่​สะดุดตา​ ​ยาก​ที่จะ​ปกปิด​ตัวตน​ ​ฉะนั้น​วิธี​ที่​ดีที​่​สุด​คือ​การปลอม​ตัว​เป็น​ชาวบ้าน​ที่​อาศัย​อยู่​แทบ​ชายแดน​ ​เพื่อ​จะ​ได้​มีโอกาส​ได้​คลุกคลี​กับ​คนที​่​นั่น

​“​ให้​พวก​นั้น​จับ​ดู​เผ่า​อู​เหมียว​ให้​ดี​ ​โดยเฉพาะ​เรื่อง​สตรี​ศักดิ์สิทธิ์​ ​หาก​มีเรื่อง​ด่วน​อะไร​ก็​ให้​รีบ​มารา​ยงา​นข​้า​ทันที​”

​“​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​นวด​บริเวณ​หว่าง​คิ้ว​ ​“​พาน​ไห่​ ​เจ้า​ไป​ที่​ตำหนัก​คุน​หนิง​ได้​แล้ว​”

​พาน​ไห่​วิ่ง​ไป​ที่​ตำหนัก​คุน​หนิง​ ​อธิบาย​แก่​ฮองเฮา​ว่า​ฮ่องเต้​ต้องการ​พบพระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง

​ฮองเฮา​ฉงน​เล็กน้อย​ก่อน​จะ​พยักหน้า​รับ

​พระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​มีส​ถานะ​ต่ำกว่า​เหล่า​องค์​ชาย​ ​การ​ที่​ฝ่า​บาท​เรียก​เข้าเฝ้า​อาจ​ดู​ผิดวิสัย​ ​ฉะนั้น​แล้วจึง​วาน​ให้​นาง​ช่วย​เป็น​ธุระ

​ไม่นาน​เจียง​ซื่อ​ก็ได้​รับคำ​สั่ง​ให้​เข้าเฝ้า​ฮองเฮา

​อวี​้​จิ​่น​ไม่สบอารมณ์​อย่างยิ่งยวด​ ​“​อยู่ดีๆ​ ​ฮองเฮา​จะ​มาเรียก​เจ้า​เข้าเฝ้า​ด้วย​สาเหตุ​อัน​ใด​”

หมู่นี้​ฮองเฮา​มีเรื่อง​มา​ให้​กลุ้ม​ไม่หยุดหย่อน​ ​เขา​ยิ่ง​ไม่​อยาก​ให้​อา​ซื่อ​เข้า​วัง​บ่อยๆ​ ​อยู่​ด้วย

​เจียง​ซื่อ​หัวเราะ​ ​“​ไป​ก่อน​ถึง​จะ​รู้​ ​หยุด​ทำ​หน้าบึ้ง​ตึง​ได้​แล้ว​ ​ฮองเฮา​ปรารถนา​จะ​พบ​ข้า​ ​ผู้ใด​จะ​ปฏิเสธ​ได้​”

​ริมฝีปาก​บาง​ของ​อวี​้​จิ​่น​เม้ม​ลง​พลาง​บ่นงึมงำ​ ​“​เหนือ​ไท่​จื่อ​ก็​ยัง​มี​ฮองเฮา​ ​เหนือ​ฮองเฮา​ก็​ยัง​มี​ไท​เฮา​และ​ฮ่องเต้​ ​น่า​หงุดหงิด​เสีย​จริง​”

[1]​ ​ตบ​ตูด​ม้า​จะ​พลาด​โดน​ขาม้า ​อยาก​พูดจา​ประจบ​เอาใจ​แต่กลับ​ทำให้​ผู้ฟัง​ขุ่นหมอง