ตอนที่ 616 คิดจะตอบโต้

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

สรรพสิ่ง​นิ่ง​ค้าง​ ​ทุก​สายตา​หันมา​ทิศทาง​เดียวกัน

หญิง​รับใช้​นาง​นี้​จองหอง​นัก

คนที​่​ถูก​สาด​สุรา​ใส่​หน้า​คือ​ขุนนาง​ใน​หน่วยงาน​หง​หลู่​ซื่อ​ ​แม้ว่า​จะ​มิใช่​ขุนนาง​ยศ​สูง​ ​แต่​ก็​นับว่า​เป็น​ข้าราชการ​ใน​ราชสำนัก​ ​การ​ที่​หญิง​รับใช้​ต่ำต้อย​สาด​เหล้า​ใส่​เขา​ต่อหน้าธารกำนัล​ถือเป็น​การกระทำ​อุกอาจ​ที่​ใคร​ก็​คาดไม่ถึง

ขุนนาง​ที่​ใบหน้า​เปียก​สุราชะ​งัก​ไป​ใน​ทันใด​ ​แต่เพียง​ชั่ว​อึดใจ​ ​สติก​็​กลับ​เข้าที่​ ​เขา​แผดเสียง​เดือดดาล​ ​“​บ่าว​จองหอง​…​”

หัน​หราน​ผู้บัญชาการ​หน่วย​องครักษ์​จิ​่น​หลิน​พุ่ง​ปราด​เข้าไป​ทันใด

เจียง​ซื่อ​หลุบ​ตา​พลาง​เอ่ย​แผ่วเบา​ ​“​ใต้เท้า​ ​เขา​นี่แหละ​…​”

หัน​หราน​ผงะ​ชั่วครู่​ก่อน​จะ​รีบ​ตอบสนอง​ ​เขา​ชื่นชม​ใน​ความ​ฉลาด​ของ​พระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​อยู่​ใน​ใจ

การ​ชี้ตัว​เป้าหมาย​ด้วย​วิธี​นี้​เพื่อมิ​ให้​ไม่มี​ผู้ใด​สังเกต

หาก​เจียง​ซื่อ​รู้​ว่า​หัน​หรา​นคิด​เช่นนั้น​ ​นาง​คงจะ​หัวเราะ

เพราะ​ความจริง​แล้ว​ ​สาเหตุ​ที่นาง​สาด​สุรา​ใส่​เขา​เป็น​เพราะ​ขยะแขยง​พฤติกรรม​เลวทราม​ของ​เขา​ ​นาง​ทำ​ไป​เพื่อ​จะ​ระบาย​ความโกรธ​ ​ส่วน​เรื่อง​อื่นๆ​ ​นาง​คิด​ว่า​ค่อย​ไป​ตาม​แก้ที​หลัง

หัน​หราน​หันไป​มอง​ขุนนาง​ผู้​นั้น​ด้วย​สีหน้า​เคร่งขรึม

ขุนนาง​กล่าว​ด้วย​ความไม่พอใจ​ ​“​ใต้เท้า​หัน​ ​ท่าน​ดู​หญิง​รับใช้​ชั่ว​ผู้​นี้​ซิ​…​”

หัน​หราน​ผู้บัญชาการ​หน่วย​องครักษ์​จิ​่น​หลิน​เป็น​ผู้จัดงาน​เลี้ยง​เล็ก​ๆ​ ​นี้​ ​แม้ว่า​ยาม​ปกติ​พวกเขา​จะ​แสดง​ความ​ยำเกรง​ต่อ​องครักษ์​จิ​่น​หลิน​เพียงใด​ ​ในเมื่อ​วันนี้​องครักษ์​จิ​่น​หลิน​เป็น​เจ้าบ้าน​ ​พวกเขา​ถือเป็น​แขก​ ​หญิง​รับใช้​ของ​เจ้าบ้าน​สร้าง​ปัญหา​ ​ผู้​ที่​เป็น​แขก​ย่อม​แสดงท่าที​แข็งกร้าว​เป็นธรรมดา

อนึ่ง​ ​ขุนนาง​ผู้​นั้น​ก็​ไม่​คิด​ว่า​หัน​หราน​จะ​ออกตัว​ปกป้อง​หญิง​รับใช้​ที่​ประพฤติ​ตัว​ไม่เหมาะสม

แต่​ผู้ใด​จะ​คาดคิด​ว่า​ ​เรื่อง​ที่​ทุกคน​คาดไม่ถึง​กำลังจะ​เกิดขึ้น

สายตา​ของ​หัน​หราน​หันไป​หยุด​อยู่​ที่​ขุนนาง​ผู้​นั้น​ ​เขา​เอ่ย​เย็นชา​ ​“​พาตัว​ไป​”

ขุนนาง​กระแอม​ไอ​ ​“​หญิง​รับใช้​ที่​ไม่รู้​กาลเทศะ​เช่นนี้​ ​ขอ​ใต้เท้า​ลงโทษ​อย่าง​หนะ​…​”

ยัง​พูด​ไม่ทัน​จบ​ประโยค​ ​ทหาร​องครักษ์​จิ​่น​หลิน​สอง​นายก​็​รี่​เข้ามา​จับ​แขน​ทั้ง​ของ​ข้าง​ของ​เขา

ขุนนาง​ตกใจ​ ​“​ใต้เท้า​หัน​ ​ใต้เท้า​หัน​…​”

องครักษ์​ทั้งสอง​นาย​มิได้​สนใจ​ว่า​เขา​จะ​ดีดดิ้น​กู่​ร้อง​ ​เพียงแต่​ลากถูลู่ถูกัง​กัน​ไป

ภายใน​โถง​เงียบสงบ​ ​ไม่มี​เสียง​ชน​จอก​เล็ดลอด​เข้ามา​ใน​หู

ทุกคน​นิ่งอึ้ง​ ​กลืนน้ำลาย​ลงคอ​อึก​แล้ว​อึก​เล่า

นี่​มัน​อะไร​กัน​ ​แค่​ลูบ​มือ​หญิง​รับใช้​ ​ที่​สำคัญ​คือ​ยัง​ลูบ​ไม่​โดน​เสียด​้วย​ ​คง​มิได้​ถูก​โยน​เข้า​คุก​หรอก​ใช่ไหม

หัน​หราน​หันไป​ยิ้ม​ให้​แขก​ใน​งาน​ ​“​เชิญ​ทุกคน​ดื่ม​ต่อ​เถิด​ ​ดื่ม​”

สายตา​ของ​แต่ละคน​จดจ้อง​ไป​ที่​จอก​เหล้า​เบื้องหน้า​ ​แต่กลับ​ไม่รู้​สึก​พิสมัย​ใน​รสชาติ​น้ำเมา​อีกแล้ว

น่ากลัว​ขนาด​นี้​ ​ใคร​จะ​ไป​กล้า​ดื่ม​ ​ตกใจ​จน​ขวัญหนีดีฝ่อ​ไป​หมด​แล้ว

“​เช่นนั้น​ข้า​ขอดื​่ม​เพื่อ​เป็นเกียรติ​แก่​ทุกท่าน​ก่อน​ก็แล้วกัน​”​ ​หัน​หราน​ยก​จอก​กรอก​สุรา​ลงคอ​ใน​รวดเดียว

ครั้น​เห็น​หัน​หราน​ดื่ม​แล้ว​ ​คนอื่นๆ​ ​ก็​ไม่กล้า​รั้งรอ​ ​รีบ​ยก​จอก​กระดก​ตาม

หัน​หรา​นวาง​จอก​เปล่า​ลง​บน​ถาด​ที่​หญิง​รับใช้​ถือ​รอท่า​อยู่​ข้างๆ​ ​พลาง​กล่าว​แก่​เจียง​ซื่อ​ ​“​เจ้า​ตาม​ข้ามา​”

เจียง​ซื่อ​เดินตาม​หัน​หรา​นอ​อก​ไป​จาก​ห้องโถง

เมื่อ​ไป​ถึงที่​ที่​ไม่มี​คนอื่น​ ​หัน​หรา​นก​็​รีบ​ยกมือ​ขึ้น​คารวะ​เจียง​ซื่อ​ ​“​เรื่อง​วันนี้​เป็นการ​ล่วงเกิน​พระ​ชายา​แล้ว​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​…​”

เจียง​ซื่อ​คลี่​ยิ้ม​ ​“​ไม่เป็นไร​ ​ใต้เท้า​หัน​ ​รบกวน​ท่าน​ช่วย​นำ​เหล้า​จอก​หนึ่ง​มา​ให้​ข้า​ที​”

หัน​หรา​นรี​บส​่ง​จอก​เหล้า​ให้​นาง

เจียง​ซื่อ​ใช้​เข็มเงิน​ทิ่ม​เข้าที่​ปลายนิ้ว​ของ​ตัวเอง​ ​และ​ปล่อย​ให้​เลือด​หยด​ลง​ใน​จอก​เหล้า​ ​เมรัย​สี​อำพัน​เปลี่ยนเป็น​สีส้ม​จางๆ​

นาง​แกว่ง​ถ้วย​ ​เพียง​ชั่วครู่​ของเหลว​ใน​ถ้วย​ก็​กลับ​ไป​เป็น​สี​เดิม​ ​นาง​ส่ง​ถ้วย​ให้​หัน​หรา​นพ​ลาง​ส่ง​ยิ้ม​ ​“​ใต้เท้า​หัน​เอา​สุรา​นี้​ไป​ให้​ขุนนาง​ผู้​นั้น​ดื่ม​ ​แล้ว​เดี๋ยว​หนอน​ใน​ร่าง​ของ​เขา​ก็​จะ​ออกมา​เอง​”

หัน​หรา​นรับ​จอก​นั้น​ไป​ ​ริมฝีปาก​ของ​เขา​สั่น​เล็กน้อย​ ​ใจ​อยาก​จะ​ถาม​ว่า​หนอน​จะ​ออกมา​ทาง​ไหน​ ​แต่​ก็​กลัว​ว่า​คำตอบ​ที่​ได้​จะ​หนัก​เกิน​รับ​ไหว​ ​ฉะนั้น​จึง​เลือก​ที่จะ​ไม่​ถาม

“​พระ​ชายา​ ​ไม่ทราบ​ว่า​แล้ว​คนอื่นๆ​ ​ล่ะ​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​…​”

“​คนอื่นๆ​ ​ปกติ​ดี​”​ ​เมื่อ​หมด​หน้าที่​ของ​เจียง​ซื่อ​แล้ว​ ​นาง​ก็​ขึ้นรถ​ม้า​ที่​จอด​อยู่​ด้านหลัง​กลับ​ไป​ยัง​จวน​อ๋อง

ขุนนาง​คน​นั้น​ถูก​พาตัว​ไป​อีก​ห้อง​ด้วย​อาการ​ตื่นตระหนก​สุดขีด​ ​ผ่าน​ไป​ไม่นาน​ ​หัน​หรา​นก​็​เดิน​เข้ามา

เขา​ลุก​พรวด​ ​“​ใต้เท้า​หัน​…​”

หัน​หราน​ถือ​จอก​เหล้า​เข้ามา​สอง​ใบ​ ​ใบ​หนึ่ง​ส่ง​ให้​บุรุษ​ตรงหน้า​พร้อม​ยิ้มละไม​ ​“​ข้า​ดูแล​ไม่​ทั่วถึง​ ​สุรา​จอก​นี้​เป็น​คำขอโทษ​แก่​ใต้เท้า​หลิว​”

“​มิบั​งอาจ​ ​มิบั​งอาจ​”​ ​ขุนนาง​แซ่หลิว​รับ​จอก​เหล้า​ไป​ด้วย​อาการ​หวาดกลัว

เขา​ถือ​จอก​เหล้า​ไว้​ใน​มือ​ ​ลังเล​อยู่​ชั่ว​อึดใจ

ใน​โถง​งานเลี้ยง​ ​ผู้บังคับบัญชา​หัน​แสดงท่าที​ดุดัน​ ​ประหนึ่งว่า​พายุ​ใหญ่​ซัด​โหม​ ​เหล้า​จอก​นี้​คง​มิใช่​ยาพิษ​หรอก​ใช่​หรือไม่

เมื่อ​คิด​เช่นนั้น​ ​มือ​ของ​ขุนนาง​หลิว​ที่​ถือ​จอก​เหล้า​ก็​สั่น​ระริก​ ​ของเหลว​สี​อำพัน​กระเพื่อม​เป็น​วง​น้ำ​ที่​พร้อม​จะ​หก​อยู่​ทุกเมื่อ

หัน​หราน​ปั้นหน้า​ขรึม​ ​พลาง​เอ่ย​เย็นชา​ ​“​ทำไม​รึ​ ​หรือว่า​ใต้เท้า​หลิว​ไม่เห็น​แก่​หน้า​ข้า​”

“​หามิได้​”​ ​ขุนนาง​หลิว​กลั้นใจ​ยก​จอก​ขึ้น​ดื่ม​จน​เกลี้ยง

หาก​ผู้บัญชาการ​หน่วย​องครักษ์​จิ​่น​หลิน​ตั้งใจ​จะ​ฆ่า​เขา​จริงๆ​ ​เขา​ก็​คง​หนี​ไม่​พ้น​ ​ฉะนั้น​ก็​ดื่ม​เข้าไป​เถอะ

หัน​หราน​ยิ้ม​จาง​ ​เขา​วาง​จอก​เหล้า​ลง​บน​โต๊ะ​ข้างๆ​

สีหน้า​ของ​ขุนนาง​หลิว​ขาวซีด​กว่า​ตอนแรก​ ​ใน​ท้อง​เริ่ม​ปั่นป่วน​ ​ก่อน​จะ​อ้า​ปาก​สำรอก​บางอย่าง​ออกมา

กลิ่น​เมรัย​คละคลุ้ง​ไป​ทั่ว​ ​หัน​หราน​หรี่​ตาม​อง​หนอน​ตัว​หนึ่ง​ที่​กำลัง​บิด​ตัว​ไปมา​ใน​กอง​อ้วก

ใน​วินาที​นั้น​ ​สมอง​ของ​เขา​ปวด​หนึบ​ ​ขน​ทุก​อณู​บน​เรือนร่าง​ลุก​พรึบ​อย่าง​พร้อมเพรียง

การ​ได้​เห็น​เรื่อง​พิศวง​เช่นนี้​ด้วย​ตา​ตนเอง​ทำให้​เขา​เชื่อ​อย่าง​สุดใจ​ว่า​พระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​เป็น​ผู้​มีฝีมือ

เมื่อ​ขุนนาง​หลิว​สำรอก​อาหาร​ใน​กระเพาะ​ออกมา​จน​เกลี้ยง​ ​เขา​มิได้​ใส่ใจ​ของเหลว​บน​พื้น​ ​ใบหน้า​ซีดเซียว​หันไป​กล่าว​แก่​หัน​หราน

หัน​หราน​ทำที​หัวเราะ​ ​“​ท่าทาง​ใต้เท้า​หลิว​คงจะ​ดื่ม​มาก​ไป​หน่อย​ ​ใต้เท้า​หลิว​ไม่ต้อง​กังวล​ไป​ ​ท่าน​สร่าง​จาก​ฤทธิ์​สุรา​เมื่อไหร่​ ​ข้ามี​คำถาม​เกี่ยวกับ​อู​เหมียว​จะ​ถาม​ท่าน​ ​ทหาร​ ​พา​ใต้เท้า​หลิว​ไป​พัก​ที่อื่น​”

ไม่​กี่​อึดใจ​ทหาร​องครักษ์​จิ​่น​หลิน​สอง​นายก​็​เข้ามา​พาตัว​ขุนนาง​หลิว​ออก​ไป​ ​ขุนนาง​หลิว​ไม่ทัน​ได้​สังเกต​เลย​ว่า​ใน​กอง​อาเจียน​ที่​ตัวเอง​สำรอก​ออกมา​มี​หนอน​ตัว​หนึ่ง​ดิ้น​พล่าน​อยู่​ใน​นั้น

รอ​จน​เขา​ออก​ไป​แล้ว​ ​หัน​หรา​นก​็​นั่ง​ยอง​ลง​ ​ใช้​นิ้วมือ​ข้าง​หนึ่ง​บีบ​จมูก​ตัวเอง​ ​ส่วน​อีก​ข้าง​ใช้​ที่​คีบ​คีบ​หนอน​ตัว​นั้น​ขึ้น​มา​ใส่​ใน​กล่อง​ใบ​เล็ก​ที่​เขา​มักจะ​พก​ติดตัว

ไม่​ควร​กลับ​ไปรา​ยงาน​ฮ่องเต้​ปากเปล่า​ ​ไม่ว่า​ฮ่องเต้​จะ​อยาก​ทอดพระเนตร​เจ้า​หนอน​นี้​หรือไม่​ ​เขา​ก็​ควร​นำ​มัน​ไป​ด้วย

……

ภายใน​ห้อง​ทรงพระ​อักษร​ ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​กำลัง​เฝ้ารอ​ข่าวคราว​จาก​หัน​หราน

“​ฝ่า​บาท​ ​ผู้บัญชาการ​หันมา​ขอ​เข้าเฝ้า​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

“​ให้​เขา​เข้ามา​”

หัน​หราน​ถูก​พาตัว​เข้ามา​ ​หลังจาก​ถวาย​ความเคารพ​เรียบร้อย​แล้วก็​รายงาน​แก่​ฮ่องเต้​ ​“​ฝ่า​บาท​ ​พระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​พบ​หนอน​ใน​ร่างกาย​ของ​ขุนนาง​หลิว​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​เคร่งขรึม​ขึ้น​ทันใด

เขา​เป็นห่วง​ว่า​จะ​เกิดเรื่อง​เช่นนี้​ ​เพียงแต่​ไม่​คิด​ว่า​คน​อู​เหมียว​จะ​กล้า​ทำ

“​แล้ว​คนอื่นๆ​ ​รู้เรื่อง​นี้​หรือไม่​”

หัน​หรา​นรีบ​เล่า​เหตุการณ์​โดยละเอียด

จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​เผย​สีหน้า​ประหลาดใจ​ ​“​เจ้า​บอกว่า​ ​พระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​ที่​แต่งกาย​เป็น​หญิง​รับใช้​สาด​เหล้า​ใส่​หน้า​ขุนนาง​หลิว​งั้น​รึ​”

“​ถูกต้อง​แล้ว​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​ฉะนั้น​กระหม่อม​จึง​สบโอกาส​พาพระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​และ​ขุนนาง​หลิว​ออกมา​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​หัวเราะ​ร่า​พลาง​หันไป​กล่าว​แก่​พาน​ไห่​ ​“​ข้า​คิด​แล้ว​เชียว​ว่า​พระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​เป็น​ผู้​มีไหวพริบ​เป็นเลิศ​”

ส่วน​ขุนนาง​หลิว​ ​ที่​มียศ​เป็น​ถึง​ขุนนาง​ใน​ราชสำนัก​แต่กลับ​ทำตัว​เหมือน​เศษ​สวะ​เช่นนั้น​ก็​ให้​กลับ​ไป​ปลูก​มัน​อยู่​ที่​บ้าน​ก็แล้วกัน

เมื่อ​พาน​ไห่​เห็น​ว่า​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ดู​อารมณ์ดี​ ​เขา​ก็​รู้สึก​ขอบคุณ​เจียง​ซื่อ​ยิ่งนัก​ ​ขันที​อาวุโส​คลี่​ยิ้ม​พลาง​ตอบ​ ​“​เป็น​เพราะ​ฝ่า​บาท​ทรง​มี​วิสัยทัศน์​กว้างไกล​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​หุบ​ยิ้ม​พลาง​หันไป​ถาม​หัน​หราน​ ​“​แล้ว​ตอนนี้​เป็น​อย่างไร​”

“​หนอน​ใน​ร่าง​ขุนนาง​หลิว​ออกมา​แล้ว​ ​ตอนนี้​กำลัง​รอ​ให้​เขา​สร่าง​จาก​อาการ​มึนเมา​เสียก่อน​ ​กระหม่อม​จะ​สอบถาม​เขา​ว่า​ ​เขา​เคย​คลุกคลี​กกับ​ใคร​ที่​เป็น​ชาว​อู​เหมียว​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​หัน​หราน​เว้น​วรรค​ก่อน​จะ​ถาม​ ​“​ไม่ทราบ​ว่า​ฝ่า​บาท​ปรารถนา​จะ​ทอดพระเนตร​หรือไม่​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ชะงัก​ไป​ก่อน​จะ​ตระหนัก​ได้​ว่า​หัน​หราน​จะ​ให้​เขา​ดู​อะไร​ ​ฮ่องเต้​ดึง​มุม​ปาก​พลาง​บอก​ ​“​ไม่ต้อง​”

เขา​มิได้​สงสัย​ใคร่รู้​ปาน​นั้น​ ​แต่​ที่​แน่ๆ​ ​เขา​ควรจะ​ตอบโต้​อู​เหมียว​เสียบ​้าง​!