ยู่ฉางตงทิ้งตัวลงบนกิ่งไม้ ตัวเขาได้เก็บซ่อนพลังให้ได้มากที่สุดพร้อมกับดาบยืนยาว ยู่ฉาง ตงหลับตาลง ตัวเขาตั้งใจที่จะเมินเฉยต่อทุกสิ่งทุกอย่าง ยู่ฉางตงตั้งใจที่จะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขที่สุดในอีก 49 วันข้างหน้า
ไม่นานนักเหล่าผู้ฝึกยุทธทั้งหลายก็เริ่มเข้ามาใกล้ ทุกคนต่างก็หยุดชะงัก
ยู่ฉางตงที่สัมผัสได้สับสนเล็กน้อย ตัวเขามองเห็นผู้ฝึกยุทธกว่าหลายคนกําลังข้ามผ่านพุ่มไม้หนาทึบไป
ผู้ฝึกยุทธที่อยู่ภายใต้แสงจันทร์ดูโดดเด่นเป็นอย่างมาก ทุกคนล้วนแต่สวมเสื้อคลุมสีม่วง ปกปิดใบหน้ามิดชิด ทุกคนลอยกันมาอย่างเป็นระเบียบ
“แดนเถ้ากระดูกอยู่ข้างหน้าแล้ว…จากแผนที่พวกเราเตรียมกันมา พวกเราจะต้องจัดการโครงกระดูกทั้งหมดได้แน่”
“ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา มีหลายคนที่ต้องถูกฝังอยู่ในแดนเถ้ากระดูก ไม่ว่าผู้ที่ตายจะเป็นใครแต่ทุกคนที่ถูกฝังก็ควรที่จะได้รับความเคารพเช่นกัน”
ผู้ฝึกยุทธหลายคนบินไปด้านข้างบังโคลน มีชายคนหนึ่งก้าวออกมาข้างหน้าก่อนที่จะประกาศเสียงดัง “ผู้ที่จากไปแล้วควรค่าที่จะได้รับความเคารพจากพวกเรา…จิตวิญญาณและเจตจํานงของพวกเขาจะถูกส่งต่อให้กับคนรุ่นหลัง”
ผู้ฝึกยุทธหลายคนบินตามชายคนนั้นไป ทุกคนต่างเห็นโครงกระดูกนับไม่ถ้วนในแดนเถ้ากระดูก
โครงกระดูกทั้งหลายเปรียบเสมือนไพ่ตายของชาวลั่วหลาน
เมื่อยู่ฉางตงเห็นแบบนั้น ตัวเขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าทุกคนที่มาที่นี่มาก็เพราะโครงกระดูก…
แดนเถ้ากระดูกเป็นเหมือนกับไพ่ตายของชาวล้วหลาน ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยผู้จงรักภักดี ทุกคนที่ถูกฝังได้แต่หวังว่าเมื่อตายจะมีส่วนร่วมในการปกป้องลั่วหลาน เวทมนตร์คาถาที่พวกเขามีเป็นกุญแจสําคัญที่จะใช้ในการควบคุมโครงกระดูกทั้งหมด
ยู่ฉางตงเลิกมองผู้ฝึกยุทธทั้งหลาย ตัวเขาเลือกที่จะหลับตาอีกครั้ง
ในตอนนั้นเองผู้ฝึกยุทธชุดม่วงกว่าหลายคนก็ได้รวมตัวเป็นวงกลมอยู่เหนือบังโคลน
“ลงมือได้
“จงสรรเสริญ!”
ผู้ฝึกยุทธชุดม่วงต่างก็ประสานฝ่ามือ การประสานฝ่ามือของพวกเขาได้ก่อให้เกิดแสงสีม่วงจางๆ
ไม่นานหลังจากนั้นล่าแสงสีม่วงก็พุ่งตรงไปยังแดนเถ้ากระดูก โครงกระดูกที่ถูกแสงสีม่วงเริ่มกลับมามีชีวิตก่อนที่จะออกเคลื่อนไหว
“เตรียมพิธีซะ”
ผู้ฝึกยุทธชุดม่วงหลายคนต่างก็ยืนหยัดอยู่ที่ตําแหน่งของตัวเอง ทุกคนต่างก็ยกฝ่ามือขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกัน ทันทีที่ทุกคนเหลือบมองฟ้า หมวกที่เคยคลุมศีรษะก็หลุดออก ที่หน้าผากของทุกคนต่างก็มีตราดอกบัวสีม่วงปรากฏ ในขณะที่ทุกคนเริ่มร่ายเวทมนตร์คาถา ดอกบัวสีม่วงก็เริ่มส่องประกายมากยิ่งขึ้น
ช่วว! ซูวว! ซ่วว!
พลังโดยรอบเพิ่มสูงขึ้น
“กัน…ช.บ่อ…แถา…เพียว…ม่…ยู…เหลียง…ซึ่ง…”
ค่าพูดที่ไม่อาจบรรยายความหมายได้หลุดออกจากปากของทุกคน เมื่อเสียงพึมพําเริ่มดังขึ้น ก๊าซสีม่วงก็เริ่มลอยออกมาจากร่างกาย สิ่งที่ผู้ฝึกยุทธชุดม่วงกําลังทําอยู่นั่นก็คือการควบคุมพลังโดยรอบ ไม่นานหลังจากนั้น วงเวทย์สีม่วงก็เริ่มส่องประกายที่ใต้ฝ่าเท้าของทุกคน
ในทันใดนั้นเองฟองอากาศก็เริ่มผุดมาบนบึงโคลน
ผู้ฝึกยุทธชุดม่วงต่างก็สับสน
“ระวัง! มีใครอยู่ตรงนั้น!”
ในฐานะที่เป็นผู้ฝึกฝนเวทมนตร์คาถา เป็นธรรมดาที่ประสาทสัมผัสของทุกคนจะเฉียบคมไปกว่าคนธรรมดา มันไม่แปลกเลยที่ผู้อยู่ใกล้กับความตายจะสัมผัสได้ถึงพลังของสิ่งมีชีวิต
ทุกคนต่างก็เหลือบมองแหล่งน้ําก่อนจะสบตากัน ทุกคนหยุดสิ่งที่กําลังจะทําก่อนที่จะเหลือบมองแอ่งน้ําอย่างตั้งใจ
ในตอนนั้นเองเสียงที่ฟังดูอ่อนโยนก็ได้ดังมาจากป่าด้านข้าง “ข้าต้องขอโทษด้วย”
ผู้ฝึกยุทธชุดม่วงต่างก็ตกตะลึงเมื่อได้ยินเสียงที่ว่า ทุกคนต่างก็เหลือบมองไปยังที่มาของเสียง
ภายใต้แสงจันทร์ในยามดึก ผู้ฝึกยุทธชุดเขียวได้ออกมาจากป่าใกล้เคียง ท้ายที่สุดแล้วชายคนนั้นก็ได้หยุดเคลื่อนไหว แม้ว่าจะเป็นชายเพียงคนเดียว แต่ทุกคนก็รู้ได้ทันทีว่าชายที่อยู่ตรงหน้าจะต้องเป็นยอดฝีมือ
ยู่ฉางตงเริ่มถามออกมาเบาๆ “ถ้าหากเป็นไปได้พวกเจ้าช่วยไปร่ายเวทมนตร์คาถาที่อื่นได้รึเปล่า?”
“ทําไมกันล่ะ?” ผู้ฝึกยุทธที่เป็นผู้ใช้เวทมนตร์คาถาถามออกมาด้วยความสงสัย
ฉางตงมองขึ้นไปที่ดวงจันทร์ก่อนที่จะถามกลับไปแทน “สถานที่ที่เงียบสงบแบบนี้ไม่เหมาะกับการพักผ่อนกว่าเหรอ?”
“ขอโทษนะสหาย…พวกเรามาที่นี้ก็เพราะคําสั่ง พวกเราจะต้องร่ายเวทมนตร์คาถาที่นี่เท่านั้น” ผู้ฝึกยุทธคนหนึ่งตอบกลับ
“แดนเถ้ากระดูกเป็นพื้นที่รกร้างกว้างใหญ่ ถ้าหากพวกเจ้าเปลี่ยนสถานที่มันก็คงจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรเท่าไหร่…” ยู่ฉางตงยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น “ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะเชื่อคําแนะนําของข้านะ”
ผู้ฝึกยุทธผู้ใช้เวทมนตร์คาถาด้านหลังตอบกลับอย่างดูแคลน “แล้วทําไมพวกเราจะต้องเปลี่ยนสถานที่ด้วยล่ะ? ทําไมเจ้าไม่เปลี่ยนสถานที่แทน? ในโลกใบนี้ยังมีที่ให้พักผ่อนอีกตั้งมากมาย! ที่นี่คือที่ที่ดีที่สุดที่พวกเราจะร่ายเวทมนตร์คาถา!”
“ข้าเองก็คิดแบบนั้น” ยู่ฉางตงตอบกลับอย่างห้วนๆ
“สหาย ออกไปได้แล้ว”
ยู่ฉางตงส่ายหัวเบาๆ ท่าทางของเขายังดูสงบเยือกเย็นอยู่เช่นเคย “ก็เหมือนกับเจ้าที่ต้องการแบบนั้น ข้าเองก็จะอยู่”
ในขณะที่ยู่ฉางตงพูด ในตอนนั้นดาบยืนยาวของเขาก็พุ่งออกมาจากฝัก ดาบยืนยาวที่หมุนออกมาแยกตัวออกเป็นสองเล่ม สีเล่ม แปดเล่ม…ดาบพลังงานจํานวนนับไม่ถ้วนถูกสร้างอย่างรวดเร็ว
ชะตาดาบปีศาจ!
“ไม่! รีบป้องกันตัวซะ!”
ผู้ฝึกยุทธหลายคนต่างก็ยกมือขึ้นมา ในทันใดนั้นเองม่านพลังสีม่วงขนาดใหญ่ก็ผุดออกมาจากวงเวทย์
พลังของชะตาดาบปีศาจได้ตกลงใส่ม่านพลังราวกับลูกเห็บ
ตุ้ม! ตู้ม! ตุ้ม! ตุ้ม! ตุ้ม!
ดาบพลังงานทั้งหลายทําลายม่านพลังได้อย่างง่ายดาย ดาบพลังงานที่เหลืออยู่เจาะทะลุหน้าอกของผู้ฝึกยุทธผู้ใช้เวทมนตร์คาถาเสียชีวิต มีผู้ฝึกยุทธกว่า 50 คนเสียชีวิตในทันที
ผู้ฝึกยุทธที่รอดมาได้ต่างก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป
ยู่ฉางตงยกมือขวาขึ้น ในที่สุดดาบยืนยาวก็กลับมาสู่มือ ยู่ฉางตงคว้าดาบไว้ก่อนที่จะก้าวไปข้างหน้า
“หยุดเจ้านั่นซะ!”
“ฆ่ามัน!”
วงเวทย์สีม่วงเปล่งประกายก่อนที่จะปล่อยพลังตรงไปทางยู่ฉางตง
ยู่ฉางตงเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงก่อนที่จะใช้ดาบฟันไปที่ด้านหน้า
ดาบพลังงานนับไม่ถ้วนได้ปัดป้องพลังจากวงเวทย์สีม่วงเอาไว้
ตุ้ม! ตุ้ม! ตุ้ม!
ผู้ฝึกยุทธผู้ใช้เวทมนตร์คาถากระเด็นกลับมา
ก่อนที่ทุกคนจะได้สังเกตเห็น ในตอนนั้นดาบพลังงานจํานวนมากก็โปรยปรายลงมาอีกครั้ง ดาบพลังงานได้เจาะทะลุหน้าอกของผู้ที่กระเด็นกลับไป
นิ้วะ! ฉิวะ! นิ้วะ! นิ้วะ! ฉิวะ!
ซากศพของเหล่าผู้ฝึกยุทธได้ร่วงหล่นจากฟากฟ้าสู่บังโคลน
เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวเหลือผู้ฝึกยุทธผู้ใช้เวทมนตร์อีกแค่สิบคนเท่านั้น
ผู้ฝึกยุทธผู้เป็นผู้นําขมวดคิ้ว เมื่อเห็นว่าต้องเสียคนเป็นจํานวนมากตัวเขาก็เริ่มที่จะออกเคลื่อนไหว ชายคนนั้นโบกมือขึ้นก่อนจะส่งเสียงตะโกน “ถอยเร็วเข้า!”
ผู้ฝึกยุทธผู้ใช้เวทมนตร์คาถาที่เหลือต่างก็ถอยหนี
ฉางตงที่เห็นแบบนั้นก็ได้พูดออกมาอย่างเยือกเย็น “ขอโทษด้วย แต่ไม่มีใครจะออกไปจากที่นี่ได้…”
คงจะดีกว่าถ้าหากไม่มีใครหนีรอดไปได้ ถ้าหากมีใครหนีรอดไปได้นั่นก็อาจจะมีใครเผยแพร่เรื่องราวในวันนี้
ยู่ฉางตงเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูง แสงสีแดงจางๆ ได้ส่องประกายจากดาบยืนยาว แสงที่เห็นส่องสว่างมากกว่าครั้งไหน!
สุดยอดเคล็ดวิชา!
ยู่ฉางตงเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วก่อนที่จะใช้ดาบยืนยาวเจาะทะลุหน้าอกของผู้ฝึกยุทธที่ถูกทิ้งท้าย ตัวเขาไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น ยู่ฉางตงยังเคลื่อนที่ต่อไปด้วยความเร็วสูง
ผู้ฝึกยุทธผู้ใช้เวทมนตร์คาถาที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีห้าคนต่างก็หันกลับมาก่อนที่จะปล่อยพลังแสงสีม่วงออกมาจากฝ่ามือ
จากประสบการณ์การต่อสู้ที่เคยมีมา ยู่ฉางตงรู้ดีว่าพลังแสงสีม่วงมันอันตราย ตัวเขาที่เห็นแบบนั้นก็ได้เหวี่ยงดาบยืนยาวที่มีด้วยเรี่ยวแรงอันมหาศาล
ดาบไร้รอย!
ดาบพลังงานจํานวนมากปรากฏขึ้น ดาบพลังงานจํานวนมากได้กวาดพลังแสงสีม่วงออกไป!
ไม่ทันที่ทุกคนจะเริ่มโจมตีอีกครั้ง ยู่ฉางตงก็ได้มาถึงตรงหน้าของทุกคนแล้ว ยู่ฉางตงเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวดาบพลังงานทั้งหลายก็เสียงแทงทุกคน
ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ!
ดาบพลังงานได้เจาะทะลุร่างกายของพวกเขาไป
“นี่มันยอดผู้ใช้ดาบแห่งดินแดนหยาน?” จนถึงตอนนี้มีเพียงผู้ฝึกยุทธคนเดียวเท่านั้นที่รอดชีวิตมาได้
ผู้ฝึกยุทธคนนั้นอยู่ไกลออกไป เมื่อเขาเห็นพรรคพวกทั้งหมดตายตัวเขาก็หยุดเคลื่อนไหว ชายคนนั้นเลือกที่จะหันกลับมาเผชิญหน้ากับยู่ฉางตงแทน ชายคนนั้นรู้ดีว่าไม่มีประโยชน์ที่จะหันหลังหนี!
ยู่ฉางตงยกดาบยืนยาวขึ้น ตัวเขาส่ายหัวก่อนที่จะถอนหายใจออกมา “นี่ไม่ใช่สิ่งที่ข้าตั้งใจจะทํา…ข้าไม่มีทางเลือก”
“…” ผู้ฝึกยุทธผู้ที่เป็นผู้นําของผู้ฝึกยุทธชุดม่วงได้พูดขึ้น “เจ้าก็คือชาวดินแดนหยานผู้ไร้ยางอายและน่ารังเกียจอย่างงั้นสินะ?”
“เจ้าจะคิดแบบนั้นก็เชิญ…” ยู่ฉางตงไม่ได้สนใจที่จะโต้แย้งกับชายตรงหน้า
หัวหน้าของผู้ฝึกยุทธผู้ใช้เวทมนตร์คาถาเริ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ข้ายอมรับว่าชาวดินแดนหยานแข็งแกร่งในการต่อสู้ตัวต่อตัว ครั้งนี้…เจ้าก็แค่โชคดีเจอกับผู้ใช้เวทมนตร์คาถาระดับต่ําเท่านั้น ถ้าหากเจ้าฆ่าข้า…นครหลวงจะต้องพากันมาที่นี่แน่ ต่อให้เจ้าหนีไปให้สุดขอบโลก ทุกคนก็จะตามล่าเจ้า”
“นั่นเป็นคําขู่อย่างงั้นเหรอ?” ยู่ฉางตงรู้สึกขบขันที่ได้ฟังแบบนั้น