เจียงหยุนเอ๋ออยู่ที่นี่มาได้สักพักแล้ว เวลาปรกติก็มักจะพูดคุยสัพเพเหระกับพวกเขาอยู่บ่อยๆ แม้ว่าจะไม่ได้สื่อสารภาษาเดียวกัน แต่เพราะมีชายชุดดำที่เฝ้าเวรยามอยู่ข้างนอก บางครั้งก็ทำให้รู้สึกเบื่อ และบางครั้งพวกเขาก็พูดคุยกับเจียงหยุนเอ๋อแบบคำถามไม่ตรงกับคำตอบอะไรประมาณนั้น เพราะเป็นอย่างนี้ เจียงหยุนเอ๋อก็พอจะรู้นิสัยของแต่ละคนด้วยเช่นกัน
เพราะภาษาของเจียงหยุนเอ๋อนั้นแข็งแรง และเธอเองก็ฟังภาษาอิตาลีมาเป็นเวลานาน เธอจึงฟังรู้เรื่องบ้างเล็กน้อย แต่จะให้พูดก็ยังลำบากอยู่มาก ประโยคสั้นๆง่ายๆเธอก็สามารถพูดมันได้
ในวันนี้ เมื่อออกกำลังกายอยู่ในห้อง จู่ๆก็เห็นว่าข้างเตียงเธอมีหนังสืออยู่เล่มหนึ่ง เธอก้มตัวนั่งยองๆอย่างยากลำบาก ใช้เวลาอยู่สักพัก ก็หยิบเอาหนังสือนั้นออกมาได้
เจียงหยุนเอ๋อเช็ดทำความสะอาดหนังสือด้วยกระดาษชำระ พบว่าเป็นพจนานุกรมภาษาอิตาลีที่บอกเกี่ยวกับคำศัพท์ทั่วๆไป เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกตื่นเต้นดีใจมาก เธอฝึกเรียนหนังสือเล่มนี้อยู่ทั้งวัน และพอจะรู้ประโยคง่ายๆขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ก็ยังมีบางคำที่เธอออกเสียงไม่ได้ เธอจึงตัดสินใจไปถามชายชุดดำที่ประตู
ชายชุดดำเห็นเจียงหยุนเอ๋อถือหนังสือมาเล่มหนึ่ง รู้สึกแปลกใจจึงถามเธอว่า “หนังสือเล่มนี้คุณไปเอามาจากไหน?”
แม้ว่าเจียงหยุนเอ๋อจะฟังไม่รู้เรื่อง แต่เธอก็เดาจากท่าทางและการแสดงออกของชายชุดดำคนนั้น จากนั้นเธอก็ชี้นิ้วไปทางหัวเตียง
หนังสือเล่มนี้น่าจะเป็นของคนก่อนหน้าลืมทิ้งเอาไว้ อีกทั้งผู้หญิงคนนี้ก็ยังสวยแม้ว่ากำลังตั้งครรภ์อยู่ แล้วยังรักการเรียนรู้อีกด้วย สอนเธอสักหน่อย ต่อไปก็สะดวกกับการพูดคุยสื่อสารกับเธอ เวลาผ่านมานานขนาดนี้แล้วก็ยังไม่มีใครมาช่วยเธอ ดูท่าสามีของเธอคงถอดใจยอมแพ้แล้ว หากวันข้างหน้าเธอมีชีวิตรอดไปได้ ตัวเองจะรับเธอมาเป็นลูกสะใภ้ก็ยังได้
ชายชุดดำดูเหมือนจะคิดไปต่างๆนานา แต่ผลลัพธ์มันก็เป็นผลดี เขาเต็มใจที่จะสอนเจียงหยุนเอ๋อนั้นก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว
ชายชุดดำสอนเจียงหยุนเอ๋อมาแล้วตลอดทั้งวัน รับรู้ได้ว่าเจียงหยุนเอ๋อเป็นคนที่ฉลาดมาก และเรียนรู้เร็ว จนตัวเขาเองก็รู้สึกภูมิใจไปด้วย
ในวันถัดไป เจียงหยุนเอ๋อก็สามารถสื่อสารกับพวกเขาด้วยประโยคง่ายๆได้แล้ว เมื่อการพูดคุยขยับเข้ามาอีกขั้น เจียงหยุนเอ๋อก็จะใช้ภาษาอังกฤษและภาษากายประกอบ ด้วยวิธีแบบนี้ก็สามารถทำให้การสื่อสารกับพวกเขาเป็นไปได้อย่างราบรื่น
หลังจากที่การสื่อสารผ่านไปได้ด้วยดี เจียงหยุนเอ๋อก็เริ่มคิดหาวิธีที่จะออกไปจากที่นี่ แม้จะยังออกไปไม่ได้ก็ขอสำรวจพื้นที่บริเวณโดยรอบไปก่อน หากฐานทัพที่นี่เกิดอะไรขึ้น เธอก็ยังสามารถหนีเอาตัวรอดได้ ถึงตอนนั้นก็คงไม่สิ้นหนทางอะไร
ในวันนี้ เจียงหยุนเอ๋อส่งยิ้มหวานๆให้กับชายชุดดำทั้งสองคน
“ในห้องมันอุดอู้ ไม่ดีต่อสุขภาพร่างกายของฉัน ฉันขอไปเดินเล่นหน่อยได้ไหม?”
ในหลายวันนี้แม้ว่าชายชุดดำจะคุ้นเคยกับเจียงหยุนเอ๋ออยู่มาก แต่พอได้ยินว่าเธอจะออกไปเดินเล่น ก็ยังคงระมัดระวังอยู่มาก “คุณคิดที่จะหนีอยู่หรือเปล่า ?”
“จะเป็นไปได้ยังไง ท้องฉันใหญ่ขนาดนี้ จะหนีออกไปได้ยังไง” แม้ว่าความคิดของเจียงหยุนเอ๋อจะถูกเดาออก แต่เธอก็ไม่แสดงอาการตื่นตระหนกอะไร
“หากพวกคุณไม่ไว้ใจ คอยตามดูฉันก็ได้”
ชายชุดดำเกิดความลังเล เขาคิดว่าแม้เจียงหยุนเอ๋อจะฉลาดอยู่มาก แต่ด้วยร่างกายที่อุ้ยอ้าย และยังมีระบบป้องกันที่ล้ำสมัยนี้อีก จึงได้ตอบตกลงเธอไป “ผมให้คุณไปได้ แต่ผมต้องไปถามนายก่อน ”
เมื่อเจียงหยุนเอ๋อเห็นว่ามีหวัง ก็พยักหน้ารับทันที แต่ชายชุดดำหาอาเธอร์ไม่พบ จึงได้ไปถามเอากับศาสตราจารย์คูลี่ และศาสตราจารย์คูลี่ ก็อนุญาต
หลังจากที่ชายชุดดำกลับมา เขาก็วางกรอบให้กับเจียงหยุนเอ๋อ “คุณสามารถใช้แค่พื้นที่ตรงนี้ในการทำกิจกรรม ห้ามไปที่อื่นเด็ดขาด ผมจะจับตาดูคุณอยู่ตลอด ”
เจียงหยุนเอ๋อดีใจมาก เธอยิ้มหวานให้กับชายชุดดำ แล้วกล่าวขอบคุณ
ในช่วงค่ำ เจียงหยุนเอ๋ออยู่ตรงทางเดินมองออกไปยังด้านนอกผ่านกระจก ก็เห็นเคซี่ย์ แม้ว่าช่วงนี้เคซี่ย์จะคอยเอายามาให้เธอบ่อยๆ แต่เจียงหยุนเอ๋อก็ไม่ได้มีความรู้สึกดีๆกับเขาเท่าไร
เมื่อเจียงหยุนเอ๋อได้ยินเสียงการเคลื่อนไหว จึงหันไปดู เห็นเป็นเคซี่ย์ ก็แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นเขา และยังคงมองไปยังนอกหน้าต่างต่อ
เมื่อเคซี่ย์เห็นเจียงหยุนเอ๋อมองมาที่ตัวเอง ก็รีบหันหลังกลับ และรู้ว่าเจียงหยุนเอ๋อกำลังคิดอะไรอยู่ แอบยิ้มออกมา แล้วเดินมายืนอยู่ข้างๆเจียงหยุนเอ๋อ
“คุณเจียง วิวด้านนอกสวยไหม ?”
เจียงหยุนเอ๋อเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง เสียงฮึอยู่ในลำคอ
“ฉันขอแนะนำคุณให้หยุดคิดเรื่องที่จะหนีออกไป เพราะมันเป็นไปไม่ได้”
ทันทีที่เจียงหยุนเอ๋อได้ยินภาษาจีน ก็รู้สึกแปลกใจมากอึ้งไปอยู่ครู่หนึ่งกว่าจะได้สติ ก็มองไปยังเคซี่ย์ด้วยใบหน้าที่ฉงน
“คุณ…คุณพูดภาษาจีนได้”
เคซี่ย์เหลือบมองเธอ แล้วโบกมือ
“ที่นี่มีกล้องวงจรปิดอยู่เต็มไปหมด อย่าแสดงอาการประหลาดออกมาเดี๋ยวจะถูกจับได้”
“คุณพูดภาษาจีนได้ยังไง?” แม้ว่าเจียงหยุนเอ๋อจะยังแปลกใจอยู่มาก แต่ก็เก็บอาการนั้นไว้ แล้วแสดงท่าทีปรกติออกมา
“มันจะยากอะไร เพราะผมเองก็เคยอาศัยอยู่ในประเทศของคุณมาก่อน” เคซี่ย์ก็มองไปยังโลกภายนอกเหมือนกันกับเจียงหยุนเอ๋อ
“คุณอยู่ที่นี่และทำตัวดีๆเถอะ อย่าเอาแต่คิดที่จะหนีออกไปเลย การป้องกันของที่นี่แน่นหนามาก เพียงแค่คุณประมาทไม่ยั้งคิด ก็จะมีกระบอกปืนยื่นออกมา ยิงร่างคุณจนพรุน”
เมื่อเจียงหยุนเอ๋อได้ยินคำเตือนของเคซี่ย์ แม้จะเข้าใจดีว่าเธอกำลังพูดเตือนตัวเอง แต่ไม่รู้ว่าทำไม เจียงหยุนเอ๋อกลับได้ยินความหวังดีจากคำพูดประโยคนี้ อาจเป็นเพราะเมื่อกี้ได้ยินเขาพูดภาษาจีน เจียงหยุนเอ๋อคิดว่าเป็นเช่นนั้น
หลังจากที่เคซี่ย์พูดจบ ก็เรียกชายชุดดำที่อยู่ข้างๆเข้ามา “ผู้หญิงคนนี้ใช้เวลาอยู่ข้างนอกมามากพอสมควรแล้ว พาเธอกลับได้แล้ว ศาสตราจารย์คูลี่ให้ฉันมาตรวจเช็กร่างกายของเธอ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเจาะเลือดครั้งต่อไป ”
เวลานี้เคซี่ย์พูดเป็นภาษาอิตาลี ด้วยความสามารถของเจียงหยุนเอ๋อ ประโยคยากๆแบบนี้เธอเดาได้แค่บางคำเท่านั้น อาทิเช่น ศาสตราจารย์คูลี่
ทันทีที่ได้ยินคำว่าศาสตราจารย์คูลี่ เจียงหยุนเอ๋อก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาทันที จากนั้นก็เห็นชายชุดดำเดินมาทางเธอ บังคับกึ่งประคองเธอกลับไปยังห้องของตัวเอง และด้านหลังมีเคซี่ย์เดินตามมาติดๆ
เคซี่ย์มาบ่อย จึงรู้ว่าเขาเป็นผู้ช่วยของศาสตราจารย์คูลี่ ดังนั้นก็จึงเคารพเขามากด้วยเช่นกัน
ในตอนที่ชายชุดดำพาเจียงหยุนเอ๋อกลับไปนั้น ก็เอ่ยปลอบเธอเสียงเบาไปว่า “ไม่ต้องกลัว ฉันแค่ต้องการจะตรวจเช็กคุณ”
เจียงหยุนเอ๋อยิ้มให้เขาไปอย่างอ่อนโยน
หลังจากกลับมาถึงที่ห้อง เคซี่ย์หยิบเอาชุดเครื่องมือแพทย์ออกมา แล้วสุ่มเช็กให้เจียงหยุนเอ๋อ จากนั้นก็หยิบยาให้กับเจียงหยุนเอ๋อ
“ทำไมคุณถึงช่วยฉัน?” เจียงหยุนเอ๋อเอ่ยถามในตอนที่เขายื่นยามาให้เธอ
เคซี่ย์พูดด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยไปว่า “ผมไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดอะไร”
จากนั้นก็เก็บเครื่องมือแพทย์ หันหลังแล้วเดินออกไป เจียงหยุนเอ๋อสงสัยในความตรงไปตรงมาของเขา เพราะเมื่อก่อนเขาจะต้องมองดูเธอกินยานั้นแล้วถึงจะเดินออกไป และจะต้องวางยานั่นลงบนมือของเธอ แต่คราวนี้ยาถูกเก็บวางไว้ในกล่องยา