บทที่ 637 จะตายอยู่ที่นี่ไหม

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

เมื่อเวียร์ยืนขึ้น และลี่จุนซินกำลังจะก้าวเท้าเดิน ทันใดนั้นเวียร์ก็อุ้มเธอขึ้น และเธอที่ไม่คิดว่าเวียร์จะทำอย่างนี้ ก็ขัดขืนอยู่เล็กน้อย ซิปที่เสื้อก็ไปข่วนเข้าที่คางของเวียร์ จนเกิดรอยแดงชัดเจนปรากฏบนใบหน้าขาว

เมื่อถูกวางลงบนพื้นที่ราบ ลี่จุนซินก็ละอายใจนัก จึงไม่ได้ถือสาพฤติกรรมเมื่อกี้ของเวียร์ ได้แต่ร้อนใจเข้าไปดูที่ใบหน้าของเวียร์ และก็รู้สึกผิดมาก “ถ้าคุณให้ฉันลงเดินเองก็คงจะไม่เกิดรอยนี้ขึ้น ”

“ไม่เป็นไรไม่ได้เจ็บ ผมแค่อยากอุ้มคุณ”

มีเสียงพูดคุยกับเสียงฝีเท้าเดินดังขึ้น ลี่จุนซินไม่ได้สนใจในสิ่งที่เวียร์พูด มองไปใบหน้าของเขา เธอเองก็ยังกังวลใจอยู่ไม่น้อย อดไม่ได้ที่จะถามไปอีกว่า “ทำไมมันแดงจังเลย ไม่เจ็บจริงๆเหรอ ?”

“บางทีถ้าคุณจูบมันๆอาจจะหายแดงก็ได้”

รอยยิ้มของเวียร์ประดุจดั่งดอกโบตั๋นที่เบ่งบานงดงามและน่าหลงใหล ในคืนที่มืดมิด และเงียบสงัด ก็เบ่งบานมันอย่างเงียบๆ

เสียงของเขาที่เปล่งออกมา นุ่มนวล ราวกับลมที่พัดผ่านหัวใจที่ร้อนรุ่ม สะกดจิตและดึงดูดเป็นอันตรายถึงชีวิต

แต่ลี่จุนซินก็อดไม่ได้ที่จะจูบมัน

…………

ทางฝั่งของเจียงหยุนเอ๋อ เธอตื่นขึ้นมาในระหว่างทางที่ส่งเธอกลับห้อง

เมื่อกลับมาถึงที่ห้อง เคซี่ย์เห็นว่าเจียงหยุนเอ๋อยังคงอ่อนล้าอยู่มาก หมายจะอุ้มเธอลงมา แต่เจียงหยุนเอ๋อก็ปฏิเสธ ทำเพียงแค่จับไปที่แขนของเขา เพื่อพยุงร่างตัวเองให้ลุกขึ้น แล้วลงจากเตียง

หลังจากที่เคซี่ย์พยุงร่างเจียงหยุนเอ๋อมาถึงเตียง ก็ดึงเก้าอี้จากด้านข้างมา แล้วนั่งลงข้างเตียงเธอ แล้วปิดเครื่องเปลี่ยนเสียง กระแอมไอในลำคอ

“คุณยังจำผมได้ไหม?” เคซี่ย์มองไปยังเจียงหยุนเอ๋ออย่างคาดหวัง ไม่ ตอนนี้ไม่ใช่เคซี่ย์แล้ว แต่เป็นเฟิงจิงเป่ย คนที่เคยช่วยเหลือและปกป้องเจียงหยุนเอ๋อกับถวนจื่อในแอฟริกาคือเขาเฟิงจิงเป่ย

เจียงหยุนเอ๋อสีหน้างุนงง แต่เธอก็รู้สึกคุ้นกับเสียงนี้มาก ยิ่งในตอนที่เคซี่ย์ยิ้มออกมา เธอก็ยิ่งรู้สึกคุ้นเคยมากขึ้นไปอีก เพียงแต่เธอนึกมันไม่ออกก็เท่านั้น

“เรือที่ลักลอบขนคน” เมื่อเฟิงจิงเป่ยเห็นสีหน้าที่สงสัยของเจียงหยุนเอ๋อ ก็อดไม่ได้ที่จะพูดเตือนไปคำหนึ่ง

ทันใดนั้นเจียงหยุนเอ๋อก็คิดไปถึงไอ้หนวด ตอนนั้นตัวเธอกับถวนจื่อถูกคนจับตัวไปยังเรือที่ลักลอบขนคน มีชายที่ร่างกายกำยำแข็งแรงคนหนึ่งคอยปกป้องเธอกับถวนจื่อเอาไว้

“คุณคือคุณลุงไอ้หนวดคนนั้น?” เจียงหยุนเอ๋อก็ยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีก

เฟิงจิงเป่ยไม่ได้พูดอะไร แต่อยากจะทุบเธอมากกว่า มีชายหนุ่มกำยำแข็งแรงที่ไหนจะอยากถูกเรียกว่าคุณลุงกัน

“ผมไม่ใช่ลุง ผมเคยบอกคุณไปแล้ว ว่าผมอายุ29 ปี เป็นวัยกลางคน คุณจะเรียกผมว่าลุงเพียงเพราะก่อนหน้านั้นผมติดหนวดติดเคราไม่ได้หรอกนะ”

เจียงหยุนเอ๋อดีใจมาก กำลังจะส่งเสียงออกมา ก็ถูกเฟิงจิงเป่ยเอามือปิดปากเอาไว้

“คุณอย่าร้องออกมา ไม่อย่างนั้นผมถูกจับได้แน่ คุณกับผมเรามีสามชีวิตนะ”

เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้า แล้วโบกมือให้เฟิงจิงเป่ยเอามือออก “ฟู่~นี่คุณจะฆ่าปิดปากฉันหรือไง”

“คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? คุณอยู่ที่แอฟริกาไม่ใช่เหรอ ? คุณเป็นแรงงานเถื่อนที่ลักลอบเข้าเมืองไม่ใช่เหรอ ? ” เจียงหยุนเอ๋อยิงคำถามไปหลายคำถามพร้อมกัน

เฟิงจิงเป่ยส่งสัญญาณให้เจียงหยุนเอ๋อใจเย็นๆเพราะท่าทีเธอโจ่งแจ้งเกินไปแล้ว มันทำคนสงสัยได้ง่าย

“จริงๆแล้วผมเป็นตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ ก่อนหน้านั้นที่ไปแอฟริกาก็เพราะไปเก็บรวบรวมหลักฐาน ที่โรงงานอิเล็กทรอนิกส์ในแอฟริกานั้นเป็นโรงงานที่ผลิตอาวุธปืนผิดกฎหมายขนาดใหญ่ และคราวนี้ ผมก็แฝงตัวมาเป็นสายลับ แรกเริ่มเลยผมอย่างจะแทรกซึมเข้าองค์กรนี้ เพื่อรวบรวมหลักฐานการก่ออาชญากรรมของเขา แต่ด้วยความบังเอิญได้เข้าร่วมทีมรักษาของศาสตราจารย์คูลี่”

“สิ่งที่คิดไม่ถึงก็คือ ยังมาเจอคุณที่นี่ ยอมเลยจริงๆไปไหนก็เจอคุณ ทำไมชีวิตคุณถึงได้อนาถแบบนี้” เฟิงจิงเป่ยอดไม่ได้ที่จะพูดหยอกล้อเจียงหยุนเอ๋อ

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน และฉันก็ไม่รู้จะทำยังไง” เจียงหยุนเอ๋อก็อยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตาออกมา “คนที่คุณพูดถึง ก็คือเจ้าของฐานทัพนี้?”

“เขาชื่ออาเธอร์ เป็นผู้ก่อตั้งองค์กรจักรวรรดิอเมริกาใต้ในทวีปอเมริกาใต้ และเป็นพ่อค้าอาวุธที่มีชื่อเสียง ใจคอโหดเหี้ยม แต่เขาก็รักภรรยาของเขามาก ก็คือคนที่คุณเห็นเมื่อครู่เบ็ตตี้”

“และในขณะเดียวกันเขาก็เป็นอาชญากรข้ามชาติที่ถูกออกหมายจับ ไม่อย่างนั้นผมคงไม่โผล่มาที่นี่ และข่าวการฆาตกรรมหญิงตั้งครรภ์ก่อนหน้านั้น ทั้งหมดล้วนเป็นฝีมือของเขา และที่นี่ก็เป็นสำนักงานใหญ่ของเขา”

หลังจากที่เจียงหยุนเอ๋อฟังจบ สีหน้าก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว “แล้วฉันจะต้องตายอยู่ที่นี่ด้วยไหม ?”

“คุณไม่ต้องกลัว ศาสตราจารย์คูลี่กำลังพยายามถ่วงเวลาอย่างเต็มที่ เขาเองก็ไม่อยากจะเจาะเลือดคุณ แต่เขาเองก็จนใจ และยาก่อนหน้านั้นที่ผมให้คุณกิน ก็เป็นยาที่เขาให้ผมเอามาให้คุณ เขาคิดหาวิธีและพยายามอย่างมากเพื่อต้องการที่จะปกป้องคุณ”

“งั้นการกระทำของฉันก็คงจะทำร้ายจิตใจเขาอยู่ไม่น้อย คุณกลับไปแล้วฝากขอโทษเขาด้วยได้ไหม”

“เรื่องนี้ไม่มีปัญหา ตอนนี้คุณพักผ่อนไปก่อน อยู่ที่นี่แล้วก็ทำตัวดีๆ ผมเห็นหัวเตียงของคุณมีพจนานุกรมเล่มหนึ่ง คุณสามารถใช้มันเพื่อฆ่าเวลาได้ หลังจากนี้หากศาสตราจารย์คูลี่ต้องการให้คุณทำอะไร คุณก็ให้ความร่วมมือกับเขาไปก่อน พวกเราจะพยายามไม่ทำร้ายเด็กในท้องของคุณ”

“ได้ ฉันรู้แล้ว ฉันจะทำ ฉันตีสนิทกับชายชุดดำข้างนอกนั้นแล้ว คุณไม่ต้องเป็นห่วงฉัน” เจียงหยุนเอ๋อรีบพยักหน้ารับ เธอเชื่อใจเฟิงจิงเป่ยเป็นอย่างมาก

หลังจากที่เฟิงจิงเป่ยยื่นยาให้กับเจียงหยุนเอ๋อ เขาไม่กล้าอยู่นาน เสร็จแล้วก็เดินออกไป

ในที่สุดทางฝั่งของลี่จุนถิงก็หาช่องทางที่จะแอบเข้ามายังด้านในได้แล้ว และทุกคนต่างก็ตื่นเต้น

“ประธานลี่ ผมหาเจอแล้ว เกาะร้างนั้น ราวๆประมาณสองสามวันจะมีเรือออกมาซื้อวัตถุดิบอาหาร จากนั้นก็กลับไปที่เกาะ เพราะฉะนั้นเราสามารถใช้โอกาสที่เขาออกมานี้ ทำให้พวกเขาสลบ แล้วปลอมตัวเป็นพวกเขาแฝงเข้ายังด้านใน”

ลี่จุนถิงพยักหน้า “อืมได้ เรื่องนี้เราต้องมาวางแผนกันอย่างรายละเอียดตั้งแต่ต้น อีกอย่างเราต้องสำรองแผน B เอาไว้ด้วยเช่นกัน หากเกิดข้อผิดพลาดอะไร เราก็ยังปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ ”

“ได้ครับ ตอนนี้ผมจะเรียกพี่น้องเรามารวมพลกันก่อน และเรายังต้องเตรียมของบางอย่าง หลังจากที่พวกเราแฝงตัวเข้าไปได้แล้ว ต้องการความง่าย แล้วยังต้องมีเครื่องเปลี่ยนเสียงอีก ไม่อยากนั้นหากถูกเปิดเผยตัวตน พวกเราก็จะเป็นอันตรายได้”

ลี่จุนถิงพยักหน้า แสดงให้เห็นว่าให้เขาไปเตรียมตัวได้แล้ว

ในคืนนั้น มีเรือลำหนึ่งแล่นออกจากเกาะร้าง ทุกครั้งที่พวกเขาออกมาก็จะใช้เวลาในช่วงกลางคืน

เพราะเป็นเวลากลางคืน ทั้งมืดและลมแรง พวกเขาจะได้ไม่มีใครสังเกตเห็น ดังนั้นพวกเขาจะออกมาซื้อของในตอนกลางคืน จากนั้นก็พักค้างคืนที่ท่าเรือหนึ่งคืน ตื่นเช้าขึ้นมาก็ไปซื้อของ เสร็จแล้วก็เดินทางกลับในตอนกลางคืน

ลี่จุนถิงและพวกได้กะเวลาออกมาเอาไว้แล้ว เพราะฉะนั้นจึงเตรียมพร้อมที่ท่าเรือแล้ว ลี่จุนถิงกับชิงโม่ได้ซุ่มอยู่ในความมืดพร้อมพวก เมื่อเห็นเรือจอดเทียบท่าแล้ว ก็ส่งสัญญาณให้พวกเขาเตรียมตัวลงมือ

เมื่อคนเหล่านั้นลงมา พวกเขาก็พุ่งประชิดตัวทันที