ตอนที่ 482 การกลับมาของปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ เกาะซานเซียนมอบผลท้อ (2)
เมื่อวานนี้ หลี่ฉางโซ่วคิดอยู่นานแล้วตัดสินใจที่จะมอบผลท้อเซียนให้ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เพื่อที่เขาจะได้ไป “แจกจ่าย”
แม้มันจะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่อาจเก็บเอาไว้เองเฉยๆ ได้
แต่สิ่งที่หลี่ฉางโซ่วไม่คาดคิดก็คือ… ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ไม่ได้หลับใหลอยู่ในวังดุสิต แค่กๆ เขาไม่ได้ฝึกบำเพ็ญ!
ที่ลานด้านหน้าของวังดุสิต เสี่ยวจินยิ้มและกล่าวว่า “ท่านปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ไปที่วิหารไท่ชิง เขาบอกว่า มีเรื่องบางอย่างจะรายงานต่อท่านปรมาจารย์จอมปราชญ์”
เสี่ยวหยินกล่าวมาจากด้านข้างอีกว่า “เหล่าจื้อไม่ได้อยู่ในวัง ท่านขี่วัวตัวเขียวออกไปเมื่อสองสามวันก่อน “ศิษย์พี่ฉางเกิง ท่านมีปัญหาเรื่องใดหรือไม่? พวกเราสองคนช่วยท่านได้!”
หลี่ฉางโซ่วพูดไม่ออก
ช่วยหรือ? ข้าน่าจะได้รับสมบัติสองสามชิ้นจากองค์ไท่ชิง แล้วลงไปเรียกลิงว่า ‘ซุนเห้งเจีย[1] เจียเห้งซุน’ หรือไม่?
“ไม่มีปัญหา” หลี่ฉางโซ่วยิ้มและหยิบกล่องผ้าออกมาจากกระเป๋าหน้าอกของเขาพลางยิ้มและกล่าวว่า “พระแม่หวังหมู่ ส่งผลท้อเซียนไปยังสามสำนักบำเพ็ญเต๋า ข้าส่งพวกมันมาให้โดยเฉพาะ มีผลท้อเซียนสามสิบหกลูกอยู่ข้างใน อย่าแอบกินพวกมันเล่า เมื่อท่านปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่กลับมา เขาจะตอบแทนพวกเจ้าแน่”
“ขอรับ!”
เสี่ยวจินและเสี่ยวหยินต่างพยักหน้ารับ แต่พวกเขาไม่ได้รู้สึกอะไรในเรื่องนี้มากนัก
ในช่วงสองสามพันปีแรกที่ศาลสวรรค์และวังดุสิตได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นครั้งแรก เหล่าเทพธิดาจะส่งผลท้อเซียนมาให้เป็นระยะๆ
ต่อมาเขาก็เบื่อที่จะกินผลท้อแล้วป้อนให้วัวตัวเขียว
จากนั้น หลี่ฉางโซ่วและหลงจี๋ก็กล่าวอำลา เขาและหลงจี๋ขี่เมฆไปทางประตูสวรรค์บูรพา องค์หญิงหลงจี๋ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหยิบแผ่นหยกออกมา แล้วเขียนอะไรบางอย่างบนนั้น
หลี่ฉางโซ่วยิ้มและกล่าวว่า “ท่านเขียนอะไร?”
“เทพแห่งท้องทะเลได้โปรดลองดู”
องค์หญิงหลงจี๋มอบแผ่นหยกให้หลี่ฉางโซ่ว
หลี่ฉางโซ่วมองไปที่แผ่นหยกและอดจะหัวเราะเบาๆ ออกมาไม่ได้
องค์หญิงหลงจี๋ได้บันทึกทุกสิ่งที่เขาพูดกับเสี่ยวจินและเสี่ยวหยิน นางยังเขียนความคิดเห็นสั้นๆ อีกด้วย
ความคิดเห็นก็คือ:
“วันนี้ เทพแห่งท้องทะเลได้เข้าไปในวังดุสิตเพื่อหาปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ เขาต้องการนำผลท้อเซียนที่พระมารดาของข้าประทานมาเพื่อมอบให้กับปรมาจารย์นักพรตเต๋าผู้ยิ่งใหญ่จัดการ แม้นี่จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย แต่ข้าก็เห็นว่า เทพแห่งท้องทะเลนั้นกระทำการอย่างระมัดระวังยิ่ง มันพูดยังง่ายกว่าทำ”
หลี่ฉางโซ่วส่งแผ่นหยกคืนให้และชมเชยว่า “มันง่ายที่จะอ่านและเรียนรู้ได้มากยิ่งขึ้น ยากที่จะคิดได้มาก ข้าหวังว่าท่านจะรักษานิสัยนี้เอาไว้ได้ และในอนาคต ท่านจะช่วยสนับสนุนศาลสวรรค์ได้ด้วยตัวเองลำพัง”
หลงจี๋แลบลิ้นออกมาอย่างเขินอายและหน้าแดงพลางรับคำเบาๆ หลี่ฉางโซ่วกล่าวต่อว่า “ไปกันเถิด ไปที่เกาะเต่าทอง ที่ด้านนอกประตูสวรรค์ โลกบรรพกาลยังคงอันตรายยิ่ง หากพบอันตราย ท่านควรปกป้องตัวเองได้ ข้าจะปกป้องท่านและช่วยให้ท่านหลบหนีไปได้”
“ไม่ต้องห่วง เทพแห่งท้องทะเล ข้าจะไม่สร้างปัญหาใดๆ”
“อืม”
หลี่ฉางโซ่วยิ้มและพยักหน้า จากนั้นเขาก็พาหลงจี๋ออกจากเกาะเต่าทองและมุ่งหน้าไปยังทะเลบูรพา
แม้เขาจะอยากให้หลงจี๋เข้าเรียนในชั้นเรียนเพื่อให้นางได้เรียนหลักสูตรเร่งด่วนเกี่ยวกับ ‘พระสูตรมั่นคง’ และ ‘หลักการกลอุบาย’ แต่ก็เป็นความลับที่เขาไม่อาจเปิดเผยได้
ยิ่งไปกว่านั้น ตัวตนขององค์หญิงหลงจี๋ค่อนข้างอ่อนไหว ซึ่งแตกต่างจากอ๋าวอี่
ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ได้ไปพบปรมาจารย์จอมปราชญ์หรือไม่?
หลี่ฉางโซ่วครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง หากเป็นเช่นนั้น เขาจะเก็บผลท้อเซียนที่เหลืออีกหกสิบสี่ลูกไว้กับตัวเอง เขาจะหาโอกาสนำมากกว่าสิบชิ้นกลับไปที่สำนักตู้เซียน และให้อาจารย์ของเขาและคนอื่นๆ ได้ลิ้มรสพวกมัน
ครึ่งวันต่อมา หลี่ฉางโซ่วก็ขี่เมฆและเดินช้าๆ ไปที่หน้าเกาะเต่าทอง และมีเหล่าเซียนสองสามคนของเกาะเต่าทองเริ่มออกมาต้อนรับเขา
หลงจี๋ติดตามหลี่ฉางโซ่วไป และเนื่องจากเป็นบุตรเต๋า จึงไม่มีใครสนใจนางมากนัก
ในตอนแรก หลงจี๋ยังสงบ ทว่านางก็ค่อยๆ ตกใจมากขึ้นทีละน้อยจนกลายเป็นตื่นตกใจสุดๆ วิธีที่นางมองเทพแห่งท้องทะเลได้เปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง
คนผู้นี้ที่รับใช้ศาลสวรรค์และคอยช่วยเหลือสนับสนุนพระบิดานั้น เป็นใครกันแน่?
แม้หลงจี๋จะดูยังเยาว์นัก แต่นางก็ฝึกบำเพ็ญมานานแล้ว นางได้อ่านตำราในสระหยกมามากมายตั้งแต่ยังเด็ก ทั้งยังรู้ความลับและตำนานทุกอย่าง
เกาะเต่าทองเป็นสถานที่แห่งเต๋าที่มีชื่อเสียงในสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ย มันมีเส้นทางไปยังวังปี้โหยว โดยทั่วไปแล้ว เหล่าศิษย์ของจอมปราชญ์เทพหลายคนมักไม่ใส่ใจศาลสวรรค์
ทว่าที่เทพแห่งท้องทะเลมาถึงเกาะเต่าทองในวันนี้ ประการแรก มีเหล่าเซียนจินมาต้อนรับเขา จากนั้นจักรพรรดิสวรรค์[2]ทั้งสิบก็มาเชิญเขาไปงานเลี้ยง
หากพวกเขาไม่ได้เพิ่งมาจากวังดุสิต หลงจี๋ก็คงคิดว่าเทพแห่งท้องทะเลมาจากสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ย
เมื่อหลี่ฉางโซ่วบอกว่า เขาอยากพบศิษย์คนโตแห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ย และศิษย์คนโตของปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งสวรรค์ทงเทียน นักพรตเต๋าตั๋วเป๋า ผู้อาวุโสก็ปรากฏตัวขึ้นที่เกาะเต่าทองก่อนที่จักรพรรดิสวรรค์ทั้งสิบจะทันรับคำด้วยซ้ำ เขาร้องตะโกนว่า ‘น้องชายเทพแห่งท้องทะเล’ และเดินหน้าพูดคุยกับหลี่ฉางโซ่ว
หลี่ฉางโซ่วพูดคุยเล็กน้อยและอธิบายถึงความประสงค์ของเขา และยังหยิบของขวัญจากศาลสวรรค์ออกมาอีกด้วย
นักพรตเต๋าตั๋วเป๋ากะพริบตาและหยิบผลท้อเซียนออกมา เขาแกะมันออกแล้วกัดเนื้อลูกท้อใส ทันใดนั้นปากของเขาก็เต็มไปด้วยความรู้สึกสดชื่น จากนั้นเขาก็พึมพำเบาๆ อย่างยินดีว่า “ผลท้อเซียนนี้ไม่เลวเลย ข้าจะฝากให้ท่านอาจารย์ได้ลิ้มรส ส่วนที่เหลือเราจะแบ่งให้สหายศิษย์ของเรา ไม่ปล่อยให้เทพแห่งท้องทะเลและศาลสวรรค์ผิดหวังแน่นอน”
ทันใดนั้นบรรดาเซียนทั้งหมดจากสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ยก็ล้วนเห็นด้วย
ทว่าเพียงเมื่อนักพรตเต๋าตั๋วเป๋าเพิ่งกล่าวจบ เขาก็นึกถึงบางสิ่ง
และในขณะที่เทพธิดาจินกวงได้กระโดดข้ามมาอย่างตื่นเต้นและกำลังจะแยกผลท้อเซียน นักพรตเต๋าตั๋วเป๋าก็กล่าวว่า “เก็บเอาไว้อีกเก้าลูกให้น้องชายเทพแห่งท้องทะเล”
“เจ้าค่ะ ศิษย์พี่ใหญ่” เทพธิดาจินกวงกะพริบตาและอดจะปิดปากหัวเราะไม่ได้ “ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านจะมอบกลับเป็นการตอบแทนใช่หรือไม่?”
หลี่ฉางโซ่วรีบกล่าวว่า “ผู้อาวุโส นั่นไม่เหมาะขอรับ”
“หมายความว่าอย่างไรที่ว่าไม่เหมาะ!?!”
ตั๋วเป๋าลงมือจัดการด้วยตัวเอง เขานำกล่องหยกระดับสมบัติวิญญาณออกมาจากแขนเสื้อของเขา และเลือกผลท้อเซียนมีคุณภาพดีที่สุดและมีอายุมากที่สุดจำนวนเก้าลูก วางเอาไว้ในกล่องหยก
จากนั้นเขาก็โบกมือและกล่าวว่า “แล้วพวกเราจะไม่ส่งผลท้อเซียนแสนอร่อยนี้ไปยังเกาะซานเซียนได้อย่างไร เกาะซานเซียนเป็นเสาหลักของสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ย! เทพแห่งท้องทะเล ไปกันเถิด โปรดมากับข้าอีกครั้ง”
หลี่ฉางโซ่วคิดถึงเรื่องนี้เป็นเวลานาน ในที่สุดเขาก็ยิ้มและรับคำ เขานำกล่องหยกไปด้วยและติดตามนักพรตเต๋าตั๋วเป๋าไปยังเกาะซานเซียนพร้อมกับหลงจี๋ที่รู้สึกสับสน
ในระหว่างทางนั้น หลงจี๋ได้เห็นว่า… ศิษย์คนโตแห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ย ซึ่งนางเคยได้ยินในตำนาน เขาไปกับเทพแห่งท้องทะเล และพวกเขาก็พึมพำบางอย่างเบาๆ บางครั้งก็จะหัวเราะเสียงเหอะๆ แปลกๆ
ขณะนั้น หลงจี๋ตกใจเพียงเพราะเครือข่ายการติดต่อที่กว้างขวางของเทพแห่งท้องทะเล
อีกครึ่งชั่วยามต่อมา เมื่อพวกเขามาถึงเกาะซานเซียนและได้พบกับสามเทพธิดาที่มีชื่อเสียงแห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ย หลงจีก็ตะลึงงัน
เทพธิดาอวิ๋นเซียวผู้นี้เป็นคนที่ควรอยู่ในโลกนี้จริงๆ หรือ?
แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหลัก
เทพแห่งท้องทะเล และเทพธิดาอวิ๋นเซียวเดินเล่นกันในป่าตามลำพังและพูดคุย หัวเราะกัน สถานการณ์เยี่ยงนั้นคืออะไร? นางคิดว่า
เทพธิดาอวิ๋นเซียวถึงกับปอกผลท้อเซียนเองแล้วมอบให้เทพแห่งท้องทะเล…
แม้เทพแห่งท้องทะเลจะบอกว่า นี่เป็นเพียงร่างจำแลง ซึ่งไม่อาจลิ้มรสชาติได้มากนัก แต่ร่างกายของเขาก็ยอมรับมันตรงๆ
เทพแห่งท้องทะเล และนักพรตเต๋าตั๋วเป๋า…
เทพแห่งท้องทะเล และเทพธิดาอวิ๋นเซียว…
หลงจี๋เม้มริมฝีปากและยืนอยู่ที่มุมนั้น นางได้ยินสองผู้ยิ่งใหญ่อีกสองคนที่กำลังเพลิดเพลินไปรอบๆ และหยิบแผ่นหยกออกมาเงียบๆ เพื่อจดความคิดและสภาวะจิตใจในยามนี้ของนาง
ในเวลาเดียวกัน ในท้องฟ้าสีแดงฉานของวังสวรรค์เก้าชั้น
เมฆหมอกและแสงเซียนโอบล้อมรอบพวกเขา ไร้สิ่งใดๆ ไร้เทพ ไร้เซียน ไร้วิญญาณ มีเพียงความลึกลับเท่านั้น
ในส่วนลึกของก้อนเมฆนั้น ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่กำลังนั่งตัวตรงอยู่หน้าห้องโถงเล็กของวิหารเต๋าขนาดเล็ก มีรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา เขาแผ่กลิ่นอายของ… การเชื่อฟังอย่างจริงใจไร้การเสแสร้ง หลังจากนั้นไม่นาน ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ก็กระซิบไปที่ห้องโถงว่า “ท่านอาจารย์ ท่านคิดอย่างไรกับคำแนะนำของศิษย์ขอรับ”
………………………………………………………………..
[1] ราชาเขาทองและราชาเขาเงิน ตัวละครในไซอิ๋ว
[2] เป็นฉายาของกลุ่มเซียนกลุ่มหนึ่ง