ลี่จุนถิงใช้ลายนิ้วมือแอบเข้าไปในฐานทัพได้สำเร็จ ชิงโม่ได้ให้คนเหล่านั้นวาดแผนที่เอาไว้ให้ล่วงหน้ามาก่อนแล้ว แต่ก็เป็นเพียงแค่พื้นที่ที่พวกเขาสามารถไปมาได้เท่านั้น ถึงจะมีเพียงเท่านี้ลี่จุนถิงและพวกเขาก็พอใจมากแล้ว ส่วนที่เหลือรอให้เข้าไปได้แล้วค่อยไปสำรวจในสถานที่จริงก็น่าจะวางใจได้มากกว่า

ร่างที่ลี่จุนถิงสวมรอยนั้นคืนร่างของคนที่พยายามจะเอามีดมาแทงเขา เขาคนนั้นชื่ออันโตนิโอ ส่วนชิงโม่สวมรอยคนที่ถูกแทงเข้าที่ขาคนนั้น ชื่ออังเดร เป็นพี่น้องกับอันโตนิโอ พวกเขามีกันหกคน และอีกสี่คนที่เหลือคือโฮเซ ฟิลิป หลุยส์และแดเนียล

รูปร่างของลี่จุนถิงกับชิงโม่มีขนาดเท่ากันกับอันโตนิโอและอังเดร พอปลอมตัวแล้ว หากไม่มีข้อผิดพลาดอะไร ก็ไม่น่าจะถูกจับได้แน่นอน

คนที่เหลือก็วัดไปกับขนาดของลำตัว หาร่างที่พอสมส่วนกันในกลุ่มคนสนิทของลี่จุนถิง มีเพียงหลุยส์เท่านั้นที่หาร่างที่คล้ายคลึงกับเขาไม่ได้ เพราะคนของลี่จุนถิงนั้นล้วนรูปร่างสูงใหญ่ทุกคน และหลุยส์คนนี้ก็เป็นชายที่มีรูปร่างเตี้ยและตัวเล็ก

“ช่างมันไปก่อน ถึงตอนนั้นค่อยหาเหตุผลว่าเขาไม่อยู่แล้วก็แล้วกัน”

ก่อนที่จะเข้าไปในฐานทัพ ชิงโม่ได้ดูแผนที่ไปรอบหนึ่งแล้ว จากนั้นก็จำเส้นทางเอาไว้ แล้วพาลี่จุนถิงกับพวกเข้าไปในครัวได้สำเร็จอย่างราบรื่น

หัวหน้าพ่อครัวที่กำลังรอพวกเขาอยู่ พอเห็นพวกเขาเข้ามา ก็ชกไปที่ทุกคนคนละหมัด“ทำไมกลับมาช้าจัง หรือว่าไปแอบทำอะไรมาอีก”

“ไม่ใช่นะครับ หัวหน้าพ่อครัว มีเรื่องนิดหน่อยเลยทำให้ล่าช้าไป” เมื่อชิงโม่เห็นว่าหัวหน้าพ่อครัวไม่ได้โกรธจริงจังอะไร ก็หัวเราะออกมา

“ล่าช้า? เรื่องอะไร ? เฮ้ย แล้วเจ้าหลุยส์เด็กนั้นไปไหน ?” เมื่อหัวหน้าพ่อครัวไม่เห็นชายร่างเตี้ยที่ร่าเริงชอบกระโดดไปมาหายไป ก็สงสัยขึ้นมา

ชิงโม่อดไม่ได้ที่จะปาดเหงื่อออก ไม่ได้คิดว่าชายตัวเล็กคนนั้นจะได้รับความสนใจถึงเพียงนี้ ยังดีที่เขาคิดหาเหตุผลเอาไว้ก่อนแล้ว

“หลุยส์ตายแล้ว” ชิงโม่แกล้งทำเป็นเสียใจ

“ตายแล้ว?”หัวหน้าพ่อครัวก็ประหลาดใจ “อังเดร นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”

“หัวหน้าพ่อครัว เรื่องที่เราพูดว่ามีเรื่องทำให้เกิดการล่าช้า ก็คือหลุยส์เกิดเรื่องขึ้น เมื่อคืนหลังจากที่ลงเรือไปเขาก็ไปหาเพื่อนของเขา และยังชวนพวกเราไปด้วย พอพวกเราไป เพื่อนเขาก็ไม่อยู่ พวกเราก็กลับท่าเรือ”

“แต่ว่า ไม่รู้ทำไมในกลางดึก เขาก็ออกไปหาผู้หญิง แล้วถูกโดนจับได้ ตอนที่พวกเราเจอเขาในตอนเช้า เขาถูกทำร้ายจนใกล้จะสิ้นใจแล้ว พวกเราไม่กล้าพาไปหาหมอ ตอนแบกร่างเขากลับมาที่ท่าเรือเขาก็ตายแล้ว”

“แล้วทำไมถึงถูกทำร้ายได้ ?”หัวหน้าพ่อครัวสีหน้ามึนงง “หรือเขาจะโดน‘หลอกจากนางนกต่อ’?”

ชิงโม่ที่กำลังหาเหตุผลไม่เจอว่าทำไมเขาถึงถูกทำร้าย หัวหน้าพ่อครัวก็ให้คำตอบเขาแล้ว

“ใช่ครับ หัวหน้าคุณพูดเหมือนหลับตาเห็นเลย เหมือนว่าเขาจะไปยุ่งกับคนมีเจ้าของ แล้วยังไม่มีสวมถุงยาง อีกทั้งยังจ่ายเงินให้เขาน้อย เขาเลยให้เขียนหนังสือกู้ยืมเงิน และไม่รู้ทำไมก็เกิดการขัดแย้งขึ้น จากนั้นเขาก็ถูกทุบตีทำร้ายอย่างรุนแรง จนตาย”

หัวหน้าพ่อครัวสีหน้าไม่สบอารมณ์ต่อความไม่เอาไหน แล้วชกไปที่ชิงโม่อีกครั้ง “ไม่ใช่ว่าเตือนแล้วเหรอว่าให้คอยดูเขาด้วย แล้วทำไมยังเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก ครั้งก่อนก็ถูกทำร้ายไปแล้วครั้งหนึ่ง แล้วทำไมถึงไม่รู้จักจำนะ !”

“เราไม่รู้ว่าเขาจะแอบออกไปกลางดึก” ชิงโม่นวดไปที่หน้าอกตัวเอง พูดแล้วยิ้มยิงฟัน

หัวหน้าพ่อครัวเหลือบมองไปที่ชิงโม่ “นี่ฉันตีนายเจ็บขนาดนั้นเชียว ”

“ไม่เจ็บครับไม่เจ็บ” ชิงโม่รีบวางมือลง แล้วยิ้มยิงฟันไปอีกที

“เอาเถอะพอแล้ว อย่ามาทำเป็นซื่อ เรื่องนี้ก็ปล่อยมันไปแบบนี้แล้วกัน”

“ไม่ต้องรายงานเบื้องบนเหรอครับ?”

“ไม่ต้อง หลุยส์เป็นคนที่ฉันหามาเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับข้างบน พวกนายรีบไปจัดวางของให้เรียบร้อย แล้วไปพักเถอะ”

ชิงโม่กับลี่จุนถิงพยักหน้ารับ แล้วส่งหัวหน้าพ่อครัวออกไป

หลังจากที่หัวหน้าพ่อครัวจากไปแล้ว ลี่จุนถิงและคนอื่นๆมองไปที่ชิงโม่แล้วยิ้ม

“ใช้ได้นี่ ชิงโม่ แต่งเรื่องเก่งใช้ได้จริงๆ” ลี่จุนถิงพิงไปที่กำแพง และยกนิ้วโป้งให้ชิงโม่

ชิงโม่แสดงสีหน้าจริงจัง แล้วพูดว่า :“อันโตนิโอ ฉันคืออังเดร ฉันไม่รู้จักชิงโม่ที่นายพูดถึง แต่คุณเอ่ยชมเขาขนาดนี้ ดูท่าแล้วเขาน่าจะเก่งใช้ได้ไม่น้อยนะ”

ลี่จุนถิงไม่ได้สนใจเขา แต่เรียกคนอื่นๆเข้ามา แล้วเริ่มจัดเก็บข้าวของ

“รีบไปเก็บข้าวของ เสร็จแล้วก็แยกย้ายกันไปพัก พรุ่งนี้เริ่มสำรวจกัน”

เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อลี่จุนถิงและคนอื่นๆเข้ามาในห้องครัว ก็มีคนกลุ่มหนึ่งล้อมวงเข้ามา

“อังเดร อันโตนิโอ ได้ยินว่าหลุยส์ตายแล้วเหรอ ถูกทำร้ายจนตายเลยเหรอ?”

ชิงโม่กับลี่จุนถิงสงสัยมากว่าพวกเขารู้ได้ยังไง แต่ก็พยักหน้ารับ จากนั้นก็ได้ยินพวกเขาร้องดีใจ

“ฉันว่าแล้ว สมน้ำหน้าหลุยส์ ครั้งที่แล้วก็สมควรถูกทำร้ายจนตายแล้ว ไม่คิดว่าหมาจะอดกินขี้ไม่ได้”

“ก็ใช่นะสิ หลุยส์ตายแล้ว ก็ไม่ชอบขี้หน้ามาตั้งแต่แรกแล้ว เอาแต่พูดว่าหัวหน้าพ่อครัวชอบเขา แล้วทำแต่เรื่องชั่วๆ รังแกเราอยู่ได้ทุกวัน ทั้งที่สถานะของเราก็เหมือนกัน”

“เขาก็แค่ชอบประจบเอาใจหัวหน้าพ่อครัว แล้วยังจะทำอะไรได้อีก ตายก็ดีแล้ว”

ลี่จุนถิงกับชิงโม่ฟังแล้วก็มึนงงสับสน เมื่อวานเห็นท่าทีของหัวหน้าพ่อครัวก็ไม่รู้สึกเศร้าอะไรมาก จู่ๆลี่จุนถิงก็กระแอมไอออกมา แต่กลุ่มคนเหล่านั้นก็ไม่ได้สนใจอะไร ต่างก็พูดคุยกันต่อ จากนั้นลี่จุนถิงก็ไอขึ้นมาอีกสองที แต่ก็ไม่มีใครสนใจเขาอีกเหมือนกัน

“พวกนายกำลังคุยอะไรกันอยู่?” จู่ๆก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น และคนทุกคนก็เงียบลงทันที

“วันๆพวกนายไม่คิดจะทำอะไร เอาแต่คุยเรื่องไร้สาระ ว่าทำไมฉันถึงได้ชอบหลุยส์ พวกนายก็เห็นแค่ตอนที่เขาประจบเอาใจฉัน แต่ไม่มีใครเห็นเขาดูแลฉันในตอนที่ฉันป่วย”

หัวหน้าพ่อครัวเดินผ่านทางด้านหลังพวกเขาออกไป แล้วถอนหายใจ

“แยกย้ายไปทำงานเถอะ อย่ารวมกันอยู่ที่นี่เลย ต่อไปก็คิดว่าไม่มีคนที่ชื่อหลุยส์คนนี้อีก เรื่องนี้ให้มันจบที่นี่แล้วกัน”

ลี่จุนถิงกับชิงโม่ก็แยกย้ายกันไปทำงานเช่นกัน ยังดีที่งานในครัวไม่ได้หนักอะไรมาก เสร็จจากงานอยากทำอะไรก็ได้ตามแต่ใจ ใน ฐานทัพนี้มีห้องเล่นเกมและห้องออกกำลังกาย และยังมีห้องอ่านหนังสือ ลี่จุนถิงไม่คิดว่าอาเธอร์จะมีน้ำใจกับพนักงานเบื้องล่างดีแบบนี้

หลังจากที่เสร็จงานแล้ว ทุกคนต่างก็แยกย้ายไปที่ห้องเล่นเกมหรือไม่ก็ห้องออกกำลังกาย ไม่มีใครสนใจลี่จุนถิงกับชิงโม่ เพราะฉะนั้นคนทั้งสองจึงมีเวลามากพอไปสืบสำรวจ แม้ว่าสถานที่ที่เขาทั้งสองไปนั้นจะมีขอบเขต แต่เขาทั้งสองก็ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มา อาทิเช่น ข้อมูลการดูแลโดยรอบ และข้อมูลสภาพแวดล้อมโดยรอบ

แต่ลี่จุนถิงก็ไม่ได้รู้สึกพอใจเท่าไร คิดที่จะหาโอกาสไปสำรวจที่อื่นดูบ้าง ดังนั้นเขากับชิงโม่จึงได้พยายามตีสนิทกับคนชุดดำที่อยู่เฝ้ายังบริเวณอื่นๆ