ตอนที่เฟิงจิงเป่ยกลับไป อาเธอร์ยังไม่มา ดอกเตอร์คูลี่เลยใช้โอกาสนี้คุยแผนต่อไปกับเฟิงจิงเป่ย แต่ว่าถูกเฟิงจิงเป่ยขวางเอาไว้
“ตอนนี้อย่าเพิ่งรีบไป ไม่รู้ว่าอาเธอร์จะมาเมื่อไหร่ ถ้าเกิดเขาได้ยินแล้วจะทำอย่างไร”
ดอกเตอร์คูลี่รู้ได้ว่าตัวเองนั้นร้อนรนมากเกินไป เลยกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เพื่อให้ตัวเองใจเย็นลง เขาเพิ่งจะกลืนน้ำลายไป อาเธอร์ก็เข้ามาแล้ว
“ดอกเตอร์คูลี่ ได้ยินว่าคุณมีเรื่องอยากคุยกับฉันเหรอ?”
เฟิงจิงเป่ยโค้งคำนับให้กับอาเธอร์ จากนั้นก็ถอยออกไปด้านข้าง
“ใช่แล้ว คุณอาเธอร์ฉันมีเรื่องอยากคุยกับคุณสักหน่อย” ดอกเตอร์คูลี่ใจเย็นลงมาก ก่อนจะบอกกับอาเธอร์
“คุณบอกมาได้เลย” อาเธอร์พยักหน้า
“ฉันอยากให้คุณเปลี่ยนเลือดเสียหน่อย ให้กรุปเลือดตรงกับคุณหนูเบ็ตตี้น่ะ”
“จะเอาไปทำไมล่ะ เลือดของผู้หญิงคนนั้นไม่พอเหรอ?”
“ตอนนี้มันก็พอ แต่ไม่รู้ว่าเดี๋ยวตอนผ่าตัดมันจะเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า เตรียมเผื่อเอาไว้ในตอนนี้ ดีกว่าการแก้ไขเอาดาบหน้าเป็นอย่างมาก”
“เรื่องเดียวเหรอ?” อาเธอร์คิดไม่ถึงว่าดอกเตอร์คูลี่จะเรียกเขามาเพียงเพราะเรื่องนี้ แต่ว่าเมื่อคิดไป ก็เพื่อเตรียมการช่วยเบ็ตตี้ จากนั้นเลยตอบตกลงทันที
“โอเค ฉันเข้าใจแล้วล่ะ ฉันจะให้พวกเขาไปเตรียมตัว ต้องการเท่าไร คุณก็บอกพวกเขาแล้วกัน”
หลังจากที่อาเธอร์พูดจบ ก็ไปดูเบ็ตตี้ที่ห้องทดลอง ก่อนจะจากไป
“เบ็ตตี้ เดี๋ยวพวกเราก็จะได้เจอกันอีกแล้ว หวังว่าตอนนั้นคุณจะให้อภัยที่ฉันฆ่าคนไปมากมาย แต่ถึงไม่ให้อภัยก็ไม่เป็นไร ขอเพียงแค่คุณอยู่ข้างกายฉันก็พอแล้ว”
หลังจากที่มั่นใจว่าอาเธอร์กับลูกน้องของเขาไปแล้ว เฟิงจิงเป่ยก็เริ่มคุยเรื่องแผนกับดอกเตอร์คูลี่อีกครั้ง
“เมื่อครู่ทำไมคุณให้เขาหาเลือดให้คุณล่ะ?” เฟิงจิงเป่ยสงสัยเล็กน้อย
“ฉันกลัวว่าตอนที่ผ่าตัดให้คุณหนูเจียง แล้วจะถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ เลยเตรียมเอาไว้ให้สักหน่อย” ดอกเตอร์คูลี่เดินไปนั่งตรงโซฟา “คุณคิดจะทำอะไรต่อ?คุณจะติดต่อกับคนของคุณอย่างไร?”
เฟิงจิงเป่ยรินน้ำให้ดอกเตอร์คูลี่ ก่อนจะนั่งลงข้างๆ เขา
“พวกเรามีอุปกรณ์ติดต่อแบบพิเศษ ทางฉันจะไปจัดการ จากนั้นทางครอบครัวของคุณ จะต้องถูกอาเธอร์คุมหนักเป็นอย่างมากในช่วงนี้แน่นอน แต่ไม่เป็นไรนะ ฉันจะให้คนของฉันลงมือในวันที่เราทำการผ่าตัด แบบนี้ก็จะไม่มีทางเปิดโปงแผนของพวกเรา ความปลอดภัยของพวกเขาก็จะมากเสียหน่อย”
“โอเค ฉันรู้แล้ว ฉันจะเชื่อคุณทั้งหมด คุณคิดว่าทำอย่างไรแล้วจะปลอดภัยก็ทำเลย เดี๋ยวฉันจะดูแลแค่การผ่าตัดให้สำเร็จเท่านั้น” ดอกเตอร์คูลี่ตบไหล่ของเฟิงจิงเป่ย
“อือ เรื่องอื่นฉันจะตัดสินใจเอง คุณต้องบอกกับคนอื่นๆ ให้เข้าใจ แต่จะต้องหาคนที่เชื่อได้นะ”
“ไม่ต้องหรอก กลัวว่าจะหยุดไม่อยู่ มีแค่พวกเราสองคนก็พอแล้ว แล้วถ้าเกิดมีเรื่องอะไรมากขึ้นก็ค่อยคุยกันอีกที”
“ไม่ได้ หลังจากที่ออกไป การวิจัยของพวกคุณก็คงทำต่อไปไม่ได้แล้ว ไม่งั้นก็เอาแบบนี้แล้วกัน เดี๋ยวก่อนจะผ่าตัดคุณก็บอกพวกเขาสักหน่อย แล้วพวกเราจะอยู่ในห้องผ่าตัด พวกเขาเองก็ทำได้เพียงช่วยพวกเรา ถ้าเกิดมีอะไรเปลี่ยนไป ฉันก็คงไม่มีปัญหาอะไร”
ดอกเตอร์คูลี่พยักหน้า
…………
ใกล้ถึงเวลากินข้าว ลี่จุนถิงกับชิงโม่กำลังยุ่งอยู่ในห้องครัว ยังดีที่ก่อนหน้านี้ลี่จุนถิงเคยช่วยเจียงหยุนเอ๋อทำงานบ้าน เวลาทำเลยค่อนข้างคล่องแคล่วเป็นอย่างมาก
ลี่จุนถิงตั้งใจทำงานในมือเป็นอย่างมาก จู่ๆ ก็ได้ยินหัวหน้าเชฟกับคนเหล่านั้นกำลังถกเถียงกันอยู่
“หัวหน้าเชฟ ได้ยินว่าช่วงนี้นายท่านเหมือนจะมีความสุขมากเลยล่ะ”
“ไม่หรอก เพราะว่าคุณนายเบ็ตตี้กำลังจะถูกช่วยให้ฟื้นแล้ว ดังนั้นทุกอย่างเลยดีขึ้นมาผิดหูผิดตาไงล่ะ” หัวหน้าเชฟพูดซุบซิบเสียงเบา
อีกคนก็พูดต่อ “หญิงตั้งครรภ์ที่ถูกจับเข้าไป สามารถช่วยคุณนายเบ็ตตี้ได้ เป็นคนที่มีบุญมากจริงๆ เลย ดีจริงๆ คุณนายเบ็ตตี้จะกลับมาแล้ว คุณนายเป็นคนดีขนาดนั้น ไม่ควรตาย ยังดีที่สวรรค์มีตา เลยสามารถหาคนที่ช่วยคุณนายได้”
เมื่อลี่จุนถิงได้ยินพวกเขาพูดถึงเจียงหยุนเอ๋อ แววตาก็เต็มไปด้วยความโกรธ
“นั่นสิ ตอนแรกที่คุณนายเบ็ตตี้ยังมีชีวิตอยู่นั้น ในองค์กรมีแต่ความสงบ นายท่านเป็นกันเองในทุกๆ วัน คิดถึงวันแบบนั้นจังเลย”
“ไม่รู้ว่าคุณนายเบ็ตตี้ของพวกเราดีขนาดนั้น ทำไมถึงได้ป่วยแบบนี้ ซวยจริงๆ เลย ยังดีที่มีนายท่านนะ สามารถช่วยคุณนายกลับมาได้ ไม่ว่าหญิงตั้งครรภ์จะต้องตายไปกี่คน ขอแค่ช่วยคุณนายกลับมาได้ก็เพียงพอแล้ว”
ก่อนหน้านี้ลี่จุนถิงทำได้เพียงพยายามกดความโกรธของตัวเองเอาไว้ในใจ เลยลืมถามเรื่องเกี่ยวกับเจียงหยุนเอ๋อ ครั้งนี้พวกเขาพูดถึงเจียงหยุนเอ๋อ ลี่จุนถิงเลยถามออกไป
“คนท้องอย่างเธอจะช่วยคุณนายอย่างไร?”
“ถ่ายเลือดไงล่ะ เอาเลือดของหญิงตั้งครรภ์ออกมาให้หมด จากนั้นก็ถ่ายไปในร่างกายของคุณนายเบ็ตตี้ แต่ว่าได้ยินว่ามันเกี่ยวกับยีนอะไรสักอย่างด้วย ฉันเองก็ไม่รู้”
“แต่ว่า เมื่อเป็นแบบนี้ หญิงตั้งครรภ์คนนั้นก็คงต้องตาย แล้วลูกในท้องของเธอล่ะ?” ลี่จุนถิงถามพลางกดความโกรธเอาไว้
“นั้นมันก็ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้เธอซวยขนาดนั้นเอง ที่ไปกรุปเลือดตรงกับของคุณนายเบ็ตตี้ ฉันได้ยินลูกน้องของนายท่านคุยกันว่า จากนี้สามวันจะผ่าตัดแล้ว ดอกเตอร์คูลี่ไม่ยอมลงมือทำสักที น่าจะเป็นเพราะคิดไม่ออกว่าต้องทำอย่างไร คุณดูสิ พอเขาคิดออก ก็จะเริ่มผ่าตัดแล้ว รอคุณนายเบ็ตตี้ฟืนขึ้นมาจริงๆ นายท่านจะต้องตกรางวัลให้ดอกเตอร์คูลี่แน่นอน”
ลี่จุนถิงได้ยินพวกเขาพูดแบบนั้น ก็เกือบจะตาลุกเป็นไฟ ยังดีที่ชิงโม่อยู่ข้างหลังลี่จุนถิง เลยยั้งลี่จุนถิงเอาไว้ เพื่อปกปิดท่าทีของลี่จุนถิง ชิงโม่เลยเดินขึ้นมาข้างหน้าหนึ่งก้าว
“บนโลกนี้มีคนที่เลือดเหมือนกันตั้งมากมาย ทำไมต้องเป็นหญิงตั้งครรภ์คนนี้ด้วยล่ะ?”
“ฉันเองก็ไม่ค่อยมั่นใจเหมือนกัน แต่เหมือนกับจะเกี่ยวกับเซลล์และยีนนะ แต่ว่าพวกเราเองก็ไม่เข้าใจ ถ้าเกิดเข้าใจฉันคงไม่มาอยู่ในห้องครัวแล้ว ฉันคงจะไปอยู่กับดอกเตอร์คูลี่ในห้องวิจัยนั้น ฮ่าๆ”
“ไป ไปทำอาหารอร่อยๆ ให้หญิงตั้งครรภ์คนนั้น อีกไม่กี่วันแล้ว ให้เธอได้กินอะไรอร่อยๆ หน่อย เพราะเธอจะช่วยคุณนายเบ็ตตี้ได้อย่างดี” หัวหน้าเชฟยิ้มพลางพูดขึ้น
ลี่จุนถิงลุกขึ้นมา “ฉันไปส่งให้เอง”
“ช่วงนี้คุณขยันนะ อันโตนิโอ ฉันชอบ ทำให้ดีล่ะ แต่จำเอาไว้นะ ว่าไม่ควรเข้าไปในที่ที่ไม่ควรเข้าไปแม้แต่ก้าวเดียว ฉันเคยบอกผลที่จะเกิดขึ้นกับพวกคุณแล้วล่ะ” หัวหน้าเชฟแนะนำลี่จุนถิง
“รู้แล้ว” ลี่จุนถิงพยักหน้า จากนั้นก็ยกอาหารที่เตรียมให้เจียงหยุนเอ๋อออกไป
“อันโตนิโอ คุณทำเป็นครั้งแรก ฉันจะบอกทางคุณสักหน่อย คุณออกจากประตูของพวกเราไป แล้วก็เดินไปตามทางนั้น เมื่อเจอสี่แยกที่สอง ก็ค่อยเลี้ยวซ้าย แล้วเดินตรงไป ตรงนั้นจะมีคนรอรับคุณอยู่”
หัวหน้าเชฟดึงลี่จุนถิงเอาไว้ จากนั้นก็บอกทางกับเขา
“ขอบคุณนะ หัวหน้าเชฟ” หลังจากที่ลี่จุนถิงขอบคุณ ก็เดินจากไป
ตอนแรกเขากลัวว่าตัวเองจะหาทางไม่เจอ จากนั้นจะถูกเปิดโปง ใครจะไปรู้ว่าหัวหน้าเชฟจะบอกทางกับเขา