ตอนที่เฟิงจิงเป่ยออกไปนั้น ได้ยินเสียงยุกยิก เขาเลยมองด้วยความระแวง ก่อนจะตะโกนออกไป
“ใครน่ะ?” เฟิงจิงเป่ยเห็นว่าตรงประตูมีเงาดำวิ่งผ่านไป
เฟิงจิงเป่ยรีบตามไป แต่ว่าเงาดำคนนี้หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ลี่จุนถิงเห็นว่าตัวเองเกือบถูกพบเข้า แต่ยังดีที่หลบได้ทัน
หลังจากที่เฟิงจิงเป่ยกลับไป ก็รีบเอาเรื่องนี้ไปบอกดอกเตอร์คูลี่ จากนั้นดอกเตอร์คูลี่ก็กลัวว่าคนนั้นจะเป็นคนของอาเธอร์
“เคซี่ย์ คนคนนั้นจะเป็นคนของอาเธอร์หรือเปล่านะ?เขาจะรู้แผนของพวกเราแล้วหรือเปล่า?พวกเราจะมาตายที่นี่หรือเปล่า” ดอกเตอร์คูลี่คล้องแขนของเฟิงจิงเป่ย ด้วยความกลัว
“ดอกเตอร์คูลี่ คุณอย่าเพิ่งทำอะไรไปก่อน ถ้าเกิดคนของอาเธอร์ เขาน่าจะขอให้คุณผ่าตัดภายในคืนนี้หรือวันพรุ่งนี้ อีกอย่างน่าจะจัดให้คนมาจับจ้องคุณเอาไว้ก่อนด้วย ขอเพียงแค่ถ้าเกิดผ่านวันพรุ่งนี้เที่ยงไปแล้วเขายังไม่ทำอะไร ถึงแม้ว่าจะพิสูจน์ไม่ได้ว่าไม่ใช่คนของเขา แต่ว่าอย่างน้อยอาเธอร์ก็ไม่รู้แผนของพวกเรา”
“ถ้าเกิดอาเธอร์รู้แผนของพวกเราเข้าแล้ว ถึงอย่างไรสุดท้ายพวกเราก็จะดำเนินการแผนของพวกเราในห้องผ่าตัด แล้วเขาเอาก็เข้าไปในห้องผ่าตัดไม่ได้”
ดอกเตอร์คูลี่คิดว่าเฟิงจิงเป่ยพูดอย่างมีเหตุผล เพื่อปลอบใจตัวเอง และตัวเองเลยใจเย็นลงได้
“ดอกเตอร์คูลี่ พวกเราไปพักก่อนเถอะ มีเรื่องอะไรค่อยคุยกันพรุ่งนี้ ตอนนี้พักผ่อนดูแลนั้นสำคัญมากที่สุด”
…………
ลี่จุนถิงกลับมาที่พัก ชิงโม่เห็นว่ามีดินโคลนติดเต็มตัวลี่จุนถิง ก็ตกใจ
“ประธานลี่ คุณไปคลุกฝุ่นที่ไหนมาเนี่ย ทำไมทั้งตัวมีแต่ดินกับหญ้าล่ะ?”
ลี่จุนถิงถอดเสื้อผ้าออก ก่อนจะโยนไปอีกด้านหนึ่ง “หลบคนน่ะสิ”
“ไม่ได้ถูกพบเข้าใช่ไหม?เป็นอย่างไรบ้าง?ได้เจอคุณนายหรือเปล่า?” ชิงโม่ถามด้วยความตื่นเต้น
“ไม่ได้เจอ ตอนที่ออกมาก็เกือบถูกจับได้แล้ว” ลี่จุนถิงมุดตัวเข้าไปในผ้าห่ม พลางจะนอน
“ประธานลี่ คุณจะนอนเลยเหรอ?” ชิงโม่คิดว่าลี่จุนถิงนั้นเย็นชาจนน่ากลัว
“รีบนอนเถอะ ช่วงนี้พวกเราต้องพักผ่อนให้เพียงพอ สามวันหลังจากนี้ถึงจะมีสติดีๆ แต่ว่าพวกคุณทำอะไรได้รวดเร็วเหมือนกันนะ รีบทำความเข้าใจฐานทัพที่นี่ให้ดีเลยนะ แล้วก็มีคลังอาวุธ ห้องควบคุมและระบบอื่นๆ ด้วย พยายามเอาของทุกอย่างที่พวกเราต้องใช้ให้พร้อม ไม่อย่างนั้นเพียงแค่พวกเราไม่กี่คน จะพาคนไปนั้นมันยากมาก”
ชิงโม่ตอบรับ “ฉันจะรีบไปกำชับ พวกเราต้องรีบหน่อย”
ในสามวันนี้ ลี่จุนถิงนั้นเอาข้าวไปให้เจียงหยุนเอ๋อตลอดเวลา พวกชิงโม่ก็รับผิดชอบการหาข้อมูล
สุดท้ายเมื่อถึงวันผ่าตัด ก็ยังเป็นลี่จุนถิงที่ส่งข้าวเหมือนเดิม เขาเดินไปที่ประตู พอดีที่เห็นดอกเตอร์คูลี่พาคนมา ดอกเตอร์คูลี่ก็เห็นลี่จุนถิงที่กำลังถือข้าวมา เลยยื่นมือมาทางด้านหน้าเขา
“เอาข้าวมาให้ฉัน ฉันเอาเข้าไปให้เองก็ได้แล้วล่ะ”
หลังจากที่ลี่จุนถิงส่งข้าวให้ดอกเตอร์คูลี่แล้ว ก็เดินไปด้านข้างเพื่อหาที่หลบ
เพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ดอกเตอร์คูลี่ก็พาเจียงหยุนเอ๋อออกมา จากนั้นลี่จุนถิงก็เห็นเจียงหยุนเอ๋อมีสีหน้าซีดเซียว นอกจากท้องโตนั้น ก็ไม่มีเนื้อหนังที่อื่นๆ แล้ว0
อันที่จริงเจียงหยุนเอ๋อกินอิ่มเป็นอย่างดี สีหน้าก็มีสี เพียงแต่เธอคิดว่าถ้าเป็นแบบนั้นตัวเองจะถูกอาเธอร์จับได้ง่าย ดังนั้นตอนที่เฟิงจิงเป่ยมาหา เลยเอาเครื่องสำอางหรือแป้งมาให้เธอเล็กน้อย แต่ว่ามันทำให้เฟิงจิงเป่ยเหนื่อยเล็กน้อย ยังดีที่ดอกเตอร์คูลี่มียาชนิดหนึ่ง ที่สามารถทำให้หน้าดูซีดได้ ดูไม่มีชีวิตชีวาเท่าไร
ยาชนิดนี้ ปกติดอกเตอร์คูลี่จะเอามาทำให้ตัวเองดูเหมือนป่วย คิดไม่ถึงเลยว่าเจียงหยุนเอ๋อจะเป็นคนได้ใช้
แต่ว่าลี่จุนถิงไม่รู้เรื่องนี้ ดังนั้นหลังจากที่เขาเห็นเจียงหยุนเอ๋อดูผอมซูบ เลยรู้สึกเห็นใจเป็นอย่างมาก จนเกือบจะทนไม่ได้ที่จะก้าวเข้าไปข้างหน้า ลี่จุนถิงกัดฟันกรอด ก่อนจะรีบถอยกลับไป แล้ววิ่งกลับไปเรียกชิงโม่และคนอื่นๆ
“ชิงโม่ เตรียมตัวได้แล้ว”
ตอนที่เจียงหยุนเอ๋อไปที่ห้องรักษา ก็เห็นว่าผู้คุมตรงทางเดินนั้นเปลี่ยนไปเยอะ เธอรู้ว่าสงครามของจริงกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว
อาเธอร์เป็นกังวลว่าดอกเตอร์คูลี่จะเกิดหนอนบ่อนไส้ขึ้นมา หรืออาจจะเกิดอะไรไม่คาดคิดขึ้น เลยจัดคนมาชุดหนึ่งโดยเฉพาะ เพื่อให้เฝ้าอยู่ด้านนอก แล้วก็ให้ลูกน้อง เฝ้าดูทางครอบครัวของดอกเตอร์คูลี่และเหล่าทีมรักษาให้ดี จะต้องคุมพวกเขาให้ได้ เพื่อไม่ให้ดอกเตอร์คูลี่เล่นแง่กับเขา
ถ้าเกิดดอกเตอร์คูลี่เกิดตุกติกขึ้นมา รอบครัวของเขาก็จะถูกจับออกมา เพื่อขู่ดอกเตอร์คูลี่
ตอนที่เจียงหยุนเอ๋อถูกห้องรักษาแล้ว ก็ทำท่าทีเหมือนไม่มีเรี่ยวแรง เมื่ออาเธอร์เห็นเธอในสภาพนั้น ก็ขมวดคิ้วขึ้น
“ไม่ได้ให้เธอกินข้าวเป็นปกติเหรอ?ทำไมดูอ่อนแอขนาดนี้ เธอจะช่วยเบ็ตตี้ของฉันได้ไหมเนี่ย?”
“เธอถูกเจาะเลือดบ่อยมาก แถมยังเป็นหญิงตั้งครรภ์ ถึงจะกินข้าวเยอะก็ไม่ช่วยอะไร ยังคงอ่อนแอแบบนี้ แต่ร่างกายของเธอยังดีอยู่ มีโอกาสช่วยชีวิตคุณนายเบ็ตตี้ได้มาก”
อาเธอร์พยักหน้า จากนั้นก็จ้องดอกเตอร์คูลี่ พลางยิ้มเล็กน้อย
“ดอกเตอร์คูลี่ คุณอย่ามาเล่นแง่กับฉันนะ คุณจะเอาไว้ว่าครอบครัวของคุณอยู่ในมือของฉัน ถึงแม้ว่าฉันจะเข้าไปในห้องผ่าตัดไม่ได้ แต่ว่าในนี้ฉันติดกล้องวงจรปิดเอาไว้ก่อนหน้านี้เยอะมาก ฉันจะคอยดูสถานการณ์อยู่ทางนี้เอง”
“คุณอาเธอร์ คุณวางใจเถอะ ฉันจะเตรียมการเอาไว้อย่างดี” ดอกเตอร์คูลี่มีสีหน้านิ่งไป แต่ก็ยังตอบตกลง
เมื่ออาเธอร์เห็นสีหน้าของดอกเตอร์คูลี่ ก็พอใจเป็นอย่างมาก จากนั้นเลยหันตัวเดินจากไป
ดอกเตอร์คูลี่กับเฟิงจิงเป่ยพยุงเจียงหยุนเอ๋อไปที่เตียงผู้ป่วย ก่อนจะให้เฟิงจิงเป่ยเอาเลือดที่เคยขอจากอาเธอร์ก่อนหน้านี้ เผื่อต้องการใช้จะได้ทันการ
จากนั้นดอกเตอร์คูลี่กับเฟิงจิงเป่ยก็ใส่หน้ากากอนามัยและถุงมือ ตอนที่ใส่นั้น ดอกเตอร์คูลี่ก็พูดกับเฟิงจิงเป่ยเสียงเบา:
“คนที่รับช่วงต่อเตรียมการไปถึงไหนแล้ว?”
“พอประมาณแล้วล่ะ ก่อนจะเข้ามาฉันเพิ่งจะได้รับข่าว ครอบครัวของคุณและพวกเขาถูกช่วยออกมาแล้ว”
ดอกเตอร์คูลี่หายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะมองเหล่าผู้ช่วยของตัวเอง “พวกเราเริ่มกันเลยเถอะ”
เหล่าผู้ช่วยได้รับข่าว เมื่อรู้ว่าครอบครัวของตัวเองได้รับการช่วยเหลือแล้ว ก็วางใจลง จากนั้นก็ต้องจัดการกับทางนี้ให้ดี ถึงจะต้องตายที่นี่ พวกเขาเองก็ไม่กลัวแล้วล่ะ
ตอนแรกเมื่อคืน ดอกเตอร์คูลี่ทำตามที่เฟิงจิงเป่ยบอก โดยการเอาแผนของเขาไปบอกกับพวกเขา แล้วก็รับประกันกับพวกเขาว่าเฟิงจิงเป่ยจะต้องช่วยครอบครัวของพวกเขาออกมาให้ได้
ทุกคนต่างติดตามดอกเตอร์คูลี่มานานหลายปีแล้ว เลยเชื่อคำพูดของเขาเป็นธรรมดา
ดอกเตอร์คูลี่กับทุกคนตกลงใช้รหัสลับที่เหมือนกัน เพียงแค่ดอกเตอร์คูลี่พูดออกมาว่า “เริ่ม” ก็หมายความว่าช่วยครอบครัวของพวกเขาได้สำเร็จแล้ว ถ้าเกิดก่อนจะเริ่ม ดอกเตอร์คูลี่บอกว่า “รอก่อน” ก็หมายความว่าล้มเหลว
แต่ว่า ทุกคนยังคงเชื่อดอกเตอร์คูลี่กับเฟิงจิงเป่ย ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรก็ตาม