บทที่ 665 คู่สวรรค์สร้าง
บทที่ 665 คู่สวรรค์สร้าง
ทุกคนหันไปทางซูอัน สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความสงสัย
แม้แต่เจิ้งตานก็ยังมองเขาด้วยความประหลาดใจ พลังชี่ของทั้งคู่ถูกผนึกไว้ ดังนั้นจึงไม่น่าจะมีวิธีใดที่ซูอันจะสามารถหลบเลี่ยงลูกธนูนั้นได้ แต่ถึงกระนั้น ซูอันกลับเคลื่อนไหวได้ในพริบตาซึ่งเร็วกว่าที่นางทำได้ยามใช้พลังสูงสุดซะอีก
เขาทำลายผนึกได้แล้วงั้นเหรอ?
หลังจากครุ่นคิดไปชั่วครู่ นางก็เริ่มเป็นห่วงเขา พวกนางกำลังเผชิญกับผู้บ่มเพาะมากมาย มันคงเป็นเรื่องยากที่จะโกหก
หัวใจของซูอันก็เริ่มเต้นแรงเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เขาก็ตอบสนองอย่างรวดเร็วและกล่าวว่า “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น ข้าหลบไปด้านข้าง และลูกธนูนี้ดูเหมือนจะเบี่ยงออก ดูสิ ยังมีรอยแดงอยู่ที่จมูกของข้าเลย”
ขณะที่พูด ซูอันก็เอามือชี้จมูกตัวเองให้คนอื่นดู
หลิวเหย่าพ่นลมหายใจ “เจ้าพยายามจะหลอกใคร? เผ่าภูตดำเชี่ยวชาญการลอบสังหารเป้าหมายด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวเป็นที่สุด แม้แต่ผู้บ่มเพาะที่ระมัดระวังก็ยังพบว่าลูกธนูนี้ยากที่จะหลบเลี่ยง เจ้าจะหลบได้อย่างไรในเมื่อพลังชี่ของเจ้าถูกปิดผนึกอยู่!?”
ซูอันยักไหล่ “ข้าจะไปรู้ได้ยังไง? บางทีนักฆ่าอาจอาหารเป็นพิษหรือเป็นโรคลมแดด หรือบางทีอาจมีตัวอะไรมากัดแขนของเขาในขณะที่กำลังยิงก็ได้นี่นาจริงไหม?”
อ๋องเหลียงขมวดคิ้ว เขาก้าวเข้าหาซูอันและตรวจสอบ ครู่ต่อมาคิ้วของเขายิ่งขมวดลึกมากกว่าเดิม “กระแสพลังชี่ของเขาถูกผนึกอย่างสมบูรณ์ ผนึกยังไม่ถูกปลด!”
ซูอันสบโอกาสปั่นประสาทอีกฝ่ายทันที “เฮ้? พวกท่านลืมไปหรือเปล่าว่าเมื่อครู่นี้ข้าเป็นเหยื่อ! ทำไมพวกท่านทุกคนถึงมาสอบปากคำข้า อ้อ ข้าเข้าใจแล้ว ๆ ข้าเดาว่าพวกท่านคงรู้สึกหงุดหงิดเพราะจับฆาตกรไม่ได้จนท้ายที่สุดเลยมาลงกับเหยื่ออย่างข้าสินะ?”
หลิวเหย่าระเบิดอารมณ์ทันที “เจ้าพูดบ้าอะไร!?”
—
ท่านยั่วยุหลิวเหย่าสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 345!
—
คะแนนความโกรธจากอ๋องเหลียงและคนอื่น ๆ หลั่งไหลมาอย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่รู้ว่าจะจัดการกับคนอย่างซูอันอย่างไร?
โชคดีที่หวงฮุ่ยฮงให้ทางออกแก่พวกเขา “มีสตรีน่าสงสัยนางหนึ่งในฝูงชน นางอาจจะเป็นคนที่ส่งผลต่อความแม่นยำของนักฆ่า”
“สตรี?” อ๋องเหลียงตกใจมาก เขาถามอย่างรวดเร็วว่า “สตรีนางนั้นอยู่ที่ไหน?”
หวงฮุ่ยฮงส่ายหัว “ทุกคนเอาแต่ไล่ตามนักฆ่า และสตรีนางนั้นก็หายตัวไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน สถานการณ์วุ่นวายเกินกว่าที่เราจะหาใครพบ”
อ๋องเหลียงขมวดคิ้ว แต่สถานะพิเศษของอีกฝ่ายทำให้เขาไม่อาจจะตำหนิอะไรได้มาก เขาพูดได้เพียงว่า “สตรีนางนั้นเป็นใครกันแน่? นางมีความสัมพันธ์ใดกับเหล่านักฆ่า…?”
พวกเขาพูดคุยเรื่องนี้กันสักพัก และเกิดความสงสัยขึ้นมากมาย
ซูอันพ่นลมหายใจ ทำไมพวกเจ้าไม่พิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่นางมาช่วยข้าบ้าง?
เสียงกีบม้าดังมาจากข้างหน้า และทหารกลุ่มหนึ่งก็เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว
คนที่นำหน้าดูเหมือนจะอายุประมาณยี่สิบปี เขาสวมชุดคลุมประจำตำแหน่งและขี่ม้าสีขาวสง่างาม ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีการแนะนำใด ๆ นี่คืออ๋องอู๋อย่างแน่นอน
“เป็นเกียรติของจ้าวเหยียนยิ่งที่ท่านอ๋องเหลียงและแม่ทัพหลิวมาเยือนเมืองของข้าในวันนี้” อ๋องอู๋ลงจากหลังม้าและเดินมาโค้งคารวะทักทาย รอยยิ้มที่อ่อนน้อมถ่อมตนไม่เคยละจากใบหน้า
“ท่านอ๋องอู๋ไม่ต้องสุภาพขนาดนี้กับเราก็ได้” อ๋องเหลียงและหลิวเหย่าต่างก็เอื้อมมือไปประคอง การแสดงความเคารพต่ออ๋องเหลียงเป็นเรื่องหนึ่ง แต่สถานะของหลิวเหย่านั้นไม่สูงเท่ากับอ๋องอู๋ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งกับความสุภาพระดับนี้
“พวกท่านสองคนเป็นผู้อาวุโสกว่าเหยียนน้อย ให้เกียรติกันขนาดนี้ถือว่าสมควรแล้ว” อ๋องอู๋มีใบหน้าที่พิเศษและรูปลักษณ์ที่หล่อเหลา แต่รูปร่างของเขาบอบบางเกินไปเล็กน้อย ซึ่งทำให้เขาไม่มีความองอาจตามแบบของเพศชายที่บุรุษส่วนใหญ่พึงมี มันทำให้เขาดูไม่น่านับถือสักเท่าไหร่นัก
ทั้งอ๋องเหลียงและหลิวเหย่า ต่างก็พอใจกับความอ่อนน้อมถ่อมตนของเขาอย่างมาก
หลิวเหย่าพูดอย่างรวดเร็วว่า “ท่านอ๋องอู๋ช่วงนี้อากาศค่อนข้างเย็น ร่างกายของท่านค่อนข้างอ่อนแอ ดังนั้นท่านต้องดูแลตัวเองให้ดี”
“ขอบคุณท่านแม่ทัพหลิว” อ๋องอู๋ตอบด้วยรอยยิ้มก่อนจะไอออกมาอย่างกะทันหัน
ซูอันสะกิดเจิ้งตาน “สุขภาพของอ๋องผู้นี้ดูแย่มาก…” ชายคนนี้ดูเหมือนจะสวมเสื้อผ้ามากกว่าคนทั่วไป
สิ่งนี้ค่อนข้างแปลกจริง ๆ ผู้บ่มเพาะมีร่างกายที่เหนือกว่าคนทั่วไปอย่างชัดเจน เนื่องจากชายผู้นี้ได้รับตำแหน่งอ๋อง อย่างน้อยระดับการบ่มเพาะของเขาควรอยู่ในระดับปรมาจารย์ ไม่มีทางที่ร่างกายของเขาจะอ่อนแอถึงขนาดที่ต้องสวมใส่เสื้อผ้าหลายชิ้นขนาดนี้
หรือว่าอีกฝ่ายเกิดมาพร้อมกับข้อบกพร่องที่มีมาแต่กำเนิดหรือสุขภาพที่ย่ำแย่นี้เกิดจากการบ่มเพาะที่ผิดพลาดจนไม่สามารถรักษาได้หรือไม่?
แน่นอนว่ามีเหตุผลอื่นที่เป็นไปได้ แม้ว่าร่างกายของผู้บ่มเพาะจะเหนือกว่าคนทั่วไป แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะมีอายุยืนยาวขึ้น ไม่เช่นนั้น จักรพรรดิองค์ปัจจุบันคงจะไม่ใกล้ตายทั้ง ๆ ที่อายุมากไปกว่าหลิวเหย่าหรืออ๋องเหลียงเท่าใดนัก
“ข้าคิดว่าเขาหล่อมาก องค์ชายผู้งดงามและอ่อนโยนอย่างเขานั้นดีกว่าพวกมีกล้ามที่กักขฬะมาก ผู้หญิงชอบผู้ชายประเภทนี้” เจิ้งตานกล่าวด้วยรอยยิ้ม เหตุผลที่นางชอบอยู่กับซูอันเป็นเพราะนางรู้สึกเป็นอิสระและไม่ถูกจำกัด ทุกครั้งที่นางอยู่ใกล้เขา นางก็ไม่ต้องกังวลกับกิริยาของตัวเองมากนัก
ซูอันพบว่าความคิดเห็นของนางทำให้งุนงง
จิตใจของผู้หญิงเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจ พวกนางไม่ชอบผู้ชายที่แข็งแกร่ง แต่กลับชอบผู้ชายที่ดูอ้อนแอ้นอ่อนแอแบบนี้แทน?
ทันใดนั้นเขาก็จำได้ว่าพวกสาว ๆ ในโลกที่แล้วของเขานั้นต่างก็คลั่งไคล้พวกไอดอลชายหน้าตาน่ารักเช่นกัน สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหดหู่เล็กน้อยในทันที
“พระสวามี โปรดเสวยยาด้วย” เสียงอ่อนหวานอย่างน่าประหลาดดังขึ้น จากนั้นหญิงสาวสวยคนหนึ่งรีบวิ่งไปหาอ๋องอู๋
เสียงรอบบริเวณเงียบลงทันที อ๋องเหลียง หลิวเหย่า เหล่าทหารราชองครักษ์ และชาวบ้านทั่วไปที่ยังคงอ้อยอิ่งอยู่ในพื้นที่หันมองไปยังต้นเสียง
แม้แต่หวงฮุ่ยฮงและทูตยุทธ์เสื้อแพร ซึ่งควรมีระเบียบไร้อารมณ์ราวกับเครื่องจักรยามปฏิบัติภารกิจ ก็ยังไม่สามารถป้องกันตัวเองจากการมองไปในทิศทางของต้นเสียงได้
บางทีอาจเป็นเพราะเมืองนี้อยู่ตรงตีนเขาของเทือกเขาแผ่นฟ้า ซึ่งทำให้อากาศหนาวเย็นกว่าพื้นที่อื่น หญิงสาวคนนี้จึงสวมเสื้อคลุมขนสัตว์สีขาวราวกับหิมะ ซึ่งทำให้นางดูเหมือนเทพธิดาแห่งภูเขาหิมะ สวยและบริสุทธิ์ราวกับว่าไม่ได้มีอยู่จริงในโลกมนุษย์
นางนำขวดหยกออกมา และเทยาเม็ดสีแดงซึ่งตัดกับผิวขาวราวหิมะนั้นมอบให้กับอ๋องอู๋อย่างรวดเร็ว
ราวกับว่าอ๋องอู๋เป็นสิ่งเดียวในโลกของนาง นางไม่ได้เหลือบมองผู้อื่นที่อยู่โดยรอบแม้แต่เพียงเล็กน้อย
“มีภรรยาแบบนี้คงไม่ต้องการอะไรแล้ว…” ซ่างเชียนถอนหายใจด้วยความชื่นชม
ความงามของนางช่างแตกต่างจากผู้อื่นอย่างแท้จริง! ไม่เพียงเท่านั้น เขารู้สึกประทับใจอย่างมากกับความห่วงกังวลที่นางแสดงต่อสามีของนาง
เจิ้งตานเคยเป็นภรรยาที่สมบูรณ์แบบในสายตาของเขา ทุกกิริยาท่วงท่าของเจิ้งตานนั้นสมบูรณ์แบบสมกับเป็นกุลสตรีในห้องหอ อย่างไร อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็ว ๆ นี้ นางยอมจำนนต่อความอัปยศอดสูที่ไร้เหตุผลจากมือของซูอันซึ่งทำให้เขาโกรธจัด
แม้ว่าข้าจะไม่มีความสามารถในการปกป้องเจ้า แต่เจ้าก็ไม่สามารถปล่อยให้ซูอันทำทุกอย่างที่มันต้องการกับเจ้าได้ใช่ไหม? ข้าได้ยินมาว่าเจ้านวดขาให้มันด้วย!!!!
ดูภรรยาของอ๋องอู๋สิ! สามีเป็นผู้ชายคนเดียวในสายตานาง!