ดอกเตอร์คูลี่ปฏิเสธที่จะไม่ให้ความร่วมมือ ดังนั้นอาเธอร์เลยทำร้ายเขาหนักกว่าเดิม ทุกๆ ครั้งเหมือนอยากจะทำร้ายเขา เพื่อให้เจ็บปวดอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่ได้ทำร้ายร่างกายเขาทุกครั้ง เพราะบางทีก็ด่าและสาปแช่งเขา แต่ว่าดอกเตอร์คูลี่ก็ไม่ขยับเหมือนเดิม
เมื่อเจียงหยุนเอ๋อเห็นดอกเตอร์คูลี่ได้รับบาดเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งตัวและบนหน้า ก็อดไม่ไหว
อันที่จริง ทุกครั้งที่อาเธอร์ทำร้ายดอกเตอร์คูลี่ เพียงแค่อยากให้เขาเปิดปากพูดประสบการณ์นั้น ไม่ใช่ทุกครั้งที่ทำร้ายเขา แต่ว่าเมื่อเขากลับมา ก็ถูกลูกน้องของอาเธอร์ทำร้ายครั้งหนึ่ง เพราะว่าดอกเตอร์คูลี่นั้นไม่เพียงไม่ยอมช่วยเบ็ตตี้แต่ยังหักหลังพวกเขาอีกด้วย ในใจของพวกเขาเลยเกลียดมากกว่าเดิม
“ดอกเตอร์คูลี่ ฉันอยากให้คุณได้รู้สึกเจ็บปวด หรือไม่อย่างนั้นคุณก็ให้ความร่วมมือกับพวกเขาเถอะ ไม่ต้องสนใจฉันมากแล้ว”
“ไม่เป็นไรหรอก เขาอยากจะทำร้ายก็ทำร้าย อยากสาปแช่งก็ทำไป ฉันยังทนได้ ฉันอยากเห็นเหมือนกันว่าฉันทนได้มากแค่ไหน วันไหนที่ฉันทนไม่ไหวแล้ว ฉันจะยอมแพ้กับพวกเขาเอง ถึงตอนนั้นคุณอย่าเกลียดฉันนะ”
ดอกเตอร์คูลี่โบกมือ พลางพูดด้วยความไม่สนใจ แถมยังหยอกล้อกับเจียงหยุนเอ๋อด้วย
“คุณช่วยฉันเอาไว้แล้ว แถมยังช่วยฉันดูแลลูก ฉันซึ้งใจกับคุณมากเลย ไม่ว่าต่อจากนี้คุณจะทำอะไรกับฉัน ฉันก็รับได้หมด”
เจียงหยุนเอ๋อเห็นท่าทีของดอกเตอร์คูลี่ ก็รู้สึกทนไม่ได้
“คุณไม่ต้องเป็นห่วงฉันจริงนะ มันเป็นเพียงแค่บทหนึ่งของชีวิตเท่านั้นเอง ถ้าเกิดสามารถรอดออกไปได้ ถึงแม้ว่าจะต้องจำนนต่อเขา ฉันสามารถออกจากตำแหน่งได้ แต่ว่าฉันไม่อยากทรยศต่อคามเมตตาและคุณธรรมในใจของตัวเอง”
ดอกเตอร์คูลี่เห็นเจียงหยุนเอ๋อมีใบหน้าที่รู้สึกผิด เลยปลอบใจเธอ
เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้า “ถ้าเกิดพวกเราสามารถรอดออกไปได้ ฉันจะลงทุนให้กับสถาบันวิจัยของคุณมากๆ เลยล่ะ”
“งั้นต้องขอบคุณคุณเจียงเอาไว้ก่อนเลยนะ”
“ดอกเตอร์คูลี่ พวกเราผ่านอะไรกันมามากแล้ว คุณเรียกว่าหยุนเอ๋อก็พอ เรียกคุณเจียงมันดูไม่สนิทเท่าไหร่” เจียงหยุนเอ๋อยิ้มให้คูลี่เล็กน้อย
“โอเค หยุนเอ๋อ!ขอแค่ฉันออกไปจากที่นี่ได้ จะไม่มีทางให้เกิดอะไรกับคุณแน่นอน”
เจียงหยุนเอ๋อขอบคุณที่ดอกเตอร์คูลี่ช่วยเป็นอย่างมาก แต่ว่าในใจเธอก็กลัวมากเหมือนกัน เพราะไม่รู้ว่าพวกลี่จุนถิงกับลูกจะเป็นอย่างไรบ้าง หนีออกมาจากเกาะเดี่ยวได้หรือเปล่า แล้วยังจะรักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ได้ไหม?
อาเธอร์นั้นเริ่มคลั่งขึ้นมา ไม่รู้ว่าจากนี้เขายังจะทำอะไรต่อไปอีก
เป็นไปตามคาด ผ่านไปไม่นาน ตอนที่ร่างกายของเจียงหยุนเอ๋อเริ่มดำขึ้น ทีมแพทย์ที่อาเธอร์เคยพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ก็มาแล้ว
กลุ่มคนนี้ เป็นคนที่อาเธอร์คัดมาเอง อาเธอร์ให้ความสำคัญกับพวกเขาเป็นอย่างดี แน่นอนว่าพวกเขาเองก็ซื่อสัตย์กับอาเธอร์มากเหมือนกัน หลังจากที่มาถึง ก็รีบตรวจร่างกายเจียงหยุนเอ๋อทันที
ตรวจไปทั้งหมดไม่ถึงสองวัน แต่ว่าผลไม่ได้ออกมาเร็วขนาดนั้น
หลังจากที่ตรวจวันแรกเสร็จไป เจียงหยุนเอ๋อนอนอยู่บนเตียง รู้สึกว่าเป็นตายเท่ากัน แผลที่ท้องก็เริ่มปวดขึ้นทีละนิดๆ แล้ว
ปกติเธอจะไม่กล้าถ้าไม่จำเป็น แต่ว่ายังเกิดการเคลื่อนไหวทุกวัน เพราะว่าดอกเตอร์คูลี่บอกว่าหญิงที่ผ่าคลอดจะต้องเดินบ่อยๆ ในหนึ่งวัน ถึงจะปวดแผล แต่ก็ต้องเดินบ้าง เดินวนรอบเตียงก็ยังดี
นอกจากการออกกำลังในทุกๆ วันตามกำหนดแล้ว ปกติเจียงหยุนเอ๋อก็นอนบนเตียง พลิกตัวไม่ได้ด้วยซ้ำ ทุกครั้งต้องรอให้ตัวชาก่อนถึงจะได้พลิกตัว และก็ต้องให้ดอกเตอร์คูลี่ช่วยเจียงหยุนเอ๋อพลิกตัวด้วย
ถึงดอกเตอร์คูลี่จะเป็นหมอ แต่ว่าถึงอย่างไรเขาก็เป็นผู้ชาย และก็ไม่สามารถช่วยเจียงหยุนเอ๋อพลิกตัวได้สะดวกในทุกๆ วัน เขาเลยหาอาเธอร์เพื่อหาคนรับใช้คนหนึ่งแทนเจียงหยุนเอ๋อ
ถึงแม้ว่าตอนที่พยายามประจบ จะไม่ได้ราบรื่นมาก แต่สุดท้ายก็ขอมาได้อยู่ดี
ดังนั้น เจียงหยุนเอ๋อเลยยิ่งรู้สึกขอบคุณดอกเตอร์คูลี่มากขึ้นไปอีก
หลังจากที่ตรวจร่างกายเจียงหยุนเอ๋อเสร็จเป็นวันที่สอง หลังจากที่เห็นอาเธอร์พาคนเหล่านั้นออกไปแล้ว ก็วางใจลงเล็กน้อย พลางมองเพดาน ผ่อนคลายสักพัก สุดท้ายเธอก็ได้พักอย่างเต็มที่
ระหว่างที่จ้องเพดาน เจียงหยุนเอ๋อเหม่อขึ้นมา เธอคิดถึงลี่จุนถิงกับลูกมาก โดยเฉพาะลูก:ถวนจื่อ แล้วก็เด็กทารกที่เพิ่งเกิดก็ยังไม่ทันได้เห็นหน้าคนนั้น
เธอยื่นมือขึ้นไปลูบตัวเอง ก็พบว่าเสื้อผ้าเปียกแล้ว เลยเรียกคนรับใช้ ก่อนจะบีบน้ำนมใส่แก้ว ก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้า
เมื่อมองนมในแก้ว เจียงหยุนเอ๋อคิดขึ้นได้ว่าลูกยังไม่เคยดื่มนมของเธอเลยแม้แต่น้อย ก็ต้องแยกจากเธอแล้ว เจียงหยุนเอ๋อเลยยิ่งปวดใจ พลางรู้สึกผิดกับลูก แต่ว่าเธอเองก็ยังรู้สึกดีที่อาเธอร์ไม่ได้จับลูกมาด้วย ถ้าเกิดจับมาด้วย อาจจะลำบากไม่น้อยเลยก็ได้
ผ่านไปสักพัก ดอกเตอร์คูลี่ก็กลับมา ใบหน้ามาแผลใหม่เล็กน้อย
“ดอกเตอร์คูลี่ พวกเขาทำให้คุณลำบากอีกแล้วเหรอ?” เจียงหยุนเอ๋อมีใบหน้าสงสารเห็นใจ
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันชินแล้วล่ะ” ดอกเตอร์คูลี่โบกมือ ก่อนจะนั่งลงบนโซฟาด้วยความเหนื่อย
“ดอกเตอร์คูลี่ ทำไมอาเธอร์ยังไม่ยอมแพ้อีกนะ?ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าช่วยคุณหนูเบ็ตตี้ไม่ได้แล้วไม่ใช่เหรอ ตอนนี้เหมือนคนตายแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“เห้อ อันที่จริง มันช่วยอะไรไม่ได้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่ว่าอาเธอร์ไม่ยอมแพ้ แล้วก็อยากให้เพิ่มเลือดให้คุณหนูเบ็ตตี้ตลอด เลือดที่เจาะมาจากคุณนั้น ดังนั้นก่อนหน้านี้ ยีนของคุณหนูเบ็ตตี้เลยมีการเคลื่อนไหวบ้าง ดูสถานการณ์แล้ว เลือดของคุณน่าจะช่วยอะไรได้บ้าง”
“ไม่อย่างนั้น ก่อนหน้านี้อาเธอร์ไม่มีทางรีบปรี่เข้ามาเรียกฉันหรอก แถมยังสัญญาว่าจะจัดหาคนใช้ให้คุณ ก่อนหน้านี้กลัวว่าคุณจะกลัว เลยไม่ได้บอกคุณ”
“คิดไม่ถึงเลย ว่าอาเธอร์จะหาหมอได้เร็วขนาดนี้ แถมยังมาตรวจร่างกายของคุณอีก หมอมาแล้ว จากนี้อาจจะเกิดอันตรายกับคุณได้จริงๆ”
ดอกเตอร์คูลี่บอกเรื่องนี้กับเจียงหยุนเอ๋อด้วยใบหน้าขมขื่น
“แล้วผลออกมาหรือยัง พวกเขาจะทำอะไรฉันเมื่อไร?”
“ฉันเองก็ไม่รู้ แต่ว่าอย่างน้อยวันสองวันนี้ก็ยังปลอดภัยอยู่ เพราะว่าต้องตรวจหลายอย่าง ดังนั้นผลเลยออกมาไม่ได้ทันที ส่วนพวกเขาจะเริ่มลงมือเมื่อไร ฉันเองก็ไม่รู้”
หลังจากที่เจียงหยุนเอ๋อได้ยินดังนั้น ก็มีใบหน้าไม่สบายใจ ด้วยความกังวล แต่เธอเองก็รู้สภาพของตัวเองในตอนนี้ แล้วก็ไม่กล้าหวังอะไรอีก
“ดอกเตอร์คูลี่ ฉันรู้ว่าตอนนี้ฉันหนีไปไหนไม่ได้ ถึงจะมีโอกาสที่จะหนีได้ แต่ว่าร่างกายของฉันเองก็หนีไปไหนไม่ได้ ตอนนี้ฉันไม่หวังอะไร ขอเพียงแค่ยังได้มีโอกาสเจอจุนถิงกับลูกสักหน่อย”
ดอกเตอร์คูลี่เองก็ถอนหายใจตาม สถานการณ์ในตอนนี้ เขาเองก็ปกป้องตัวเองยากเหมือนกัน ไม่ต้องพูดถึงช่วยเจียงหยุนเอ๋อออกไปได้เลย